ม.นเรศวร เจ้าภาพจัดประชุมวิชาการ CGCM ด้านการแพทย์แผนจีนครั้งแรกในประเทศไทย ส่งเสริมสุขภาพและความร่วมมือวิจัยระดับโลก

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568 มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ The 21st CGCM Meeting ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) จังหวัดพิษณุโลก โดยมีศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงกรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวต้อนรับ และศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงจารุภา วิโยชน์ เลขาธิการฝ่ายจัดงาน กล่าวรายงานต่อ Prof. Dr. Yung-Chi Cheng ประธาน Consortium for Globalization of Chinese Medicine (CGCM) ผู้กล่าวเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ

การประชุม CGCM เป็นเวทีระดับนานาชาติที่สำคัญในการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัยด้านการแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine: TCM) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนายาสมุนไพรจีนและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อมนุษยชาติ องค์กร CGCM ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 ปัจจุบันมีสมาชิก 166 สถาบัน และภาคอุตสาหกรรมที่ร่วมเครือข่าย 29 แห่งจากทั่วโลก สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือที่ครอบคลุมทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยงานกำกับดูแล และอุตสาหกรรม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีการนำเสนอหัวข้อที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้ง การฝังเข็ม ชีวสารสนเทศศาสตร์ การวิจัยทางคลินิก ทรัพยากรยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ กลไกทางเคมี กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และความร่วมมือระหว่างภูมิภาค โดยเน้นย้ำการประยุกต์ใช้ความรู้ร่วมกันระหว่างภาควิชาการและภาคอุตสาหกรรม อันจะนำไปสู่การสร้างมาตรฐานและการพัฒนาที่ตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพระดับโลก

การประชุมยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ นักวิชาการ นักวิจัย และนิสิตนักศึกษา ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ สร้างเครือข่ายการวิจัยใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดในด้านการแพทย์แผนจีน การแพทย์พื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสของการทำงานร่วมกันในระดับนานาชาติ

นอกจากการนำเสนอผลงานวิจัยแล้ว การประชุมครั้งนี้ยังมีความสำคัญในมิติของ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และสุขภาพ ทั้งในด้านวิชาการและการปฏิบัติจริง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในสังคม ผ่านการประยุกต์ใช้องค์ความรู้และนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เชิงปฏิบัติ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะเจ้าภาพหลัก ได้แสดงบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระดับโลกด้านการแพทย์และการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ตอกย้ำพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเชื่อมโยง งานวิจัยกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม

ท้ายที่สุด การประชุมวิชาการ CGCM Meeting ครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนการวิจัยด้านการแพทย์แผนจีน แต่ยังสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับโลก อันจะช่วยเสริมสร้างสังคมที่เข้มแข็งในการรับมือความท้าทายด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

ม.นเรศวร ชวนใช้สิทธิประกันสังคมด้านทันตกรรม ก่อนสิ้นปี 2567

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม 2567 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอเชิญผู้ประกันตนทุกท่านมาใช้สิทธิประกันสังคมด้านทันตกรรม ก่อนสิ้นปี 2567 โดยสามารถเข้ารับบริการโดย ไม่ต้องสำรองจ่าย เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเท่าเทียม และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

บริการทันตกรรม ที่สามารถใช้สิทธิ ได้แก่ ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ขูดหินปูน และอุดฟัน ซึ่งล้วนเป็นการรักษาสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคในช่องปากระยะยาว และสอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคตาม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 3) ที่มุ่งสร้างหลักประกันด้านสุขภาพที่ครอบคลุมและทั่วถึง

การเปิดให้บริการโดย โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังสะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยในการทำหน้าที่เพื่อสังคม ผ่านการสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสได้รับการดูแลสุขภาพที่ได้มาตรฐาน โดยไม่ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจหรือสังคม

สิทธิประโยชน์นี้สามารถใช้ได้ ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เท่านั้น ผู้ประกันตนจึงควรตรวจสอบสิทธิและเข้ารับบริการก่อนหมดกำหนด เพื่อให้ไม่สูญเสียโอกาสในการดูแลสุขภาพช่องปาก และลดความเสี่ยงต่อโรคในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับการสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนในชุมชน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 5596 7462 และ 0 5596 7481 เพื่อยืนยันสิทธิและวางแผนการเข้ารับบริการอย่างเหมาะสม

ม.นเรศวร หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ส่งเสริมสุขภาพอย่างเท่าเทียม มอบรอยยิ้มแก่ประชาชน

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2567 หน่วยทันตกรรมพระราชทาน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ลงพื้นที่ให้บริการใส่ฟันเทียมพระราชทานแก่ประชาชน ณ โรงพยาบาลอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม 2567 รวมผู้รับบริการจำนวนทั้งสิ้น 46 ราย โดยทีมงานประกอบด้วยอาจารย์ทันตแพทย์ นิสิตระดับบัณฑิตศึกษา ผู้ช่วยทันตแพทย์ และช่างทันตกรรม นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ทันตแพทย์หญิง ดร.วิสาขะ ลิ่มวงศ์ อดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังได้ร่วมลงพื้นที่เป็นขวัญและกำลังใจให้กับทีมงานด้วย

การให้บริการครั้งนี้ แบ่งเป็นการใส่ฟันเทียมแบบ Conventional denture จำนวน 26 ราย และ Digital denture จำนวน 20 ราย ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในหน่วยทันตกรรมพระราชทาน การประยุกต์ Digital denture ทำให้การขึ้นรูปชิ้นงานแม่นยำมากขึ้น ลดการกรอปรับแต่งในช่องปาก และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับฟันเทียมที่มีคุณภาพ สวมใส่สบายและพอดี

สิ่งสำคัญของการดำเนินงานครั้งนี้ คือการผสมผสานเทคโนโลยี CAD Design และการพิมพ์สามมิติ (3D Printing) ในการผลิตฟันเทียม โดยทีมทันตแพทย์และนิสิตปริญญาโทสามารถผลิตฟันเทียมได้ครบตามเป้าหมาย 20 รายภายในระยะเวลาอันจำกัด แสดงถึงศักยภาพของบุคลากรรุ่นใหม่ที่สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพการรักษา

แม้ว่าการผลิต Digital denture ยังมีข้อจำกัด เช่น เรื่องความสวยงามของชิ้นงานและความรวดเร็วในการขึ้นรูป แต่ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนางานด้านทันตกรรมเชิงนวัตกรรม ที่สามารถต่อยอดเพื่อยกระดับบริการสุขภาพช่องปากในอนาคต

โครงการหน่วยทันตกรรมพระราชทานครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมสุขภาพอย่างเท่าเทียม ให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับโอกาสเข้าถึงบริการทางทันตกรรมที่มีคุณภาพ โดยไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงบริการสาธารณสุข

นอกจากนี้ การออกหน่วยยังเป็นเวทีให้นิสิตทันตแพทย์ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ฝึกปฏิบัติจริงร่วมกับทีมอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะวิชาชีพ แต่ยังปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการรับผิดชอบต่อสังคม และการมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่เป็นธรรมและโปร่งใสด้านสุขภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความไม่เสมอภาคด้านการเข้าถึงบริการ และร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

ม.นเรศวร ส่งเสริมการสร้างสังคมผู้สูงอายุสุขภาพดี ชราอย่างมีคุณค่าและดำรงชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมการบริการวิชาการ เข้าร่วมกิจกรรม “โครงการชมรมผู้สูงอายุตำบลท่าโพธิ์เคลื่อนที่ ครั้งที่ 1” ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าโพธิ์ จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายธวัช สิงหเดช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการสร้างสังคมผู้สูงอายุสุขภาพดี ชราอย่างมีคุณค่าและดำรงชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชน มุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย และชุมชน โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมีบทบาทสำคัญในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านสุขภาพและการแพทย์ เพื่อยกระดับสังคมไทยให้พร้อมต่อการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ

ภายในกิจกรรม ผศ.ดร.ทพญ.สุภาพร แสงอ่วม จากโรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และทีมงานวิทยากรนำโดย ผศ.ดร.ทพ.อริยะ จันทรมณี ได้ให้ความรู้เรื่อง “การดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ” เน้นให้ผู้สูงอายุเห็นความสำคัญของการดูแลช่องปาก เนื่องจากสุขภาพช่องปากมีผลต่อการรับประทานอาหาร การสื่อสาร และคุณภาพชีวิตในระยะยาว

นอกจากนี้ยังมีการบรรยายโดย อ.ดร.ทพ.กิตติชัย สิรีรัตน์ ในหัวข้อ “การใช้ยาให้ปลอดภัยในผู้สูงวัย” เพื่อให้ผู้สูงอายุเข้าใจหลักการใช้ยาอย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากการใช้ยาซ้ำซ้อน หรือการใช้ยาที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพและการใช้ยาอย่างปลอดภัย

บรรยากาศในกิจกรรมเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง มีสมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลท่าโพธิ์จากหมู่ 1, 2 และ 3 เข้าร่วมกว่า 70 คน ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันในการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีความสำคัญต่อสังคม การดำเนินโครงการลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาองค์ความรู้และบริการวิชาการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสังคมอย่างแท้จริง

นอกจากการให้ความรู้ด้านสุขภาพแล้ว โครงการยังมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้อย่างต่อเนื่อง มีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน และมีความสุขในการดำรงชีวิต ส่งผลให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างวัย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไป โดยใช้แนวทางการทำงานแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมต่อยอดสู่เป้าหมายของการสร้าง “สังคมผู้สูงอายุสุขภาพดี ชราอย่างมีคุณค่าและดำรงชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี” อย่างแท้จริง

ม.นเรศวร เปิดคอร์สออนไลน์ “สุขภาพทางเพศวัยรุ่น” ส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย กองบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (CITCOMS) ได้เปิดคอร์สเรียนออนไลน์ เรื่อง “สุขภาพทางเพศวัยรุ่น Sexual Health for Adolescence” ซึ่งเป็นหนึ่งในรายวิชาภายใต้ NU MOOC เพื่อส่งเสริมสุขภาพทางเพศวัยรุ่น และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลตนเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

คอร์สเรียนนี้มุ่งเน้นการถ่ายทอด แนวคิดสุขภาพทางเพศ ที่เหมาะสมกับวัยรุ่นและเยาวชน รวมถึงการเรียนรู้เรื่อง การคุมกำเนิด และการป้องกัน การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การศึกษา และอนาคตของเยาวชน การให้ความรู้ในเชิงป้องกันถือเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาในระยะยาว

เนื้อหาในคอร์สยังครอบคลุมถึง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งยังคงเป็นความท้าทายที่พบได้ในกลุ่มวัยรุ่น การเรียนรู้ที่รอบด้านช่วยให้ผู้เรียนสามารถตระหนักถึงความเสี่ยงและเรียนรู้วิธีการป้องกันอย่างเหมาะสม อันจะช่วยลดปัญหาด้านสาธารณสุขและสร้างสังคมที่มีคุณภาพมากขึ้น

อีกประเด็นสำคัญคือ พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของวัยรุ่นในการเข้าถึงบริการสุขภาพและการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม การเรียนรู้ด้านกฎหมายจะช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และส่งเสริมให้เยาวชนสามารถตัดสินใจได้อย่างรับผิดชอบต่อสุขภาพและชีวิตของตนเอง

คอร์สเรียนนี้มีระยะเวลา 5 ชั่วโมง ถ่ายทอดโดย ดร.ศิริกนก กลั่นขจร อาจารย์ประจำภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพวัยรุ่น เนื้อหาถูกออกแบบให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกกลุ่ม ทั้งนักเรียน นักศึกษา บุคลากรด้านการศึกษา บุคลากรด้านสุขภาพ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ

ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าเรียนได้ที่ lifelong.nu.ac.th ขั้นตอนการลงทะเบียนมีความสะดวก ตั้งแต่การสมัครสมาชิก การยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP จนถึงการเลือกและลงทะเบียนเรียน ซึ่งทำให้ผู้เรียนสามารถเริ่มต้นการเรียนรู้ได้ทันที คอร์สเรียนออนไลน์ใน NU MOOC เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ได้ฟรีและต่อเนื่อง

โครงการนี้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรต่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของวัยรุ่นและเยาวชน และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นตามนโยบายของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก ทั้งยังมุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่เป็นกรอบความร่วมมือระดับโลก

ม.นเรศวร ร่วมเฉลิมฉลอง 10 ปี AUN-HPN เสริมสร้างสุขภาพยั่งยืนในอาเซียน

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมงานครบรอบ 10 ปี เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียนด้านการส่งเสริมสุขภาพ (AUN-HPN) ณ โรงแรม Millennium Hilton Bangkok กรุงเทพมหานคร โดย รศ.ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ พร้อมด้วย ดร.รมย์นลิน เขียนจูม ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยเข้าร่วมงาน

งานครบรอบ 10 ปี AUN-HPN จัดขึ้นโดย AUN-HPN Secretariat ร่วมกับสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านการส่งเสริมสุขภาพระหว่างมหาวิทยาลัยสมาชิกในภูมิภาคอาเซียน พร้อมกำหนดแผนงานและกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการแบ่งปันทรัพยากรและแนวปฏิบัติที่สนับสนุนสุขภาพที่ยั่งยืน การพัฒนานโยบายด้านสุขภาพที่ตอบโจทย์ปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม และการสร้างมาตรฐานที่สนับสนุนการพัฒนาสุขภาพของประชากรในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย SDG3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ภายในงานยังมีพิธีมอบรางวัล Healthy University Rating System (HURS) 2023 ให้แก่มหาวิทยาลัยที่มีผลงานโดดเด่นด้านการส่งเสริมสุขภาพ การประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกเครือข่าย การบรรยายความสำคัญของระบบประเมิน HURS และการนำเสนอผลงานดีเด่นของมหาวิทยาลัยสมาชิก

การเข้าร่วมงานครั้งนี้เปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัยนเรศวรแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการส่งเสริมสุขภาพ เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสมาชิก และสนับสนุนการสร้างเครือข่ายด้านสุขภาพในระดับภูมิภาค ตอกย้ำความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและองค์กรภายนอก

การเข้าร่วมงานครบรอบ 10 ปี AUN-HPN ของมหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียนเพื่อพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชากร ทั้งยังสนับสนุนเป้าหมาย SDG17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

คณะสาธารณสุขศาสตร์มุ่งหวังว่าข้อมูล แนวทาง และนโยบายที่ได้จากการประชุมจะสามารถนำมาปรับใช้กับนิสิต บุคลากร และชุมชน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและกิจกรรมที่เอื้อต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีอย่างยั่งยืน พร้อมขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านสุขภาพในระดับภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

ม.นเรศวร ส่งเสริมสุขภาพประชาชนเนื่องในวันเบาหวานโลก พร้อมตรวจสุขภาพฟรี

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จัดกิจกรรม วันเบาหวานโลก (NUH World Diabetes Day) เพื่อส่งเสริมการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายของโรคเบาหวานในประชาชนทั่วไปและสนับสนุนสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

กิจกรรมดังกล่าวเปิดให้ประชาชนเข้าร่วม ตรวจสุขภาพฟรี เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและภาวะสุขภาพอื่น ๆ โดยมีการเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว ตรวจวัดความดันโลหิต และตรวจโรคอ้วนรวมถึงการวัดรอบเอวและเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย

นอกจากนี้ กิจกรรมยังมี ฐานอาหารสุขภาพดี ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้ร่วมกิจกรรมเรียนรู้เรื่องโภชนาการอย่างสนุกสนาน ผ่านเกมทายหมวดหมู่อาหาร เกมทายน้ำตาลในเครื่องดื่ม และเกมทายพลังงานอาหาร เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการกินที่ดีต่อสุขภาพและลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือ ฐานแข่งขันอูลาฮูป ที่ผู้เข้าร่วมสามารถฝึกความคล่องตัวและรับของรางวัลที่ระลึก กิจกรรมนี้ช่วยส่งเสริมการออกกำลังกายและความตระหนักในการดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของคณะแพทยศาสตร์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการสร้าง สังคมสุขภาพดี สนับสนุน SDG3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being) ทั้งในระดับบุคคลและชุมชน

การให้บริการตรวจสุขภาพและให้ความรู้เชิงรุกเช่นนี้ ช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคและปรับพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม สร้างโอกาสให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพและลดภาระต่อระบบสาธารณสุข

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรยังยืนยันบทบาท โรงเรียนแพทย์ระดับโลก ที่มุ่งสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และร่วมพัฒนาสังคมที่มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ทั้งการเรียนการสอน การวิจัย และการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม “พัฒนาจิตให้เกิดปัญญา” เสริมสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 สโมสรบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “พัฒนาจิตให้เกิดปัญญา” ในหัวข้อ “เหตุต้น…ผลกรรม” เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางกายและใจของบุคลากร พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG3: Good Health and Well-being)

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ จินต์วุฒิ รองคณบดีฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลและสื่อสารองค์กร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาเป็นวิทยากรบรรยาย ถ่ายทอดความรู้ด้านหลักกรรมและการพัฒนาจิตใจอย่างเป็นระบบ

เนื้อหาการบรรยายได้มุ่งเน้นไปที่ กฎแห่งกรรม และการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลของการกระทำ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงผลลัพธ์ที่ตามมา พร้อมทั้งสามารถประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติและความรับผิดชอบ

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม พัฒนาจิตเพื่อความสงบ ผ่านการฝึกสมาธิ การกำหนดลมหายใจ และการเจริญสติ ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถสร้างสมาธิและความผ่อนคลาย ลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้าง พื้นที่เรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างบุคลากรและผู้บริหาร โดยใช้กิจกรรมทางจิตใจมาเป็นเครื่องมือเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร และเป็นการสนับสนุนวัฒนธรรมการดูแลสุขภาพองค์รวม

สุขภาพที่ดีไม่ได้หมายถึงเพียงสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึง สุขภาพจิต ที่มั่นคง ซึ่งจะช่วยให้บุคลากรมีพลังในการทำงาน มีประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือกับความท้าทายในชีวิตประจำวันได้อย่างมีสติ

กิจกรรม “พัฒนาจิตให้เกิดปัญญา” จึงสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG3 ที่มุ่งเน้นการรับรองการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างได้รับทั้งความรู้และประสบการณ์ตรงจากการฝึกปฏิบัติจริง ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีในชีวิตประจำวัน อันเป็นการสร้างสมดุลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งในเชิงวิชาชีพและด้านจิตใจ เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพและความสุขที่ยั่งยืน

ท้ายที่สุด กิจกรรมในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับบุคลากร แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ตามแนวทาง SDG3: Good Health and Well-being อย่างเป็นรูปธรรม

คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.นเรศวร เปิดโครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชน ปี 2567 เตรียมนิสิตสู่การทำงานในชุมชน

ในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดการประชุมครูพี่เลี้ยง โครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชน สำหรับนิสิตหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอนามัยชุมชน ชั้นปีที่ 4 โดยมี ผศ.ดร.กานต์พิชชา เกียรติกิจโรจน์ รองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผน เป็นประธานในพิธีเปิดงานและกล่าวต้อนรับ พร้อมทั้งให้โอวาทแก่นิสิตที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยมี ผศ.ดร.ธนัช กนกเทศ ประธานหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอนามัยชุมชน เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ และ รศ.ดร.ณรงค์ศักดิ์ หนูสอน หัวหน้าสาขาวิชาอนามัยชุมชน เป็นผู้กล่าวชี้แจงรายละเอียดและแนวทางการปฏิบัติให้แก่ครูพี่เลี้ยงจากสถานที่ฝึกปฏิบัติงานทั่วประเทศ.

วัตถุประสงค์ของโครงการ โครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชนมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมให้นิสิตได้ลงมือปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในระดับปฐมภูมิ การจัดการระบบสุขภาพในชุมชน และการทำงานร่วมกับครูพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ในการให้บริการสุขภาพในพื้นที่ชุมชน.

การฝึกประสบการณ์นี้จะช่วยให้นิสิตได้ฝึกฝนทักษะในด้านการวางแผนและการบริหารจัดการด้านสุขภาพชุมชน รวมทั้งทำความเข้าใจในบทบาทของสาธารณสุขในระดับท้องถิ่น การทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชน รวมถึงการเข้าใจถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานจริง.

การฝึกงานที่สำคัญและความร่วมมือกับครูพี่เลี้ยง การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการ ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ การ ปฏิบัติตัว และการ ให้ข้อมูลกฎระเบียบต่าง ๆ สำหรับนิสิตที่กำลังจะเริ่มต้นฝึกงานในพื้นที่จริง ซึ่งครูพี่เลี้ยงจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จะช่วยแนะนำและคอยดูแลนักศึกษาในการปฏิบัติงานในพื้นที่ชุมชน.

นิสิตจะได้มีโอกาส พบปะ และ พูดคุย กับครูพี่เลี้ยงและอาจารย์ผู้ดูแลโครงการ เพื่อ สอบถามปัญหาหรืออุปสรรค ที่อาจเกิดขึ้นในการฝึกงานและการให้บริการสุขภาพในชุมชน รวมถึงการได้รับคำแนะนำในการพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจริง.

การพบปะนี้ยังเป็นโอกาสที่นิสิตจะได้ เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ในการทำงานในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบสุขภาพชุมชน.

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชนนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายที่ 3 (Good Health and Well-being) และ เป้าหมายที่ 11 (Sustainable Cities and Communities) ของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคนในชุมชน.

โดยเฉพาะในส่วนของ SDGs 3 ที่เน้นการ ส่งเสริมสุขภาพที่ดี และการ ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงบริการสุขภาพ โครงการฝึกประสบการณ์นี้จะช่วยเตรียมทักษะและความรู้ในการให้บริการสุขภาพในชุมชนให้แก่ผู้ที่จำเป็นต้องการดูแลในด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคอย่างยั่งยืน.

ส่วนในด้าน SDGs 11 โครงการนี้ช่วยส่งเสริม การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน โดยการเตรียมผู้ที่มีความรู้ในด้านการดูแลสุขภาพให้สามารถทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อสร้างระบบสุขภาพที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

การเตรียมตัวและความพร้อมก่อนการลงพื้นที่ นิสิตทุกคนที่เข้าร่วมโครงการจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ กระบวนการปฏิบัติงาน และ แนวทางการดูแลสุขภาพ ในพื้นที่ชุมชนอย่างละเอียดจากครูพี่เลี้ยง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจในการลงพื้นที่และสามารถ ประยุกต์ใช้ความรู้ จากการเรียนในห้องเรียนเข้าสู่การปฏิบัติในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

การจัดกิจกรรมนี้จึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้นิสิตได้ฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการ พัฒนาสังคมและชุมชน และช่วยสร้าง ระบบสุขภาพที่ยั่งยืน โดยการฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริงซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน.

โครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชนประจำปีการศึกษา 2567 ของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นโครงการที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตในการทำงานจริงในชุมชน โดยการสร้างความรู้และทักษะในการให้บริการสุขภาพและการบริหารจัดการระบบสุขภาพในพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นการสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพและการพัฒนาชุมชน โดยการร่วมมือกับครูพี่เลี้ยงจากโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุขต่างๆ.

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร สร้างความปลอดภัยให้นักเรียนด้วยทักษะการใช้บริการรถโดยสาร

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมเพิ่มพูนความรู้และทักษะพื้นฐานนอกห้องเรียนให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยในการใช้บริการรถบัสหรือรถโดยสารสาธารณะ เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตที่ยั่งยืนและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG3 ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ SDG11 ด้านความปลอดภัยและความยั่งยืนของเมืองและชุมชน

กิจกรรมครั้งนี้ดำเนินการโดย นายวารินทร์ ทรัพย์เขต และนายพนม ศรีดี บุคลากรหน่วยยานพาหนะ งานกิจการทั่วไป โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นผู้บรรยายให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยพื้นฐาน และการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเมื่อต้องใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ

การบรรยายครอบคลุมการตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะ และการระบุจุดติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ประตูทางออกฉุกเฉิน ตลอดจนวิธีการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด

นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตปฏิบัติเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือและการอพยพฉุกเฉิน ทำให้นักเรียนเกิดความตระหนักและสามารถป้องกันตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเป้าหมาย SDG3 และ SDG11 ที่มุ่งสร้างความปลอดภัยในชีวิตประจำวันและชุมชน

กิจกรรมครั้งนี้ช่วยส่งเสริมความรับผิดชอบต่อชีวิตตนเองและเพื่อนร่วมทาง สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยภายในโรงเรียนและชุมชน

การจัดอบรมยังช่วยให้นักเรียนมีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ สามารถปรับตัวและตัดสินใจอย่างปลอดภัยในสถานการณ์จริง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัยในการพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน และสามารถใช้ชีวิตในสังคมอย่างปลอดภัย

โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร มุ่งหวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยป้องปรามอุบัติเหตุร้ายแรง สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะให้แก่นักเรียนอย่างยั่งยืน และสามารถนำความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงส่งต่อความปลอดภัยสู่ชุมชนและสังคมต่อไป

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin