ม.นเรศวร เป็นองค์กรที่ยึดมั่นในคุณธรรมและความโปร่งใส

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 งานบริหารความเสี่ยง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรมอบรมเพื่อยกระดับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมุ่งหวังให้ผู้บริหารและบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวรมีความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาองค์กรให้เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรม

การอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิดและบรรยายในหัวข้อ “นโยบายและมาตรการป้องกันการทุจริต” และ “นโยบาย No Gift Policy” ณ ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถ มหาวิทยาลัยนเรศวร การบรรยายดังกล่าวเน้นถึงแนวทางป้องกันการทุจริตในภาครัฐ การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มีความโปร่งใส และการสร้างจิตสำนึกให้บุคลากรทุกระดับมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งสนับสนุนแนวทางปฏิบัติที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรม

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรที่มีความหลากหลายทางความคิด เปิดโอกาสให้บุคลากรทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมีคุณค่าและยั่งยืน โดยการเน้นย้ำถึงหลักความเคารพและความเสมอภาคในที่ทำงาน การให้ความสำคัญกับความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ และการดำเนินงานโดยยึดมั่นในคุณธรรม เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรทุกคนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยุติธรรมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นดำเนินการ โดยส่งเสริมให้เกิดการบริหารจัดการที่เป็นธรรม ปราศจากอคติ และเคารพสิทธิของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงการดำเนินงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

การจัดกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนาองค์กรให้เป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส และความยุติธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในระยะยาว มหาวิทยาลัยนเรศวรจะยังคงเดินหน้าส่งเสริมคุณค่าทางจริยธรรมและยกระดับมาตรฐานการบริหารงานเพื่อสร้างองค์กรที่มีคุณภาพและความยั่งยืนในอนาคต

ม.เรศวร ร่วมเสริมสร้างความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการกฎหมาย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 16 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมที่สงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่โปร่งใสและเข้มแข็ง ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านกฎหมาย โดยกิจกรรมล่าสุดคือ “การให้คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้นแก่ประชาชน” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม

  1. หัวข้อและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
    • กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ทำอย่างไรเมื่อจะฟ้อง หรือถูกฟ้อง”
    • มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
      • กระบวนการทางกฎหมายในกรณีฟ้องร้อง
      • การเตรียมเอกสารที่จำเป็น
      • ขั้นตอนและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี
    • ให้บริการ คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้น แก่ประชาชน บุคลากร และนิสิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  2. ผู้ร่วมดำเนินกิจกรรม
    • ความร่วมมือระหว่าง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ สภาทนายความภาค 6
    • การผนึกกำลังนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานด้านกฎหมาย
  3. กลุ่มเป้าหมาย
    • ประชาชนในพื้นที่ ตำบลท่าโพธิ์
    • บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
    • ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
  4. วัน เวลา และสถานที่จัดกิจกรรม
    • วัน: อังคารที่ 3 ธันวาคม 2567
    • เวลา: 08.30 – 12.00 น.
    • สถานที่: บริเวณโถงชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  5. การลงทะเบียน
    • ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน QR Code หรือลิงก์ที่ระบุในประกาศ

กิจกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลากหลายมิติ ได้แก่

  • การลดความเหลื่อมล้ำ: ช่วยให้ประชาชนที่ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำปรึกษาด้านกฎหมาย
  • การเสริมสร้างความรู้: ส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม
  • การเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน: สนับสนุนให้ชุมชนมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหากฎหมายด้วยตัวเอง

การดำเนินงานของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้กรอบเป้าหมาย SDG 16 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมผ่านการส่งเสริมความยุติธรรมและการให้ความรู้แก่ประชาชนในวงกว้าง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน นอกจากนี้ยัง สะท้อนถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรวิชาชีพ โดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกับ สภาทนายความภาค 6 ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและวิชาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 17: เครือข่ายความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม

ม.นเรศวรจัดกิจกรรมอ่านสารสันติภาพและสงบนิ่งร่วมจิตอธิษฐาน เนื่องในวันสันติภาพสากล 2567

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรมอ่านสารสันติภาพพร้อมทั้งสงบนิ่งร่วมจิตอธิษฐานเนื่องในวันสันติภาพสากล 2567 โดยมีนางศิริมาศ เสนารักษ์ ผู้อำนวยการกองกลาง ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยบุคลากรและนิสิตเข้าร่วมกว่า 60 คน ณ ห้องปราบไตรจักร 12 อาคารเรียนรวมปราบไตรจักร ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเน้นย้ำความสำคัญของ “สันติภาพ” ในฐานะรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และเป็นโอกาสให้สังคมได้ตระหนักถึงการสร้างวัฒนธรรมที่ปราศจากความรุนแรง การส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างบรรยากาศแห่งความเข้าใจอันดี ถือเป็นภารกิจสำคัญที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ วันที่ 21 กันยายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็น “วันสันติภาพสากล” โดยมีการจัดกิจกรรมอ่านสารสันติภาพและยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการรวมพลังร่วมกันของประชาคมโลกในการสร้างสรรค์สังคมที่สงบสุขและปลอดภัย

สำหรับในปี 2567 ยังมีความพิเศษ เนื่องจากเป็นปีครบรอบ 25 ปี ที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้มีมติรับรองปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับ “วัฒนธรรมแห่งสันติภาพ” โดยหัวข้อการจัดงานในปีนี้ คือ “การปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ (Cultivating a Culture of Peace)” ซึ่งเป็นการเชิญชวนให้ทุกฝ่ายร่วมตระหนักและปฏิบัติจริงเพื่อสร้างสังคมที่มีความเข้าใจและเคารพในความหลากหลาย

แนวทางดังกล่าวสะท้อนถึงการส่งเสริมค่านิยมที่ยึดหลักการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านความเชื่อ ค่านิยม พฤติกรรม และรูปแบบการจัดการสถาบัน การปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งสันติภาพยังมุ่งเน้นการดูแลซึ่งกันและกัน ความเสมอภาค และการแบ่งปันทรัพยากรอย่างเท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ กิจกรรมยังตอกย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความปลอดภัยร่วมกัน ไม่ว่าจะในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศ หรือแม้กระทั่งในระดับโลก ความร่วมมือและการลดการใช้ความรุนแรงถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาสันติสุขอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษา ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดและปลูกฝังค่านิยมแห่งสันติภาพสู่เยาวชนและสังคม ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของนิสิตและบุคลากร ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ยังเป็นการสร้างสังคมแห่งความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

กิจกรรมวันสันติภาพสากล 2567 จึงไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของสันติภาพในระดับนานาชาติ แต่ยังเป็นการปฏิบัติที่สะท้อนถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทย ที่มุ่งเน้นความสงบเรียบร้อย ความยุติธรรม และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อเป็นรากฐานของความมั่นคงในปัจจุบันและอนาคต

ม.นเรศวร จัดเวทีผู้บริหารพบประชาคม ครั้งที่ 2 ส่งเสริมความโปร่งใส สื่อสารสู่องค์กรยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม เวทีผู้บริหารพบประชาคม ครั้งที่ 2 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี พร้อมด้วยรองอธิการบดีทั้ง 6 ท่าน ร่วมรายงานผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา และเปิดเผยแผนงานในอนาคตต่อประชาคมมหาวิทยาลัย โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ทั้งแบบออนไลน์และเข้าร่วมในหอประชุมมหาราช

เนื้อหาการรายงานครอบคลุมพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย ได้แก่ การจัดการศึกษา การวิจัย การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเป็นโอกาสในการสื่อสารองค์กรและรับฟังความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพและตอบโจทย์สังคม

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกนำเสนอ คือ แผนการประหยัดพลังงาน และการเสริมสร้างระบบสวัสดิการบุคลากร ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการ แต่ยังเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของบุคลากรในระยะยาว

นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังมีเป้าหมายในการ ส่งเสริมความโปร่งใส ในการบริหารจัดการ โดยการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานและผลการปฏิบัติให้ประชาคมได้รับรู้ ตลอดจนการเปิดพื้นที่ให้บุคลากรได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นและแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

กิจกรรมเวทีผู้บริหารพบประชาคมจึงเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้าง การมีส่วนร่วม และสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้บริหารและบุคลากรทุกภาคส่วน ทำให้เกิดการทำงานอย่างสอดประสานและมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือการพัฒนามหาวิทยาลัยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง

ปีนี้ยังนับเป็นโอกาสพิเศษ เนื่องจากในเดือนกรกฎาคม มหาวิทยาลัยนเรศวรจะครบรอบ 34 ปีแห่งการก่อตั้ง ซึ่งกิจกรรมนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพลังบวกและขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ปีที่ 35 ด้วยความเข้มแข็ง โปร่งใส และยั่งยืน

ท้ายที่สุด การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสำเร็จที่ผ่านมา แต่ยังเป็นเวทีในการประกาศเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยในการดำเนินงานอย่างมี ธรรมาภิบาล เปิดโอกาสให้บุคลากรมีส่วนร่วม และส่งต่อพลังความคิดสร้างสรรค์เพื่ออนาคตของมหาวิทยาลัยและสังคมไทยโดยรวม

ม.นเรศวร ผนึกกำลังเครือข่าย RUN ร่วมจัดแสดงผลงานวิจัยในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วย ดร.ยุทธพงษ์ ทองพบ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม ผู้อำนวยการกองการวิจัยและนวัตกรรม หัวหน้างานเผยแพร่และสื่อสารการวิจัย บุคลากร นักวิจัย และนิสิต เข้าร่วมพิธีเปิดบูธนิทรรศการของเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (Research University Network, RUN) ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

เครือข่าย RUN ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยชั้นนำ 8 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “RUN TOWARDS IMPACT” เพื่อตอกย้ำบทบาทงานวิจัยที่สามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้นำผลงานวิจัยที่มีความโดดเด่นเข้าร่วมจัดแสดงในบูธนิทรรศการ RUN โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธีมสำคัญ ได้แก่ Health and Well-Being, Food for Future และ Soft Power เพื่อสะท้อนถึงการพัฒนางานวิจัยที่ตอบโจทย์อนาคตอย่างรอบด้าน

ในกลุ่ม Health and Well-Being ม.นเรศวรนำเสนอผลงานวิจัยเรื่อง เม็ดเคี้ยวผลกล้วยไข่ผสมน้ำมันเมล็ดกัญชง เพื่อป้องกันผิวหนังเสื่อมสภาพจากแสงแดด โดย ศาสตราจารย์ ดร.จารุภา วิโยชน์ และคณะ จากคณะเภสัชศาสตร์ ซึ่งเป็นการพัฒนานวัตกรรมที่ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์

สำหรับกลุ่ม Food for Future ได้จัดแสดงผลงานวิจัย I-Sec Technology: เทคโนโลยีการสกัดโปรตีนจากจิ้งหรีดแบบอัตโนมัติในระดับอุตสาหกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ขนิษฐา รุตรัตนมงคล จากคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอบสนองต่อความมั่นคงทางอาหารในอนาคตและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ในด้าน Soft Power ได้นำเสนอผลงาน “ย่านเก่าเล่าเรื่อง” เมืองเรียนรู้ตลอดชีวิต เทศบาลนครพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดย อาจารย์ธนวัฒน์ ขวัญบุญ และคณะ จากคณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร ที่เน้นการใช้พลังวัฒนธรรมและพื้นที่ชุมชนเป็นเครื่องมือในการสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัย ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยการเชื่อมโยงองค์ความรู้และทรัพยากรระหว่างมหาวิทยาลัยพันธมิตรเพื่อสร้างผลงานวิจัยที่มีคุณค่าและสามารถนำไปใช้ได้จริง

ด้วยการผนึกกำลังของ RUN งานวิจัยที่เกิดขึ้นไม่เพียงเป็นการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิชาการ แต่ยังเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศในมิติของนวัตกรรมและการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา

ม.นเรศวร จัดโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม ส่งเสริมความโปร่งใสสู่องค์กรที่เข้มแข็ง

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรูญ สารินทร์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม หลักธรรมาภิบาล และการปฏิบัติตามจรรยาบรรณของบุคลากร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายใต้หัวข้อ “จริยธรรม จรรยาบรรณ ในการทำงานสู่องค์กรที่เข้มแข็ง” ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร

การอบรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้งสายวิชาการและสายสนับสนุน ได้รับความรู้ความเข้าใจในด้านคุณธรรม จริยธรรม หลักธรรมาภิบาล และความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างถูกต้องและเหมาะสม

การบรรยายพิเศษจัดขึ้นโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.นพ.วัชรพล ภูนวล ผู้อำนวยการศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการประยุกต์ใช้คุณธรรมและจริยธรรมในการทำงาน เพื่อสร้างมาตรฐานการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้

เนื้อหาการอบรมมุ่งเน้นให้บุคลากรตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และตระหนักถึงผลลัพธ์ของการทำงานที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและสังคมวงกว้าง การยึดถือหลักจรรยาบรรณในการปฏิบัติงานจึงถือเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างองค์กรที่เข้มแข็ง

นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการทำงานอย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาองค์กรให้มีความยั่งยืน สามารถตอบสนองต่อความท้าทายทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคง

โครงการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติงาน สอดคล้องกับพันธกิจของสถาบันในการสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม

การอบรมในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการถ่ายทอดความรู้ แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนให้แก่บุคลากรทุกระดับ เพื่อก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นแบบอย่างของ องค์กรที่เข้มแข็ง อย่างแท้จริง

ม.นเรศวร ส่งเสริมสังคมโปร่งใสและเป็นธรรม ผลักดันนิสิตคว้ารางวัลนวัตกรรมต่อต้านการทุจริต

วันพุธที่ 28 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร แสดงบทบาทเชิงรุกในการ ส่งเสริมสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรม โดยการผลักดันนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์เข้าร่วมการประกวดนวัตกรรมต่อต้านการทุจริต ภายในงานสัมมนา “เยาวชนกับอนาคตสังคมไทยปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ” (Global Citizen Forum 2024) จัดขึ้นโดยคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคาร 50 ปี

ทีมตัวแทนนิสิตจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แก่ นายณัฐวุฒิ ทาก๋า นายธีรวัฒน์ อาสาเหลา นางสาวกนกดารินทร์ ธนะพัฒน์ นายภัทรชาติ กลิ่นชิด และนางสาวศศิวิมล คำพิสมัย สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการนำเสนอนวัตกรรมที่มุ่งแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างสร้างสรรค์และเป็นรูปธรรม

การประกวดครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาหลายแห่งจากทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ส่งผลงานนวัตกรรมที่สะท้อนถึงความตั้งใจของเยาวชนไทยในการเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมที่โปร่งใส ยุติธรรม และมีธรรมาภิบาล

ผลงานของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่เพียงแสดงศักยภาพทางวิชาการ แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสถาบันในการ ผลักดันบัณฑิตที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ และคุณธรรม เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสังคมที่ไร้การคอร์รัปชัน

ภายในงานสัมมนายังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้แนวทางการเสริมสร้างธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วมของเยาวชนในกระบวนการตรวจสอบ และการสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันการทุจริต ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน

รางวัลครั้งนี้จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงความสำเร็จของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานิสิตทั้งด้านวิชาการและจริยธรรม พร้อมทั้งย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งมั่นสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรม

ความสำเร็จดังกล่าวยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนิสิตรุ่นต่อไปของมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนนวัตกรรมที่มีคุณธรรม เพื่อสังคมไทยที่เข้มแข็งและปราศจากการทุจริตอย่างแท้จริง

ม.นเรศวร จัดบรรยายพิเศษ “ปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งต่อต้านการทุจริต”

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2567 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติจาก นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งต่อต้านการทุจริต” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บูรณาการอยู่ในรายวิชากฎหมายพื้นฐานเพื่อคุณภาพชีวิต โดยมีนิสิตเข้าร่วมรับฟังการบรรยายกว่า 373 คน ณ ห้องปราบไตรจักร 43 อาคารเรียนปราบไตรจักร 1

การบรรยายครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการปลูกฝังแนวคิดด้านคุณธรรมและความโปร่งใสในสังคม ถือเป็นการเสริมสร้างความรู้และคุณค่าที่จำเป็นต่อการพัฒนานิสิตให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

นอกจากการบรรยายในเชิงทฤษฎีแล้ว วิทยากรยังได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์จริงในสังคมที่เชื่อมโยงการทำลายสิ่งแวดล้อมกับปัญหาการทุจริต เพื่อให้นิสิตเห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเด็น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการทุจริตไม่เพียงแต่กระทบต่อเศรษฐกิจและการเมือง แต่ยังทำลายระบบนิเวศและความยั่งยืนของสังคมด้วย

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างนิสิตให้เป็นพลเมืองที่ดี มีความกล้าหาญในการยืนหยัดต่อสู้กับการทุจริต และมีจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมรอบตัว ถือเป็นการผสานการเรียนรู้ด้านกฎหมายเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและโปร่งใส โดยการส่งเสริมการปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการต่อต้านการทุจริต เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพของนิสิตและสังคมไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ การเรียนรู้ในลักษณะนี้ยังถือเป็นการส่งเสริมการศึกษาที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างพื้นฐานความรู้ที่นิสิตสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในวิชาชีพ และเป็นแรงผลักดันให้นิสิตมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่มีคุณภาพทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความยุติธรรม

กิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งปลูกฝังคุณค่าของความซื่อสัตย์สุจริตให้แก่เยาวชน เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรมอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดบรรยายพิเศษ “Thai Democratization in Historical Perspective” ส่งเสริมประชาธิปไตย

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2567 งานวิจัยและบริการวิชาการ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการบริการวิชาการแก่สังคม ในรูปแบบการบรรยายหัวข้อ “Thai Democratization in Historical Perspective” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวิทยากรบรรยาย

การดำเนินรายการจัดโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรไท โสภารัตน์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและส่งเสริมพหุวัฒนธรรม และ Dr. Paul Wesley Chambers อาจารย์ประจำสถานประชาคมอาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ ซึ่งทำให้การบรรยายมีความหลากหลายทั้งเชิงวิชาการและเชิงประสบการณ์ สอดคล้องกับเป้าหมายของมหาวิทยาลัยในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย

การบรรยายครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้และความเข้าใจในกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งนำเสนอผ่านมุมมองทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย เหตุการณ์สำคัญ บุคคลสำคัญ และปัจจัยทางสังคม เศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการพัฒนาการเมืองไทย

ผู้เข้าร่วมได้รับประโยชน์จากการบรรยายทั้งในแง่การสร้างพื้นฐานความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองไทย และการเสริมสร้างทักษะการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ความรู้นี้ยังช่วยสนับสนุนการพัฒนาความคิดเชิงวิพากษ์และการเชื่อมโยงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เข้ากับการแก้ไขปัญหาสังคมร่วมสมัย

กิจกรรมนี้ยังเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ นิสิต และผู้สนใจทั่วไป การเปิดโอกาสให้เกิดการถกเถียงเชิงสร้างสรรค์ถือเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมประชาธิปไตยในสังคม และสร้างการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีคุณภาพ

นอกจากนี้ การจัดบรรยายยังสะท้อนถึงความร่วมมือทางวิชาการที่เข้มแข็ง ทั้งภายในมหาวิทยาลัยและกับเครือข่ายนักวิชาการจากสถาบันอื่น ๆ การสร้างความร่วมมือเช่นนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้และขับเคลื่อนประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนในระดับชาติและนานาชาติ

โครงการดังกล่าวไม่เพียงเป็นกิจกรรมบริการวิชาการแก่สังคม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมที่เน้นการสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือ ในการผลักดันกระบวนการประชาธิปไตยให้มีความมั่นคง โปร่งใส และสอดคล้องกับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีขึ้น ณ ห้องประชุม Main Conference ชั้น 1 อาคารกองบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (CITCOMS) มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก แสดงถึงความสนใจในประเด็นประชาธิปไตยและความตั้งใจที่จะร่วมสร้างสังคมที่โปร่งใสและเข้มแข็งต่อไป

ม.นเรศวร จัดประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดิน

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13.30 – 15.30 น. ณ ห้องประชุมนเรศวร 308 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี กองคลัง มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2 โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร เป็นประธานการประชุม

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการ เร่งรัดและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ของมหาวิทยาลัยนเรศวรให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส สอดคล้องกับกรอบนโยบายของรัฐบาลและมาตรการด้านความรับผิดชอบทางการคลัง

คุณรุจิพัชญ์ ทวีชัยกิติพงษ์ ผู้อำนวยการกองคลัง ได้นำเสนอข้อมูลรายงานผลการเบิกจ่าย พร้อมทั้งสะท้อนประเด็นท้าทายและข้อเสนอแนะเพื่อให้ทุกหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยสามารถวางแผนการเบิกจ่ายได้ตรงตามเป้าหมาย ลดปัญหาการล่าช้า และป้องกันการสูญเสียงบประมาณ

ที่ประชุมประกอบด้วยผู้บริหารและตัวแทนจากคณะกรรมการของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันหามาตรการและแนวทางในการปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความรัดกุม โปร่งใส และตรวจสอบได้ อันเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการงบประมาณภายในมหาวิทยาลัย

การประชุมดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมความโปร่งใสในการใช้งบประมาณแผ่นดิน และเสริมสร้างระบบการบริหารงานที่มีธรรมาภิบาล โดยเน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและการใช้ทรัพยากรของประเทศอย่างคุ้มค่า

นอกจากนี้ การติดตามการเบิกจ่ายอย่างต่อเนื่องยังช่วยกระตุ้นให้แต่ละหน่วยงานตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และความสำคัญของการจัดการงบประมาณอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการขับเคลื่อนภารกิจของมหาวิทยาลัยทั้งด้านการเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ

การประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ยังเป็นการวางรากฐานในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นในความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในระยะยาว

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin