ม.นเรศวร จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารด้านจรรยาบรรณและจริยธรรม เสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารด้านจรรยาบรรณและจริยธรรม ณ ห้องประชุมเอกาทศรถ 301 อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมแสดงสัญลักษณ์รณรงค์การต่อต้านการทุจริตอย่างเป็นทางการ

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการอบรมแนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ITA) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้บริหารและบุคลากรทุกหน่วยงาน โดยมี นายภิญโญยศ ม่วงสมมุข เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ และนายอดิพงษ์ อทุน เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตปฏิบัติการ จากสำนักประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เกียรติเป็นวิทยากร

มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 350 คน ประกอบด้วยผู้บริหารระดับมหาวิทยาลัย ระดับคณะ/วิทยาลัย หน่วยงานระดับกอง หัวหน้างาน บุคลากรที่รับผิดชอบด้านการประเมิน ITA และตัวแทนนิสิต โดยทุกฝ่ายได้ร่วมกันเรียนรู้หลักการและเกณฑ์การประเมินที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้

รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพด้านคุณธรรมและความโปร่งใส ว่าเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยนเรศวรยึดถือมาโดยตลอด โดยตั้งเป้าหมายให้บุคลากรทุกระดับและนิสิตทุกชั้นปี ตระหนักถึงการปฏิบัติงานและการดำเนินชีวิตด้วยหลักคุณธรรมและความโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และยกระดับคุณภาพการบริการของมหาวิทยาลัย

การจัดโครงการในครั้งนี้ยังมุ่งหวังสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปราศจากการทุจริต โดยเน้นย้ำถึงการสร้างบัณฑิตที่มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ พร้อมทั้งสามารถนำความรู้และค่านิยมที่ถูกต้องไปขับเคลื่อนสังคมอย่างสร้างสรรค์

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังถือว่าการเสริมสร้างความโปร่งใสเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการพัฒนาองค์กร ทั้งด้านการบริหารจัดการภายในและการให้บริการแก่สังคม เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการเป็นสถาบันการศึกษาที่โปร่งใส มีมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ

การอบรมในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความรู้เชิงปฏิบัติแก่ผู้บริหารและบุคลากร แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างความเข้มแข็งด้านคุณธรรมในมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกทั้งต่อองค์กรและต่อสังคมโดยรวม

ด้วยการยึดมั่นในหลักการโปร่งใสและคุณธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำบทบาทในการเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่พร้อมขับเคลื่อนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างสังคมที่ปราศจากการทุจริต

มหาวิทยาลัยนเรศวรชู “No Gift Policy” ตอกย้ำบทบาทองค์กรต้นแบบโปร่งใส

มหาวิทยาลัยนเรศวร (ม.นเรศวร) มุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบขององค์กรที่โปร่งใสและยุติธรรม ผ่านการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และความรับผิดชอบต่อสังคม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 16) ที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่มีความสงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่เข้มแข็ง

“No Gift Policy” เพื่อสร้างความโปร่งใสและต้านทุจริต มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินนโยบาย “งดรับ งดให้ ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิด รวมถึงประโยชน์อื่นใดจากการปฏิบัติหน้าที่” ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงานในองค์กร เพื่อป้องกันการทุจริตและสร้างวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นในหมู่บุคลากรทุกระดับ นโยบายนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดคอร์รัปชัน และเป็นการสร้างความไว้วางใจต่อสาธารณะ

การบ่มเพาะค่านิยมด้านความยุติธรรมและการต่อต้านการทุจริต นอกเหนือจากนโยบายระดับองค์กร มหาวิทยาลัยยังมุ่งเน้นการสร้างค่านิยมและทัศนคติด้านความโปร่งใสและความยุติธรรมในกลุ่มนิสิต โดยจัดกิจกรรมเสริมสร้างจิตสำนึก เช่น การอบรมเกี่ยวกับจริยธรรมทางวิชาชีพ การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านธรรมาภิบาล และการปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนรุ่นใหม่สามารถนำค่านิยมเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตจริง

ส่งเสริมความรับผิดชอบในองค์กรและการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มหาวิทยาลัยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน รวมถึงมาตรการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใส พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งหน่วยงานและกลไกตรวจสอบภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานทุกระดับสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล

ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในด้านการส่งเสริมความโปร่งใสและความยุติธรรม มีผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งองค์กรและสังคมในวงกว้าง โดยเป็นตัวอย่างของการสร้างองค์กรที่เน้นการปกครองที่ดี (Good Governance) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่มหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นการสนับสนุนสังคมให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานที่ยุติธรรม

การเดินหน้าสู่ SDG 16 อย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นในการขยายผลนโยบาย “No Gift Policy” และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต รวมถึงการเป็นต้นแบบในด้านการปกครองที่โปร่งใส เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และเพื่อสร้างสังคมที่สงบสุขและยุติธรรมสำหรับทุกคน.

ม.นเรศวร เสริมความรู้ด้านกฎหมาย แก่ผู้บริหารระดับกลางและระดับต้นของมหาวิทยาลัย

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัด โครงการ “ให้ความรู้ด้านกฎหมาย กรณีตัวอย่างความผิดวินัยด้านการเงิน การคลัง การพัสดุ และการบริหารงานบุคคล” แก่ ผู้บริหารระดับกลาง และระดับต้นของมหาวิทยาลัย โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.อรรถกร ทองทา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ผู้แทนอธิการบดี กล่าวเปิดโครงการ ซึ่งการจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายคะนึง จันทร์สงเคราะห์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด บรรยายในหัวข้อ “กรณีตัวอย่างความผิดวินัยด้านการเงิน การคลัง การพัสดุ และการบริหารงานบุคคล”และ “กรณีตัวอย่างความผิดวินัยด้านการเงิน การคลัง การพัสดุ และการบริหารงานบุคคล” ณ ห้องสัมมนาเอกาทศรถ 301อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ พบประชาคม

เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ ร่วมพบปะและประชุมหารือกับสโมสรนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ ณ ห้องประชุม HU 2303 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารกับนิสิต พร้อมรับฟังประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ อาทิ เรื่องการเรียน การใช้ชีวิต และการทำกิจกรรมของนิสิต ในโอกาสนี้คณบดีคณะมนุษยศาสตร์รได้มอบนโยบายให้นิสิตทราบถึงทิศทางการดำเนินงานของคณะ พร้อมให้แนวคิดเพื่อให้นิสิตได้ทบทวนการดำเนินงานกิจกรรมให้สอดคล้องต่อ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) สามารถเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น และฝึกฝนการทำงานเป็นทีม ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ การนำไปใช้ประโยชน์ การต่อยอดและสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคม เพราะนิสิตเป็นส่วนหนึ่งของคณะฯ เป็นความหวังของคณะในการพัฒนานิสิต เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายของความสำเร็จในการศึกษา เป็นบัณฑิตที่มีความพร้อมออกสู่สังคมต่อไป

ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร Faculty of Humanities NU

‘คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน’ ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในพิษณุโลก เสริมสร้างความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐาน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่ไม่เพียงแค่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพและการลดความเหลื่อมล้ำ แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐานของประชาชนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มักถูกมองข้ามและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานได้อย่างเต็มที่ เช่น คนไร้สัญชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่เผชิญกับการขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล, การประกอบอาชีพ และสิทธิขั้นพื้นฐานอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

หนึ่งในโครงการสำคัญที่สะท้อนถึงการดำเนินงานในแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ โครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลก โดยการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานที่พวกเขาควรได้รับ ภายใต้แนวคิดของการส่งเสริม ความยุติธรรม และ การลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคม

การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติ ในตอนที่ 2 ของโครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ให้บริการช่วยเหลือและคำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ คนไร้สัญชาติ ในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายหรือสิทธิพื้นฐานที่เหมาะสม โดยเฉพาะสิทธิในการขอสัญชาติ การได้รับการศึกษา การเข้าถึงการรักษาพยาบาล และการมีสิทธิในการดำเนินชีวิตอย่างเท่าเทียมกับประชาชนอื่น ๆ ในสังคม

การให้บริการทางกฎหมายในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ภาคีต่างๆ รวมถึงคณาจารย์จาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และบุคคลผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย โดยมีการให้คำปรึกษาในการยื่นขอสัญชาติ การจัดการกับปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมายของคนไร้สัญชาติ และการส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนในระดับท้องถิ่น

สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับโครงการ ในระหว่างการดำเนินงานของโครงการนี้ ผศ.กิติวรญา รัตนมณี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติว่า:

“การส่งเสริมสิทธิทางกฎหมายให้แก่ประชาชนทุกคนเป็นเรื่องที่จำเป็นในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน การให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านกฎหมายสำหรับกลุ่มคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลกนี้ ถือเป็นการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานอย่างเท่าเทียม โดยการเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียมไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา แต่ยังสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและสันติภาพได้”

ขณะเดียวกัน น.ส.ภิญญาภัทร ปุญญธนา (น้องแตงโม) นิสิตชั้นปีที่ 1 จาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวในโครงการนี้ว่า:

“การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสและสิทธิพื้นฐานในสังคม การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือในด้านการขอสัญชาติหรือสิทธิที่เกี่ยวข้อง แต่ยังเป็นการสร้างความหวังให้กับพวกเขาในการมีชีวิตที่ดีขึ้น การได้เห็นพวกเขามีโอกาสในการเข้าถึงสิทธิที่ควรได้รับถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก”

การสอดคล้องกับ SDGs 3, 10, และ 16: SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) มุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล, การศึกษา, และโอกาสในการมีชีวิตที่ดี โครงการคลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คนไร้สัญชาติสามารถเข้าถึงสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ และลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 16 (สันติภาพ, ความยุติธรรม, และสถาบันที่เข้มแข็ง) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมความยุติธรรม และสร้างสังคมที่มีการให้บริการทางกฎหมายอย่างเท่าเทียม โครงการนี้ช่วยสร้างความยุติธรรมให้แก่คนไร้สัญชาติ ที่มักถูกมองข้ามในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานผ่านการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม

ผลกระทบที่สำคัญและการต่อยอดโครงการ: โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในการขอสัญชาติ แต่ยังช่วยส่งเสริมการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนในชุมชน การให้คำปรึกษาทางกฎหมายช่วยเพิ่มความเข้าใจและการเข้าถึงสิทธิของพวกเขาในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่ถูกมองข้ามในสังคมสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ในระยะยาว โครงการนี้มีความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้สัญชาติให้สามารถเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล และการมีงานทำได้อย่างเท่าเทียมกับคนอื่น ๆ ในสังคม ส่งผลให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และสร้างสังคมที่ยั่งยืนและมีความยุติธรรมมากขึ้น

ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวรขอเชิญชวนทุกท่านร่วมรับชม คลิปวิดีโอ และตอบ แบบสอบถาม เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้ พร้อมทั้งช่วยเผยแพร่ข้อมูลให้กับผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากโครงการ โดยการกระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในสังคม

การให้โอกาสทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติถือเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันในการดำเนินโครงการนี้ และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและเท่าเทียมกัน

ลิงค์สำหรับตอบแบบสอบถาม: https://forms.gle/BefJfJ5HaZ1Q1mLD7

ที่มา: สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร NUradio Naresuan

ม.นเรศวร เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรด้วยการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรด้วยการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน” ต่อประชาคมมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ณ ห้องประชุมมหาราช ชั้น 2 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

คณะมนุษยศาสตร์ ร่วมพบ “ผู้บริหารพบภาควิชา”

วันที่ 8 กันยายน 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมคณะผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ ร่วมพบปะและประชุมหารือร่วมกับคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ประจำภาควิชาภาษาไทย ภายใต้กิจกรรม “ผู้บริหารพบภาควิชา” ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสื่อสารและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ประจำภาควิชา เพื่อรับฟังประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ รวมถึงเป็นการแจ้งข่าวสารด้านต่าง ๆ เช่น การจัดการศึกษา การผลิตบัณฑิตการพัฒนาตำแหน่งทางวิชาการ การบริการวิชาการ และการผลิตงานวิจัย เพื่อให้คณาจารย์ และบุคลากรทุกคนได้มีส่วนร่วมในการนำพาคณะฯ ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน ในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์ ให้เกียรติเป็นผู้แทนภาควิชาภาษาไทยมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีแก่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ ในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่งคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ อีกด้วย

ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมหารือจัดทำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด)

ม.นเรศวร ต้อนรับคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และคณะ เนื่องในโอกาสพบปะหารือเรื่องการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด) ณ ห้องประชุมสุพรรณกัลยา 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดอบรมจริยธรรมการวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการอบรมจริยธรรมการวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา บรรยายเรื่อง “การตรวจสอบการคัดลอกผลงานวิชาการ” และ “การเขียนผลงานวิทยานิพนธ์ โดยไม่มีการคัดลอก” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.รัตติมา จีนาพงษา อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านระบบออนไลน์ โดยใช้โปรแกรม Microsoft Teams

ที่มา: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร

นิสิต ม.นเรศวร ร่วมกิจกรรมอบรมและพัฒนาศักยภาพฯ สิทธิทางประชาธิปไตย

กิจกรรมอบรมและพัฒนาศักยภาพสภาเด็กและเยาวชนและเครือข่ายเยาวชนเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองและสิทธิทางประชาธิปไตย ครั้งที่ 4 (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ)

ด้วยสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ภายใต้โครงการเสียงของเราทางเลือกของเรา : พลังสตรีและเยาวชนสำหรับพื้นที่พลเมืองประชาธิปไตย ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และสหภาพยุโรป (EU) กำหนดจัดกิจกรรมอบรมและพัฒนาศักยภาพสภาเด็กและเยาวชนและเครือข่ายเยาวชนเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองและสิทธิทางประชาธิปไตย ครั้งที่ 4 (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ) เพื่อสร้างองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพให้กับเครือข่ายแกนนำเด็กและเยาวชนในพื้นที่ต่อประเด็นสิทธิพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย สิทธิเด็ก สิทธิในเด็กผู้หญิง และสิทธิพลเมืองที่พึงจะได้รับ 🧑‍⚖️

ทั้งนี้สำหรับเครือข่ายเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จะมีสิทธิ์ได้พัฒนาข้อเสนอโครงการ เพื่อขอรับทุนสนับสนุนการขับเคลื่อนกิจกรรมในพื้นที่ของตนเอง ภายใต้กรอบงบประมาณรวมทั้งหมดไม่เกิน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมดังกล่าว ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 2 กันยายน 2566 ณ โรงแรมพลิ โล่บูติด ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ที่มา: อาสายุวกาชาด ม.นเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin