ม.นเรศวร ร่วมจัดนิทรรศการแนะนำหลักสูตร ในงาน ONE STOP OPEN HOUSE 2024

วันที่ 27 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567: มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมจัดนิทรรศการแนะนำหลักสูตรในงาน ONE STOP OPEN HOUSE 2024 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 2 บูธ B1 โดยมีอาจารย์ บุคลากร พี่นิสิต และพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยมาร่วมให้ข้อมูลและแนะนำหลักสูตรที่นักเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสนใจศึกษาต่อมากที่สุดในระดับปริญญาตรี

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้นำเสนอหลักสูตรที่หลากหลายที่นักเรียนสามารถเลือกศึกษาต่อได้ พร้อมทั้งมีการแสดงนวัตกรรมด้านการศึกษาและการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นแนวทางให้นักเรียนที่กำลังตัดสินใจเลือกสถานศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี

งานนี้เป็นโอกาสสำคัญในการแนะนำโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะในส่วนของหลักสูตรที่เปิดสอนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคต

การจัดนิทรรศการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4 ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการศึกษาให้ทุกคนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างเท่าเทียม

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับนักเรียนและผู้ปกครอง รวมทั้งการได้พบปะกับบุคลากรและศิษย์เก่าที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ในการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย

การเข้าร่วมงาน ONE STOP OPEN HOUSE 2024 ในครั้งนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีได้มีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจเลือกสถานศึกษาและหลักสูตรที่ตรงกับความสนใจและความสามารถของตนเอง

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จับมือบริษัทน้ำตาลพิษณุโลก พัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลสู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท น้ำตาลพิษณุโลก จำกัด นำโดยนายเอกรัตน์ เตชะเวช กรรมการบริหารบริษัท ณ ห้องประชุมนเรศวร 304 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้มีความยั่งยืน

ความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล

รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการต่อยอดพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ” โดยการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่สามารถร่วมมือกับบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกในการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี และกระบวนการผลิตอ้อยและน้ำตาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ลดการเผาอ้อย ส่งเสริมเกษตรยั่งยืน

บริษัทน้ำตาลพิษณุโลกมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนเรศวรมากว่า 10 ปี โดยมีการต่ออายุข้อตกลงทุก 5 ปี เพื่อพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ซึ่งส่งผลให้การผลิตอ้อยสดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทสามารถลดการเผาอ้อยลงจนเหลือเพียง 3% จากทั้งหมด และตั้งเป้าให้การผลิตอ้อยในอนาคตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จากอ้อย

นายเอกรัตน์ เตชะเวช กรรมการบริหารบริษัทน้ำตาลพิษณุโลก กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอ้อยและน้ำตาลรายใหญ่อันดับสองของโลก กลุ่มไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกเป็นส่วนหนึ่ง มุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลสู่ความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การทดสอบพันธุ์อ้อยใหม่ การบริหารจัดการไร่อ้อย และการใช้ของเหลือจากกระบวนการผลิต เช่น กากอ้อย เพื่อนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ภาชนะจากกากอ้อย ไบโอพลาสติก และอาหารสัตว์

สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs

ความร่วมมือครั้งนี้ดำเนินการภายใต้กรอบของ SDG2 (การยุติความหิวโหย) โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวไร่อ้อย อีกทั้งยังสนับสนุน SDG17 (หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

วิจัยและพัฒนาต่อเนื่องเพื่อเศรษฐกิจไทย

มหาวิทยาลัยนเรศวรและบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกจะดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องในหลายด้าน เช่น วิทยาศาสตร์การเกษตร วิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมเกษตร เศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทย และส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ที่มา: ข่าว/ภาพ พิษณุโลกฮอตนิวส์

ม.เรศวร ร่วมเสริมสร้างความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการกฎหมาย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 16 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมที่สงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่โปร่งใสและเข้มแข็ง ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านกฎหมาย โดยกิจกรรมล่าสุดคือ “การให้คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้นแก่ประชาชน” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม

  1. หัวข้อและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
    • กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ทำอย่างไรเมื่อจะฟ้อง หรือถูกฟ้อง”
    • มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
      • กระบวนการทางกฎหมายในกรณีฟ้องร้อง
      • การเตรียมเอกสารที่จำเป็น
      • ขั้นตอนและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี
    • ให้บริการ คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้น แก่ประชาชน บุคลากร และนิสิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  2. ผู้ร่วมดำเนินกิจกรรม
    • ความร่วมมือระหว่าง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ สภาทนายความภาค 6
    • การผนึกกำลังนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานด้านกฎหมาย
  3. กลุ่มเป้าหมาย
    • ประชาชนในพื้นที่ ตำบลท่าโพธิ์
    • บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
    • ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
  4. วัน เวลา และสถานที่จัดกิจกรรม
    • วัน: อังคารที่ 3 ธันวาคม 2567
    • เวลา: 08.30 – 12.00 น.
    • สถานที่: บริเวณโถงชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  5. การลงทะเบียน
    • ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน QR Code หรือลิงก์ที่ระบุในประกาศ

กิจกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลากหลายมิติ ได้แก่

  • การลดความเหลื่อมล้ำ: ช่วยให้ประชาชนที่ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำปรึกษาด้านกฎหมาย
  • การเสริมสร้างความรู้: ส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม
  • การเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน: สนับสนุนให้ชุมชนมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหากฎหมายด้วยตัวเอง

การดำเนินงานของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้กรอบเป้าหมาย SDG 16 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมผ่านการส่งเสริมความยุติธรรมและการให้ความรู้แก่ประชาชนในวงกว้าง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน นอกจากนี้ยัง สะท้อนถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรวิชาชีพ โดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกับ สภาทนายความภาค 6 ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและวิชาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 17: เครือข่ายความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม

ม.นเรศวร ร่วมสถานทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก จัดนิทรรศการผ้าไทย ส่งเสริมความร่วมมือวัฒนธรรมไทย-เม็กซิโก

ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก จัด นิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทย เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผ้าไทยและแฟชั่นไทยในต่างประเทศ โดยการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในระดับสากลเกี่ยวกับคุณค่าของผ้าไทยและภูมิปัญญาในการทอผ้าที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมไทย รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมไทยกับประเทศเม็กซิโก ซึ่งมีความคล้ายคลึงในเรื่องของผ้าชาติพันธุ์.

การออกแบบและการจัดนิทรรศการ การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ได้รับการออกแบบและดำเนินการโดย ผศ. ชโรธรณ์ ทิพย์อุปถัมภ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ และ นางสาววรรณชลี กุลศรีไชย หัวหน้างานศิลปวัฒนธรรม กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านผ้าไทย โดยนิทรรศการเน้นการนำเสนอผ้าไทยและผ้าชาติพันธุ์ไทที่มีความคล้ายคลึงกับผ้าของประเทศเม็กซิโก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ.

นิทรรศการนี้ได้นำเสนอ ผ้าไทยในหลากหลายรูปแบบ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทอผ้า เช่น ผ้าไหมไทย ผ้าฝ้าย ผ้าลายทอมือ โดยมีการจัดแสดงผลงานศิลปะการทอผ้าที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องแต่งกาย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชาติไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากในงาน.

การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ การจัดนิทรรศการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความร่วมมือระหว่างไทยและเม็กซิโก โดยผ่านการนำเสนอผ้าไทยในมิติของ การส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น และ การเสริมสร้างอัตลักษณ์ของชาติ ผ่านภูมิปัญญาการทอผ้า นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศเม็กซิโกได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งอาจมีการพัฒนาเป็นความร่วมมือทางวัฒนธรรมในอนาคต.

ในบริบทของ การพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการส่งเสริม SDGs 11 ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน โดยการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งผ้าไทยถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สามารถสร้างความยั่งยืนในด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และสร้างความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของชาติ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ SDGs 17 ที่เน้นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยการเผยแพร่วัฒนธรรมและสร้างความเข้าใจร่วมกันในระดับสากล.

การตอบรับจากผู้เข้าชมนิทรรศการ การจัดนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทยในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมนิทรรศการในกรุงเม็กซิโกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการเผยแพร่ผ้าไทยและแฟชั่นไทยในระดับโลก รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผ่านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม. นิทรรศการดังกล่าวยังเป็นการยืนยันถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างประเทศไทยและเม็กซิโกในการส่งเสริมและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม.

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก (Embajada Real de Tailandia en México) ที่ได้ให้การสนับสนุนในการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ และขอขอบคุณผู้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการทุกท่านที่ให้ความสนใจในภูมิปัญญาผ้าไทย ซึ่งเป็นการร่วมมือที่สำคัญในการส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของไทยสู่สากล.

การจัดนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทยในกรุงเม็กซิโกนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และ การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการส่งเสริม การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและการสร้างความยั่งยืนในชุมชน ผ่านการส่งเสริมผ้าไทยและแฟชั่นไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ.

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนาและศึกษาดูงาน Energy Storage ในหัวข้อ “Renewable Energy and MicroGrid Technology”

รศ.ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย ผู้อำนวยการ SGtech พร้อมด้วย รศ.ดร.ธวัช สุริวงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและกิจการนิสิต และ ผศ.ดร.ยอดธง เม่นสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ เข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงาน Energy Storage ในหัวข้อ “Renewable Energy and MicroGrid Technology” เมื่อวันที่ 29-30 ตุลาคม 2567 โดย ผศ.ดร.ยอดธง เม่นสิน ได้บรรยายในหัวข้อ “Smart Microgrid Zero Net Energy (ZNE) concept implementation at Naresuan University”
ที่มา: วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดโครงการศึกษาดูงานเสริมความรู้ SDGs สู่พลเมืองโลกในสหประชาชาติ

ในระหว่างวันที่ 23 – 24 ตุลาคม 2567 ที่กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดโครงการศึกษาดูงานเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองโลกและส่งเสริมความเข้าใจในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการศึกษาดูงานในครั้งนี้เป็นการเยี่ยมชม คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้คือการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับ SDGs และบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศในระดับสากล รวมถึงการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษและการเจรจาในบริบทนานาชาติให้แก่บัณฑิตและนิสิตในมหาวิทยาลัยนเรศวร โครงการนี้มีส่วนสำคัญในการเปิดโอกาสให้แก่นิสิตได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากการทำงานขององค์กรระหว่างประเทศและสถานทูตในด้านการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในโลกปัจจุบัน

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยนเรศวรภายใต้โครงการ NU GO UN ซึ่งช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเข้มข้นสำหรับนิสิต โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะเภสัชศาสตร์ในเรื่องค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าที่พักสำหรับนิสิตจำนวนหนึ่ง เพื่อให้การศึกษาดูงานในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

การสนับสนุนในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสร้างโอกาสให้แก่นิสิต เพื่อให้สามารถเรียนรู้และเติบโตเป็นพลเมืองโลกที่มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในอนาคต ขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือในการสนับสนุนโครงการนี้ ทำให้เกิดประสบการณ์ที่มีคุณค่าและช่วยเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาอนาคตของนิสิตในด้านต่าง ๆ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเน้นการพัฒนาความรู้และทักษะที่มีคุณค่าให้แก่นิสิต เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมที่ดีและยั่งยืนในระดับโลกต่อไป

ที่มา: งานกิจการนิสิต คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร คว้ารางวัลที่ 3 ในโครงการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับประเทศ

นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร คว้ารางวัลที่ 3 ในโครงการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับประเทศ จากมูลนิธิรากแก้ว ในงาน National Exposition 2024 University Sustainability Showcase ในระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม พ.ศ.2567 ณ สามย่านมิตรทาวน์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอแสดงความยินดีกับนิสิตคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์และคณะวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศลำดับที่ 3 ทีมหน้าใหม่ประจำปี 2567 ในการแข่งขันโครงการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิรากแก้ว ซึ่งมีบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท KPMG, Junior Achievement Thailand และมูลนิธิ SCG เป็นผู้ร่วมสนับสนุน

นิสิตที่ได้รับรางวัลประกอบด้วย นายสกาย คิดลูน จอมพงษ์ นางสาววาสิตา รอดอินทร์ นิสิตชั้นปีที่ 4 จากคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายกษิดิศ เห็มกัณฑ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ โดยได้นำเสนอผลงาน “Paopae” นวัตกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ผลงาน “Paopae” มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลกโดยใช้ระบบพาสปอร์ตสะสมแต้ม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสะสมแต้มเพื่อแลกรับน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ประจำจังหวัด ทั้งนี้ ยังได้มีการนำเสนอแนวความคิดในการนำผ้าทอลายประจำจังหวัดมาใช้ในการออกแบบชุดร่วมสมัย เพื่อดึงดูดความสนใจและเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น

ผลงานนี้ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการและได้รับรางวัลระดับ Silver พร้อมโล่ห์รางวัล อันเป็นการยืนยันถึงศักยภาพและความสามารถของนิสิตในการนำความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ดร.ชไมพร ศรีสุราช และ อาจารย์ศรัณย์พร เกิดเกาะ จากวิทยาลัยนานาชาติ ได้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนและแนะนำให้นิสิตได้พัฒนาผลงานจนประสบความสำเร็จ

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอแสดงความยินดีและภูมิใจในความสำเร็จของนิสิตที่ได้นำชื่อเสียงและเกียรติยศมาสู่มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ม.นเรศวร ร่วมมือ อบต. ท่าโพธิ์ ยกระดับมาตรฐานร้านอาหารรอบชุมชน สู่ความปลอดภัยยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำความมุ่งมั่นในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDG 2 (การขจัดความหิวโหย) และ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) โดยในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 กลุ่มสาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ จัดพิธีปิดโครงการ “พัฒนามาตรฐานร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารรอบมหาวิทยาลัยนเรศวร” ณ ห้อง Main Conference อาคารกองบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร

โครงการนี้มีเป้าหมายยกระดับมาตรฐานร้านค้าและแผงลอยอาหารในชุมชนตำบลท่าโพธิ์ให้มีความปลอดภัยและคุณภาพ โดยมีการมอบรางวัลให้แก่ร้านค้าที่ได้รับคัดเลือกดีเด่นจำนวน 33 ร้าน ซึ่งได้รับป้ายเชิดชูเกียรติรูปช้างลิมิเต็ด ภายใต้สโลแกน “Quality you can taste, Plate you can trust” หรือ “คุณภาพที่สัมผัสได้ จานที่คุณไว้ใจ” นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจำนวน 100 ร้านที่ผ่านการอบรมและพัฒนามาตรฐานจะได้รับป้าย Clean Food Good Taste และใบประกาศนียบัตร

งานนี้ได้รับเกียรติจากนายธวัช สิงหเดช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ และรองศาสตราจารย์ ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ เป็นผู้มอบรางวัลและประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า การดำเนินโครงการครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชนในการส่งเสริมสุขาภิบาลอาหารและคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและผลักดันให้ร้านค้าในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นต้นแบบของร้านอาหารที่ได้มาตรฐานในอนาคต

ม.นเรศวร เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการ “ฟื้นฟูดินเพื่อเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อม”

คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุมวิชาการดินและปุ๋ยแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ร่วมกับสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “ฟื้นฟูดินเพื่อเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อม” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมสมเด็จพระนเรศวร มหาวิทยาลัยนเรศวร

การประชุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่ความรู้และนวัตกรรมให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าของดินและปุ๋ย โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริมการปรับตัว สร้างความยืดหยุ่นภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลก และบรรลุการจัดการทรัพยากรดินที่สมดุลและยั่งยืน นอกจากนี้ การประชุมยังมุ่งหวังที่จะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและเพิ่มรายได้ทางการเกษตรผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ

รองศาสตราจารย์ ดร.สรินทิพย์ ตันตาณี รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวในพิธีเปิดว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการกระจายโอกาสทางการศึกษาและความเท่าเทียมกันให้กับประชาชนโดยเฉพาะใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย โดยมุ่งผลิตบัณฑิตที่ตอบสนองความต้องการของสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทรัพยากรดินมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีพทางการเกษตรของประชาชนในภูมิภาคนี้ งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูทรัพยากรดินร่วมกับภาคีเครือข่าย มุ่งส่งเสริมการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในระบบการผลิตที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่ม และลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ยังเน้นการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียและของเสียจากการเกษตร ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูล ทำให้สามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มรายได้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วรสิทธิ์ โตจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ภายในงานมีการบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านดินที่มีชื่อเสียง นิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การนำเสนอและการฝึกอบรมแก่เกษตรกรในหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสต่างๆ

สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ‘เมืองแผ่นดิน ถิ่นสองแคว’ ขับเคลื่อนการส่งเสริมการจ้างงานและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566, มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีส่วนร่วมในการจัดงาน มหกรรมอาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เมืองแผ่นดิน ถิ่นสองแควหอประชุมมหาราช อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อ ส่งเสริมการสร้างงานและอาชีพที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 8) โดยเฉพาะในด้าน การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และ การส่งเสริมการมีงานทำที่ดี สำหรับทุกคน.

การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและการสร้างอาชีพที่ยั่งยืน (SDG 8): นี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ ส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ และ การสร้างรายได้ อย่างยั่งยืนให้แก่ชุมชนท้องถิ่น และผู้ที่สนใจเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในงาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้เกี่ยวกับการสร้างอาชีพใหม่ ๆ และการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น:

  • การสาธิตอาชีพและฝึกปฏิบัติอาชีพ: ผู้เข้าร่วมจะได้ทดลองทำงานฝีมือหรือกิจกรรมอาชีพที่สามารถนำไปใช้สร้างรายได้ เช่น การทำสินค้าหัตถกรรม การทำอาหาร การทำน้ำหอม หรือแม้แต่การเกษตร ซึ่งช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคต.
  • การจัดแสดงอาชีพนวัตกรรม: มหาวิทยาลัยนเรศวรได้นำเสนอแนวคิด อาชีพนวัตกรรม ซึ่งไม่เพียงแต่การทำงานตามอาชีพทั่วไป แต่ยังสามารถนำเทคโนโลยีหรือ นวัตกรรมใหม่ มาใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดและสามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน.
  • การแจกของรางวัล: เพื่อเพิ่มแรงจูงใจและกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความสนใจในด้านการพัฒนาทักษะอาชีพและการสร้างรายได้ โดยการแจกของรางวัลที่มีคุณค่า ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประกอบอาชีพหรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง.
  • สินค้าจาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง: การจัดแสดงและขาย ผลิตภัณฑ์เด่น จาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งรวมถึง สินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่สะท้อนถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น การใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่าง ยั่งยืน และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท้องถิ่น ซึ่งเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชนและภูมิภาค.

การสร้างความร่วมมือและเครือข่าย (SDG 17): จัดงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง การสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีการนำเสนอ ทักษะและความรู้ ที่จำเป็นในการพัฒนาอาชีพในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้าง เครือข่ายความร่วมมือ ที่เป็นประโยชน์ทั้งในด้านการพัฒนาทักษะของบุคคลและการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชนผ่านการเรียนรู้ร่วมกัน.

มหาวิทยาลัยนเรศวรไม่เพียงแต่จัดงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ แต่ยังส่งเสริมการ สร้างเครือข่าย และ การเชื่อมโยง ระหว่าง นักศึกษา, ชุมชน, ภาครัฐ, และเอกชน ที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอาชีพและการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยการนำทักษะต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้จากการฝึกอบรมไปปรับใช้ในชีวิตจริงและสามารถขยายขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของพื้นที่และประเทศ.

งานนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ สนับสนุนการสร้างงาน ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้คนมีรายได้ แต่ยังมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมที่ยั่งยืนและเสถียร โดยการสนับสนุนการประกอบอาชีพที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม, การพัฒนาอาชีพใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคม, และการสนับสนุน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจสามารถคงอยู่ได้ในระยะยาว.

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin