ม.นเรศวร บริการวิชาการให้ความรู้สู่ชุมชนแก่มารดาหลังคลอด เรื่อง การดูแลมารดาหลังคลอดและการคุมกำเนิด
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมบริการวิชาการให้ความรู้แก่ มารดาหลังคลอด โดยมีนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 4 เป็นผู้นำกิจกรรม ถ่ายทอดความรู้เรื่อง “การดูแลมารดาหลังคลอดและการคุมกำเนิด” ณ หอผู้ป่วยสูติและนรีเวชกรรม ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 1 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสร้างความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของมารดาในช่วงหลังคลอดอย่างถูกวิธี
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา มีภารกิจสำคัญทั้งด้าน การเรียนการสอน การบริการทางการแพทย์ และการวิจัย โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพสตรีในทุกช่วงวัย การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา “สุขภาพและโรคของสตรี 1-2” สำหรับนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 4 ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง เพื่อให้นิสิตสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฎีเข้ากับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กิจกรรมนี้มุ่งเน้นให้มารดาหลังคลอดมีความรู้และทักษะในการดูแลตนเองหลังคลอด ทั้งในด้าน การฟื้นฟูสุขภาพ การให้นมบุตร การป้องกันภาวะแทรกซ้อน และการวางแผนครอบครัวอย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมสุขภาพของมารดาและทารกในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้นิสิตแพทย์ได้ฝึกทักษะการสื่อสาร การให้คำปรึกษา และการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วย
ในระหว่างกิจกรรม นิสิตแพทย์ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสัญญาณอันตรายหลังคลอดที่ควรเฝ้าระวัง รวมถึงแนวทางการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการดูแลแผลหลังคลอดอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งให้คำแนะนำเรื่อง การคุมกำเนิดหลังคลอด เพื่อช่วยให้มารดาวางแผนครอบครัวได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
กิจกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ในการ ส่งเสริมการดูแลมารดาหลังคลอด อย่างครบวงจร โดยผสานองค์ความรู้ทางการแพทย์กับการดูแลด้านจิตใจและสังคม เพื่อให้มารดาหลังคลอดสามารถปรับตัวได้ดี มีสุขภาพแข็งแรง และพร้อมเลี้ยงดูบุตรอย่างมีความสุข
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมยังเป็นการพัฒนาศักยภาพนิสิตแพทย์ให้เข้าใจมิติของการแพทย์เชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ ผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงในสถานการณ์จริง เป็นแนวทางการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของคณะแพทยศาสตร์ในการผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีคุณภาพทั้งด้านวิชาการและจิตสำนึกทางสังคม
การดำเนินโครงการเช่นนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย บุคลากรทางการแพทย์ และชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพของมารดาและทารก พร้อมทั้งขยายผลสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
