Archives June 2024

กองอาคารสถานที่ ม.นเรศวร “ซ้อมหนีไฟ” เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิดโครงการ ฝึกอบรมป้องกันอัคคีภัยและฝึกซ้อมดับเพลิง โดยมีบุคลากรกองอาคารสถานที่เข้าร่วมโครงการอย่างพร้อมเพรียง เพื่อเสริมสร้างทักษะและความพร้อมในการรับมือเหตุฉุกเฉิน

การอบรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก สิบเอก ชาติชาย สิงเดช เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชำนาญงาน พร้อมด้วยบุคลากรจากงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ ที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และจัดการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจแนวทางการรับมืออัคคีภัยอย่างถูกต้อง

การฝึกซ้อมเน้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น การใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกวิธี การอพยพหนีไฟตามเส้นทางที่กำหนด และการรวมพลในจุดปลอดภัย ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อบุคลากรให้สามารถปฏิบัติได้จริงในสถานการณ์ฉุกเฉิน

โครงการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนา วัฒนธรรมด้านความปลอดภัยในองค์กร เพราะอาคารสถานที่เป็นพื้นที่ที่มีผู้คนใช้งานจำนวนมาก การเตรียมความพร้อมจึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการสูญเสีย ทั้งในระดับบุคคลและระดับชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ยังสะท้อนถึง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น ในการบูรณาการความรู้และประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างระบบการจัดการความปลอดภัยที่เข้มแข็ง และเป็นแบบอย่างของการพัฒนาที่อาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน

การซ้อมหนีไฟไม่เพียงเป็นกิจกรรมเพื่อฝึกทักษะ แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยให้หยั่งรากในมหาวิทยาลัย สอดคล้องกับแนวคิดการสร้างเมืองที่ปลอดภัยและยั่งยืน โดยการพัฒนาพื้นที่การศึกษาที่มีความมั่นคงและพร้อมรับมือวิกฤต

มหาวิทยาลัยนเรศวรส่งเสริมด้านความปลอดภัย ผ่านโครงการฝึกอบรมและซ้อมหนีไฟอย่างต่อเนื่อง เป็นการตอกย้ำถึงความรับผิดชอบต่อบุคลากร นักศึกษา และชุมชนโดยรอบ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและยั่งยืนในทุกมิติ

ม.นเรศวร ร่วมยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย เชื่อมความร่วมมือสถาบันการศึกษาและท้องถิ่น

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 กลุ่มสาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการพัฒนามาตรฐานร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารรอบมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย และสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาคการศึกษา ภาคท้องถิ่น และชุมชน

โครงการครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายธวัช สิงห์เดช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ และรองศาสตราจารย์ ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเป็นประธานเปิดโครงการ ณ ห้อง Main Conference อาคารบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและอาสาสมัครสาธารณสุขได้เข้ามาเรียนรู้และพัฒนาทักษะร่วมกัน

การดำเนินงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 150 คน ประกอบด้วยผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวน 100 ร้านค้า และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) อีก 50 คน ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ทั้งในด้านคุณภาพอาหารและสุขอนามัย

โครงการเน้นการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับสุขาภิบาลอาหาร การเลือกใช้วัตถุดิบที่สะอาดปลอดภัย การคัดแยกและการจัดเก็บอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ รวมถึงการจัดการภาชนะและพื้นที่ปรุงอาหารให้ถูกต้องตามหลักอนามัย ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ในร้านค้าได้จริง

นอกจากการอบรมแล้ว ยังมีการประเมินคุณภาพร้านอาหารและแผงลอยโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานที่กรมอนามัยกำหนด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับอาหารที่สะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการยังได้รับคำแนะนำในการพัฒนาร้านให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาขยะและของเสียจากการประกอบอาหาร

การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของโครงการ เนื่องจาก อสม. เป็นกำลังสำคัญในการสื่อสารและเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน การเข้ามามีบทบาทในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในครั้งนี้ ช่วยให้แนวทางการพัฒนาอาหารปลอดภัยขยายผลได้อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง

การเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานท้องถิ่น ผู้ประกอบการ และภาคประชาชนในครั้งนี้ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการทำงานแบบบูรณาการ ที่ไม่เพียงแต่ยกระดับมาตรฐานร้านอาหารรอบมหาวิทยาลัย แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค และตอบโจทย์การพัฒนาสุขภาพและโภชนาการในระดับชุมชน

การจัดโครงการพัฒนามาตรฐานร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารรอบมหาวิทยาลัยนเรศวรครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย และสร้างความยั่งยืนทางโภชนาการ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

ม.นเรศวร ร่วมมือ GIZ จัดประชุมพัฒนานโยบาย Agrivoltaics เสริมพลังงานสะอาดระดับนานาชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2567 วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับโครงการ Clean, Affordable and Secure Energy for Southeast Asia (CASE) ภายใต้องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการพัฒนานโยบายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปลูกพืชร่วมกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ หรือที่เรียกว่า Agrivoltaics

การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการ Recommended policy and regulation pertaining Agrivoltaics in Thailand ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการศึกษาแนวทางปฏิบัติ “Agrivoltaics in Thailand” ภายใต้โครงการ Thai-German Energy Dialogue (TGED) ที่จัดขึ้นในปี 2566 การดำเนินการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการสร้างแนวทางเชิงนโยบายที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความต้องการพลังงานของประเทศ

Agrivoltaics ถือเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ที่ดิน โดยการผสานการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์เข้ากับการเกษตรกรรม การประชุมดังกล่าวจึงเป็นเวทีสำคัญในการหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรวบรวมข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายและกฎระเบียบที่เหมาะสมและสามารถปฏิบัติได้จริง

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทในการวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทน มุ่งเน้นการผลักดัน Agrivoltaics ให้เป็นหนึ่งในแนวทางที่สนับสนุนทั้งการสร้างพลังงานสะอาดและการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน ตอบสนองต่อความท้าทายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ประเทศกำลังเผชิญ

การร่วมมือกับ GIZ และโครงการ CASE ในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเชื่อมโยงในระดับนานาชาติที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งด้านนโยบายและการปฏิบัติ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม การพัฒนานโยบายที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนจะทำให้เกิดการยอมรับและการนำไปใช้ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การประชุมดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และข้อเสนอเชิงนโยบาย แต่ยังเป็นเวทีที่ช่วยผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อเดินหน้าสู่ระบบพลังงานสะอาดที่สามารถเข้าถึงได้ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

ทั้งนี้ ผลการประชุมและข้อเสนอแนะที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ในการกำหนดทิศทางการพัฒนา นโยบายและกฎระเบียบด้าน Agrivoltaics ของประเทศไทยในอนาคต ซึ่งจะช่วย ส่งเสริมการพัฒนานโยบายและกฎระเบียบ ที่ตอบโจทย์ความมั่นคงด้านพลังงาน การใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการและความเคลื่อนไหวด้านพลังงานสะอาดและ Agrivoltaics ได้ที่ SGTech Naresuan University, Instagram SGTech และ Facebook SGTech NU

ม.นเรศวร ร่วมกิจกรรม “From We to World เพาะความสุข ปลูกความยั่งยืน”

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ฯ รองศาสตราจารย์ ดร.จรัณธร บุญญานุภาพ อาจารย์ประจำภาควิชาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ และรองศาสตราจารย์ ดร.ศศิมา เจริญกิจ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมปลูกป่าในกิจกรรม “From We to World เพาะความสุข ปลูกความยั่งยืน” ณ พื้นที่นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 39 ปี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. โดยมีเป้าหมายในการสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 การเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ถือเป็นแนวทางสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฟื้นฟูระบบนิเวศ

ในกิจกรรมครั้งนี้ มีการปลูกไม้ยืนต้นหลายชนิด จำนวนกว่า 434 ต้น นำโดยนายศรายุทธ เนียมฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการผลิต โครงการเอส 1 ปตท.สผ. พร้อมด้วยคุณสุรชาติ จงจิตต์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ และมีผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานราชการ พนักงาน ปตท.สผ. บริษัทผู้รับเหมา ประชาชน และนักวิชาการ เข้าร่วมรวมกว่า 200 คน

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการบูรณาการระหว่างภาคเอกชน ชุมชน และสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การปลูกป่าไม่เพียงเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังช่วยฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ในระยะยาว

ในโอกาสเดียวกัน รองศาสตราจารย์ ดร.สิทธิชัย ชูสำโรง รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศและกิจการนิสิต พร้อมด้วยดร.นพรัตน์ อินถา อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร และคณะนิสิต ได้ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อตรวจเก็บข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศสำหรับใช้จัดทำแผนที่การพัฒนาป่าชุมชนในอนาคต

การใช้เทคโนโลยีโดรนร่วมกับการปลูกป่าเป็นตัวอย่างของการบูรณาการนวัตกรรมเข้ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการวางแผนพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่จริง

นอกจากนี้ กิจกรรมปลูกป่ายังช่วยสร้างความตระหนักแก่ประชาชนในชุมชนและผู้เข้าร่วมงาน เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลกผ่านการลงมือทำในระดับท้องถิ่น

ท้ายที่สุด การเข้าร่วมปลูกป่าในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองวาระสำคัญของ ปตท.สผ. เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการ ร่วมปลูกป่า เพื่อสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนและสังคมในระยะยาว

ม.นเรศวร เปิดเทอมใหม่ เดินหน้าใช้ระบบขนส่งรักษ์โลก ลดก๊าซเรือนกระจก

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเทอมวันแรกด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังของนิสิตใหม่ที่พร้อมเข้าสู่การเรียนรู้ โดยมหาวิทยาลัยได้จัดบริการ รถไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการสร้าง เมืองยั่งยืน และขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่มหาวิทยาลัย

รถไฟฟ้าสีส้มที่วิ่งให้บริการรอบมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กลายเป็นระบบขนส่งหลักที่ช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดมลพิษทางอากาศ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ใช้บริการ การส่งเสริมให้ประชาคมมหาวิทยาลัยเลือกใช้ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่เป้าหมาย คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้พัฒนา Web Application การเดินรถไฟฟ้า ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถไฟฟ้าได้แบบ Real Time ผ่านเว็บไซต์ https://transit.nu.ac.th ทำให้ผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกและแม่นยำ ลดความจำเป็นในการใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์

Web Application ดังกล่าวยังมีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถ ทั้งสายสีเหลืองและสายสีแดงที่มหาวิทยาลัยเปิดให้บริการ เพื่อรองรับการเดินทางภายในมหาวิทยาลัยอย่างครอบคลุม ทั้งยังช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะภายในมหาวิทยาลัยมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานร่วมกับ NU Map ผ่าน https://numap.nu.ac.th เพื่อค้นหาตำแหน่งสถานที่ต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยได้อย่างสะดวก ทำให้การเดินทางและการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถไฟฟ้าในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการตอบโจทย์การเดินทาง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง เมืองยั่งยืน ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ตลอดจนเป็นแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โครงการรถไฟฟ้าและการพัฒนาเทคโนโลยีสนับสนุนดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึง การมีส่วนร่วม ของมหาวิทยาลัยนเรศวรกับการพัฒนาสังคมในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการยกระดับคุณภาพชีวิตของนิสิตและบุคลากร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการสร้างมหาวิทยาลัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ม.นเรศวร โชว์นวัตกรรมไม้เทียมรักษ์โลกจากกากกาแฟและเปลือกไข่ ต่อยอดสู่การวิจัยเชิงพาณิชย์

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรารัตน์ มหาศรานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้นำเสนอผลงานนวัตกรรม “ไม้เทียมรักษ์โลกจากกากกาแฟและเปลือกไข่ (Eco Wood)” ในรายการ “สาระน่ารู้กับช่อง NBT ข่าวภาคเหนือ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงถึงการวิจัยเชิงสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม

นวัตกรรมไม้เทียมรักษ์โลกนี้ เป็นการนำวัสดุเหลือทิ้งทางชีวมวลอย่างกากกาแฟและเปลือกไข่มาผสมผสานกับพลาสติกรีไซเคิลเพื่อสร้างวัสดุทดแทนไม้จริง ผลงานนี้มีจุดเด่นที่ช่วยลดปริมาณการตัดไม้ ลดปริมาณขยะพลาสติก และยังช่วยประหยัดพลังงานในการผลิตเมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตไม้เทียมทั่วไป

การพัฒนาไม้เทียมจากวัสดุเหลือทิ้งไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นตัวอย่างของการนำงานวิจัยมาต่อยอดสู่การประยุกต์ใช้จริงในอุตสาหกรรม นับเป็นการสร้างนวัตกรรมที่สามารถขับเคลื่อนสังคมสู่แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างชัดเจน

โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้เห็นศักยภาพของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาแนวทางใหม่ในการจัดการของเหลือทิ้งที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับประเทศ

การต่อยอดผลงานไม้เทียมรักษ์โลกยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุที่เคยถูกมองว่าไร้ค่า และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับอุตสาหกรรมที่ต้องการวัสดุทดแทนไม้จริงในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนและสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างนักวิจัย มหาวิทยาลัย และภาคอุตสาหกรรมยังเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันให้ผลงานวิจัยสามารถพัฒนาต่อไปจนถึงขั้นการผลิตเชิงพาณิชย์ ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่แข่งขันได้ในระดับสากล

ผลงานไม้เทียมรักษ์โลกจากกากกาแฟและเปลือกไข่ จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่แสดงให้เห็นถึงการสร้างนวัตกรรมจากองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการ ส่งเสริมต่อยอดสู่งานวิจัยเชิงพาณิชย์

สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ NBT News: Eco Wood Innovation

ม.นเรศวร ขับเคลื่อนโครงการ “กำจัดยาที่ถูกต้อง” สร้างความร่วมมือเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

วันพุธที่ 19 มิถุนายน 2567 นิสิตคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการ “กำจัดยาที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม” (Safeguarding the Environment through Proper Medicine Disposal) ณ โรงเรียนเนินมะปรางวิทยา อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการทิ้งยาอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในมิติ One Health

โครงการดังกล่าวถือเป็นการบูรณาการความรู้และการปฏิบัติ โดยนิสิตแกนนำได้รับการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารและภาวะผู้นำ ควบคู่ไปกับการสร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันระหว่างสาขาวิชาชีพ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและสามารถประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างเครือข่ายหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานด้านการศึกษา การสาธารณสุข และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาแนวทางการจัดการยาที่ถูกต้องและยั่งยืน

ภายในกิจกรรม มีการให้ความรู้แก่นักเรียนและชุมชนเกี่ยวกับผลกระทบของการทิ้งยาอย่างไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ดิน หรือการสร้างความเสี่ยงต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ การตระหนักรู้ในประเด็นเหล่านี้จะช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกำจัดยา

นอกจากการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว โครงการยังเน้นการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการเป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง โดยเยาวชนจะมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้สู่ครอบครัวและชุมชน ช่วยต่อยอดการสร้างสังคมที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพร่วมกัน

โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายมหาวิทยาลัยไทยด้านสุขภาพหนึ่งเดียว (Thailand One Health University Network : THOHUN) ซึ่งเป็นการยืนยันถึงพลังความร่วมมือในระดับประเทศที่เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานในครั้งนี้

กิจกรรมกำจัดยาที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม จึงเป็นทั้งการสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาศักยภาพนิสิต และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ตอกย้ำพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการทำงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สู่สังคมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ม.นเรศวร ร่วมรณรงค์วันต่อต้านยาเสพติดโลก ส่งเสริมห่างไกลยาเสพติด

วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567 องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก เพื่อให้ทุกประเทศตระหนักถึงภัยของยาเสพติดและร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงได้เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์และแสดงพลังต่อต้านยาเสพติด สอดคล้องกับพันธกิจของประเทศในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ให้ความสำคัญอย่างมากกับการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ผ่านมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาในทุกระดับ เพื่อคุ้มครองเยาวชนและประชาชนจากภัยของยาเสพติด และสร้างสังคมที่มีคุณภาพโดยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

มหาวิทยาลัยนเรศวรตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างพื้นที่ปลอดภัย จึงได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเป็น มหาวิทยาลัยปลอดยาเสพติด โดยมุ่งเน้นการเป็นพื้นที่เรียนรู้ที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชน นิสิต และบุคลากร พร้อมผลักดันให้มหาวิทยาลัยเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

ในปีนี้ จังหวัดพิษณุโลกได้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2567 โดยมี นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี ณ สวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลนครพิษณุโลก กิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน รวมทั้งมหาวิทยาลัยนเรศวร

นิสิตและบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวรได้เข้าร่วมเดินขบวนรณรงค์ในครั้งนี้ เพื่อแสดงพลังและเจตนารมณ์ร่วมในการสร้างสังคมที่ห่างไกลจากยาเสพติด บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังของความร่วมมือและการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้รับเกียรติรับรางวัล หน่วยงานสนับสนุนการดำเนินงานประกวดกิจกรรม TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2567 โดยมี นายกัณต์กวี วิมุติ รักษาการหัวหน้างานอำนวยการ กองกิจการนิสิต เป็นผู้แทนเข้ารับรางวัล ซึ่งแสดงถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมเยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด

พร้อมกันนี้ ทีม RAZE ZONE นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ยังได้รับรางวัลจากการประกวด TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE 2024 ในฐานะตัวแทนจังหวัดพิษณุโลกที่ผ่านเข้ารอบการประกวดระดับประเทศ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ตอกย้ำถึงความสามารถและพลังสร้างสรรค์ของนิสิตที่สะท้อนถึงสังคมปลอดภัยและสร้างสรรค์

กิจกรรมและรางวัลทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการมีส่วนร่วมต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่มุ่งสร้างสังคมปลอดภัย มีสุขภาวะที่ดี และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาเยาวชนในระยะยาว

ม.นเรศวร บริการยาเบื้องต้นฟรีสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง ดูแลสุขภาพ ลดภาระพบแพทย์

ในช่วงเปิดเทอมนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรขอส่งเสริมสุขภาพของนิสิตและบุคลากรด้วยบริการพิเศษจากร้านยาคณะเภสัชศาสตร์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรับยาฟรี! สำหรับนิสิตและบุคลากรที่มีสิทธิบัตรทอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นการให้บริการที่สะดวกและรวดเร็ว เพื่อช่วยดูแลสุขภาพเบื้องต้นและส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่สามารถรับยาได้มีดังนี้
– ปวดหัว – เวียนหัว – ปวดข้อ – ปวดกล้ามเนื้อ – ปวดฟัน – ไข้ – ไอ – เจ็บคอ – ปวดท้อง – โรคกระเพาะ – ท้องเสีย- ท้องผูก-ริดสีดวง – ปัสสาวะแสบขัด – ปวดประจำเดือน – ตกขาวผิดปกติ – อาการทางผิวหนัง ผื่น – คัน – ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตา – ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหู – การดูแลบาดแผลเบื้องต้น

บริการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ:

  1. การเข้าถึงบริการสุขภาพที่ง่ายและสะดวก: การให้บริการยาเบื้องต้นสำหรับอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยจะช่วยลดภาระในการไปพบแพทย์ในกรณีที่ไม่จำเป็น ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  2. การส่งเสริมสุขภาพดีสำหรับทุกคน: นอกจากการให้บริการยาแล้ว ยังมีการให้คำแนะนำจากเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 3: Good Health and Well-being) เพื่อให้ทุกคนในสังคมมีสุขภาพที่ดีและเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม
  3. การสนับสนุนความรู้และการป้องกัน: การเข้าถึงยาเบื้องต้นที่ร้านยาในมหาวิทยาลัยยังสามารถเป็นโอกาสในการให้ความรู้และคำแนะนำในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคที่อาจเกิดขึ้นจากอาการต่างๆ

การใช้บริการ:
หากท่านมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยตามที่ระบุ สามารถไปที่ร้านยาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร สาขา 2 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเข้า ประตู 4 ของมหาวิทยาลัย (โดยต้องนำบัตรประชาชนมาด้วยทุกครั้งที่รับบริการ) ทีมเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำและดูแลท่านอย่างครบถ้วน

อย่าลืม! สวัสดีปีการศึกษาใหม่แล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรพร้อมดูแลสุขภาพของท่าน ด้วยบริการที่ดีและสะดวก พร้อมให้ความรู้การดูแลสุขภาพและการใช้ยาอย่างถูกต้อง เพื่อสังคมที่มีสุขภาพดีไปด้วยกัน!

ม.นเรศวร รณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก 2567 ปกป้องสุขภาพ สร้างเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2567 เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก (World No Tobacco Day) ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้คำขวัญ “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า” มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมรณรงค์และจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึง โทษของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพของบุคคลและสังคม พร้อมเชิญชวนให้นิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไปหันมาตระหนักถึงอันตรายและร่วมกันลด ละ เลิกบุหรี่ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

การจัดกิจกรรมในปีนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญในการลดผลกระทบที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งปอด โรคหัวใจ และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) รวมถึงโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อผู้สูบเอง แต่ยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างจากควันบุหรี่มือสองและมือสามที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดให้มี กิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ เช่น แผ่นป้ายและโปสเตอร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมทั้งให้คำแนะนำวิธีการเลิกสูบบุหรี่อย่างถูกวิธี เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและลดการเริ่มต้นสูบในกลุ่มเยาวชนและนิสิต

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม เดินรณรงค์ภายในมหาวิทยาลัย โดยมีนิสิตจิตอาสาเข้าร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลแก่เพื่อนนิสิตและบุคลากร เพื่อสร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วมและเป็นแบบอย่างที่ดีในการเลือกวิถีชีวิตที่ปราศจากบุหรี่ ตลอดจนการจัดเวทีสัมมนาและการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่อย่างจริงจัง

โทษของบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพของบุคคล แต่ยังสร้างภาระต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจของสังคม การส่งเสริมการเลิกบุหรี่จึงเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาโรค เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของประชากร และสนับสนุนให้เกิด สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย สำหรับทุกคน

การรณรงค์งดสูบบุหรี่ในวันงดสูบบุหรี่โลกยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน เพราะการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดขยะจากก้นบุหรี่ และช่วยรักษาความสะอาดของพื้นที่สาธารณะ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในชุมชนและการพัฒนาสังคมโดยรวม

กิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลกของมหาวิทยาลัยนเรศวรในปีนี้ แสดงให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรอย่างต่อเนื่อง ต่อการสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพของบุคคลและสังคม พร้อมทั้งตอกย้ำถึงความตั้งใจในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของนิสิต บุคลากร และสังคมโดยรอบ หากต้องการเลิกสูบบุหรี่ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ ร้านยาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin