ม.นเรศวร เปิดเทอมใหม่ เดินหน้าใช้ระบบขนส่งรักษ์โลก ลดก๊าซเรือนกระจก
วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเทอมวันแรกด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังของนิสิตใหม่ที่พร้อมเข้าสู่การเรียนรู้ โดยมหาวิทยาลัยได้จัดบริการ รถไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการสร้าง เมืองยั่งยืน และขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่มหาวิทยาลัย
รถไฟฟ้าสีส้มที่วิ่งให้บริการรอบมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กลายเป็นระบบขนส่งหลักที่ช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดมลพิษทางอากาศ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ใช้บริการ การส่งเสริมให้ประชาคมมหาวิทยาลัยเลือกใช้ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่เป้าหมาย คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้พัฒนา Web Application การเดินรถไฟฟ้า ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถไฟฟ้าได้แบบ Real Time ผ่านเว็บไซต์ https://transit.nu.ac.th ทำให้ผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกและแม่นยำ ลดความจำเป็นในการใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
Web Application ดังกล่าวยังมีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถ ทั้งสายสีเหลืองและสายสีแดงที่มหาวิทยาลัยเปิดให้บริการ เพื่อรองรับการเดินทางภายในมหาวิทยาลัยอย่างครอบคลุม ทั้งยังช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะภายในมหาวิทยาลัยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานร่วมกับ NU Map ผ่าน https://numap.nu.ac.th เพื่อค้นหาตำแหน่งสถานที่ต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยได้อย่างสะดวก ทำให้การเดินทางและการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถไฟฟ้าในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการตอบโจทย์การเดินทาง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง เมืองยั่งยืน ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ตลอดจนเป็นแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โครงการรถไฟฟ้าและการพัฒนาเทคโนโลยีสนับสนุนดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึง การมีส่วนร่วม ของมหาวิทยาลัยนเรศวรกับการพัฒนาสังคมในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการยกระดับคุณภาพชีวิตของนิสิตและบุคลากร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการสร้างมหาวิทยาลัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
