ม.นเรศวร จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและลดปัญหาความรุนแรงในสังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 15.00-16.30 น. ณ ห้อง HU1103 คณะมนุษยศาสตร์ โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 5) ที่เน้นการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการลดความรุนแรงในสังคม

การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นในสังคม และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคในทุกมิติ ภายในงานมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ และกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรง โดยมีนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไปเข้าร่วม

มหาวิทยาลัยนเรศวรตระหนักถึงความสำคัญของบทบาททางการศึกษาและการมีส่วนร่วมในสังคมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน การดำเนินงานนี้ไม่เพียงช่วยส่งเสริมความเข้าใจในประเด็นทางเพศ แต่ยังสร้างพื้นที่ปลอดภัยและสนับสนุนการแสดงออกที่สร้างสรรค์ในชุมชนมหาวิทยาลัย

ม.นเรศวร บูรณาการการเรียนการสอน ผ่านโครงการ “Colors of Equality สีสันต์แห่งความเท่าเทียม”

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพการศึกษาและความเท่าเทียมทางเพศ ผ่านการดำเนินงานที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4 ที่มุ่งเน้นการให้การศึกษาที่มีคุณภาพแก่ทุกคน และ SDG 5 ที่มุ่งสู่การบรรลุความเสมอภาคทางเพศและการส่งเสริมบทบาทของสตรีและเด็กหญิง ภายใต้การนำของภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้จัดโครงการ “สาระพัฒน์เพื่อสังคมที่ยั่งยืนปีที่ 1” ภายใต้หัวข้อ “Colors of Equality สีสันต์แห่งความเท่าเทียม”

โครงการนี้มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายที่มุ่งส่งเสริมความรู้และการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย SDG 5 ในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมพลังสตรีและเด็กหญิง โดยหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือ การประกวดคลิปสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมใช้ความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะการสื่อสารในรูปแบบที่ทันสมัย อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสามารถแสดงออกถึงความเท่าเทียมทางเพศในวิธีที่น่าสนใจและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

อีกหนึ่งกิจกรรมที่โดดเด่นคือ การเดินแบบแฟชั่นโชว์ในแนวคิด Gender Neutral Style ซึ่งเป็นการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศและการยอมรับสิทธิในการแสดงออกและการแต่งกายโดยไม่จำกัดเพศสภาพ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้ถึงการยอมรับความแตกต่างและการสร้างสังคมที่มีความเคารพในสิทธิของทุกคน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมตอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความเท่าเทียมทางเพศและบูธกิจกรรมที่ให้ความรู้ในหลายมิติ เช่น การเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกันในกลุ่ม

ผู้เข้าร่วมโครงการไม่เพียงแต่ได้รับความรู้ทางทฤษฎี แต่ยังได้รับทักษะในด้านต่างๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง โดยสามารถนำความรู้ไปใช้ในการศึกษา การสร้างสรรค์นโยบาย หรือกิจกรรมที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากล รวมถึงการพัฒนาทักษะที่มีความสำคัญในการทำงานในอนาคต

โครงการนี้ได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมพร ธีระวิริยะกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการที่จัดขึ้นในวันที่ 18 กันยายน 2567 ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาคารคณะสังคมศาสตร์และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมในโครงการนี้จึงไม่เพียงแค่เป็นการส่งเสริมความรู้ทางทฤษฎี แต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะการทำงานและการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเท่าเทียมในอนาคต

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing

กิจกรรมแรกก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เราได้ชูประเด็นของ NU Pride ไม่ใช่เป็นเพราะกระแส แต่เรามีสิ่งที่อยากจะสื่อสารกับนิสิต คือ “LGBTQIA+ have the freedom to live their truth without fear!” เพราะเราจะทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับนิสิตทุกคน ที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตนเอง และได้รับการยอมรับ ทั้งนี้เป้าหมายหลักก็คือ เพื่อให้นิสิตมีชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข

ขอบคุณ ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในการที่ให้นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีข้อบังคับ ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ โดยให้ถูกต้องตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี ซึ่งจุดนั้นเองทำให้เราในฐานะผู้บริหารชุดปัจจุบันอยากจะย้ำจุดยืนของมหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ เพราะเรามองว่า การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เราควรเคารพ และเห็นคุณค่าของความหลากหลายที่สวยงาม

กิจกรรมที่เราใช้สื่อสารกับนิสิตคือการจัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing หรือทางม้าลายสายรุ้ง บริเวณหน้าหอพักนิสิต ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เป็นผลงานร่วมกันระหว่างนิสิต คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้ก้าวเดินอย่างภาคภูมิใจสถาบันแห่งนี้ ก้าวข้ามความแตกต่าง และการยอมรับซึ่งกันและกัน และที่สำคัญเราอยากให้นิสิตใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

“การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพ และความเสมอภาคขั้นพื้นฐานที่เราควรเคารพและเห็นคุณค่าของความหลากหลายที่สวยงาม ”

อาจารย์ต๊อก ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่าและศิลปวัฒนธรรม

ทาสีถนนทางม้าลายสายรุ้ง

เชิญร่วมกิจกรรม Pride month : ทาสีถนนทางม้าลายสายรุ้ง วันที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณหน้าอาคารขวัญเมือง (หอใน)

เพื่อส่งเสริมและให้ความสำคัญด้านความเท่าเทียมและความเสมอภาคภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นพื้นที่ในการแสดงออกด้านความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง โดยมีคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย อาจารย์ บุคลากร และนิสิตทำกิจกรรมร่วมกัน

ม.นเรศวร จับมือ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงานเสวนา TWEA สัญจร “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่”

มหาวิทยาลัยนเรศวร มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะในด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) และการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG 17) ซึ่งสะท้อนผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงาน TWEA สัญจร ในหัวข้อ “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะวิศวกรรมและการสร้างโอกาสให้กับผู้หญิงในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตในการเข้าสู่การทำงานในอุตสาหกรรมวิศวกรรมสมัยใหม่

งานนี้ได้รับเกียรติจากหลายบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในวงการวิศวกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร, ดร. ปิยพรรณ หันนาคินทร์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยนเรศวร และ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคมวิศวกรหญิงไทย ซึ่งได้ร่วมเสวนาและถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำงานและการพัฒนาอาชีพให้กับนิสิตและนักศึกษา โดยเฉพาะในการเตรียมความพร้อมในการทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่

การจัดงานนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างทักษะทางวิศวกรรมให้กับนิสิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) โดยการส่งเสริมให้ผู้หญิงมีบทบาทในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล (SDG 17) ผ่านการสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่น สมาคมวิศวกรหญิงไทย ที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างโอกาสและการสนับสนุนผู้หญิงในวงการวิศวกรรม

โดยในงานนี้ นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับความรู้และแรงบันดาลใจจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายกับองค์กรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการเติบโตทางวิศวกรรมในอนาคต งานนี้จัดขึ้นที่ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีนิสิตเข้าร่วมมากกว่า 300 คน

การดำเนินงานเช่นนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในด้านการพัฒนาทักษะให้กับนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์และการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางเพศในอาชีพวิศวกรรม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับสังคมและโลกใบนี้

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร บทบาทสตรีที่มีความเท่าเทียม

วันที่ 7 กันยายน 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุวยงค์ จันทรวิจิตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้ามอบแจกันดอกไม้แสดงความยินดีกับ รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร.พีรยา ภูอภิชาติดำรง ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ณ อาคารบริหาร คณะทันตแพทยศาสตร์

ที่มา: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

รายการ รักไม่รู้โรย เรื่องการเก็บรักษานมแม่

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มุ่งมั่นในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) ผ่านการส่งเสริมบทบาทของสตรีและการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในการส่งเสริมความเสมอภาคและการให้โอกาสในการดูแลสุขภาพของเด็กและแม่ทุกคน

หนึ่งในกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความรู้และสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้ คือรายการ “รักไม่รู้โรย เรื่องการเก็บรักษานมแม่” ซึ่งดำเนินรายการโดยอาจารย์นิตยา ศรีบัวรมย์ อาจารย์ประจำคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รายการดังกล่าวได้มีการพูดคุยและให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษานมแม่อย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของทารกและช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กได้รับสารอาหารที่ดีที่สุดจากนมแม่

รายการนี้มีการพูดถึงเทคนิคและแนวทางในการเก็บรักษานมแม่ที่ถูกสุขลักษณะเพื่อให้คงคุณค่าทางโภชนาการและคุณภาพของนมแม่ในระยะยาว อีกทั้งยังส่งเสริมให้สตรีและแม่ในชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งแม่และเด็ก โดยเน้นการสร้างความเข้าใจในเรื่องการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีผ่านการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการให้ความรู้เกี่ยวกับการเก็บรักษานมแม่แล้ว รายการนี้ยังสร้างพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในด้านการพยาบาลและสุขภาพ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้สตรีและแม่ในชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตนเองและการให้ความสำคัญกับบทบาทของตนในการสร้างความยั่งยืนให้กับการเลี้ยงดูและการพัฒนาสุขภาพของเด็ก

กิจกรรมดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องความเสมอภาคทางเพศและการเสริมพลังให้กับสตรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 5) ของมหาวิทยาลัยนเรศวร นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำความรู้ในด้านการพยาบาลและสุขภาพมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความยั่งยืนในสังคมอย่างแท้จริง

ที่มา: สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร NUradio Naresuan

https://youtu.be/iGwzo_0qo3I

NU Art & Craft Fun Fair 2023: ม.นเรศวร ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมสร้างสรรค์โลกยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) และการสนับสนุนความหลากหลายในทุกมิติของสังคม ซึ่งได้สะท้อนผ่านกิจกรรม “NU Art & Craft Fun Fair 2023” เทศกาลความบันเทิงพร้อมรักษ์โลกแบบยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “MO(RE)DERN” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.00 – 23.00 น. ณ อาคารอเนกประสงค์ และอาคารวิสุทธิกษัตริย์

กิจกรรมนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการแสดงออกของนิสิตและบุคลากรในมหาวิทยาลัย ผ่านงานศิลปะและงานฝีมือที่สะท้อนความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) และการสนับสนุนความเท่าเทียมในทุกเพศ โดยยังคงเน้นย้ำเรื่องความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อม ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ การแสดงดนตรีสด และกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้และแสดงออกถึงตัวตน

“NU Art & Craft Fun Fair 2023” ไม่เพียงสร้างพื้นที่สำหรับการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์และการเฉลิมฉลองความหลากหลาย แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศในสังคม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน SDG 5 ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์และยั่งยืน.

บทบาทสตรี ความเท่าเทียมในรั้วมหาวิทยาลัยนเรศวร

คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอแสดงความยินดีกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ ในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง #คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ตั้งแต่ วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป

ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการให้ความสำคัญต่อบทบาทสตรีในมหาวิทยาลัยนเรศวร ในโอกาสได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารหน่วยงานระดับคณะวิชา

ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin