ม.นเรศวร ร่วมเครือข่าย C-อพ.สธ. ขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะ สถาบันแม่ข่ายเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ “การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายเชิงประเด็นโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (C-อพ.สธ.)” ณ ราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล จังหวัดขอนแก่น จัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อรวมพลังเครือข่าย 9 แห่งทั่วประเทศในการขับเคลื่อนสถาบันการศึกษาไทยสู่การเป็น มหาวิทยาลัยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

การประชุมได้รับเกียรติจากนายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนและพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาการอุดมศึกษา เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวถึงบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ที่ต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การประชุมครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 9 แห่ง ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เน้นย้ำถึงการสร้างระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการเป็น มหาวิทยาลัยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ที่สามารถวัดผลและขยายผลได้จริง

ในฐานะแม่ข่ายของภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงเดินหน้าสนับสนุนสถาบันการศึกษาและชุมชนในเครือข่ายให้ร่วมกันพัฒนาแนวทางที่เหมาะสมต่อการปรับตัว ทั้งในด้านวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การประชุม C-อพ.สธ. จึงไม่ใช่เพียงเวทีเชิงวิชาการ แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงความร่วมมือของมหาวิทยาลัยกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยลดคาร์บอน พร้อมสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเป็นพลังสำคัญของประเทศในการขับเคลื่อนไปสู่การเป็น มหาวิทยาลัยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และเป็นต้นแบบด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ

ม.นเรศวร ผนึกกำลังนิคมสร้างตนเองบางระกำ พัฒนาครัวเรือนและอาชีพอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรูญ สารินทร์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี กล่าวเปิดการประชุมสร้างความเข้าใจในการดำเนินโครงการพัฒนาทุนมนุษย์และส่งเสริมมูลค่าเศรษฐกิจ-สังคม ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเป้าหมายสมาชิกนิคม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณาจารย์ ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ และแนวทางสร้างรายได้ให้ครัวเรือนสมาชิกนิคมสร้างตนเอง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ แนะนำเทคนิคการเพิ่มรายได้และการจัดการอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพและความต้องการของสมาชิกนิคม

กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย กลุ่มผู้เลี้ยงไก่ กลุ่มผู้ปลูกอ้อย กลุ่มผู้เลี้ยงปลา และกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งได้รับการอบรมด้านการจัดการอาชีพ การวางแผนการผลิต และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการออกหน่วยบริการวิชาการมหาวิทยาลัยนเรศวร (ภาคเหนือตอนล่าง) เพื่อให้ความรู้และแนวทางการพัฒนากลุ่มเป้าหมายสอดคล้องกับความต้องการเชิงพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งเน้นการนำผลงานวิชาการและองค์ความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ ถ่ายทอดสู่ชุมชนอย่างเหมาะสมและตรงประเด็นความต้องการ เพื่อสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ-สังคมให้แก่สมาชิกนิคม

การดำเนินโครงการครั้งนี้เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน ส่งเสริมการสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงแก่สมาชิกนิคม พร้อมต่อยอดความยั่งยืนในมิติสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ม.นเรศวร คว้ารางวัลเหรียญเงินจากเวทีนวัตกรรมนานาชาติ ณ เจนีวา

คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอแสดงความยินดีกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สนธยา นุ่มท้วม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร และ ดร.เสาวลักษณ์ รุ่งแจ้ง อาจารย์ประจำภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.สุดารัตน์ เจียมยั่งยืน จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในนามทีม “BetterWhite” ที่ได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากผลงานนวัตกรรมอาหารโปรตีนสูงจากไข่ขาว 100% ในงาน The 49th International Exhibition of Inventions Geneva ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

การประกวดนวัตกรรมระดับนานาชาติครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 21 เมษายน 2567 โดยมีผลงานจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ทั้งจากยุโรป เอเชีย และอเมริกา เข้าร่วมมากกว่า 1,000 ผลงาน ซึ่งนับเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยได้แสดงศักยภาพด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณภาพสู่สายตาชาวโลก

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ทำหน้าที่เป็นผู้คัดเลือกและสนับสนุนผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาของไทย จำนวน 37 แห่ง เพื่อเข้าร่วมประกวดในเวทีครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการพัฒนางานวิจัยที่สามารถต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรมได้จริง

ผลงานนวัตกรรมอาหารโปรตีนสูงจากไข่ขาว 100% ของทีม BetterWhite มีแนวคิดหลักในการใช้วัตถุดิบที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และผ่านกระบวนการวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่า สอดคล้องกับความต้องการของตลาดอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การได้รับรางวัลจากเวทีระดับโลกครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการยกระดับคุณภาพของงานวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการองค์ความรู้ด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเลิศทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการตอบโจทย์สังคม

นอกจากนี้ การเข้าร่วมเวทีเจนีวา ยังเปิดโอกาสให้นักวิจัยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมกับผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศ ซึ่งช่วยขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านวิจัย และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สากล

ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมนวัตกรรมการวิจัยสู่ภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและสามารถแข่งขันได้ในเวทีนานาชาติ พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่างแท้จริง

ม.นเรศวร จัดโครงการถอดรหัสมหัศจรรย์ ดินแดนถิ่นอาร์โคซอร์ ส่งเสริมคุณภาพการศึกษาพัฒนาท้องถิ่น สู่การเรียนรู้อย่างยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการ “ถอดรหัสมหัศจรรย์ ดินแดนถิ่นอาร์โคซอร์ บนพื้นแผ่นดินสูงเฉียดฟ้าอำเภอน้ำหนาว” ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่น โดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนฐานความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาและธรณีวิทยาของโรงเรียนน้ำหนาววิทยาคม

โครงการนี้เกิดจากการทำงานของทีมผู้วิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัจฉรา ศรีพันธ์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐเชษฐ์ พูลเจริญ, อาจารย์วรานนท์ คลังสีดา วรนรากุล และอาจารย์ธนชัย ก๋งพยา โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์สุด ปลื้มใจ จากวิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก เป็นวิทยากรพิเศษ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์ตรงให้แก่ผู้เรียน

กิจกรรมการเรียนรู้ถูกออกแบบอย่างสร้างสรรค์และทันสมัย เริ่มจาก กิจกรรมที่ 1 “ตามรอยไดโนเสาร์อาร์โคซอร์ 200 ล้านปี” ผ่านเทคโนโลยีแว่น VR ที่ช่วยเปิดมิติใหม่ของการเรียนรู้เสมือนจริง ตามด้วย กิจกรรมที่ 2 “องค์ความรู้ธรณีวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่น้ำหนาว” ซึ่งผู้เรียนได้ฝึกลงมือทำด้วยการประดิษฐ์กล่อง Hologram อย่างง่าย

นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมที่ 3 “สืบสานผ่านเรื่องราวท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชน” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้การถอดรหัสภูมิปัญญาท้องถิ่นและการจัดการทรัพยากร เพื่อต่อยอดสู่การสร้างธุรกิจในชุมชน และ กิจกรรมที่ 4 “พัฒนาตน พัฒนาอาชีพในโลกปัจจุบัน” ที่เน้นการเรียนรู้การวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบและการเตรียมความพร้อมสู่เส้นทางอาชีพที่มั่นคง

การดำเนินโครงการครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากโรงเรียนน้ำหนาววิทยาคม โดยนายนิรุทธ์ แก้วนิคม ผู้อำนวยการโรงเรียน และนางสาวมยุรี ทวีวันกิจ รองผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มอบหมายให้กลุ่มบริหารวิชาการและคณะครู นำนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ ณ ห้องประชุมอาคาร 3 ของโรงเรียน

กิจกรรมในครั้งนี้ช่วยสร้างโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เชื่อมโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ธรณีวิทยา และสิ่งแวดล้อม เข้ากับการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังปลูกฝังให้นักเรียนเห็นคุณค่าของท้องถิ่น และสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการสร้างอาชีพในอนาคต

โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมคุณภาพการศึกษาพัฒนาท้องถิ่น ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันอุดมศึกษา โรงเรียน และชุมชน เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง เข้าถึงได้ และสามารถขยายผลสู่การพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่อง

กิจกรรม “ถอดรหัสมหัศจรรย์ ดินแดนถิ่นอาร์โคซอร์” จึงไม่เพียงเป็นการเรียนรู้เชิงวิชาการ แต่ยังเป็นการ เสริมประสบการณ์เรียนรู้ที่น่าตื่นตา และส่งเสริมการเรียนรู้ ในหลายมิติ ตอกย้ำพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการ ที่ร่วมขับเคลื่อนการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่นให้เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ม.นเรศวร ผลักดันงานวิจัยสุขภาพสู่เวทีนานาชาติ ในงานประชุมสุดยอดสุขภาพพิภพโลก PHAM2024

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2567 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมงานประชุมสุดยอดสุขภาพพิภพโลก The 2024 Planetary Health Summit (PHAM2024) ณ Sunway University กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 20 เมษายน 2567 โดยมีนักวิจัยจากทั่วโลกเข้าร่วมนำเสนอผลงานเพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร เรื่อง Microplastic contamination in rivers: a survey from the Nan River, Thailand โดย ดร.สุดาวดี ยะสะกะ ได้รับคัดเลือกให้นำเสนอแบบ Oral Presentation ในเวทีนานาชาติครั้งนี้ และเป็น 1 ใน 27 ผลงานที่ได้รับโอกาสดังกล่าว นับเป็นความสำเร็จที่ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของสังคม

นอกจากนี้ บทคัดย่อของงานวิจัยดังกล่าวยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ Lancet Planetary Health โดยมี DOI: https://doi.org/10.1016/S2542-5196(24)00084-6 ซึ่งถือเป็นการเผยแพร่ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสู่สังคมวิชาการระดับโลก และเพิ่มโอกาสในการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงนโยบายด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

พร้อมกันนี้ ยังมีผลงานวิจัยอีก 2 เรื่อง จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้รับคัดเลือกให้นำเสนอในรูปแบบ Poster Presentation ได้แก่ เรื่อง Micro Formalin Contamination in Fresh Vegetables: A Health Assessment among University Students in Thailand โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ทิพย์ หินหุ้มเพ็ชร และเรื่อง Phosphate Adsorption from Aqueous Solutions by Composite Media Derived from Water Treatment Sludge and Spent Coffee Ground โดย อาจารย์ณัฐพงศ์ โปรยสุรินทร์

การเข้าร่วมนำเสนอผลงานวิจัยในครั้งนี้ ไม่เพียงแสดงถึงศักยภาพของนักวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวรในเวทีนานาชาติ แต่ยังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมร่วมกับนักวิจัยจากทั่วโลก อันเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการที่แข็งแกร่ง

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการบูรณาการสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ของสังคมโลก ทั้งในด้านมลพิษ ไมโครพลาสติก สารเคมีตกค้าง และการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยมุ่งผลักดันให้งานวิจัยสามารถต่อยอดไปสู่การแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและประเทศ

การมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยนเรศวรในเวทีระดับโลกครั้งนี้ สะท้อนถึงการทำงานเชิงรุกที่เน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และเพื่อผลักดันให้งานวิจัยจากประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลก

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงเดินหน้าผลักดันงานวิจัยด้านสุขภาพที่มีคุณภาพสูง ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาสังคมให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น และเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาความรู้ที่นำไปสู่สังคมโลกที่ยั่งยืนและเป็นธรรม

ม.นเรศวร ได้รับการประเมิน “มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพระดับ 4 ดาว” จากเครือข่าย AUN-HPN

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับการประเมินในระดับ 4 ดาว จาก เครือข่ายมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพแห่งอาเซียน (ASEAN University Network – Health Promotion Network : AUN-HPN) ภายใต้เกณฑ์ Healthy University Rating System (HURS) ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จของมหาวิทยาลัยในการดำเนินงานเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการเรียนรู้และการทำงาน รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพของนิสิตและบุคลากรในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง การได้รับรางวัลในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการพัฒนาและยกระดับสุขภาพกายและจิตของชุมชนมหาวิทยาลัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

การได้รับการประเมินเป็น “มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพระดับ 4 ดาว” ถือเป็นรางวัลอันทรงคุณค่า และเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมสุขภาวะของนิสิตและบุคลากร โดยเน้นทั้งด้าน สุขภาพกาย สุขภาพจิต และคุณภาพชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ให้มีความสมดุลและปลอดภัย สิ่งนี้สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ให้ความสำคัญต่อมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสถาบันอุดมศึกษา

ในโอกาสที่ได้รับการประเมินครั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.อรรถกร ทองทา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ได้เป็นผู้แทนของมหาวิทยาลัยเข้าร่วม การประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพระดับชาติ ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 มีนาคม 2567 ณ ห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลรูม โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แนวทาง และประสบการณ์การดำเนินงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพในสถาบันอุดมศึกษา

ในการประชุมวิชาการดังกล่าว ได้มีการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ การพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขภาพในมหาวิทยาลัย รวมถึงแนวทางการจัดการสุขภาพจิตและสุขภาพกายของนักศึกษาและบุคลากร โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค อันเป็นการสนับสนุนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพของประชาคมอาเซียน

รางวัล Healthy University Rating System (HURS) เป็นระบบการประเมินที่มุ่งเน้นการยกระดับมหาวิทยาลัยให้เป็น “มหาวิทยาลัยส่งเสริมสุขภาพ (Healthy University)” โดยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิต การจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพ และการสร้างสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาวะ การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับการประเมินในระดับ 4 ดาว จึงเป็นหลักฐานแสดงถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่องในการส่งเสริมสุขภาพของชุมชนมหาวิทยาลัย

การส่งเสริมสุขภาพในระดับสถาบันอุดมศึกษาเป็นพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้ดำเนินงานอย่างจริงจังผ่านการจัดโครงการ กิจกรรม และนโยบายต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมแห่งสุขภาวะในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการออกกำลังกาย การส่งเสริมโภชนาการที่เหมาะสม การจัดพื้นที่สีเขียว และการดูแลสุขภาพจิตของนิสิตและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

มหาวิทยาลัยส่งเสริมสุขภาพ ของมหาวิทยาลัยนเรศวรจึงไม่เพียงเป็นแนวคิดเชิงนโยบาย แต่เป็นการลงมือปฏิบัติจริงที่มีผลลัพธ์ชัดเจนในระดับประเทศและระดับอาเซียน การได้รับการประเมินระดับ 4 ดาว ในครั้งนี้ ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญให้มหาวิทยาลัยเดินหน้าพัฒนาสู่การเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นต้นแบบของการจัดการสุขภาพในสถาบันอุดมศึกษาอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ การได้รับรางวัลยังสะท้อนถึง ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ที่มุ่งสร้างเครือข่ายการเรียนรู้และการวิจัยร่วมกันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาคมในวงกว้าง ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนสังคมสู่สุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร เข้าร่วมประชุมวิชาการสร้างเสริมสุขภาพระดับชาติ ครั้งที่ 2 และรับรางวัล Healthy University Rating System 2023 ระดับ 4 ดาว

เมื่อวันที่ 21-22 มีนาคม 2567 คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ รศ.ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ พร้อมด้วย ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ดร.รมย์นลิน เขียนจูม ได้เข้าร่วม การประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพระดับชาติ ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ เครือข่าย Thai University Network – Health Promotion Network (TUN-HPN) ในหัวข้อสำคัญ “Building a Culture of Health Promotion: Fostering Mental Health Awareness and Support on Campus” ณ ห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลรูม โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ

การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการ ส่งเสริมสุขภาพ ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องของ สุขภาพจิต โดยเฉพาะในกลุ่มนิสิตและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงการพัฒนาแนวทางการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตในแคมปัส โดยมีการแชร์ประสบการณ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทยและอาเซียนที่มีส่วนร่วมในเครือข่าย.

การจัดงานประชุมวิชาการในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และจัดขึ้นโดย สำนักงานเลขาธิการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียนด้านการสร้างเสริมสุขภาพ (ASEAN University Network-Health Promotion Network AUN-HPN) ภายใต้ความร่วมมือของมหาวิทยาลัยแกนนำในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาศักยภาพด้านการสร้างเสริมสุขภาพในมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการของเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศไทยและอาเซียน

หัวข้อสำคัญของการประชุมในปีนี้ คือ “การสร้างวัฒนธรรมการส่งเสริมสุขภาพ: การส่งเสริมความตระหนักและการสนับสนุนสุขภาพจิตในแคมปัส” ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตในชุมชนมหาวิทยาลัย การสร้างพื้นที่ปลอดภัยและสนับสนุนด้านจิตใจสำหรับนักศึกษาและบุคลากรถือเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDG 3 (Good Health and Well-being) ที่มุ่งเน้นให้ผู้คนมีสุขภาพดีและการดูแลสุขภาพจิตเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมสุขภาพในระดับสากล โดยในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการพูดถึงแนวทางการปรับปรุงนโยบายและการนำเสนอแผนงานที่สามารถส่งเสริมสุขภาพจิตในหมู่นักศึกษาและบุคลากรในสถาบันการศึกษาอย่างยั่งยืน

ในงานนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติในการรับ รางวัล Healthy University Rating System (HURS) 2023 ในระดับ 4 ดาว ซึ่งถือเป็นการยอมรับถึงความสำเร็จในการส่งเสริมสุขภาพและการดูแลความเป็นอยู่ของนิสิตและบุคลากรในมหาวิทยาลัย คณะสาธารณสุขศาสตร์และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมแสดงความยินดีและขอแสดงความขอบคุณทีมงานที่ทำงานร่วมกันจนสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญนี้ได้ โดย รศ.ดร.อรรถกร ทองทา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นตัวแทนในการรับมอบรางวัลดังกล่าว

การได้รับ รางวัล Healthy University Rating System (HURS) ในระดับ 4 ดาว นั้นเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการดำเนินงานเพื่อสร้าง ชุมชนสุขภาพ ที่ดีและยั่งยืนในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในด้านการดูแลสุขภาพจิต การส่งเสริมสุขภาพกาย และการสนับสนุนในด้านการพัฒนาแหล่งทรัพยากรมนุษย์ที่มีสุขภาพดี การพัฒนานี้สามารถส่งผลบวกต่อทั้งนิสิตและบุคลากรในระยะยาว

นอกจากนี้ รางวัลนี้ยังเป็นการยืนยันถึงความร่วมมือในระดับ SDGs 17 (Partnerships for the Goals) ซึ่งเน้นการสร้างพันธมิตรและความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ โดยเฉพาะในเรื่องของ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องในทุกๆ ปี.

การเข้าร่วม ประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพระดับชาติ ครั้งที่ 2 ของเครือข่าย TUN-HPN และการได้รับรางวัล Healthy University Rating System (HURS) 2023 ในระดับ 4 ดาว ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จในด้านการส่งเสริมสุขภาพในมหาวิทยาลัย ทั้งในด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 3 และ SDG 17 นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการสร้าง พันธมิตรทางวิชาการและการร่วมมือระหว่างประเทศ ในการพัฒนาสุขภาพของนักศึกษาและบุคลากรในระดับสากล.

ม.นเรศวร ส่งเสริม ขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรมไทย สร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมลักษณ์ วรรณฤมล กีเยลาโรว่า ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร นำทีมบุคลากรอุทยานฯ เข้าร่วมการสัมมนา “ปลดล็อกมหา’ลัย ขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรมไทย สู่เป้าหมาย 1,000 x 1,000 ร่วมสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท” (ภาคเหนือ) จัดโดยสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ณ NSP Rice Grain Auditorium อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่

การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) เพื่อยกระดับธุรกิจนวัตกรรมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข่งขันได้ในระดับสากล ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการ ส่งเสริมการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์

ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ กล่าวเปิดงาน พร้อมบรรยายในหัวข้อ “การจัดตั้งและดำเนินการ University Holding Company” ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการพัฒนากลไกการลงทุนและความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ภาครัฐ และภาคเอกชน

นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายในหัวข้อ “การปลดล็อกระบบนิเวศเพื่อส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรมไทย” และ “นโยบายส่งเสริมการร่วมลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” โดยเฉพาะการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2566 ที่มุ่งเน้นการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม

ในช่วงเสวนาปิดท้าย มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางในหัวข้อ “การส่งเสริม Startup/Spin-Off จากงานวิจัยและนวัตกรรม” ซึ่งเป็นเวทีให้ผู้เข้าร่วมได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จ และแนวทางการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมในอนาคต โดยอาศัยความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน

การเข้าร่วมสัมมนาของอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยในการ ส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับประเทศ เพื่อพัฒนากลไกการลงทุนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบนวัตกรรมไทย

นอกจากนั้น ความร่วมมือที่เกิดขึ้นยังสะท้อนถึงการบูรณาการระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ภาครัฐ และเอกชน ในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

การสัมมนาครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ยังเป็น พลังขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรมไทย ให้เติบโตบนพื้นฐานของความร่วมมือ และการสร้างคุณค่าใหม่ที่ยั่งยืนต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในอนาคต

ม.นเรศวร ตรวจสอบอาหารทุกขั้นตอน มั่นใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินการสุ่มตรวจคุณภาพอาหารในศูนย์อาหาร NU Square และศูนย์อาหาร NU Canteen โดยใช้เครื่องวัดความเค็ม (Salt meter) เพื่อตรวจสอบปริมาณเกลือและโซเดียมในอาหารที่จำหน่ายให้กับนิสิตและประชาชนผู้ใช้บริการ ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยทางอาหารและสุขภาพของผู้บริโภค

การตรวจสอบครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อประเมินคุณภาพอาหารที่จำหน่ายภายในมหาวิทยาลัย ว่ามีความเหมาะสมต่อการบริโภคและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็น

นอกจากนี้ การตรวจสอบคุณภาพอาหารยังสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาความยั่งยืนด้านอาหาร ที่มุ่งเน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการมีพฤติกรรมการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ การลดโซเดียมในอาหารถือเป็นมาตรการสำคัญในการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ควบคู่ไปกับการลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในอนาคต

การดำเนินงานในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภาครัฐในระดับท้องถิ่น เพื่อยกระดับคุณภาพอาหารและความปลอดภัยทางโภชนาการ การผนึกกำลังกันเช่นนี้ช่วยเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสามารถเป็นต้นแบบให้กับสถานศึกษาและชุมชนอื่น ๆ

อีกทั้ง มหาวิทยาลัยนเรศวรยังให้ความสำคัญกับการเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านการสร้างเสริมสุขภาพของนิสิตและบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย ผ่านการจัดการสิ่งแวดล้อมด้านอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ

การตรวจสอบคุณภาพอาหารที่ดำเนินการครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การควบคุมมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารภายในมหาวิทยาลัย ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดการใช้เกลือและโซเดียมในกระบวนการปรุงอาหาร เพื่อร่วมกันสร้างสังคมการกินที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ท้ายที่สุด การร่วมมือของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลกครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังของการบูรณาการเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมด้านความมั่นคงทางอาหาร และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับมหาวิทยาลัย

ม.นเรศวร ลงนาม MOU ร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพ AACI ส่งเสริมมาตรฐาน GHA เพื่อยกระดับบริการสุขภาพ

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 รศ.ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับภาคีเครือข่ายในการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพ (AACI) โดยมี ผศ.พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์, นพ.สมพร คำผง กรรมการบริหารสถาบัน AACI, รองประธานอาวุโส AACI อเมริกา และคุณเรวัต เด่นจักรวาฬ กรรมการผู้จัดการ AACI เอเชียแปซิฟิก ร่วมลงนามในครั้งนี้ ณ บริเวณโถงชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 2

วัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ โครงการสัมมนามาตรฐานภาคีเครือข่ายในการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพ (AACI) และการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมให้ผู้บริหารและบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร รวมถึงผู้บริหารจากคณะอื่นๆ ในมหาวิทยาลัย ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐาน GHA (Global Health Accreditation) และ AACI (Asian Association for Clinical Improvement) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพ

การลงนามใน MOU ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรและภาคีเครือข่ายต่างๆ เช่น GHA, AACI และ Planetree ในการพัฒนาคุณภาพการบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับบริการทางการแพทย์และสุขภาพในมหาวิทยาลัยนเรศวรและชุมชนในระดับประเทศ

กิจกรรมภายในโครงการ โครงการสัมมนาครั้งนี้มีการจัดอบรมเพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ ได้เรียนรู้ถึงมาตรฐาน AACI และ GHA ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาคุณภาพการบริการสุขภาพในด้านต่างๆ เช่น การปรับปรุงกระบวนการทำงานของโรงพยาบาล การยกระดับมาตรฐานการรักษาผู้ป่วย และการสร้างความยั่งยืนในระบบบริการสุขภาพ

นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดข้อมูลและแนวทางการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพผ่านการอบรมออนไลน์ทาง Zoom Meeting ซึ่งมีผู้บริหารและบุคลากรจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รวมถึงคณะอื่นๆ และบุคลากรสายสนับสนุนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน

ความสำคัญและการส่งเสริม SDGs 3 และ 17 การลงนาม MOU และการจัดสัมมนาครั้งนี้สอดคล้องกับ SDG 3: การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งเน้นการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและการพัฒนาบริการทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพที่สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและบริการสุขภาพอย่างยั่งยืน โดยการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรและภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อการพัฒนาคุณภาพการบริการสุขภาพในระยะยาว

การลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นี้เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการบริการสุขภาพและส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรต่างๆ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญในวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยนเรศวร.

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin