ม.นเรศวร ชวนร่วมมือกันประหยัดพลังงาน

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการลดการใช้พลังงานภายในอาคาร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเชิญชวนบุคลากร นิสิต และผู้เกี่ยวข้องร่วมมือกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

หนึ่งในแนวทางง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้คือการปรับการใช้แสงสว่างในห้องเรียนและสำนักงาน เปิดหรือปิดไฟตามความจำเป็น และใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว

การปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนะนำให้ตั้งอุณหภูมิในช่วง 25-30 องศาเซลเซียส และเปิดพัดลมเพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศภายในห้อง ช่วยให้ความเย็นกระจายทั่วห้องโดยไม่ทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไป

การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้งานก็เป็นอีกวิธีที่สามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างมาก เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดยังคงใช้พลังงานแม้จะปิดอยู่ การปฏิบัตินี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอัคคีภัยจากไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานอย่างปลอดภัย

การเดินบันไดแทนการใช้ลิฟท์ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ง่ายและได้ผล ไม่เพียงแต่ช่วยลดการใช้พลังงานจากลิฟท์เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรและนิสิต เนื่องจากช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยรวม มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนในสังคม

ม.นเรศวร เดินหน้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ สร้างพลังงานสะอาดสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว

มหาวิทยาลัยนเรศวร ดำเนินการติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์ บนหลังคาอาคารต่าง ๆ ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย รวมถึงบริเวณ สระสุริโยทัย เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 12 เมกะวัตต์ สำหรับใช้ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายสู่การเป็น มหาวิทยาลัยสีเขียว ที่เน้นการใช้ พลังงานสะอาด และการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การดำเนินโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยและพันธมิตรทางพลังงาน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้ พลังงานหมุนเวียน ลดการพึ่งพา พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ยังเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มุ่งสร้างระบบพลังงานที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคุ้มค่าในระยะยาว

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้วางแผนบูรณาการ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เข้ากับระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคาร เพื่อควบคุมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวจะช่วยให้สามารถ ติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ และบริหารจัดการภาระโหลดไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม เป็นการ ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของมหาวิทยาลัยในระยะยาว

ในด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ พลังงานจากแสงอาทิตย์ ช่วยลดปริมาณการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ สู่บรรยากาศ ซึ่งเป็นการสนับสนุนเป้าหมายของการลดผลกระทบต่อ สภาพภูมิอากาศโลก และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างยั่งยืน โครงการนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางของประเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ สังคมคาร์บอนต่ำ และการใช้ เทคโนโลยีสะอาด เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ในมิติของการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีเป้าหมายที่จะใช้พื้นที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เป็น แหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานหมุนเวียน สำหรับนิสิต นักวิจัย และบุคลากร ตลอดจนเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานภายนอกที่สนใจด้านพลังงานทางเลือก การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่จริงจะช่วย ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต

โครงการดังกล่าวยังสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรงให้กับมหาวิทยาลัย จากการ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และเพิ่มความ มั่นคงทางพลังงาน ในระยะยาว การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำงบประมาณส่วนที่ประหยัดได้ไปใช้พัฒนา โครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนิสิตและบุคลากร

การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการพัฒนาเชิงโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการเป็นผู้นำด้าน พลังงานสะอาด และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เป็นอีกหนึ่ง “มุมของความยั่งยืนที่มอนอ” ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม และความพร้อมของมหาวิทยาลัยในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต

ม.นเรศวร เปิดหลักสูตรสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มุ่งสร้างผู้นำด้านพลังงานสะอาดเพื่ออนาคตยั่งยืน

บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร เชิญผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสมาร์ตกริดเทคโนโลยี ภายใต้การดูแลของ วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี ซึ่งมุ่งพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสมาร์ตกริด เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศสู่ความยั่งยืน และ ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ไม่สร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

หลักสูตรนี้ออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาเทคโนโลยีไฟฟ้าอัจฉริยะที่สามารถบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม พลังงานทดแทน และระบบดิจิทัล เพื่อสร้างนวัตกรรมพลังงานที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

สมาร์ตกริดเทคโนโลยี (Smart Grid Technology) ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบพลังงานในอนาคต ที่สามารถเชื่อมโยงการผลิต การกระจาย และการใช้พลังงานเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด ผ่านระบบควบคุมอัตโนมัติและการสื่อสารข้อมูลแบบเรียลไทม์ การเรียนรู้ในหลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจระบบดังกล่าวอย่างลึกซึ้ง และสามารถประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และระบบพลังงานหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เรียนจะได้เรียนรู้จาก ห้องปฏิบัติการสมาร์ตไมโครกริด (Smart Microgrid) ที่จำลองสถานการณ์จริง ช่วยให้สามารถฝึกวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาการจ่ายไฟฟ้าได้ในระดับระบบจริง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทำงานวิจัยร่วมกับโครงการระดับชาติ เพื่อพัฒนาแนวทางการจัดการพลังงานที่มีเสถียรภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากความรู้ทางเทคนิคแล้ว หลักสูตรยังส่งเสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม การวิจัย และการออกแบบระบบพลังงานที่คำนึงถึงความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีพลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียน

บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจะมีโอกาสทำงานในหน่วยงานพลังงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสามารถเป็นนักวิจัย นักพัฒนาเทคโนโลยี และที่ปรึกษาด้านระบบสมาร์ตกริดในระดับนานาชาติ ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์หลักสูตร: https://sgtech.nu.ac.th/
สมัครเรียนผ่านบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร: https://www.admission.graduate.nu.ac.th
Facebook: https://www.facebook.com/nu.sgtech
ติดต่อหน่วยบัณฑิตศึกษา โทร. 0 5596 3180 หรือ หน่วยประชาสัมพันธ์ โทร. 09 5363 5351

ม.นเรศวร ร่วมประชุม ASGC7 เสริมสร้างความร่วมมืออาเซียน มุ่งสู่อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 12 – วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี (SGtech) มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ประพิธาริ์ ธนารักษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และนิสิต SGtech เข้าร่วมการประชุม 7th ASEAN Smart Grid Congress (ASGC7): Smart Microgrid for ASEAN ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

การประชุมครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และผู้นำจากหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้าน เทคโนโลยีไมโครกริด (Smart Microgrid) ผ่านการบรรยายพิเศษ การนำเสนอผลงานวิจัย และการจัดปฏิบัติการเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ

เวที ASGC7 ถือเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเปิดโอกาสให้เครือข่ายนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือถึงแนวทาง การพัฒนาระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเทคนิค เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการเติบโตของภูมิภาคอย่างยั่งยืน

การเข้าร่วมของ SGtech สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นผู้นำด้าน พลังงานสะอาดและนวัตกรรมไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สู่นิสิต และขยายผลสู่การประยุกต์ใช้จริงในระดับสังคมและชุมชน ขณะเดียวกันยังเป็นการพัฒนาทักษะบุคลากรและนักศึกษาให้ก้าวทันเทคโนโลยีโลก

หนึ่งในสาระสำคัญที่ถูกย้ำในที่ประชุม คือ ความสำคัญของ การสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค (Partnerships for Sustainable Development) เพื่อบูรณาการงานวิจัยและการพัฒนาระบบพลังงานสะอาดร่วมกันในอาเซียน การทำงานแบบร่วมมือเช่นนี้ จะช่วยยกระดับความมั่นคงทางพลังงานและลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงพลังงาน

การประชุมยังตอกย้ำว่า เทคโนโลยีไมโครกริดและพลังงานทดแทนมีบทบาทสำคัญต่อ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ท้ายที่สุด การเข้าร่วม ASGC7 ของ SGtech ไม่เพียงเป็นเวทีถ่ายทอดองค์ความรู้และงานวิจัย แต่ยังเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ มุ่งสู่อนาคตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพื่อสร้างสังคมที่มั่นคงด้านพลังงานและเติบโตไปพร้อมกันอย่างสมดุล

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนา Energy Storage แลกเปลี่ยนนวัตกรรมพลังงานสะอาด

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี (SGtech) มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัช สุริวงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและกิจการนิสิต และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดธง เม่นสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ได้เข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงานด้าน Energy Storage ภายใต้หัวข้อ “Renewable Energy and MicroGrid Technology” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม 2567

การสัมมนาในครั้งนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบไมโครกริด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมจากหลายหน่วยงานได้เรียนรู้แนวโน้มและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บพลังงานและการจัดการระบบพลังงานอัจฉริยะ

ภายในงาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดธง เม่นสิน ได้บรรยายในหัวข้อ “Smart Microgrid Zero Net Energy (ZNE) concept implementation at Naresuan University” โดยเน้นย้ำถึงการพัฒนาแนวคิด Smart Microgrid ที่สามารถนำไปสู่การจัดการพลังงานภายในมหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยผลักดันเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในระยะยาว

การนำเสนอครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด และการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในด้านการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างต้นแบบให้กับสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ในการพัฒนาระบบพลังงานที่มีความยืดหยุ่นและเป็นมิตรต่อสังคม

นอกจากนี้ การเข้าร่วมสัมมนายังเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภายนอก ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงวิชาการและประสบการณ์จริง เพื่อพัฒนานวัตกรรมและแนวทางใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในอนาคต

ความร่วมมือดังกล่าวยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพของนักวิจัย อาจารย์ และบุคลากรในการขยายผลงานวิจัยด้านพลังงานไปสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์และสังคม โดยเชื่อมโยงการวิจัยเข้ากับการใช้ประโยชน์ในระดับชุมชนและระดับประเทศ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

ในภาพรวม การเข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงานครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และการสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านพลังงานและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในอนาคต

ที่มา: วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนา Smart Cities เสริมงานวิจัยพลังงานสะอาด

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม – วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ดร.จักรกฤษ เติมฤทธิกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมด้วยคุณสรวุฒิ จิตตานนท์ นิสิตหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสมาร์ตกริดเทคโนโลยี เข้าร่วมสัมมนาวิชาการ The 10th IEEE International Smart Cities Conference ภายใต้หัวข้อ “Smart Cities : Revolution for Mankind” ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

การเข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้เปิดโอกาสให้คณะผู้เข้าร่วมจากมหาวิทยาลัยนเรศวร แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้าน สมาร์ตซิตี้และพลังงานอัจฉริยะ กับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและนวัตกรรมระหว่างประเทศ

คุณสรวุฒิ จิตตานนท์ ได้นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ “Photovoltaic Surface Environmental Contaminant Detection Based on Saliency Prediction” ซึ่งมุ่งเน้นการตรวจจับสิ่งปนเปื้อนบนพื้นผิวของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

การนำเสนอผลงานวิจัยครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานวัตกรรม พลังงานสะอาดและยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของเมืองอัจฉริยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สัมมนาครั้งนี้ยังเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดด้าน เทคโนโลยีสมาร์ตกริด การจัดการพลังงานอัจฉริยะ การใช้ IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในเมืองและชุมชนให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานยังส่งเสริมการสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและระบบพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค

การมีส่วนร่วมในสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านพลังงาน พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชนและเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืนในอนาคต

ม.นเรศวร ขับเคลื่อนพลังงานทดแทนสู่ชุมชนในงาน TREC-17

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม – วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.พิสิษฏ์ มณีโชติ อาจารย์ประจำวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี (SGtech) มหาวิทยาลัยนเรศวร และนายกสมาคมพลังงานทดแทนสู่ชุมชน ได้เข้าร่วมงานประชุมสัมมนาวิชาการ พลังงานทดแทนสู่ชุมชนแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 (TREC-17) ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ในการประชุมครั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.พิสิษฏ์ ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มการพัฒนาพลังงานทดแทนในชุมชน รวมถึงโครงการและนวัตกรรมที่มหาวิทยาลัยนเรศวรมีส่วนร่วม เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

งานสัมมนามุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสะอาดในชุมชน และแนวทางการพัฒนาระบบพลังงานอัจฉริยะ โดยมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ

การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน พร้อมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.พิสิษฏ์ ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทนจากหลายพื้นที่ เพื่อพัฒนากรอบความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคอุตสาหกรรม

การประชุมนี้ยังเปิดโอกาสในการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือด้านพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งจะช่วยขยายผลการวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์และชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

โดยสรุป การเข้าร่วมงานประชุม TREC-17 ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน พลังงานทดแทนและความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับประเทศและระดับภูมิภาค

เครดิตภาพ : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ม.นเรศวร เดินหน้าสู่พลังงานสะอาด จับมือเอกชนติดตั้งระบบโซลาร์ 12 MWp หนุนเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ บริษัท เพาเวอร์ซิสเต็มส์แอนด์โซลูชั่นส์ จำกัด จัดพิธีลงนามสัญญาโครงการติดตั้งและให้บริการระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมคณะผู้บริหาร และนายนครินทร์ ไทรงามสถิต กรรมการบริษัทฯ เข้าร่วมพิธี ณ ห้องนเรศวร 310 อาคารสำนักงานอธิการบดี ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

โครงการดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนสู่การใช้ พลังงานสะอาด และ พลังงานยั่งยืน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสนับสนุนนโยบายการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ตามสัญญา การติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีขนาดกำลังติดตั้งรวม 12 MWp ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 20 ล้านหน่วยต่อปี และคาดว่าจะช่วยมหาวิทยาลัยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานตลอดอายุสัญญาลงได้กว่า 395,100,919 บาท ถือเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

บริษัท เพาเวอร์ซิสเต็มส์แอนด์โซลูชั่นส์ จำกัด จะเป็นผู้ดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าตลอดระยะเวลาโครงการ 12 ปี เพื่อให้ระบบดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นในความมั่นคงทางพลังงานของมหาวิทยาลัย

การดำเนินโครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการเป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้ พลังงานยั่งยืน และเดินหน้าสู่ความเป็น มหาวิทยาลัยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านพลังงานและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โครงการดังกล่าวยังเป็นตัวอย่างที่ดีของ การมีส่วนร่วม ระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ในการบูรณาการความรู้ เทคโนโลยี และทรัพยากร เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด ที่สามารถขยายผลและเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานอื่น ๆ ต่อไป

มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำบทบาทในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนในระบบ พลังงานสะอาด และการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เพื่อผลักดันเป้าหมายการลดโลกร้อน และสร้างสังคมที่พร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต

ม.นเรศวร จับมือ Hawaii Energy Institute ส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานทดแทน

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ Prof. Dr. Richard Rocheleau ผู้อำนวยการ Hawaii Energy Institute (HNEI), University of Hawaii, สหรัฐอเมริกา และ Dr. Cung Vu ในการหารือเชิงวิชาการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานทดแทน ณ ห้องสุพรรณกัลยา ชั้น 2 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร

การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือทางวิชาการและการวิจัยด้าน พลังงานทดแทน ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญทั้งในมิติของสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยผลักดันการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศ

นอกจากการหารือเชิงวิชาการแล้ว ยังมีการพูดคุยถึงการต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี กับ Hawaii Natural Energy Institute (HNEI), University of Hawaii เพื่อสานต่อความร่วมมือในการดำเนินโครงการด้านพลังงานสะอาดและการจัดการเทคโนโลยีสมาร์ตกริด

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมด้านพลังงานทดแทน โดยไม่เพียงแต่สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ แต่ยังมุ่งผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในระดับปฏิบัติ ซึ่งสามารถนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างคุ้มค่า

การเชื่อมโยงกับ HNEI ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยพลังงานชั้นนำของโลก ยังช่วยเปิดประตูให้มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เข้าถึงเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนนักวิจัย การพัฒนาองค์ความรู้ และการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล

ในระยะยาว ความร่วมมือดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมพลังงาน การจัดการระบบสมาร์ตกริด และการบริหารจัดการพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประเทศและภูมิภาคได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับ University of Hawaii ยังเป็นตัวอย่างของการ สร้างพันธมิตรระหว่างประเทศ ที่มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ถือเป็นกลไกสำคัญของการพัฒนาที่ไม่เพียงสร้างคุณค่าต่อสถาบันการศึกษา แต่ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานสะอาดและยั่งยืนในระดับประเทศและระดับโลก

ม.นเรศวร ถ่ายทอดความรู้ด้านการบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

วันที่ 20 – 22 สิงหาคม 2567 ดร.คงฤทธิ์ แม้นศิริ และคุณรัฐพร เงินมีศรี จาก งานนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเชิญจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ให้บรรยายและแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน การบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์

การบรรยายครั้งนี้มุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยี พลังงานทดแทน และวิธีการบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดความสูญเสียด้านพลังงานและเพิ่มความมั่นคงในการผลิตไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนแนวทางการตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบโซลาร์เซลล์ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาพลังงานสะอาดและการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในระดับประเทศ

กิจกรรมนี้ยังเปิดโอกาสให้นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจาก EGAT ได้ร่วมอภิปรายเกี่ยวกับ นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระบบผลิตไฟฟ้าและชุมชนต่าง ๆ

การเข้าร่วมกิจกรรมเป็นการสนับสนุนการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อร่วมพัฒนางานวิจัยและเทคโนโลยีพลังงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การบรรยายและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริม พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน

งานบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและถ่ายทอดความรู้ด้านพลังงานและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการสร้างสังคมที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ข้อมูลเพิ่มเติม: งานบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
โทรศัพท์: 055-963144 อีเมล: watcharaju@nu.ac.th

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin