NU Art & Craft Fun Fair 2025: เทศกาลแห่งศิลปะ ความรัก และกลิ่นหอมของกาแฟ

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดงาน “NU Art & Craft Fun Fair 2025” ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิดที่เชื่อมโยงกันระหว่าง เทศกาลแห่งความรัก ผู้คน ดนตรี และกลิ่นหอมของกาแฟ โดยมี ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย เพื่อทำให้มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็น Creative Art Space ที่สำคัญของเมืองพิษณุโลกและเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับการแสดงออกด้านศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์

ในปีนี้ งาน NU Art & Craft Fun Fair 2025 ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลายภาคส่วน เช่น วิทยาลัยเพื่อการค้นคว้าระดับรากฐาน ตลาดประชารัฐ กลุ่มผู้ประกอบการร้านกาแฟ และศิลปินผู้สร้างสรรค์งานคราฟท์จากจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก โดยมีการจัดกิจกรรมหลากหลายที่สะท้อนถึงศิลปะ วัฒนธรรม และความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น การแสดง Lanna Fashion โดยนิสิตชมรมสืบสานล้านนา ที่นำเสนอความหลากหลายของอัตลักษณ์การแต่งกายกลุ่มชาติพันธุ์ล้านนา ภายใต้แนวคิด “Flower of ล้านนา” และ การแสดง Upcycled Fashion ที่มุ่งเน้นการออกแบบร่วมสมัยด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เศรษฐกิจแบบยั่งยืน

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือ การแสดงดนตรีและศิลปะที่ผสานกันอย่างลงตัว เช่น การแสดง Art & Craft NU Dance โดยนิสิตโครงการลูกพระฆเนศ NU Band และ การแสดง Fingerstyle Guitar x Coffee Painting โดย อาจารย์กวิน ภูศรีเทศ แชมป์ Overdrive Acoustic Guitar Contest 2020 และ คุณพัชรพล เสริมสุข ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยอารมณ์และพลัง นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการศิลปะยามค่ำคืน การแสดงดนตรี และกิจกรรมนันทนาการที่เปิดโอกาสให้นิสิตและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในบรรยากาศแห่งศิลปะและความสุข

วันสุดท้ายของงาน นับเป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศในฝันของใครหลายคน ลานด้านหน้าหอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร กลายเป็นพื้นที่ที่ผสมผสาน ความคิดสร้างสรรค์และอิสระ อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กาแฟกับงานฝีมือ” ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้เข้าร่วมเป็นอย่างมาก ที่นี่เป็นจุดรวมตัวของ ชุมชนศิลปะและงานฝีมือ ที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านจากหลากหลายพื้นที่เข้ามาสอนทักษะศิลปะประดิษฐ์ เช่น การเย็บย่าม เย็บตุ๊กตา และงานวาดภาพ ซึ่งช่วยส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ให้นิสิตและประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้และฝึกฝนฝีมือ

งานนี้ยังเชื่อมโยง ชุมชนกับศิลปะ ผ่านบรรยากาศสบายๆ ที่มี นักดนตรีอาสามาขับกล่อม ควบคู่กับ บูธร้านอาหารและกาแฟจากผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่มาประชันรสชาติจากเวทีแข่งขันระดับประเทศ นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เยาวชน ครอบครัว และตัวแทนชุมชนได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน รวมถึงการสนับสนุน พ่อค้าแม่ค้ารุ่นใหม่ ที่ต้องการอวดฝีมือด้านอาหารและเครื่องดื่มแปลกใหม่

NU Art & Craft Fun Fair 2025 ไม่เพียงเป็นงานที่มอบความสนุกและแรงบันดาลใจ แต่ยังเป็น ต้นแบบของพื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงออกอย่างเสมอภาค สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 5) ที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ SDG 11 ที่ส่งเสริมให้เมืองและชุมชนมีความยั่งยืนผ่านศิลปะ วัฒนธรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวรให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและเท่าเทียมผ่านกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี

คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ให้การสนับสนุนและร่วมมือกับสโมสรซอนต้าพิษณุโลก ในการจัดกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทั่วโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมกันในระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมของทุกปี โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ตามแนวทางของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG5) ที่มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมสิทธิของทุกคนในสังคม

กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์ บุคลากรสายสนับสนุน สโมสรนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ สมาคมสตรีศรีสองแคว สมาคมผู้สูงอายุ โรงเรียน สว.ท่าโพธิ์วิทยา และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ รวมถึงผู้เข้าร่วมกว่า 150 คน ณ ห้องประชุม HU 1103 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายในงานมีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศและผลกระทบต่อสังคม รวมถึงการเสวนาเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อแสดงพลังสนับสนุนสิทธิของเด็กและสตรีทั่วโลก

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมที่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเสมอภาคและเท่าเทียมทางเพศ ภายใต้แนวคิด SDG5 โดยสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความตระหนักรู้และแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสังคม กิจกรรมครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนสังคมที่เป็นธรรมและปราศจากความรุนแรง

การดำเนินงานดังกล่าวไม่เพียงเป็นการแสดงพลังของชุมชนมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีในการร่วมมือกันระหว่างภาคการศึกษาและองค์กรภายนอก เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมและปลอดภัยสำหรับทุกคนในอนาคต
ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและลดปัญหาความรุนแรงในสังคม

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2567 – มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ณ ห้อง HU1103 คณะมนุษยศาสตร์ โดยมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้และสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศในสังคม

กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคระหว่างเพศ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อปัญหาความรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นในสังคมไทย

ภายในงานมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการป้องกันความรุนแรงต่อเด็กและสตรี โดยมีการบรรยายให้ความเข้าใจถึงสาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรมสัญลักษณ์เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรง ซึ่งนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น แสดงถึงความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของสถาบันการศึกษาในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและสร้างความตระหนักรู้ในชุมชนมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในสังคมการศึกษา ที่ให้นิสิตและบุคลากรสามารถแสดงความคิดเห็นและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์โดยไม่ถูกจำกัด

กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและลดความรุนแรงในสังคม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

ม.นเรศวร บูรณาการการเรียนการสอน ผ่านโครงการ “Colors of Equality สีสันต์แห่งความเท่าเทียม”

วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การดำเนินงานของ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ ได้จัดโครงการ “สาระพัฒน์เพื่อสังคมที่ยั่งยืนปีที่ 1” ภายใต้หัวข้อ “Colors of Equality สีสันแห่งความเท่าเทียม” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมพร ธีระวิริยะกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้เกิด การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ทั้งเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ควบคู่กับการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาและโอกาสในการพัฒนาได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย หรือภูมิหลังทางสังคม

ภายในโครงการมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การประกวดคลิปสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ถ่ายทอดแนวคิดเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศผ่านสื่อดิจิทัลที่เข้าถึงง่ายและทันสมัย กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร แต่ยังเป็นเวทีในการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับบริบทของคนรุ่นใหม่

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจคือ แฟชั่นโชว์แนวคิด Gender Neutral Style ที่สะท้อนถึงการยอมรับความแตกต่างและ เสริมความหลากหลายทางเพศ ให้เป็นที่ยอมรับในสังคม การแสดงออกผ่านการแต่งกายโดยไม่จำกัดเพศสภาพช่วยสร้างความเข้าใจในมิติของสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคในเชิงวัฒนธรรม

นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมตอบปัญหาเชิงความรู้และบูธกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ความเท่าเทียมทางเพศ และ การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกันในกลุ่ม สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกทักษะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคต

ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับทั้งองค์ความรู้และทักษะเชิงปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ทั้งในการศึกษา การออกแบบนโยบาย และการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสร้างความเท่าเทียมในระดับสังคม ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะผู้นำด้าน การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มุ่งเน้นการเปิดกว้างและการเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

โครงการ “Colors of Equality” ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริม ความเสมอภาคทางเพศ ควบคู่ไปกับการสร้างสังคมที่ทุกคนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างเท่าเทียม เป็นก้าวสำคัญของการผลักดันให้เกิดสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งในด้านวิชาการและด้านสังคม

กิจกรรมนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความรู้เชิงทฤษฎี แต่ยังเป็นการปลูกฝังทักษะและทัศนคติที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและเคารพในความหลากหลาย ตอกย้ำถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นผู้นำทางวิชาการที่เชื่อมโยง การศึกษาที่มีคุณภาพ เข้ากับการสร้างสังคมที่ให้คุณค่าแก่ความเสมอภาค และ เสริมความหลากหลายทางเพศ อย่างแท้จริง

ม.นเรศวรจัดโครงการ ‘Colors of Equality’ ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการ “สาระพัฒน์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ปีที่ 1” ในหัวข้อ “Colors of Equality สีสันแห่งความเท่าเทียม” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 5 ที่ให้ความสำคัญกับ ความเสมอภาคระหว่างเพศ และ การเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงการส่งเสริมสังคมที่เคารพในความแตกต่างและความหลากหลาย อีกทั้งยังส่งเสริมการเรียนรู้และกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนในฐานะพลเมืองโลก

ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การประกวดคลิปสั้น TikTok, การเดินแบบแฟชั่นโชว์ Gender Neutral Style, กิจกรรมตอบปัญหาเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ และ บูธกิจกรรมที่ให้ความรู้และพัฒนาทักษะในหลายมิติ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงความสำคัญของความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายทางเพศ พร้อมทั้งสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและการเป็นพลเมืองโลกที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

การประกวดคลิปสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความเท่าเทียมในรูปแบบที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย ส่วนกิจกรรม เดินแบบแฟชั่นโชว์ Gender Neutral Style ช่วยปลูกฝังแนวคิดเกี่ยวกับการแสดงออกและการแต่งกายที่ไม่ถูกจำกัดโดยเพศสภาพ เสริมสร้างความมั่นใจและการยอมรับในความแตกต่าง นอกจากนี้ กิจกรรมตอบปัญหาและบูธกิจกรรมต่างๆ ยังช่วยส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21

กิจกรรมในโครงการนี้ไม่เพียงให้ความรู้เชิงทฤษฎีเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การกำหนดนโยบาย หรือการสร้างโครงการที่ส่งเสริมความเสมอภาคในทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและความยั่งยืนในระยะยาว

โครงการนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมพร ธีระวิริยะกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งจัดขึ้น ณ โถงชั้น 1 อาคารคณะสังคมศาสตร์และอาคารคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นในการบูรณาการประเด็นด้าน ความเสมอภาคทางเพศ และ ความยั่งยืน ผ่านการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อร่วมสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมอย่างแท้จริง พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้เรียนและผู้เข้าร่วมมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในฐานะพลเมืองโลกที่พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยบูรณาการความรู้ผ่านการเรียนการสอนที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกคนในสังคม

ที่มา: คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

NU Art & Craft Fun Fair 2024 พื้นที่แสดงออกด้านศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม กองกิจการนิสิต และงานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดพิธีเปิดงาน “NU Art & Craft Fun Fair 2024” ภายใต้แนวคิด “Eco x Friendly x Mental Well-being” โดยมี ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิด งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์ผ้า หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2567

กิจกรรมภายในงานมีความหลากหลายและตอบสนองความสนใจทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดแฟชั่นโชว์เครื่องแต่งกายจากผ้าไทยและผ้าชาติพันธุ์ โดยนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรและนิสิตชมรมสืบสานวัฒนธรรมม้ง การเสวนาเรื่อง “Mental Well-being” เพื่อสร้างความสุขและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และการแสดงดนตรีร่วมกับกิจกรรมนันทนาการจากนิสิต

การจัดกิจกรรมยังสะท้อนถึงการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG5 และ SDG11 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการสร้างสังคมที่ยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้และการแสดงออกอย่างเท่าเทียม โดยกิจกรรมต่างๆ ภายในงานช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมที่ให้ความเคารพในความแตกต่างและความหลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีเวิร์คชอปด้านศิลปะและหัตถกรรม ซึ่งเปิดโอกาสให้นิสิตได้ฝึกฝนทักษะด้านศิลปะและงานฝีมือ รวมถึงการร่วมกิจกรรมออกแบบและระบายสีกระเป๋ารักโลก เป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และฝึกฝนประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับการสร้างรายได้ระหว่างเรียน งานนี้ยังมอบโอกาสให้นิสิตได้ฝึกวาดภาพศิลปะในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ

กิจกรรมยังคงเน้นย้ำเรื่องการอนุรักษ์ผ้าท้องถิ่นและการสร้างสังคมที่ยั่งยืน ผ่านการเดินแฟชั่นเสื้อผ้าชนเผ่าและผ้าท้องถิ่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ผ้าไทยและผ้าท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักในความสำคัญของการรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและการอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่สืบไป

งาน “NU Art & Craft Fun Fair 2024” ถือเป็นพื้นที่แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ที่มีความสำคัญ โดยไม่เพียงแต่เป็นโอกาสสำหรับนิสิตในการฝึกทักษะและสร้างรายได้ ยังเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้และสัมผัสกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและจิตใจให้มีความสุขยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมแห่งความยั่งยืนในมหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร บริการวิชาการให้ความรู้สู่ชุมชนแก่มารดาหลังคลอด เรื่อง การดูแลมารดาหลังคลอดและการคุมกำเนิด

ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมบริการวิชาการให้ความรู้แก่ มารดาหลังคลอด โดยมีนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 4 เป็นผู้นำกิจกรรม ถ่ายทอดความรู้เรื่อง “การดูแลมารดาหลังคลอดและการคุมกำเนิด” ณ หอผู้ป่วยสูติและนรีเวชกรรม ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 1 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสร้างความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของมารดาในช่วงหลังคลอดอย่างถูกวิธี

ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา มีภารกิจสำคัญทั้งด้าน การเรียนการสอน การบริการทางการแพทย์ และการวิจัย โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพสตรีในทุกช่วงวัย การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา “สุขภาพและโรคของสตรี 1-2” สำหรับนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 4 ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง เพื่อให้นิสิตสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางทฤษฎีเข้ากับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กิจกรรมนี้มุ่งเน้นให้มารดาหลังคลอดมีความรู้และทักษะในการดูแลตนเองหลังคลอด ทั้งในด้าน การฟื้นฟูสุขภาพ การให้นมบุตร การป้องกันภาวะแทรกซ้อน และการวางแผนครอบครัวอย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมสุขภาพของมารดาและทารกในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้นิสิตแพทย์ได้ฝึกทักษะการสื่อสาร การให้คำปรึกษา และการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วย

ในระหว่างกิจกรรม นิสิตแพทย์ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสัญญาณอันตรายหลังคลอดที่ควรเฝ้าระวัง รวมถึงแนวทางการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการดูแลแผลหลังคลอดอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งให้คำแนะนำเรื่อง การคุมกำเนิดหลังคลอด เพื่อช่วยให้มารดาวางแผนครอบครัวได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

กิจกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ในการ ส่งเสริมการดูแลมารดาหลังคลอด อย่างครบวงจร โดยผสานองค์ความรู้ทางการแพทย์กับการดูแลด้านจิตใจและสังคม เพื่อให้มารดาหลังคลอดสามารถปรับตัวได้ดี มีสุขภาพแข็งแรง และพร้อมเลี้ยงดูบุตรอย่างมีความสุข

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมยังเป็นการพัฒนาศักยภาพนิสิตแพทย์ให้เข้าใจมิติของการแพทย์เชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ ผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงในสถานการณ์จริง เป็นแนวทางการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของคณะแพทยศาสตร์ในการผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีคุณภาพทั้งด้านวิชาการและจิตสำนึกทางสังคม

การดำเนินโครงการเช่นนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย บุคลากรทางการแพทย์ และชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพของมารดาและทารก พร้อมทั้งขยายผลสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing

กิจกรรมแรกก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เราได้ชูประเด็นของ NU Pride ไม่ใช่เป็นเพราะกระแส แต่เรามีสิ่งที่อยากจะสื่อสารกับนิสิต คือ “LGBTQIA+ have the freedom to live their truth without fear!” เพราะเราจะทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับนิสิตทุกคน ที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตนเอง และได้รับการยอมรับ ทั้งนี้เป้าหมายหลักก็คือ เพื่อให้นิสิตมีชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข

ขอบคุณ ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในการที่ให้นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีข้อบังคับ ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ โดยให้ถูกต้องตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี ซึ่งจุดนั้นเองทำให้เราในฐานะผู้บริหารชุดปัจจุบันอยากจะย้ำจุดยืนของมหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ เพราะเรามองว่า การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เราควรเคารพ และเห็นคุณค่าของความหลากหลายที่สวยงาม

กิจกรรมที่เราใช้สื่อสารกับนิสิตคือการจัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing หรือทางม้าลายสายรุ้ง บริเวณหน้าหอพักนิสิต ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เป็นผลงานร่วมกันระหว่างนิสิต คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้ก้าวเดินอย่างภาคภูมิใจสถาบันแห่งนี้ ก้าวข้ามความแตกต่าง และการยอมรับซึ่งกันและกัน และที่สำคัญเราอยากให้นิสิตใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้ความสำคัญกับสิทธิและความเสมอภาคในการแต่งกายของนิสิตตามเพศสภาพ อาจารย์ต๊อก ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่าและศิลปวัฒนธรรม ระบุว่าการแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพเป็นการแสดงออกถึง เสรีภาพ และ ความเสมอภาคขั้นพื้นฐาน

การเคารพและให้คุณค่าต่อความหลากหลายในการแต่งกายสะท้อนถึง ความเข้าใจและการยอมรับความแตกต่าง ของนิสิตในมหาวิทยาลัย พร้อมส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและเป็นมิตรต่อทุกคน

กิจกรรมและนโยบายที่สนับสนุนการแต่งกายตามเพศสภาพช่วยให้นิสิตมี อิสระในการแสดงออก และสร้างความรู้สึก เท่าเทียมและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะปลูกฝัง ค่านิยมของความเคารพและยอมรับความแตกต่าง ผ่านการเรียนการสอน กิจกรรมพัฒนานิสิต และการสนับสนุนด้านสิทธิขั้นพื้นฐาน

นโยบายนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมการศึกษา ที่หลากหลายและยั่งยืน ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ความมั่นใจ และความรับผิดชอบต่อสังคมของนิสิต

นิสิตที่ได้รับการสนับสนุนสามารถมี ส่วนร่วมในกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยรูปแบบการแต่งกาย

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งเน้นการสร้าง พื้นที่ปลอดภัยและสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกคนสามารถแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงอย่างภาคภูมิใจ พร้อมสร้างสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืนต่อไป

แนะนำคณะผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการบริหารงานที่เน้น ความเสมอภาคทางเพศ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทของสตรีในด้านการศึกษา การบริหาร และการพัฒนาสังคม เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนมี โอกาสเท่าเทียมกัน

ทีมผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์วรารัชต์ มหามนตรี รองคณบดีฝ่ายบริหาร, ดร.นิภารัตน์ อิ่มศิลป์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ, ดร.ณัฐพร ไข่มุกข์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ ดร.ภูริตา เรืองจิรยศ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มุ่งเน้นการสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานของสตรี และเปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่

คณะมนุษยศาสตร์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้ และการให้บริการวิชาการแก่สังคม โดยคำนึงถึง ความเท่าเทียมและโอกาสที่ทั่วถึง ทั้งนี้ยังมีโครงการส่งเสริมบทบาทของสตรีในการขับเคลื่อนสังคมทั้งด้านการศึกษา การบริหาร และการพัฒนาชุมชน

การพัฒนานิสิตเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ คณะสนับสนุนทั้งด้านวิชาการ การวิจัย และการเสริมสร้าง ทักษะชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต พร้อมเน้นความร่วมมือกับ เครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและการทำงานที่เท่าเทียม

มหาวิทยาลัยและคณะมนุษยศาสตร์ยังดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่ ความเป็นธรรมและความยั่งยืน โดยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งความเสมอภาค

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นให้สตรีมี บทบาทสำคัญในทุกระดับของสังคม ทั้งในเวทีท้องถิ่นและระดับสากล เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและแท้จริง

การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้าง สังคมที่เท่าเทียมและครอบคลุมทุกกลุ่ม พร้อมเสริมสร้างโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพและพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin