ม.เรศวร ร่วมเสริมสร้างความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการกฎหมาย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 16 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมที่สงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่โปร่งใสและเข้มแข็ง ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านกฎหมาย โดยกิจกรรมล่าสุดคือ “การให้คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้นแก่ประชาชน” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม

  1. หัวข้อและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
    • กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ทำอย่างไรเมื่อจะฟ้อง หรือถูกฟ้อง”
    • มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
      • กระบวนการทางกฎหมายในกรณีฟ้องร้อง
      • การเตรียมเอกสารที่จำเป็น
      • ขั้นตอนและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี
    • ให้บริการ คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้น แก่ประชาชน บุคลากร และนิสิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  2. ผู้ร่วมดำเนินกิจกรรม
    • ความร่วมมือระหว่าง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ สภาทนายความภาค 6
    • การผนึกกำลังนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานด้านกฎหมาย
  3. กลุ่มเป้าหมาย
    • ประชาชนในพื้นที่ ตำบลท่าโพธิ์
    • บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
    • ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
  4. วัน เวลา และสถานที่จัดกิจกรรม
    • วัน: อังคารที่ 3 ธันวาคม 2567
    • เวลา: 08.30 – 12.00 น.
    • สถานที่: บริเวณโถงชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  5. การลงทะเบียน
    • ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน QR Code หรือลิงก์ที่ระบุในประกาศ

กิจกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลากหลายมิติ ได้แก่

  • การลดความเหลื่อมล้ำ: ช่วยให้ประชาชนที่ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำปรึกษาด้านกฎหมาย
  • การเสริมสร้างความรู้: ส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม
  • การเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน: สนับสนุนให้ชุมชนมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหากฎหมายด้วยตัวเอง

การดำเนินงานของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้กรอบเป้าหมาย SDG 16 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมผ่านการส่งเสริมความยุติธรรมและการให้ความรู้แก่ประชาชนในวงกว้าง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน นอกจากนี้ยัง สะท้อนถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรวิชาชีพ โดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกับ สภาทนายความภาค 6 ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและวิชาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 17: เครือข่ายความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม

ม.นเรศวร เสริมสร้างประชาธิปไตยและสังคมยุติธรรม ผ่านโครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในด้าน SDG 16 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสันติภาพ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจและการสร้างสังคมที่ยุติธรรมและโปร่งใส ในการนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายดังกล่าว โดยการนำเสนอการศึกษาและการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในสังคมไทย

หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญในการดำเนินงานด้าน SDG 16 คือการที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภิสา ไวฑูรเกียรติ, คณบดีคณะสังคมศาสตร์ ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยนเรศวรเข้าร่วมพิธีเปิด โครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริตภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งส่งเสริมการเสริมสร้างสังคมที่ยุติธรรมและโปร่งใส ผ่านการมีส่วนร่วมของเยาวชนและประชาชน

ในโครงการนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภิสา ได้นำตัวแทนนิสิตจากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเข้าร่วมรับฟังบรรยายในหัวข้อ “บทบาทเยาวชนกับสื่อเพื่อประชาธิปไตย” โดยมี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา, รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และ คุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย, ผู้ประกาศข่าวภาคสนามรายการข่าว 3 มิติ ไทยทีวีสีช่อง 3 และเจ้าของเพจข่าว The Reporters ร่วมบรรยายเพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับบทบาทของเยาวชนและสื่อในกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและโปร่งใส

นอกจากนี้ ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้เข้าร่วมกิจกรรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ Do and Don’t บนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนมีความรับผิดชอบในการใช้สื่อออนไลน์เพื่อเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต และการร่วมกิจกรรม Interactive Workshop – Design Thinking ที่จัดโดย อาจารย์พองาม เหลี่ยมศิริวัฒนา, อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยการทำเวิร์กช็อปนี้ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงออกแบบและวิธีการสร้างสรรค์ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาของสังคมและประเทศชาติ

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ ศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่าง วังจันทร์ ริเวอร์วิว มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก โดยมี คณะกรรมการบริหารโครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้จัดการ

การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้ SDG 16 โดยการเสริมสร้างเยาวชนและชุมชนให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตย และการใช้สื่อออนไลน์อย่างมีสติและรับผิดชอบ เพื่อสร้างสังคมที่ยุติธรรม โปร่งใส และยั่งยืนในอนาคต

ม.นเรศวร ส่งเสริมประชาธิปไตยและธรรมาภิบาลผ่านการเลือกตั้งผู้นำนิสิตออนไลน์

มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมประชาธิปไตยและส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) โดยการจัด การเลือกตั้งผู้นำนิสิต ประจำปีการศึกษา 2567 ผ่านระบบออนไลน์ที่โปร่งใสและเข้าถึงได้ง่าย สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 16) ซึ่งเน้นการสร้างสังคมที่ยุติธรรม โปร่งใส และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบัน

ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย การเลือกตั้งผู้นำนิสิตประจำปีเป็นกิจกรรมสำคัญที่สนับสนุนให้นิสิตทุกชั้นปีได้มีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย ผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อกำหนดตัวแทนในการพัฒนากิจกรรมและนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของนิสิต ด้วยระบบออนไลน์ที่ใช้งานง่าย (https://election.nu.ac.th/) ทำให้นิสิตสามารถเข้าร่วมได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะอยู่ในมหาวิทยาลัยหรือในพื้นที่อื่น

การใช้เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส การเลือกตั้งผ่านระบบออนไลน์แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสในกระบวนการเลือกตั้ง ระบบที่พัฒนาขึ้นมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เข้มงวดและป้องกันการทุจริตในทุกขั้นตอน ช่วยให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรม

การเรียนรู้ด้านธรรมาภิบาลในชีวิตจริง กิจกรรมการเลือกตั้งนี้ยังเป็นเวทีสำหรับนิสิตในการเรียนรู้เรื่อง ธรรมาภิบาล และความสำคัญของการมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย นิสิตจะได้เข้าใจบทบาทของตนเองในฐานะพลเมืองที่มีสิทธิและหน้าที่ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำและสมาชิกที่รับผิดชอบในสังคม

สนับสนุน SDG 16 ผ่านการส่งเสริมประชาธิปไตยในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวรแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานที่สนับสนุน SDG 16 ด้วยการสร้างพื้นที่ที่สนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมและความยุติธรรม การเลือกตั้งผู้นำนิสิตเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมที่โปร่งใสในสถาบันการศึกษา

ผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปลูกฝังค่านิยมประชาธิปไตยให้แก่นิสิตเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใสและยุติธรรม ซึ่งจะส่งผลให้มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นแบบอย่างในด้านการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันเพื่อพัฒนาสังคมในระยะยาว

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนากระบวนการเลือกตั้งและกิจกรรมอื่น ๆ ที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลและประชาธิปไตย เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนภายในมหาวิทยาลัย และสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน.

มหาวิทยาลัยนเรศวรชู “No Gift Policy” ตอกย้ำบทบาทองค์กรต้นแบบโปร่งใส

มหาวิทยาลัยนเรศวร (ม.นเรศวร) มุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบขององค์กรที่โปร่งใสและยุติธรรม ผ่านการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และความรับผิดชอบต่อสังคม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 16) ที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่มีความสงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่เข้มแข็ง

“No Gift Policy” เพื่อสร้างความโปร่งใสและต้านทุจริต มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินนโยบาย “งดรับ งดให้ ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิด รวมถึงประโยชน์อื่นใดจากการปฏิบัติหน้าที่” ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงานในองค์กร เพื่อป้องกันการทุจริตและสร้างวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นในหมู่บุคลากรทุกระดับ นโยบายนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดคอร์รัปชัน และเป็นการสร้างความไว้วางใจต่อสาธารณะ

การบ่มเพาะค่านิยมด้านความยุติธรรมและการต่อต้านการทุจริต นอกเหนือจากนโยบายระดับองค์กร มหาวิทยาลัยยังมุ่งเน้นการสร้างค่านิยมและทัศนคติด้านความโปร่งใสและความยุติธรรมในกลุ่มนิสิต โดยจัดกิจกรรมเสริมสร้างจิตสำนึก เช่น การอบรมเกี่ยวกับจริยธรรมทางวิชาชีพ การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านธรรมาภิบาล และการปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนรุ่นใหม่สามารถนำค่านิยมเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตจริง

ส่งเสริมความรับผิดชอบในองค์กรและการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มหาวิทยาลัยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน รวมถึงมาตรการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใส พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งหน่วยงานและกลไกตรวจสอบภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานทุกระดับสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล

ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในด้านการส่งเสริมความโปร่งใสและความยุติธรรม มีผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งองค์กรและสังคมในวงกว้าง โดยเป็นตัวอย่างของการสร้างองค์กรที่เน้นการปกครองที่ดี (Good Governance) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่มหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นการสนับสนุนสังคมให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานที่ยุติธรรม

การเดินหน้าสู่ SDG 16 อย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นในการขยายผลนโยบาย “No Gift Policy” และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต รวมถึงการเป็นต้นแบบในด้านการปกครองที่โปร่งใส เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และเพื่อสร้างสังคมที่สงบสุขและยุติธรรมสำหรับทุกคน.

ม.นเรศวร เสริมความรู้ด้านกฎหมาย แก่ผู้บริหารระดับกลางและระดับต้นของมหาวิทยาลัย

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัด โครงการ “ให้ความรู้ด้านกฎหมาย กรณีตัวอย่างความผิดวินัยด้านการเงิน การคลัง การพัสดุ และการบริหารงานบุคคล” แก่ ผู้บริหารระดับกลาง และระดับต้นของมหาวิทยาลัย โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.อรรถกร ทองทา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ผู้แทนอธิการบดี กล่าวเปิดโครงการ ซึ่งการจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายคะนึง จันทร์สงเคราะห์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด บรรยายในหัวข้อ “กรณีตัวอย่างความผิดวินัยด้านการเงิน การคลัง การพัสดุ และการบริหารงานบุคคล”และ “กรณีตัวอย่างความผิดวินัยด้านการเงิน การคลัง การพัสดุ และการบริหารงานบุคคล” ณ ห้องสัมมนาเอกาทศรถ 301อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ พบประชาคม

เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ ร่วมพบปะและประชุมหารือกับสโมสรนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ ณ ห้องประชุม HU 2303 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารกับนิสิต พร้อมรับฟังประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ อาทิ เรื่องการเรียน การใช้ชีวิต และการทำกิจกรรมของนิสิต ในโอกาสนี้คณบดีคณะมนุษยศาสตร์รได้มอบนโยบายให้นิสิตทราบถึงทิศทางการดำเนินงานของคณะ พร้อมให้แนวคิดเพื่อให้นิสิตได้ทบทวนการดำเนินงานกิจกรรมให้สอดคล้องต่อ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) สามารถเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น และฝึกฝนการทำงานเป็นทีม ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ การนำไปใช้ประโยชน์ การต่อยอดและสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคม เพราะนิสิตเป็นส่วนหนึ่งของคณะฯ เป็นความหวังของคณะในการพัฒนานิสิต เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายของความสำเร็จในการศึกษา เป็นบัณฑิตที่มีความพร้อมออกสู่สังคมต่อไป

ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร Faculty of Humanities NU

‘คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน’ ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในพิษณุโลก เสริมสร้างความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐาน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่ไม่เพียงแค่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพและการลดความเหลื่อมล้ำ แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐานของประชาชนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มักถูกมองข้ามและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานได้อย่างเต็มที่ เช่น คนไร้สัญชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่เผชิญกับการขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล, การประกอบอาชีพ และสิทธิขั้นพื้นฐานอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

หนึ่งในโครงการสำคัญที่สะท้อนถึงการดำเนินงานในแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ โครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลก โดยการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานที่พวกเขาควรได้รับ ภายใต้แนวคิดของการส่งเสริม ความยุติธรรม และ การลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคม

การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติ ในตอนที่ 2 ของโครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ให้บริการช่วยเหลือและคำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ คนไร้สัญชาติ ในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายหรือสิทธิพื้นฐานที่เหมาะสม โดยเฉพาะสิทธิในการขอสัญชาติ การได้รับการศึกษา การเข้าถึงการรักษาพยาบาล และการมีสิทธิในการดำเนินชีวิตอย่างเท่าเทียมกับประชาชนอื่น ๆ ในสังคม

การให้บริการทางกฎหมายในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ภาคีต่างๆ รวมถึงคณาจารย์จาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และบุคคลผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย โดยมีการให้คำปรึกษาในการยื่นขอสัญชาติ การจัดการกับปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมายของคนไร้สัญชาติ และการส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนในระดับท้องถิ่น

สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับโครงการ ในระหว่างการดำเนินงานของโครงการนี้ ผศ.กิติวรญา รัตนมณี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติว่า:

“การส่งเสริมสิทธิทางกฎหมายให้แก่ประชาชนทุกคนเป็นเรื่องที่จำเป็นในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน การให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านกฎหมายสำหรับกลุ่มคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลกนี้ ถือเป็นการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานอย่างเท่าเทียม โดยการเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียมไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา แต่ยังสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและสันติภาพได้”

ขณะเดียวกัน น.ส.ภิญญาภัทร ปุญญธนา (น้องแตงโม) นิสิตชั้นปีที่ 1 จาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวในโครงการนี้ว่า:

“การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสและสิทธิพื้นฐานในสังคม การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือในด้านการขอสัญชาติหรือสิทธิที่เกี่ยวข้อง แต่ยังเป็นการสร้างความหวังให้กับพวกเขาในการมีชีวิตที่ดีขึ้น การได้เห็นพวกเขามีโอกาสในการเข้าถึงสิทธิที่ควรได้รับถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก”

การสอดคล้องกับ SDGs 3, 10, และ 16: SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) มุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล, การศึกษา, และโอกาสในการมีชีวิตที่ดี โครงการคลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คนไร้สัญชาติสามารถเข้าถึงสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ และลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 16 (สันติภาพ, ความยุติธรรม, และสถาบันที่เข้มแข็ง) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมความยุติธรรม และสร้างสังคมที่มีการให้บริการทางกฎหมายอย่างเท่าเทียม โครงการนี้ช่วยสร้างความยุติธรรมให้แก่คนไร้สัญชาติ ที่มักถูกมองข้ามในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานผ่านการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม

ผลกระทบที่สำคัญและการต่อยอดโครงการ: โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในการขอสัญชาติ แต่ยังช่วยส่งเสริมการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนในชุมชน การให้คำปรึกษาทางกฎหมายช่วยเพิ่มความเข้าใจและการเข้าถึงสิทธิของพวกเขาในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่ถูกมองข้ามในสังคมสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ในระยะยาว โครงการนี้มีความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้สัญชาติให้สามารถเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล และการมีงานทำได้อย่างเท่าเทียมกับคนอื่น ๆ ในสังคม ส่งผลให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และสร้างสังคมที่ยั่งยืนและมีความยุติธรรมมากขึ้น

ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวรขอเชิญชวนทุกท่านร่วมรับชม คลิปวิดีโอ และตอบ แบบสอบถาม เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้ พร้อมทั้งช่วยเผยแพร่ข้อมูลให้กับผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากโครงการ โดยการกระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในสังคม

การให้โอกาสทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติถือเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันในการดำเนินโครงการนี้ และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและเท่าเทียมกัน

ลิงค์สำหรับตอบแบบสอบถาม: https://forms.gle/BefJfJ5HaZ1Q1mLD7

ที่มา: สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร NUradio Naresuan

ม.นเรศวร เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรด้วยการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรด้วยการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน” ต่อประชาคมมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ณ ห้องประชุมมหาราช ชั้น 2 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

คณะมนุษยศาสตร์ ร่วมพบ “ผู้บริหารพบภาควิชา”

วันที่ 8 กันยายน 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมคณะผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ ร่วมพบปะและประชุมหารือร่วมกับคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ประจำภาควิชาภาษาไทย ภายใต้กิจกรรม “ผู้บริหารพบภาควิชา” ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสื่อสารและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหาร คณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ประจำภาควิชา เพื่อรับฟังประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะต่าง ๆ รวมถึงเป็นการแจ้งข่าวสารด้านต่าง ๆ เช่น การจัดการศึกษา การผลิตบัณฑิตการพัฒนาตำแหน่งทางวิชาการ การบริการวิชาการ และการผลิตงานวิจัย เพื่อให้คณาจารย์ และบุคลากรทุกคนได้มีส่วนร่วมในการนำพาคณะฯ ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน ในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ธัญญา สังขพันธานนท์ ให้เกียรติเป็นผู้แทนภาควิชาภาษาไทยมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีแก่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ ในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่งคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ อีกด้วย

ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมหารือจัดทำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด)

ม.นเรศวร ต้อนรับคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และคณะ เนื่องในโอกาสพบปะหารือเรื่องการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด) ณ ห้องประชุมสุพรรณกัลยา 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin