ตรวจสุขภาพประจำปี กับผลตอบแทน ที่ทำให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (SDGs 3) ผ่านการเผยแพร่ข้อมูลและความรู้ในด้านสุขภาพแก่ประชาชน รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในการสนับสนุนการพัฒนาความรู้ด้านการแพทย์และสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ เผยแพร่สัมภาษณ์ ผศ.นพ.ยุทธพงศ์ พุทธรักษา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มีการสัมภาษณ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ ซึ่งเป็นการสื่อสารความรู้และข้อมูลที่สำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพในสังคม.

การสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้เผยแพร่ผ่านหลายช่องทางที่มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดทำขึ้นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังและผู้ชมได้มากขึ้น ได้แก่:

  • FM 107.25 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของการดูแลสุขภาพที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน
  • เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านลิงค์ เว็บไซต์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้สนใจสามารถเข้าถึงบทสัมภาษณ์และข้อมูลเพิ่มเติมได้สะดวก
  • YouTube Channel ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านลิงค์ YouTube เพื่อให้การรับชมเป็นไปอย่างสะดวกและสามารถแชร์ข้อมูลให้กับผู้คนในวงกว้าง

การเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างการรับรู้เรื่องสุขภาพในระดับท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายการเข้าถึงความรู้ไปยังกลุ่มผู้ฟังและผู้ชมจากทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อ SDGs 3 ในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน.

ในระหว่างการสัมภาษณ์ ผศ.นพ.ยุทธพงศ์ พุทธรักษา ได้กล่าวถึง ความสำคัญของการสื่อสารด้านสุขภาพ และ บทบาทของคณะแพทยศาสตร์ในการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ในหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพในชุมชน การให้ความรู้เรื่องสุขภาพยังสามารถสร้างความตระหนักให้กับสังคมถึงวิธีการดูแลรักษาสุขภาพในชีวิตประจำวันและกระตุ้นให้เกิดการดูแลตนเองได้ดีขึ้น

การประชาสัมพันธ์และการสื่อสารข้อมูลที่มีคุณค่าเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบันที่ประชาชนต้องเผชิญกับการแพร่กระจายของข้อมูลทั้งจริงและไม่จริง โดย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงให้ความสำคัญกับการใช้ช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อวิทยุกระจายเสียง เว็บไซต์ และ YouTube ในการส่งเสริมการรับรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องและมีคุณภาพ สำหรับผู้ฟังและผู้ชมที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ

การเผยแพร่บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับสื่อสารองค์กรและเครือข่ายต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน SDGs 3 โดยการมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการป้องกันโรค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมโดยรวม

คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณ เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ ที่ช่วยเสริมสร้างการประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข้อมูลที่มีคุณค่า พร้อมทั้ง คลิปวิดีโอ จาก PR Medicine NU YouTube Channel ที่ช่วยให้ข้อมูลต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ชมและผู้ฟัง

รับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ รากฟันเทียมรองรับฟันปลอมทั้งปาก ในขากรรไกรล่าง

โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิด “รับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ รากฟันเทียมรองรับฟันปลอมทั้งปาก ในขากรรไกรล่าง” โครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 2567

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
1. ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป
2. มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเท่านั้น (สิทธิบัตรทอง หรือบัตร 30 บาท)
3. ให้การรักษาโดยอาจารย์ทันตแพทย์ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของรากฟันเทียม

สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ลงทะเบียนผ่าน QR code หรือ โทร: 0-5596-7462
ที่มา: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Healthy baby and Happy mom “เพราะ ลูก คือ ของขวัญพิเศษ ของพ่อแม่ และครอบครัว”

Healthy baby and Happy mom “เพราะ ลูก คือ ของขวัญพิเศษ ของพ่อแม่ และครอบครัว” รพ.มน. ให้บริการฝากครรภ์ คุณภาพ คลอดบุตรและพักฟื้นต่อเนื่องจนถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยทีมสูติแพทย์ กุมารแพทย์ และทีมการพยาบาลที่เชี่ยวชาญ

ติดต่อได้ที่คลินิกสูติ-นรีเวชกรรม ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 1 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร สอบถามเพิ่มเติม 0 5596 5685

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมพิธีปิดการแข่งขันกีฬาสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 46

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สกนธ์ชัย ชะนูนันท์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้นำทีม นักกีฬา และ บุคลากร เข้าร่วมพิธีปิดการแข่งขัน กีฬาสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 46 หรือ ฉัททันต์เกมส์ ที่จัดขึ้น ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีการ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา และการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรมกีฬา

กิจกรรมการแข่งขันกีฬาสาธิตสามัคคี ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการส่งเสริม SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ SDG 17: การเป็นพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาในระดับนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างความแข็งแรงทางร่างกาย ยังเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมระหว่างนักเรียนและบุคลากรจากหลากหลายสถาบันการศึกษา รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและสถาบันต่าง ๆ

การส่งเสริมการทำงานร่วมกันและความเป็นพันธมิตร การจัดการแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างสุขภาพทางกายของนักกีฬา แต่ยังเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ นักเรียน นักศึกษา บุคลากร และอาจารย์จากหลายสถาบัน ที่ร่วมกันสร้างความสำเร็จในกิจกรรมครั้งนี้ การส่งมอบ ถ้วยประจำการแข่งขัน และ ธงประจำการแข่งขัน โดยเจ้าภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้กับเจ้าภาพครั้งถัดไป โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือในการพัฒนากิจกรรมนี้ให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

การเตรียมพร้อมสำหรับเจ้าภาพครั้งถัดไป กิจกรรมการแข่งขัน กีฬาสาธิตสามัคคี ครั้งที่ 47 หรือ เจ้ารามเกมส์ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 19 – 25 ธันวาคม 2567 ที่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันการศึกษา และการสร้างพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านกีฬาและสุขภาพระหว่างโรงเรียนต่าง ๆ การเป็นเจ้าภาพในกิจกรรมนี้ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสถาบันในด้านการส่งเสริมการกีฬาและการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีและยั่งยืน

ที่มา: โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

ถ่ายทอดความรู้ พัฒนาทักษะส่วนบุคคลและเป็นการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากและฟัน

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 นิสิตทันตแพทย์ชั้นปีที่ 5 จัดกิจกรรมสอนทักษะการแปรงฟันให้กับผู้ดูแล (เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนา นิคมสร้างตนเองบางระกำ) เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้ ร่วมกับช่วยดูแลการแปรงฟันให้กับผู้รับสมาชิกบ้านน้อยได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะส่วนบุคคลและเป็นการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากและฟันให้กับผู้ดูแลและผู้รับในนิคมสร้างตนเองบางระกำ เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษารายวิชาทันตกรรมชุมชน และปลูกนิสัยการมีจิตสาธารณะให้กับนิสิตทันตแพทย์ ณ นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

ที่มา: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

“ปันของให้น้องเล่น” มอบชุดสนามเด็กเล่นในโรงพยาบาล (Indoor Playground)

วันที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ผศ.พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานรับมอบสนามเด็กเล่น เครื่องรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Auto Pap)  เครื่องคอมพิวเตอร์ Note Book และ อุปกรณ์เครื่องเขียนพร้อมหนังสือนิทานสำหรับเด็ก ของเล่น จากทีมโครงการปันของให้น้องเล่น นำโดยคุณจุฑามาศ ปัทมวิภาต นาลูลา เป็นตัวแทนทีมส่งมอบ

    โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ที่จะสนับสนุนสนามเด็กเล่นในโรงพยาบาล (Indoor Playground)  2 ส่วน ได้แก่  สถานรักษาแก้ไขภาวะปากเหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า  และ แผนกผู้ป่วยนอกกุมารเวชกรรม เพื่อให้เด็กเล็กที่รอตรวจได้เล่น พร้อมของเล่นส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เช่น สมุดระบายสี หนังสือนิทาน ฯลฯ ระหว่างรอตรวจ สร้างความสุขให้แก่เด็กๆ และผู้ปกครองที่มารอรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากทีมโครงการปันของให้น้องเล่น โดยมีผู้มีจิตศรัทธา

ในการนี้มีกิจกรรมเดี่ยวเปียโน โดย ดช.รินทร์ จิตต์ผิวงาม ในเพลง Joy to the world การขับร้องเพลงด้วยเกียรติแพทย์ไทยโดยคณบดีและคณาจารย์พร้อมด้วยนิสิตแพทย์ รวมทั้งขับร้องเพลงมาร์ชพยาบาล สร้างความสุขด้วยเสียงเพลงและเสียงดนตรีให้เด็ก ๆ ผู้ปกครองที่มารอตรวจได้อย่างมาก

        คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณแทนเด็ก ๆ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นอย่างยิ่ง ทางคณะฯ จะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้ ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยได้อย่างสูงสุดต่อไป ขอขอบพระคุณทีมโครงการ “ปันของให้น้องเล่น” มา ณ โอกาสนี้

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร สร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุวยงค์ จันทรวิจิตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยนเรศวรในการลงนามในบันทึกการตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding (MOU) กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และเทศบาลตำบลท่าทอง จำนวน 11 แห่ง ณ ห้องเทพรณรงค์ฤาไชย ชั้น 1 อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีรายนามหน่วยงานดังต่อไปนี้

1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร
3. โรงพยาบาลสุโขทัย
4. โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
5. โรงพยาบาลพิจิตร
6. โรงพยาบาลกำแพงเพชร
7. โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
8. โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
9. โรงพยาบาลจิตเวชพิษณุโลก
10. โรงพยาบาลพิษณุเวช
11. เทศบาลตำบลท่าทอง

โดย MOU ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันด้านวิชาการและการศึกษาวิจัย ด้านบริการวิชาการ และเพื่อพัฒนาบุคลากรของทุกๆหน่วยงาน รวมถึงคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรด้วย

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

นวัตกรรมเชิงระบบ รางวัล ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023

ในวันที่ 29 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมกิจกรรมเพื่อรณรงค์และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับ วันหลอดเลือดสมองโลก (#WorldStrokeDay) ภายใต้แนวคิด “ปักหมุดจุดเสี่ยง หลีกเลี่ยงอัมพาต” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม SDG 3: สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี มุ่งเน้นการป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่สามารถป้องกันได้หากมีการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตและพิการอย่างรุนแรงในผู้ป่วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลในพื้นที่และชุมชนในการพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบเพื่อ ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านการตรวจคัดกรองและจัดการปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคนี้ โดยมีการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลที่ทันสมัยเพื่อวิเคราะห์และติดตามสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การพัฒนานวัตกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังที่จะให้การบริการด้านสุขภาพเข้าถึงประชาชนได้ง่ายและครอบคลุม โดยมีการนำเอาระบบสุขภาพที่เป็น “นวัตกรรมเชิงระบบ” มาใช้ในการสังเกตและติดตามความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในระดับชุมชน ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยได้รับรางวัล “ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023” ในประเภท ชมเชย สำหรับความสำเร็จในการพัฒนาและการนำระบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่สามารถเข้าถึงผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล

ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลและชุมชน โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวร, โรงพยาบาลในพื้นที่, และชุมชน โดยใช้เทคโนโลยีในการตรวจคัดกรองโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในระดับชุมชนให้สามารถตรวจหาความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองได้ และสามารถให้คำแนะนำในการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดสมองในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนานวัตกรรมนี้ไม่เพียงแค่เป็นการใช้เทคโนโลยีในการตรวจคัดกรองโรค แต่ยังรวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในชุมชนเกี่ยวกับวิธีการ สังเกตอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ตามหลัก FAST (Face, Arms, Speech, Time) เพื่อที่ประชาชนจะสามารถรับรู้และขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตและลดอาการพิการจากโรคหลอดเลือดสมอง

การพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบในโครงการนี้ได้รับการยอมรับในวงการสุขภาพ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระดับชุมชนได้จริง โดยโครงการนี้ได้รับรางวัล “ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023” ในหมวด ชมเชย สำหรับผลงานการพัฒนานวัตกรรมที่มีความสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะในชุมชนห่างไกลที่มีการเข้าถึงบริการสุขภาพไม่สะดวก

รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จและคุณค่าของการพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบที่สามารถนำไปใช้จริงในระดับชุมชน ซึ่งตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 3 ที่มุ่งหวังให้ผู้คนในทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงสุขภาพที่ดีและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

29 ตุลาคม วันหลอดเลือดสมองโลก

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 3: สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคที่สามารถป้องกันได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งปีนี้ประเทศไทยมีรายงานการพบผู้ป่วยหลอดเลือดสมองกว่า 3 แสนราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 3 หมื่นราย

โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ถึง 90% หากได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและมีการตรวจสอบอาการในระยะเริ่มต้นอย่างทันท่วงที สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองสามารถสังเกตได้ง่ายผ่านหลักการ F.A.S.T. ซึ่งย่อมาจาก:

  • F (Face) – หน้าตาเบี้ยวหรือผิดรูป
  • A (Arms) – แขนยกไม่ขึ้นหรืออ่อนแรง
  • S (Speech) – พูดลำบาก หรือมีการพูดที่ไม่ชัดเจน
  • T (Time) – เมื่อพบอาการเหล่านี้ต้องโทร 1669 ทันที

การโทรหาหมายเลข 1669 หรือศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติทันทีในกรณีที่สงสัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาได้ทันเวลา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตหรือการพิการจากโรคนี้

การร่วมมือและการสร้างความตระหนักในชุมชน การรณรงค์ในปี 2566 นี้มีหัวข้อหลักคือ “Together we are #GreaterThan Stroke” ซึ่งมุ่งเน้นการร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น เพื่อป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทย มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทในการสร้างความตระหนักรู้ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มนิสิตและชุมชนรอบมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีความเข้าใจในเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะการตรวจสอบอาการเบื้องต้นและการติดต่อหน่วยงานทางการแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการเสี่ยง

การสนับสนุนด้านการศึกษาและการป้องกันโรค นอกจากการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาณเตือนและการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้สนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรมเกี่ยวกับการช่วยชีวิตเบื้องต้น (First Aid) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุฉุกเฉินในกรณีโรคหลอดเลือดสมองหรือภาวะหัวใจหยุดเต้น

การดำเนินงานเหล่านี้สอดคล้องกับ SDG 3 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชากรในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงจากโรคที่สามารถป้องกันได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง รวมทั้งการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตนเอง

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม Aggie Green Run NU ฉลองครบรอบ 30 ปี คณะเกษตรศาสตร์ฯ ส่งเสริมสุขภาพและสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับชมรมศิษย์เก่าเกษตรนเรศวร จัดกิจกรรม “Aggie Green Run NU” เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี แห่งการสถาปนาคณะฯ (2536-2566) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวนคณาจารย์ บุคลากร ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ตลอดจนประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ พร้อมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเครือข่ายทุกภาคส่วน

การวิ่งเพื่อสุขภาพครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง กิจกรรมไม่เพียงมุ่งเน้นการมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่ยังช่วยสร้างพลังใจและความสามัคคีในสังคม สอดคล้องกับแนวคิดการดูแลสุขภาพของประชาชนควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

รายได้จากกิจกรรม Aggie Green Run NU หลังหักค่าใช้จ่าย ได้นำไปสมทบเป็น ทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนนิสิตปัจจุบัน ถือเป็นการต่อยอดคุณค่าของกิจกรรมไปสู่การพัฒนาการศึกษาและสร้างโอกาสให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

งานในครั้งนี้ยังตอกย้ำบทบาทของคณะเกษตรศาสตร์ฯ ในฐานะผู้ขับเคลื่อนการสร้างความตระหนักด้าน สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านกิจกรรมวิ่งที่เน้นการใช้พลังงานจากร่างกาย ลดการสร้างมลพิษ และเป็นต้นแบบกิจกรรมที่ผสานแนวคิดการดูแลสุขภาพกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือระหว่างคณาจารย์ บุคลากร ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และประชาชนทั่วไปในกิจกรรมนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังของการมีส่วนร่วม ที่ช่วยสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์และความผูกพันอย่างยั่งยืน พร้อมผลักดันให้เกิดชุมชนที่แข็งแรงและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

Aggie Green Run NU ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพควบคู่กับการรักษาธรรมชาติ และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างจิตสำนึกให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของการดูแลโลก สอดรับกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล

ท้ายที่สุด กิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีคณะเกษตรศาสตร์ฯ ครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์ของคณะ แต่ยังเป็นการยืนยันถึงพันธกิจในการสร้างสังคมที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาและคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง อันเป็นรากฐานสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin