Archives September 2024

ม.นเรศวร เปิดหอศิลป์ จัดนิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ และศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิด นิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 68 และ นิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ ครั้งที่ 39 ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในศิลปะสมัยใหม่ ตลอดถึงส่งเสริมให้มีการแสดงศักยภาพผลงานศิลปะให้มีคุณภาพสูง

นิทรรศการแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ จิตรกรรม ภาพพิมพ์ และสื่อผสม รวมทั้งสิ้น 64 ชิ้นงาน เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 27 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อให้ประชาชน นักศึกษา และผู้สนใจด้านศิลปะเข้าถึงผลงานได้อย่างกว้างขวาง

การจัดนิทรรศการครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ยกระดับการศึกษาและการเรียนรู้ด้านศิลปะ โดยเปิดพื้นที่หอศิลป์เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งสำหรับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และช่วยปลูกฝังความเข้าใจเชิงลึกต่อศิลปะสมัยใหม่

การสนับสนุนการจัดแสดงผลงานของศิลปินรุ่นเยาว์ยังช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างศิลปินต่างรุ่น ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่กำลังพัฒนาทักษะด้านศิลปะ นับเป็นการส่งเสริมศักยภาพบุคลากรสร้างสรรค์รุ่นใหม่ให้ก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญของสังคมในอนาคต

ด้านการพัฒนาเมืองและชุมชน การเปิดหอศิลป์ให้ประชาชนเข้าชมฟรีในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง ช่วยสร้างโอกาสให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเข้าถึงงานศิลป์อย่างทั่วถึง ทำให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นศูนย์กลางทางศิลปะที่มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนโดยรอบ

นอกจากนี้ การจัดนิทรรศการยังสะท้อนถึง การบูรณาการระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานด้านศิลปะ และชุมชน เพื่อสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และเป็นแบบอย่างของการใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง

นิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ และนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงเป็นทั้งเวทีเผยแพร่ศิลปะคุณภาพสูง และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองและการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการสร้างสังคมแห่งความรู้และความยั่งยืนในอนาคต

NU PLAYGROUND: ตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม NU PLAYGROUND ขึ้น ณ ลาน Playground หอในมอนอ โดยมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นพื้นที่แห่งความสุขและความสร้างสรรค์สำหรับนิสิตและบุคลากร พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักเรื่องการจัดการขยะ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ภายในงานมีการจัด โซนตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่นำเสนอสินค้าท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก และสินค้าที่ผลิตโดยนิสิตซึ่งเน้นการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ตลาดสีเขียวยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และพฤติกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของนิสิตกับชุมชนโดยรอบ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังรณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมใช้ภาชนะส่วนตัวเพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาขยะ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตได้ลงมือปฏิบัติและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวัน ควบคู่กับการจัด เวิร์กช็อปและการเสวนา เกี่ยวกับการลดขยะและการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ

การจัดงานได้รับการสนับสนุนจากหลายชมรมภายในมหาวิทยาลัย อาทิ ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ชมรมจิตอาสา และชมรมอื่น ๆ ซึ่งร่วมกันจัดกิจกรรม เช่น การรีไซเคิลขยะ การใช้พลังงานทางเลือก และการปลูกต้นไม้ในพื้นที่มหาวิทยาลัย กิจกรรมเหล่านี้มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังสร้างจิตสำนึกความสามัคคีและความรับผิดชอบร่วมกันในหมู่นิสิต

การดำเนินงาน NU PLAYGROUND แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการบูรณาการ แนวคิดสิ่งแวดล้อมเข้ากับวิถีชีวิตของนิสิตและบุคลากร ไม่เพียงแต่ในระดับกิจกรรม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนามหาวิทยาลัยในภาพรวมสู่ความยั่งยืน

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและการลดของเสีย ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาสังคมเมืองที่ยั่งยืนและปลอดขยะ โดยมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชนในวงกว้าง

NU PLAYGROUND จึงไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมหรือตลาดทั่วไป แต่เป็นเวทีเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นิสิตได้พัฒนาทักษะจริง เสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นแรงขับเคลื่อนสู่การสร้าง สังคมสีเขียวและยั่งยืน ซึ่งมหาวิทยาลัยนเรศวรตั้งใจผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ม.นเรศวร ส่งเสริมสร้างมูลค่าจากขยะ ผ่านการประกวดนวัตกรรม “ขยะทำเงิน”

วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการประกวดผลงานการพัฒนานวัตกรรม “ขยะทำเงิน” ณ โถง ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทักษะการนำเสนอและการคิดวิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์ของนิสิต ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถนำขยะกลับมาเพิ่มมูลค่าและใช้ประโยชน์ได้จริง

โครงการนี้เปิดพื้นที่ให้กับนิสิตในการแสดงศักยภาพด้านการพัฒนาไอเดียที่ตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การนำขวดพลาสติก ฝาขวดพลาสติก เศษผ้า ถุงขนมพลาสติก และกระป๋องน้ำอัดลม มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือแม้แต่การนำน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากขยะอินทรีย์มาใช้ในการดูแลต้นไม้ ซึ่งล้วนเป็นการใช้ทรัพยากรที่เหลืออย่างคุ้มค่า

การประกวดครั้งนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม แต่ยังเป็นเวทีในการฝึกฝนทักษะสำคัญของนิสิต เช่น การสื่อสารเชิงวิชาการ การคิดเชิงวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดในการเรียน การทำงาน และการพัฒนาสังคมในอนาคต

การนำขยะมาเพิ่มมูลค่ายังช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการทิ้งอย่างไม่ถูกวิธี อีกทั้งยังเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยนเรศวรสู่การเป็นสถาบันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โครงการ “ขยะทำเงิน” ยังเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนเห็นถึงคุณค่าของสิ่งที่หลายคนมองว่าไร้ค่า และสามารถพลิกแนวคิดมาสร้างรายได้หรือสร้างประโยชน์ใหม่ได้ นับเป็นการบ่มเพาะวิธีคิดด้านการใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ และการสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ โครงการยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนิสิตที่มีความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านการจัดการขยะและการสร้างนวัตกรรมสีเขียว ซึ่งสามารถขยายผลต่อยอดไปสู่กิจกรรมและโครงการในระดับที่กว้างขึ้น

การจัดโครงการประกวดผลงาน “ขยะทำเงิน” จึงเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมสร้างมูลค่าจากขยะ ผ่านการบูรณาการความรู้และการปฏิบัติจริง ควบคู่กับการพัฒนาทักษะของนิสิต เพื่อก้าวไปสู่การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร บูรณาการการเรียนการสอน ผ่านโครงการ “Colors of Equality สีสันต์แห่งความเท่าเทียม”

วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การดำเนินงานของ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ ได้จัดโครงการ “สาระพัฒน์เพื่อสังคมที่ยั่งยืนปีที่ 1” ภายใต้หัวข้อ “Colors of Equality สีสันแห่งความเท่าเทียม” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมพร ธีระวิริยะกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้เกิด การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ทั้งเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ควบคู่กับการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาและโอกาสในการพัฒนาได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย หรือภูมิหลังทางสังคม

ภายในโครงการมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การประกวดคลิปสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ถ่ายทอดแนวคิดเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศผ่านสื่อดิจิทัลที่เข้าถึงง่ายและทันสมัย กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร แต่ยังเป็นเวทีในการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับบริบทของคนรุ่นใหม่

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจคือ แฟชั่นโชว์แนวคิด Gender Neutral Style ที่สะท้อนถึงการยอมรับความแตกต่างและ เสริมความหลากหลายทางเพศ ให้เป็นที่ยอมรับในสังคม การแสดงออกผ่านการแต่งกายโดยไม่จำกัดเพศสภาพช่วยสร้างความเข้าใจในมิติของสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคในเชิงวัฒนธรรม

นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมตอบปัญหาเชิงความรู้และบูธกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ความเท่าเทียมทางเพศ และ การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกันในกลุ่ม สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกทักษะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคต

ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับทั้งองค์ความรู้และทักษะเชิงปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ทั้งในการศึกษา การออกแบบนโยบาย และการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสร้างความเท่าเทียมในระดับสังคม ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะผู้นำด้าน การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มุ่งเน้นการเปิดกว้างและการเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

โครงการ “Colors of Equality” ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริม ความเสมอภาคทางเพศ ควบคู่ไปกับการสร้างสังคมที่ทุกคนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างเท่าเทียม เป็นก้าวสำคัญของการผลักดันให้เกิดสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งในด้านวิชาการและด้านสังคม

กิจกรรมนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความรู้เชิงทฤษฎี แต่ยังเป็นการปลูกฝังทักษะและทัศนคติที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและเคารพในความหลากหลาย ตอกย้ำถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นผู้นำทางวิชาการที่เชื่อมโยง การศึกษาที่มีคุณภาพ เข้ากับการสร้างสังคมที่ให้คุณค่าแก่ความเสมอภาค และ เสริมความหลากหลายทางเพศ อย่างแท้จริง

ม.นเรศวรจัดกิจกรรมอ่านสารสันติภาพและสงบนิ่งร่วมจิตอธิษฐาน เนื่องในวันสันติภาพสากล 2567

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรมอ่านสารสันติภาพพร้อมทั้งสงบนิ่งร่วมจิตอธิษฐานเนื่องในวันสันติภาพสากล 2567 โดยมีนางศิริมาศ เสนารักษ์ ผู้อำนวยการกองกลาง ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยบุคลากรและนิสิตเข้าร่วมกว่า 60 คน ณ ห้องปราบไตรจักร 12 อาคารเรียนรวมปราบไตรจักร ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเน้นย้ำความสำคัญของ “สันติภาพ” ในฐานะรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และเป็นโอกาสให้สังคมได้ตระหนักถึงการสร้างวัฒนธรรมที่ปราศจากความรุนแรง การส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างบรรยากาศแห่งความเข้าใจอันดี ถือเป็นภารกิจสำคัญที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ วันที่ 21 กันยายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็น “วันสันติภาพสากล” โดยมีการจัดกิจกรรมอ่านสารสันติภาพและยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการรวมพลังร่วมกันของประชาคมโลกในการสร้างสรรค์สังคมที่สงบสุขและปลอดภัย

สำหรับในปี 2567 ยังมีความพิเศษ เนื่องจากเป็นปีครบรอบ 25 ปี ที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้มีมติรับรองปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับ “วัฒนธรรมแห่งสันติภาพ” โดยหัวข้อการจัดงานในปีนี้ คือ “การปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ (Cultivating a Culture of Peace)” ซึ่งเป็นการเชิญชวนให้ทุกฝ่ายร่วมตระหนักและปฏิบัติจริงเพื่อสร้างสังคมที่มีความเข้าใจและเคารพในความหลากหลาย

แนวทางดังกล่าวสะท้อนถึงการส่งเสริมค่านิยมที่ยึดหลักการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านความเชื่อ ค่านิยม พฤติกรรม และรูปแบบการจัดการสถาบัน การปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งสันติภาพยังมุ่งเน้นการดูแลซึ่งกันและกัน ความเสมอภาค และการแบ่งปันทรัพยากรอย่างเท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ กิจกรรมยังตอกย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความปลอดภัยร่วมกัน ไม่ว่าจะในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศ หรือแม้กระทั่งในระดับโลก ความร่วมมือและการลดการใช้ความรุนแรงถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาสันติสุขอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษา ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดและปลูกฝังค่านิยมแห่งสันติภาพสู่เยาวชนและสังคม ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของนิสิตและบุคลากร ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ยังเป็นการสร้างสังคมแห่งความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

กิจกรรมวันสันติภาพสากล 2567 จึงไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของสันติภาพในระดับนานาชาติ แต่ยังเป็นการปฏิบัติที่สะท้อนถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทย ที่มุ่งเน้นความสงบเรียบร้อย ความยุติธรรม และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อเป็นรากฐานของความมั่นคงในปัจจุบันและอนาคต

ม.นเรศวรจัดโครงการ ‘Colors of Equality’ ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการ “สาระพัฒน์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ปีที่ 1” ในหัวข้อ “Colors of Equality สีสันแห่งความเท่าเทียม” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 5 ที่ให้ความสำคัญกับ ความเสมอภาคระหว่างเพศ และ การเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงการส่งเสริมสังคมที่เคารพในความแตกต่างและความหลากหลาย อีกทั้งยังส่งเสริมการเรียนรู้และกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนในฐานะพลเมืองโลก

ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การประกวดคลิปสั้น TikTok, การเดินแบบแฟชั่นโชว์ Gender Neutral Style, กิจกรรมตอบปัญหาเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ และ บูธกิจกรรมที่ให้ความรู้และพัฒนาทักษะในหลายมิติ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงความสำคัญของความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายทางเพศ พร้อมทั้งสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและการเป็นพลเมืองโลกที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

การประกวดคลิปสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความเท่าเทียมในรูปแบบที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย ส่วนกิจกรรม เดินแบบแฟชั่นโชว์ Gender Neutral Style ช่วยปลูกฝังแนวคิดเกี่ยวกับการแสดงออกและการแต่งกายที่ไม่ถูกจำกัดโดยเพศสภาพ เสริมสร้างความมั่นใจและการยอมรับในความแตกต่าง นอกจากนี้ กิจกรรมตอบปัญหาและบูธกิจกรรมต่างๆ ยังช่วยส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21

กิจกรรมในโครงการนี้ไม่เพียงให้ความรู้เชิงทฤษฎีเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การกำหนดนโยบาย หรือการสร้างโครงการที่ส่งเสริมความเสมอภาคในทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและความยั่งยืนในระยะยาว

โครงการนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุดมพร ธีระวิริยะกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งจัดขึ้น ณ โถงชั้น 1 อาคารคณะสังคมศาสตร์และอาคารคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นในการบูรณาการประเด็นด้าน ความเสมอภาคทางเพศ และ ความยั่งยืน ผ่านการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อร่วมสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมอย่างแท้จริง พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้เรียนและผู้เข้าร่วมมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในฐานะพลเมืองโลกที่พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยบูรณาการความรู้ผ่านการเรียนการสอนที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกคนในสังคม

ที่มา: คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

การประกวดผลงาน VDO Content “การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเป้าหมายความยั่งยืน (SDGs)

ขอเชิญร่วมประกวดผลงาน VDO Content “การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเป้าหมายความยั่งยืน (SDGs)” กิจกรรมดีๆ สำหรับนิสิตนัก Creator มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดเรื่องราวการมีส่วนร่วมของหน่วยงาน นิสิต หรือบุคลากร ในการพัฒนาเป้าหมายความยั่งยืน (SDGs) ตามมุมมองของคุณ ที่มีต่อมหาวิทยาลัย ในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้น ไม่เกิน 5 นาที เพื่อชิงรางวัลมูลค่ารวม 12,000 บาท พร้อมโล่รางวัล

• หัวข้อการประกวด “การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเป้าหมายความยั่งยืน (SDGs)

• รางวัลการประกวด (รวมมูลค่า 12,000 บาท)

1. รางวัลที่ 1 มูลค่า 5,000 บาท (จำนวน 1 รางวัล)

2. รางวัลที่ 2 มูลค่า 4,000 บาท (จำนวน 1 รางวัล)

3. รางวัลที่ 3 มูลค่า 3,000 บาท (จำนวน 1 รางวัล

• กติกาการส่งผลงานเข้าประกวด

1. ผู้ประกวดเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ทีมละไม่เกิน 3 คน

2. ส่งผลงานเข้าประกวด 1 ทีม ไม่เกิน 2 ผลงาน (อัพโหลดด้วยไฟล์สกุล MP4, AVI หรือ MOV)

3. ตั้งชื่อคลิป พร้อมบรรยายแนวคิดที่ต้องการสื่อสาร ในแบบฟอร์มส่งผลงาน (ไม่เกิน 150 คำ) 4. คลิปวิดีโอ มีความยาวไม่เกิน 5 นาที

• ระยะเวลาการสมัคร

1. รับสมัครและส่งผลงาน ขยายเวลาถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567

2. ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัลของแต่ละประเภทภายในวันที่ 19 สิงหาคม 2567

– – – – – – – – – – – – – – – – – –

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่: www.eqdd.nu.ac.th/SDGsContent

ม.นเรศวร รณรงค์รับบริจาคยาเหลือใช้ ส่งต่อเพื่อประโยชน์แก่สังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยคณะเภสัชศาสตร์ และเครือข่ายจิตอาสา ได้จัดโครงการรับบริจาค ยาเหลือใช้ เพื่อนำไปคัดกรองและกระจายต่อไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลน การดำเนินงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ใช้ยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเปล่าของทรัพยากรทางการแพทย์ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพสำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล

โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่า ยาซึ่งถูกทิ้งหรือปล่อยไว้จนเสื่อมคุณภาพยังสามารถสร้างคุณค่าได้ หากถูกนำมาคัดกรองและนำไปใช้ต่อในสถานพยาบาลที่ต้องการ การดำเนินงานจึงไม่เพียงเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ยังเป็นการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดปัญหาขยะยา และลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของสังคมด้านสาธารณสุข

ขั้นตอนการบริจาคทำได้โดยง่าย เพียงนำยาเหลือใช้มาไว้ที่ จุดรับขยะกำพร้า ภายในมหาวิทยาลัย โดยผู้บริจาคต้องขีดฆ่าชื่อผู้ป่วยบนฉลากเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแยกยาไว้ต่างหากและแจ้งทีมงานจิตอาสาว่าเป็น “ยาเหลือใช้” จากนั้นทีมงานจะทำการรวบรวมและจัดส่งไปยัง อาจารย์ดำรงค์ศักดิ์ เป๊กทอง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง

ทีมงานคณะเภสัชศาสตร์จะตรวจสอบคุณภาพและจัดหมวดหมู่ยา ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เช่น โรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก รวมทั้งโรงพยาบาลอื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีความต้องการยาอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาที่จำเป็นได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

สำหรับยา หมดอายุ ประชาชนยังสามารถส่งรวมมากับขยะกำพร้าได้ เพื่อให้ทีมงานดำเนินการกำจัดอย่างถูกวิธี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชน การดำเนินงานในรูปแบบนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังจุดรับบริจาค ยังสามารถส่งยาเหลือใช้โดยตรงไปที่ อาจารย์ดำรงค์ศักดิ์ เป๊กทอง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 99 ม.9 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000 ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้เครือข่ายจิตอาสาสามารถรวบรวมยาได้จากพื้นที่ทั่วประเทศ

โครงการนี้สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของมหาวิทยาลัย ภาคประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการทรัพยากรด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน การ ใช้ยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงไม่เพียงช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ยังเป็นการลดขยะ ป้องกันมลพิษ และสร้างวัฒนธรรมการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า

ท้ายที่สุด การรณรงค์รับบริจาคยาเหลือใช้ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ทั้งในมิติสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยแสดงให้เห็นว่าการจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบสามารถสร้างประโยชน์ได้ทั้งต่อผู้คนและต่อโลกใบนี้ในระยะยาว

ทุนการศึกษา จากศิษย์เก่าสู่ศิษย์ปัจจุบัน เติมพลังใจสู่ความสำเร็จ

วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับกองกิจการนิสิต จัดพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษา โดยมี นางจิตมากร รอบบรรเจิด นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ ห้องนเรศวร 310 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี

การจัดมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ มีนิสิตที่ได้รับทุนจำนวน 49 คน รวมมูลค่า 260,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษา และเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่นิสิตในการมุ่งมั่นเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เต็มที่

โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG1 ขจัดความยากจน เนื่องจากการศึกษาคือกุญแจสำคัญในการสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิต การมอบทุนช่วยให้นิสิตที่มีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม และลดความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษา

นอกจากนี้ พิธีมอบทุนยังสะท้อนถึงพลังของ ความร่วมมือ (SDG17) ระหว่างศิษย์เก่า มหาวิทยาลัย และภาคีผู้สนับสนุน ที่พร้อมผนึกกำลังเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ความร่วมแรงร่วมใจในครั้งนี้แสดงถึงเครือข่ายที่เข้มแข็งซึ่งจะเป็นต้นแบบของการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน

ความสำคัญของทุนการศึกษาไม่ได้อยู่เพียงแค่จำนวนเงิน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของกำลังใจที่มอบแก่นิสิตผู้รับทุน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง เพื่อก้าวสู่การเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบต่อสังคม

การจัดกิจกรรมลักษณะนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างนิสิต ศิษย์เก่า และมหาวิทยาลัย อันเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งในระดับสถาบันและสังคมโดยรวม

ท้ายที่สุด การมอบทุนการศึกษาโดยสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร ถือเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าในอนาคตของสังคม เพราะนิสิตที่ได้รับทุนจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรที่มุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตคุณภาพเพื่อขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน

ม.นเรศวร พานิสิตเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านโครงการนอกห้องเรียนและโครงการพระราชทาน

วันเสาร์ที่ 21 และวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการการเรียนการสอนนอกห้องเรียนในรายวิชาศึกษาทั่วไป วิชา 002212 “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความยั่งยืน” ภาคเรียนต้น ปีการศึกษา 2567 ณ กองทัพภาคที่ 3 อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้และเข้าใจแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการประยุกต์ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน ตลอดจนส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) แก่นิสิต ผ่านกิจกรรมและกระบวนการเรียนการสอนแบบ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับความอนุเคราะห์จากแม่ทัพภาคที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ในการสนับสนุนสถานที่ พร้อมทั้งจัดรถบัสและพลขับสำหรับรับ-ส่งผู้เข้าร่วมโครงการอย่างสะดวกและปลอดภัย

ในโครงการนี้ ยังมีการจัดทีมวิทยากรที่เชี่ยวชาญมาบรรยายและให้คำแนะนำตามแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ แก่นิสิต เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาและสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้โครงการพระราชทาน เช่น ศูนย์ผลิตพันธุ์กบพระราชทาน ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน และโรงครัวพระราชทาน ซึ่งเป็นตัวอย่างการประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับชุมชนและสังคม

โครงการนี้ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐในภูมิภาค ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดี ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพนิสิตให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ พร้อมรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน

การจัดโครงการยังสอดคล้องกับการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนได้เข้าถึงทรัพยากรด้านความรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถและความเข้าใจในหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ทั้งในด้านวิทยากร แหล่งเรียนรู้ และการอำนวยความสะดวกแก่นิสิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาที่เข้มแข็งและยั่งยืน

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin