ม.นเรศวร ให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพร เสริมสุขภาพ สร้างรายได้ สู่ชุมชน

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวรภายใต้การนำของ รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ บุญชู รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ และรองศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ แก้วก่อง รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ได้ร่วมกับหน่วยบริการวิชาการเพื่อชุมชนจัดกิจกรรมบริการวิชาการในหัวข้อ “การให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ” ณ ตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการรักษาสุขภาพตามหลักภูมิปัญญาท้องถิ่นและเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SDG 4 การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ SDG 17 การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีความสำคัญต่อการส่งเสริมการใช้สมุนไพรท้องถิ่นเพื่อดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและปลอดภัย ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายประการ โดยเน้นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการบำรุงรักษาสุขภาพและการพัฒนาชุมชน โดยกิจกรรมหลักที่จัดขึ้นคือการสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ซึ่งเป็นการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติในการบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและคัดจมูก นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้เรียนรู้วิธีการใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย

กิจกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงการส่งเสริมสุขภาพ แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12 การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน โดยการเสริมสร้างทักษะในการใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังส่งเสริมให้ประชาชนใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน

นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวัน และเปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชนสามารถพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างรายได้เสริมในชุมชน โดยการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพและสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องถิ่นให้เป็นสินค้าท้องถิ่นที่สามารถสร้างรายได้ในระยะยาว

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงบทบาทในการเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยการร่วมมือกับโรงเรียนบ้านหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ในการจัดกิจกรรมนี้ ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีการเสริมสร้างทักษะและความรู้เพื่อให้ชุมชนสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืนในด้านสุขภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

การดำเนินกิจกรรมนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 4 การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเน้นการให้ความรู้และทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการดูแลสุขภาพในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างความตระหนักในเรื่องการดูแลสุขภาพที่ดี แต่ยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชนท้องถิ่น

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงยืนหยัดในบทบาทสำคัญในการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นแก่ชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในทางที่เหมาะสมและยั่งยืน ส่งผลให้เกิดการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับท้องถิ่นที่ยั่งยืนต่อไป

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม: สร้างประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัย

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566, นางนิพัทธ์ เกษาพร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมดูแลต้อนรับและนำชมกลุ่มลูกค้าและพนักงานจากบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด จำนวน 50 คน ในการเข้าชม ผลงานศิลปะจากคลังสะสม “Color light” ซึ่งจัดแสดง ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวรและพิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัยได้สัมผัสการสร้างสรรค์ผ้าแบบดั้งเดิม และมีกระบวนการในการเรียนรู้ศิลปะผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น.

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม ประสบการณ์ด้านศิลปะ (Learning Experience) ซึ่งมีเป้าหมายในการเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้าน พร้อมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจในคุณค่าของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในทุกยุคทุกสมัย โดยผ่านการสัมผัสกับกระบวนการและเทคนิคการทำผ้าด้วยมือ รวมถึงการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ที่สะท้อนถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

กิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่า โดยการสัมผัสกระบวนการสร้างสรรค์ผ้าด้วยมือและการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำผ้าแบบดั้งเดิมที่เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยและสามารถสืบทอดความรู้เหล่านี้ได้ในอนาคต การศึกษาเกี่ยวกับการทำผ้าและการใช้วัสดุธรรมชาติยังช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในกระบวนการผลิตที่สามารถทำได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกวัยได้เรียนรู้ศิลปะที่มีคุณค่า.

กิจกรรมในครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้วัสดุท้องถิ่นในกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดยการใช้ สีจากธรรมชาติ ในการมัดย้อมผ้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีความยั่งยืนและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

การใช้ วัตถุดิบท้องถิ่น และกระบวนการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีในกิจกรรมการมัดย้อมเป็นการส่งเสริมการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน.

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงการสร้างความร่วมมือที่มีความสำคัญระหว่าง มหาวิทยาลัย ภาครัฐและ ชุมชนท้องถิ่น ในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่สามารถสืบสานไปยังอนาคต. การส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์ศิลปะไทยไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนาน แต่ยังช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติ.

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมนี้ยังเสริมสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย กับ ภาคธุรกิจ เช่นบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในแง่ของการศึกษาศิลปะและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น.

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม AstroNight 2023: เปิดโลกการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้านดาราศาสตร์

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4) ด้านการศึกษาที่ทั่วถึงและมีคุณภาพ ผ่านการจัดกิจกรรม AstroNight 2023 ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยมี ศ.ดร.ภญ. กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน

งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเพื่อการค้นคว้าระดับรากฐาน (IF) มหาวิทยาลัยนเรศวร, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT), ธนาคารกสิกรไทย และโรงเรียนเครือข่ายดาราศาสตร์ทั่วประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมความสนใจด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนและประชาชน

กิจกรรมที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การสังเกตดวงดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์, การบรรยายพิเศษโดยนักวิทยาศาสตร์, นิทรรศการดาราศาสตร์ และเวิร์กชอปสร้างแรงบันดาลใจสำหรับเยาวชน กิจกรรมเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงกระตุ้นความสนใจในศาสตร์ดาราศาสตร์

ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน การจัดงาน AstroNight 2023 ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะศูนย์กลางการศึกษาที่เปิดกว้างและสร้างโอกาสในการเรียนรู้อย่างทั่วถึง งานนี้ดึงดูดเยาวชนและประชาชนกว่า 1,000 คน เข้าร่วม สะท้อนถึงความสำเร็จในการสร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักรู้ด้านวิทยาศาสตร์

กิจกรรมดังกล่าวยังเป็นต้นแบบที่ดีของการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา หน่วยงานวิจัย และภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางการศึกษาในรูปแบบที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ต่อไปในอนาคต

ฝึกทักษะการทำ D.I.Y. กระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์ตัวเก่า ส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาและสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในวันที่ 14 กันยายน 2566, งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมทักษะด้านวิชาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ ครั้งที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพและการสร้างธุรกิจในรูปแบบที่ยั่งยืน โดยในกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา สงวนสิน เป็นวิทยากรในการจัด Workshop “ฝึกทักษะการทำ D.I.Y. กระเป๋าผ้า จากกางเกงยีนส์ตัวเก่า” ซึ่งจัดขึ้น ณ โถงอาคารเรียนรวม คณะวิทยาศาสตร์.

กิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับนิสิตและบุคคลทั่วไปในการประกอบอาชีพ โดยการฝึกทำกระเป๋าผ้าจาก กางเกงยีนส์เก่า เป็นการนำวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้และมีโอกาสในการสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสร้างขยะจากสิ่งของที่ใช้แล้ว. การจัดกิจกรรมนี้สะท้อนถึงการมุ่งส่งเสริม การศึกษาที่มีคุณภาพ (SDG 4) โดยการเปิดโอกาสให้นิสิตและประชาชนได้เรียนรู้วิธีการนำสิ่งของที่ใช้แล้วมารีไซเคิลเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่มีประโยชน์.

การเรียนรู้ทักษะการทำกระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์เก่าผ่านกิจกรรม Workshop D.I.Y. นี้ ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและผลิตสินค้าที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรใหม่ เป็นการสร้างพื้นฐานทักษะวิชาชีพให้กับนิสิต ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการทำธุรกิจส่วนตัวหรือการประกอบอาชีพในอนาคตได้.

กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย, นักศึกษา, และชุมชน เพื่อพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพและเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้าน การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (SDG 12) และ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 17). การใช้วัสดุที่เหลือใช้แล้วในกิจกรรมนี้ยังส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการ รีไซเคิล และการนำของเก่ากลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ โดยการสร้างสิ่งของที่มีคุณค่าทางการใช้งานและสามารถจำหน่ายได้.

การนำความรู้และเทคนิคมาฝึกฝนร่วมกันในกิจกรรมนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างบุคลากรจากคณะวิทยาศาสตร์และผู้เข้าร่วมที่หลากหลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพให้กับนิสิตและชุมชน โดยการนำแนวคิดที่เกี่ยวกับ การพัฒนาที่ยั่งยืน มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง.

กิจกรรมการทำ กระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์เก่า เป็นการสนับสนุนการ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (SDG 12)โดยการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมารีไซเคิล ทำให้สามารถลดการสร้างขยะและการใช้วัสดุใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเห็นถึงคุณค่าของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือและการปรับใช้เทคนิคการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม.

ม.นเรศวร จัดปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566

การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยกองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่าน Microsoft Teams ถือเป็นการดำเนินการที่สำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาของนิสิตอย่างยั่งยืน ซึ่งมีความสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ ที่มุ่งหวังให้การศึกษามีความเท่าเทียมและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4)

โครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตที่ได้รับทุนจากกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้มีความเข้าใจในการใช้ทุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางแผนการเงินและการเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับทุนกู้ยืมในอนาคต การจัดโครงการนี้ผ่านระบบออนไลน์ (Microsoft Teams) ยังเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงข้อมูลและการเรียนรู้ได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุม ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการสนับสนุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้

ในโครงการนี้ นิสิตจำนวน 1,296 คนเข้าร่วมการปัจฉิมนิเทศ โดยการอบรมและการทดสอบผ่านระบบออนไลน์แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการสร้างพื้นฐานการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับนิสิตทุกคน โดยเฉพาะนิสิตที่ได้รับทุน กยศ. ซึ่งเป็นทุนที่ช่วยให้ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนกยศ. ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงการศึกษา การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนี้มีบทบาทในการช่วยให้ผู้ที่ได้รับทุนสามารถใช้ประโยชน์จากทุนได้อย่างเต็มที่ โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้ กฎเกณฑ์การกู้ยืม และแนวทางในการบริหารจัดการการเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้รับทุนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินและการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาความสามารถในการจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการดำรงชีวิตในอนาคต

การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและการเข้าถึงข้อมูล

การจัดโครงการผ่าน Microsoft Teams ยังสะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีในการเสริมสร้างการศึกษาให้เข้าถึงได้มากขึ้น และช่วยให้การเรียนรู้ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน แต่สามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงไปยังนิสิตทุกคนที่ต้องการข้อมูลในรูปแบบออนไลน์ การเข้าร่วมโครงการออนไลน์จำนวนมาก (1,296 คน) และผ่านการทดสอบได้ถึง 1,281 คน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการในการเข้าถึงผู้เรียนในวงกว้าง และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ

สร้างความยั่งยืนในระบบการศึกษา

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงการสร้าง สังคมแห่งการเรียนรู้ ที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานิสิตให้มีความรู้และทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะในด้านการจัดการการเงินและการบริหารทรัพยากร ในที่สุด โครงการนี้ช่วยให้นิสิตสามารถใช้ทุนการศึกษาอย่างมีความรับผิดชอบและทำให้สามารถสำเร็จการศึกษาได้อย่างราบรื่น

ที่มา: งานส่งเสริมการจัดการศึกษา กองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

แนะหลักสูตรระยะสั้น : การเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การจัดหลักสูตรระยะสั้น “การเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ” โดยคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการในอุตสาหกรรมการบริการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 4) ที่มุ่งเน้นให้ผู้คนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและการพัฒนาทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะการพัฒนาอาชีพและการสร้างธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

รายละเอียดหลักสูตร: การเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างทักษะการประกอบธุรกิจให้กับผู้เรียน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมร้านกาแฟที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ผู้เรียนจะได้รับทั้งทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติจริงเกี่ยวกับการเปิดร้านกาแฟตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงการดำเนินงานให้สำเร็จ โดยมีรายละเอียดกิจกรรมที่สำคัญดังนี้:

  1. ฝึกปฏิบัติการทำกาแฟกับมืออาชีพ ในส่วนนี้ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เทคนิคการทำกาแฟที่มีคุณภาพ เรียนรู้การชงกาแฟตามสูตรต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมในตลาด รวมถึงวิธีการเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ และวิธีการชงกาแฟให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อให้ธุรกิจร้านกาแฟสามารถสร้างรายได้จากการขายเครื่องดื่มกาแฟที่มีรสชาติพิเศษ
  2. เข้าใจรูปแบบของธุรกิจร้านกาแฟ หลักสูตรนี้จะสอนให้ผู้เรียนเข้าใจการทำธุรกิจร้านกาแฟตั้งแต่การจัดการต้นทุน การวางแผนการเงิน ไปจนถึงการบริหารการบริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ผู้เรียนจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการกำหนดราคาขาย การเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และการวางแผนการจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ
  3. เทคนิคการเปิดร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ หลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ ตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบร้าน การจัดการทรัพยากร และการวางแผนการตลาดจนถึงการเปิดร้านจริง ผู้เรียนจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพในการเปิดร้านให้มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดลูกค้าได้
  4. การออกแบบร้านกาแฟเพื่อสร้างความดึงดูด การสร้างบรรยากาศภายในร้านกาแฟให้ดึงดูดลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจร้านกาแฟ หลักสูตรนี้จะสอนวิธีการออกแบบร้านกาแฟให้มีเอกลักษณ์และตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การเลือกวัสดุตกแต่งที่มีความเหมาะสม การใช้สีและแสงในการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูด
  5. การวางตำแหน่งแบรนด์และกลยุทธ์ทางการตลาด การสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และการทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ หลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจการวางตำแหน่งแบรนด์และการทำกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ร้านกาแฟเป็นที่รู้จักในตลาด รวมถึงการใช้ช่องทางต่าง ๆ ในการโปรโมทสินค้าและบริการ
  6. ทริปพิเศษ “เขาค้อ” การทัศนศึกษาในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ เช่น เขาค้อ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจในการออกแบบธุรกิจ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการออกแบบร้านกาแฟจากสถานที่ที่มีความน่าสนใจ เพื่อการสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้า

หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบเพื่อสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยมุ่งเน้นในสองด้านหลัก:

  1. การส่งเสริมการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8)
    หลักสูตรนี้มีเป้าหมายในการเสริมสร้างทักษะการทำธุรกิจที่ยั่งยืนให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้สามารถสร้างธุรกิจที่ไม่เพียงแต่ทำกำไรได้ แต่ยังส่งเสริมการสร้างงานและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจในชุมชน การฝึกอบรมผู้ประกอบการให้มีทักษะที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างฐานเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและยั่งยืนในระยะยาว
  2. การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน (SDG 12)
    หลักสูตรนี้เน้นการเลือกใช้วัตถุดิบและวัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟจากแหล่งที่ยั่งยืน รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุตกแต่งและการออกแบบร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รายละเอียดหลักสูตร
  • จำนวนรับสมัคร: 20 ท่าน
  • ค่าลงทะเบียน: 3,900 บาท
  • วันที่จัดกิจกรรม: ตามประกาศ
  • สถานที่: คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • วิธีการสมัคร: สมัครผ่านลิงก์ https://shorturl.asia/5817U
  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: โทร. 055 964 822 (งานวิจัยและบริการวิชาการ)

รับสมัครด่วน! เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต!

มอบโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน นักเรียน และนิสิต ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

พิธีมอบทุนการศึกษา “มูลนิธินายประจักษ์ และนางสาลี่ คนตรง” ประจำปีการศึกษา 2566

กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา “มูลนิธินายประจักษ์ และนางสาลี่ คนตรง” ประจำปีการศึกษา 2566 ขึ้น ในวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566 ณ ห้องนเรศวร 102 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้รับเกียรติจาก นายอานนท์ณัฏฐ์ เปรมฤทัย ประธานกรรมการมูลนิธินายประจักษ์ และนางสาลี่ คนตรง และคณะ เป็นผู้มอบทุนฯ ร่วมกับ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต (ดร.จารุวรรณ แดงบุปผา) ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต และคณาจารย์ผู้แทนสถาบัน ทั้งนี้มีนักเรียนและนิสิตที่ได้รับทุน จำนวนทั้งสิ้น 29 ทุน จาก 5 สถาบันการศึกษา ได้แก่ นิสิตจากมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 9 ทุน นักเรียนจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม จำนวน 5 ทุน นักเรียนจากโรงเรียนพุทธชินราช จำนวน 5 ทุน นักเรียนจากโรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล จำนวน 6 ทุน และสามเณรจากโรงเรียนวัดธรรมจักรวิทยา จำนวน 4 ทุน

ซึ่งทุนดังกล่าวถือเป็นโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน นักเรียน และนิสิตที่มีความตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อีกทั้งยังเป็นการส่งต่อโอกาสและแบ่งปันไปยังผู้อื่นในสังคม เพื่อให้ “ผู้รับ” ในวันนี้ ได้มีโอกาสพัฒนาตนเองให้เป็น “ผู้ให้” ในวันหน้า และร่วมแบ่งปันโอกาสทางการศึกษาให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน และส่งต่อความสุขสู่บุคคลอื่นในสังคมต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุดต่อไป

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

สู่การเป็นนวัตกร ผู้ประกอบการในอนาคต กับ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ และน่าสนใจ

ประชาสัมพันธ์เชิญชวนสำหรับนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ สู่การเป็นนวัตกร ผู้ประกอบการในอนาคต กับ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ และน่าสนใจ นิสิตลงทะเบียนเรียน รายวิชา 251200 “นวัตกรทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี” ที่ www.reg.nu.ac.th ในเทอม 2/2566

เมื่อนิสิตลงทะเบียนเรียน ก็จะ Enjoy ไปกับเนื้อหาที่น่าสนใจ และแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานที่สนใจด้านต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน นิสิตเข้าร่วมอบรมเพิ่มความรู้ทักษะ สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเป็นนวัตกร กับกิจกรรม “ Summer Research Camp” ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ย.

เมื่อมีแนวคิดสร้างสรรค์ผลงาน จาก “Summer Research Camp” นิสิตสามารถสมัครขอรับทุนส่งเสริมโครงการนวัตกรรม นิสิตคณะวิทยาศาสตร์ โดยแบ่งเป็น ทุนบุ่มเพาะนวัตกรรมรุ่นเยาว์ 5,000 บาท หรือทุนสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ 10,000 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : หน่วยอำนวยการและสนับสนุนการเรียนรู้ งานบริการการศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โทร.055-963140 (ในวันและเวลาราชการ) หรือ อีเมล์ ACSC@nu.ac.th #nusdg4#nusdg8

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

แนะนำคอร์สเรียนฟรี การออกแบบมาสคอตและการพิมพ์สามมิติ

มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับโครงการ ThaiMOOC ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมคอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ในหัวข้อ “การออกแบบมาสคอตและการพิมพ์สามมิติ” ที่จัดขึ้นโดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะในการออกแบบมาสคอตอย่างมืออาชีพ พร้อมทั้งเรียนรู้การสร้างโมเดลสามมิติด้วย iPad เพื่อใช้ในการพิมพ์สามมิติที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริงในหลากหลายสาขาอาชีพ

รายละเอียดคอร์ส:

  • เนื้อหาหลัก: คอร์สนี้จะครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับการออกแบบมาสคอต การสร้างภาพจำลอง และการสร้างโมเดลสามมิติด้วย iPad โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสำคัญในหลายอุตสาหกรรม เช่น การออกแบบตัวละครในเกม การออกแบบผลิตภัณฑ์ การสร้างโมเดลทางวิศวกรรม และการใช้งานในงานศิลปะ
  • การเรียนรู้: ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยในการสร้างและพัฒนาโมเดลสามมิติ ตลอดจนกระบวนการพิมพ์สามมิติที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในทางการค้าและอุตสาหกรรม
  • คอร์สนี้เหมาะสำหรับ: นักศึกษาทุกสาขา ผู้ที่สนใจการออกแบบกราฟิก การออกแบบผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปที่ต้องการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ในการออกแบบและพิมพ์สามมิติ

เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่เกี่ยวข้อง:

  1. SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ คอร์สนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนจากทุกเพศทุกวัยได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการออกแบบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานและประกอบธุรกิจได้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
  2. SDG 8: การจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเรียนรู้การออกแบบมาสคอตและการพิมพ์สามมิติช่วยเสริมสร้างทักษะที่สามารถนำไปสู่การสร้างรายได้ การประกอบอาชีพ และการสร้างธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ การผลิต และเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังสามารถส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจท้องถิ่นและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีนี้
  3. SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน คอร์สนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการส่งเสริมนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตด้วยการพิมพ์สามมิติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
  4. SDG 12: การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน การเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติในคอร์สนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างงานออกแบบที่น่าสนใจได้เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้วัสดุที่ไม่จำเป็น และส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมการออกแบบ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: สามารถติดต่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือสอบถามผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย https://lms.thaimooc.org/…/course-v1:NU+NU059+2022/about

เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาทักษะที่มีคุณค่า และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวคุณเองในโลกของการออกแบบและนวัตกรรม!
ที่มา: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นหน่วยงานภายในบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร

คณาจารย์ ม.นเรศวร จัดกิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.มัทนี สงวนเสริมศรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร.จุฬาลักษณ์ เขมาชีวะกุล จากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปลูกตะขบเป็นไซรัปตะขบและเม็ดบีดส์ตะขบ ณ โรงเรียนบ้านดงยาง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยมีคณะครูและนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4-6 จำนวน 20 คน เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับการศึกษาที่มีคุณภาพในชุมชนตามเป้าหมาย SDGs 4: การศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจากลูกตะขบ และการพัฒนายุวนวัตกรสำหรับอุตสาหกรรมอาหารเชิงหน้าที่ (Functional Food) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม (SID) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะและความรู้ให้กับเยาวชนและครูในท้องถิ่นในด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ลูกตะขบ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตเกษตรในท้องถิ่น ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ

การจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการนี้มีความสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับครูและนักเรียนในระดับชุมชน ซึ่งเป็นการสนับสนุน SDGs 4 หรือการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ที่มุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและสามารถนำความรู้ไปใช้พัฒนาชุมชนและสังคมได้จริง นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในตลาดแรงงานในอนาคต โดยเฉพาะทักษะด้านการแปรรูปและการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่

ในส่วนของการพัฒนาและการนำไปใช้ในระดับชุมชน การถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปลูกตะขบให้กับนักเรียนและครู ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เชื่อมโยงทฤษฎีกับการปฏิบัติจริง ช่วยให้ผู้เรียนได้เห็นกระบวนการและผลลัพธ์ของการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และสามารถสร้างรายได้หรือเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตเกษตรในท้องถิ่น

กิจกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนเรศวรที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่เน้นการศึกษาในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังมีการนำความรู้และทักษะไปใช้ในการพัฒนาชุมชนอย่างจริงจัง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDGs 4: การศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นสร้างการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับเยาวชนและชุมชนในพื้นที่.

ที่มา: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin