Archives October 2023

“ปันของให้น้องเล่น” มอบชุดสนามเด็กเล่นในโรงพยาบาล (Indoor Playground)

วันที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ผศ.พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานรับมอบสนามเด็กเล่น เครื่องรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Auto Pap)  เครื่องคอมพิวเตอร์ Note Book และ อุปกรณ์เครื่องเขียนพร้อมหนังสือนิทานสำหรับเด็ก ของเล่น จากทีมโครงการปันของให้น้องเล่น นำโดยคุณจุฑามาศ ปัทมวิภาต นาลูลา เป็นตัวแทนทีมส่งมอบ

    โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ที่จะสนับสนุนสนามเด็กเล่นในโรงพยาบาล (Indoor Playground)  2 ส่วน ได้แก่  สถานรักษาแก้ไขภาวะปากเหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า  และ แผนกผู้ป่วยนอกกุมารเวชกรรม เพื่อให้เด็กเล็กที่รอตรวจได้เล่น พร้อมของเล่นส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เช่น สมุดระบายสี หนังสือนิทาน ฯลฯ ระหว่างรอตรวจ สร้างความสุขให้แก่เด็กๆ และผู้ปกครองที่มารอรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากทีมโครงการปันของให้น้องเล่น โดยมีผู้มีจิตศรัทธา

ในการนี้มีกิจกรรมเดี่ยวเปียโน โดย ดช.รินทร์ จิตต์ผิวงาม ในเพลง Joy to the world การขับร้องเพลงด้วยเกียรติแพทย์ไทยโดยคณบดีและคณาจารย์พร้อมด้วยนิสิตแพทย์ รวมทั้งขับร้องเพลงมาร์ชพยาบาล สร้างความสุขด้วยเสียงเพลงและเสียงดนตรีให้เด็ก ๆ ผู้ปกครองที่มารอตรวจได้อย่างมาก

        คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณแทนเด็ก ๆ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นอย่างยิ่ง ทางคณะฯ จะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้ ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยได้อย่างสูงสุดต่อไป ขอขอบพระคุณทีมโครงการ “ปันของให้น้องเล่น” มา ณ โอกาสนี้

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม AstroNight 2023: เปิดโลกการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้านดาราศาสตร์

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4) ด้านการศึกษาที่ทั่วถึงและมีคุณภาพ ผ่านการจัดกิจกรรม AstroNight 2023 ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยมี ศ.ดร.ภญ. กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน

งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเพื่อการค้นคว้าระดับรากฐาน (IF) มหาวิทยาลัยนเรศวร, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT), ธนาคารกสิกรไทย และโรงเรียนเครือข่ายดาราศาสตร์ทั่วประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมความสนใจด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนและประชาชน

กิจกรรมที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การสังเกตดวงดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์, การบรรยายพิเศษโดยนักวิทยาศาสตร์, นิทรรศการดาราศาสตร์ และเวิร์กชอปสร้างแรงบันดาลใจสำหรับเยาวชน กิจกรรมเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงกระตุ้นความสนใจในศาสตร์ดาราศาสตร์

ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน การจัดงาน AstroNight 2023 ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะศูนย์กลางการศึกษาที่เปิดกว้างและสร้างโอกาสในการเรียนรู้อย่างทั่วถึง งานนี้ดึงดูดเยาวชนและประชาชนกว่า 1,000 คน เข้าร่วม สะท้อนถึงความสำเร็จในการสร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักรู้ด้านวิทยาศาสตร์

กิจกรรมดังกล่าวยังเป็นต้นแบบที่ดีของการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา หน่วยงานวิจัย และภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางการศึกษาในรูปแบบที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ต่อไปในอนาคต

ม.นเรศวร ร่วมเปิดโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน เสริมสร้างพลังงานสะอาดและการเป็นกลางทางคาร์บอน

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Thai-German Cooperation on Energy, Mobility, and Climate: TGC EMC) ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 ท่าน จากหน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) ภายใต้แผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (IKI) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทยในการวางแผนและดำเนินกิจกรรมที่มุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงในภาคพลังงาน ขนส่ง อุตสาหกรรม และชีวมวล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 ของรัฐบาลไทย

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับโครงการนี้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค โดยมีการสนับสนุนจากกองทุน ThaiCI (Thai Climate Initiative Fund) เพื่อให้ทุนแก่โครงการต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย

การมีส่วนร่วมในโครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ และการพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืนในด้านพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะในด้านพลังงานสะอาดและการสร้างความร่วมมือที่มีผลกระทบในเชิงบวกทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก

ClearKeepGiveShare: ม.นเรศวร ชวนแบ่งปัน ลดความเหลื่อมล้ำ สนับสนุนการศึกษานิสิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 10) ด้านการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ผ่านโครงการ “ClearKeepGiveShare: ยิ่งให้ยิ่งได้แบ่งปัน” ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างความสุขผ่านการแบ่งปัน โดยเชิญชวนอาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิต และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคเสื้อผ้ามือสองหรือของใช้สภาพดี

ของบริจาคเหล่านี้จะถูกส่งต่อให้นิสิตที่ขาดแคลน พร้อมทั้งจัดจำหน่ายเพื่อนำรายได้เข้าสมทบกองทุนการศึกษาสำหรับนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา แต่ยังปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการให้และการแบ่งปันในสังคม

ร่วมบริจาคได้ที่กองกิจการนิสิต อาคารขวัญเมือง ชั้น 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร เพราะ “Everything’s better when we’re together” ความร่วมมือเล็กๆ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้!

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ สนับสนุนการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 15) โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรที่ดินอย่างยั่งยืน ผ่านการจัด กิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ 2566 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 9.00 น. กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยกองอาคารสถานที่ ภายใต้การนำของ นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม

ภายในงาน บุคลากรจากกองอาคารสถานที่ได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรมดูแลพื้นที่สีเขียวบริเวณด้านหลังอาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การพรวนดิน ใส่ปุ๋ย รดน้ำ ตัดแต่งกิ่งไม้ และกำจัดวัชพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปุ๋ยอินทรีย์ที่นำมาใช้ในกิจกรรมครั้งนี้ถูกผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบไม้ กิ่งไม้ ผสมกับ ถ่านชีวภาพ (Biochar) ซึ่งช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรภายในพื้นที่อย่างยั่งยืน

กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นแบบอย่างที่ดีด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรดินและป่าไม้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

ม.นเรศวร ส่งเสริมเกษตรยั่งยืนผ่านกิจกรรมดำนา ปลูกข้าว วิชชาลัยข้าวและชาวนา

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรม “ร่วมแรงร่วมใจ ดำนา ปลูกข้าว วิชชาลัยข้าวและชาวนา” เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในวิถีเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม พร้อมส่งเสริมการเกษตรอย่างยั่งยืน ภายในมหาวิทยาลัย กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้เรื่องความสำคัญของการผลิตอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วยนักศึกษา บุคลากร และชุมชนท้องถิ่น ได้ร่วมกันเรียนรู้ขั้นตอนการปลูกข้าว ตั้งแต่การเตรียมดิน การดำนา ไปจนถึงการดูแลรักษาพื้นที่นาโดยใช้วิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้สารเคมี และการบำรุงดินด้วยปุ๋ยธรรมชาติ

กิจกรรมดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องการผลิตอาหารที่ยั่งยืนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ รวมถึงส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทเกษตรกรในระบบเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้และลงมือทำจริงยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้และประสบการณ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงสนับสนุนวิถีชีวิตแบบพอเพียง

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมุ่งมั่นพัฒนาระบบอาหารภายในมหาวิทยาลัยให้ปลอดภัยและยั่งยืน โดยใช้ผลผลิตจากกิจกรรมเกษตรกรรมนี้สนับสนุนโครงการอาหารปลอดภัย และขยายผลการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนให้ครอบคลุมในระดับชุมชน

ที่มา: กองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงาน ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้กล่าวต้อนรับและร่วมประชุมกับศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิชัย ใจกล้า รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้จัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดำเนินงาน ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) โดยสร้างความร่วมมือและเป็นเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์ประสานงาน การแลกเปลี่ยนวิทยากร การพัฒนาความรู้ รูปแบบการทำงาน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน การหนุนเสริม และสนับสนุนความรู้แก่สมาชิก อพ.สธ.ในการดำเนินงานสนองพระราชดำริ อพ.สธ. ณ ห้องประชุมเทาแสด ชั้น 1 อาคารศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จัดให้มีการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาทั้ง 6 ท่านเพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการทำงานร่วมกัน และแผนการดำเนินงานของศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.ทั้ง 2 แห่ง รวมถึงการเข้าร่วมงานจัดนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถิ่น ระดับภูมิภาค ครั้งที่ 7 ปี 2566 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม และการสร้างความร่วมมือและกำหนดทิศทางการดำเนินงานที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันตามกรอบของ อพ.สธ. ในปีงบประมาณ 2567 ต่อไป

ที่มา: ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร สร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุวยงค์ จันทรวิจิตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยนเรศวรในการลงนามในบันทึกการตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding (MOU) กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และเทศบาลตำบลท่าทอง จำนวน 11 แห่ง ณ ห้องเทพรณรงค์ฤาไชย ชั้น 1 อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีรายนามหน่วยงานดังต่อไปนี้

1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร
3. โรงพยาบาลสุโขทัย
4. โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
5. โรงพยาบาลพิจิตร
6. โรงพยาบาลกำแพงเพชร
7. โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
8. โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
9. โรงพยาบาลจิตเวชพิษณุโลก
10. โรงพยาบาลพิษณุเวช
11. เทศบาลตำบลท่าทอง

โดย MOU ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันด้านวิชาการและการศึกษาวิจัย ด้านบริการวิชาการ และเพื่อพัฒนาบุคลากรของทุกๆหน่วยงาน รวมถึงคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรด้วย

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

นวัตกรรมเชิงระบบ รางวัล ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023

ในวันที่ 29 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมกิจกรรมเพื่อรณรงค์และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับ วันหลอดเลือดสมองโลก (#WorldStrokeDay) ภายใต้แนวคิด “ปักหมุดจุดเสี่ยง หลีกเลี่ยงอัมพาต” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม SDG 3: สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี มุ่งเน้นการป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่สามารถป้องกันได้หากมีการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตและพิการอย่างรุนแรงในผู้ป่วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลในพื้นที่และชุมชนในการพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบเพื่อ ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านการตรวจคัดกรองและจัดการปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคนี้ โดยมีการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลที่ทันสมัยเพื่อวิเคราะห์และติดตามสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การพัฒนานวัตกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังที่จะให้การบริการด้านสุขภาพเข้าถึงประชาชนได้ง่ายและครอบคลุม โดยมีการนำเอาระบบสุขภาพที่เป็น “นวัตกรรมเชิงระบบ” มาใช้ในการสังเกตและติดตามความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในระดับชุมชน ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยได้รับรางวัล “ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023” ในประเภท ชมเชย สำหรับความสำเร็จในการพัฒนาและการนำระบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่สามารถเข้าถึงผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล

ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลและชุมชน โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวร, โรงพยาบาลในพื้นที่, และชุมชน โดยใช้เทคโนโลยีในการตรวจคัดกรองโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในระดับชุมชนให้สามารถตรวจหาความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองได้ และสามารถให้คำแนะนำในการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดสมองในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนานวัตกรรมนี้ไม่เพียงแค่เป็นการใช้เทคโนโลยีในการตรวจคัดกรองโรค แต่ยังรวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในชุมชนเกี่ยวกับวิธีการ สังเกตอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ตามหลัก FAST (Face, Arms, Speech, Time) เพื่อที่ประชาชนจะสามารถรับรู้และขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตและลดอาการพิการจากโรคหลอดเลือดสมอง

การพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบในโครงการนี้ได้รับการยอมรับในวงการสุขภาพ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระดับชุมชนได้จริง โดยโครงการนี้ได้รับรางวัล “ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023” ในหมวด ชมเชย สำหรับผลงานการพัฒนานวัตกรรมที่มีความสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะในชุมชนห่างไกลที่มีการเข้าถึงบริการสุขภาพไม่สะดวก

รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จและคุณค่าของการพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบที่สามารถนำไปใช้จริงในระดับชุมชน ซึ่งตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 3 ที่มุ่งหวังให้ผู้คนในทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงสุขภาพที่ดีและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

29 ตุลาคม วันหลอดเลือดสมองโลก

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 3: สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคที่สามารถป้องกันได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งปีนี้ประเทศไทยมีรายงานการพบผู้ป่วยหลอดเลือดสมองกว่า 3 แสนราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 3 หมื่นราย

โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ถึง 90% หากได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและมีการตรวจสอบอาการในระยะเริ่มต้นอย่างทันท่วงที สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองสามารถสังเกตได้ง่ายผ่านหลักการ F.A.S.T. ซึ่งย่อมาจาก:

  • F (Face) – หน้าตาเบี้ยวหรือผิดรูป
  • A (Arms) – แขนยกไม่ขึ้นหรืออ่อนแรง
  • S (Speech) – พูดลำบาก หรือมีการพูดที่ไม่ชัดเจน
  • T (Time) – เมื่อพบอาการเหล่านี้ต้องโทร 1669 ทันที

การโทรหาหมายเลข 1669 หรือศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติทันทีในกรณีที่สงสัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาได้ทันเวลา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตหรือการพิการจากโรคนี้

การร่วมมือและการสร้างความตระหนักในชุมชน การรณรงค์ในปี 2566 นี้มีหัวข้อหลักคือ “Together we are #GreaterThan Stroke” ซึ่งมุ่งเน้นการร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น เพื่อป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทย มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทในการสร้างความตระหนักรู้ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มนิสิตและชุมชนรอบมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีความเข้าใจในเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะการตรวจสอบอาการเบื้องต้นและการติดต่อหน่วยงานทางการแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการเสี่ยง

การสนับสนุนด้านการศึกษาและการป้องกันโรค นอกจากการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาณเตือนและการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้สนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรมเกี่ยวกับการช่วยชีวิตเบื้องต้น (First Aid) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุฉุกเฉินในกรณีโรคหลอดเลือดสมองหรือภาวะหัวใจหยุดเต้น

การดำเนินงานเหล่านี้สอดคล้องกับ SDG 3 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชากรในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงจากโรคที่สามารถป้องกันได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง รวมทั้งการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตนเอง

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin