ม.นเรศวร ร่วมโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เติมพื้นที่สีเขียว เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ธรรมชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00 น. นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยบุคลากร ได้รับมอบกล้าไม้นานาพันธุ์จำนวน 1,000 ต้น จากนายวิศวัฒน์ เวชวินิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ชาติตระการ เพื่อนำไปดำเนินการตาม “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567”

โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยรัฐบาลเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการรวมพลังทุกภาคส่วนของสังคมในการ ปลูกป่าและบำรุงรักษาต้นไม้ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 72 ล้านต้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน

การได้รับมอบกล้าไม้ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมพื้นที่สีเขียวภายในมหาวิทยาลัย และสร้างความตระหนักให้บุคลากรและนักศึกษาเห็นคุณค่าของการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มความร่มรื่นแก่สิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฟื้นฟูคุณภาพอากาศให้สะอาดยิ่งขึ้น

การปลูกป่ามีบทบาทสำคัญต่อการสร้างสมดุลของระบบนิเวศ ทั้งการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การป้องกันการชะล้างหน้าดิน และการกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ การดำเนินโครงการนี้จึงเป็นการ เติมพื้นที่สีเขียว เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ธรรมชาติ และช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญของโลก

นอกจากการปลูกต้นไม้แล้ว โครงการยังเน้นการบำรุงรักษาและดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กล้าไม้เจริญเติบโตแข็งแรง และกลายเป็นผืนป่าที่สามารถสร้างประโยชน์ในระยะยาว ทั้งต่อระบบนิเวศและคุณภาพชีวิตของประชาชนในอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการเข้าร่วมในโครงการระดับประเทศครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้าน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ตระหนักถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน

คณะเกษตรฯ ม.นเรศวร จัดประชุมวิชาการดินและปุ๋ยแห่งชาติ ครั้งที่ 8 “ฟื้นชีวิตดินเพื่อเกษตรและสิ่งแวดล้อม”

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2567 คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติจากสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพร่วมการประชุมวิชาการดินและปุ๋ยแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ภายใต้หัวข้อ “ฟื้นชีวิตดินเพื่อเกษตรและสิ่งแวดล้อม” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2567 ณ อาคารศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร

การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ โดยมุ่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันด้านการเกษตรของประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก

ภายในงานได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิดงาน โดยย้ำถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะมหาวิทยาลัยสหสาขา (Comprehensive University) ที่มุ่งกระจายโอกาสทางการศึกษาและสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคเหนือตอนล่าง พร้อมทั้งสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

กิจกรรมในงานประกอบด้วยการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ การจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การนำเสนอผลงานวิจัยด้านดินและปุ๋ย และการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่เกษตรกรในหัวข้อที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการในปัจจุบัน

การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการเผยแพร่ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูทรัพยากรดิน เพื่อสร้างระบบการผลิตทางการเกษตรที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร

อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ การลดขยะและสิ่งเหลือใช้ทางการเกษตร และการสร้างระบบเกษตรที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน อันจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและรักษาความสมดุลของทรัพยากรดินในระยะยาว

การประชุมวิชาการดินและปุ๋ยแห่งชาติ ครั้งที่ 8 จึงไม่เพียงเป็นเวทีวิชาการ แต่ยังเป็นกลไกเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างนักวิจัย ภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้จริงในพื้นที่การเกษตรและชุมชนต่าง ๆ

การจัดงานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรและภาคีเครือข่ายที่มุ่งมั่นในการพัฒนาการเกษตรไทยให้ยั่งยืน โดยการ ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรดินให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน เพื่อรองรับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ม.นเรศวร ร่วมกิจกรรม “From We to World เพาะความสุข ปลูกความยั่งยืน”

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ฯ รองศาสตราจารย์ ดร.จรัณธร บุญญานุภาพ อาจารย์ประจำภาควิชาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ และรองศาสตราจารย์ ดร.ศศิมา เจริญกิจ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมปลูกป่าในกิจกรรม “From We to World เพาะความสุข ปลูกความยั่งยืน” ณ พื้นที่นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 39 ปี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. โดยมีเป้าหมายในการสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 การเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ถือเป็นแนวทางสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฟื้นฟูระบบนิเวศ

ในกิจกรรมครั้งนี้ มีการปลูกไม้ยืนต้นหลายชนิด จำนวนกว่า 434 ต้น นำโดยนายศรายุทธ เนียมฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการผลิต โครงการเอส 1 ปตท.สผ. พร้อมด้วยคุณสุรชาติ จงจิตต์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ และมีผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานราชการ พนักงาน ปตท.สผ. บริษัทผู้รับเหมา ประชาชน และนักวิชาการ เข้าร่วมรวมกว่า 200 คน

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการบูรณาการระหว่างภาคเอกชน ชุมชน และสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การปลูกป่าไม่เพียงเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังช่วยฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ในระยะยาว

ในโอกาสเดียวกัน รองศาสตราจารย์ ดร.สิทธิชัย ชูสำโรง รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศและกิจการนิสิต พร้อมด้วยดร.นพรัตน์ อินถา อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร และคณะนิสิต ได้ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อตรวจเก็บข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศสำหรับใช้จัดทำแผนที่การพัฒนาป่าชุมชนในอนาคต

การใช้เทคโนโลยีโดรนร่วมกับการปลูกป่าเป็นตัวอย่างของการบูรณาการนวัตกรรมเข้ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการวางแผนพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่จริง

นอกจากนี้ กิจกรรมปลูกป่ายังช่วยสร้างความตระหนักแก่ประชาชนในชุมชนและผู้เข้าร่วมงาน เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลกผ่านการลงมือทำในระดับท้องถิ่น

ท้ายที่สุด การเข้าร่วมปลูกป่าในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองวาระสำคัญของ ปตท.สผ. เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการ ร่วมปลูกป่า เพื่อสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนและสังคมในระยะยาว

คณะวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร จัดประชุมนานาชาติ iGST 2024 ส่งเสริมการจัดการระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2567 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The International Conference of The Genetics Society of Thailand (iGST) 2024 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีทางวิชาการสำคัญที่รวบรวมคณาจารย์ นักวิจัย นิสิต และผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพันธุศาสตร์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ

นอกจากความสำคัญด้านวิชาการแล้ว การประชุมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการรณรงค์ลดขยะพลาสติกผ่านการใช้ แก้วกระดาษย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Eco-Friendly Paper Cup: Yes! Bio) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และบริษัท SMS Corporation Co., Ltd. ซึ่งได้สนับสนุนการนำแก้ว Yes! Bio มาใช้ภายในงาน ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับการจัดการประชุมวิชาการ โดยผสานเป้าหมายทางวิชาการและการดูแลสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

การใช้แก้วย่อยสลายได้ในการประชุม iGST 2024 ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการขยะที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการสร้างตัวอย่างที่ดีในการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนแทนการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการลดปัญหาขยะที่เป็นหนึ่งในประเด็นสิ่งแวดล้อมระดับโลก

การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงแค่เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ เช่นการเลือกใช้แก้วที่ย่อยสลายได้ สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนต่อสังคมและธรรมชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ การจัดงานยังแสดงถึงพลังของความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนที่มุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือเช่นนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่แนวทางที่ยั่งยืน และยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเครือข่ายเพื่อการพัฒนาในระดับประเทศและระดับโลก

ท้ายที่สุด การประชุม iGST 2024 ไม่เพียงแต่เป็นเวทีระดับนานาชาติที่ยกระดับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการจัดกิจกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างองค์ความรู้และพัฒนางานวิชาการ เพื่อก้าวสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดอบรมเชิงปฏิบัติการรุกขกร เพื่อส่งเสริมการดูแลรักษาต้นไม้อย่างยั่งยืน

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายทิวา ทัศนางกูร รักษาการในตำแหน่งหัวหน้างานสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ได้รับมอบหมายจากนายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ กล่าวรายงานการจัดโครงการ “อบรมเชิงปฏิบัติการรุกขกร” โดยได้รับเกียรติจากนายบรรจง ศรีใจวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เป็นประธานเปิดการอบรมอย่างเป็นทางการ

กิจกรรมภาคเช้าเป็นการบรรยายให้ความรู้ด้าน การตัดแต่งและดูแลรักษาต้นไม้ การใช้เทคนิคการตัดแต่งที่ถูกต้อง และแนวทางการทำงานบนที่สูง รวมถึงการแนะนำอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับรุกขกร ซึ่งช่วยเพิ่มทักษะและความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน

ช่วงภาคบ่ายเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยผู้เข้าร่วมได้ลงพื้นที่จริงเพื่อฝึกฝน การตัดแต่งต้นไม้อย่างถูกวิธี ผ่านการสาธิตและการปฏิบัติร่วมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานจริงภายในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การอบรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน ประกอบด้วยคณะทำงานด้านอาคารสถานที่ บุคลากร เจ้าหน้าที่ภูมิทัศน์ คนงาน และคนสวนจากหลายหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนในองค์กรที่ต้องการพัฒนาทักษะด้าน การดูแลรักษาต้นไม้และพื้นที่สีเขียว

โครงการดังกล่าวยังสะท้อนถึงความสำคัญของการจัดการต้นไม้และพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัย ที่ไม่เพียงแต่สร้างความร่มรื่นและความสวยงาม แต่ยังช่วยรักษาสมดุลระบบนิเวศในพื้นที่ และทำให้มนุษย์สามารถ อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางบก เพื่อให้ต้นไม้และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มหาวิทยาลัยคงความอุดมสมบูรณ์ต่อไปในระยะยาว

การอบรมเชิงปฏิบัติการรุกขกรครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเพิ่มทักษะเชิงวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอย่างรับผิดชอบ เพื่อส่งต่อความยั่งยืนทั้งต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมในอนาคต


ม.นเรศวร เปิดพื้นที่สีเขียวสร้างสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดตัว สนามหญ้า พื้นที่สีเขียวแห่งใหม่บริเวณหน้าหอพักนิสิต เพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนและทำกิจกรรมสำหรับนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไป โดยมีเป้าหมายในการสร้าง เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวในการเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพใจ

พื้นที่สีเขียวแห่งใหม่นี้ถูกออกแบบให้รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน เล่นสเก็ตบอร์ด นั่งอ่านหนังสือ ร้องเพลง หรือแม้แต่การนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนฝูงในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ถือเป็นพื้นที่ที่ช่วยลดความเครียดและสร้างสมดุลในการใช้ชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ยังเปิดกว้างสำหรับผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมร่วมกับสัตว์เลี้ยง เช่น การพาน้องหมา น้องแมว มาวิ่งเล่นหรือพักผ่อนร่วมกัน โดยมหาวิทยาลัยส่งเสริมให้ทุกคนร่วมมือกันดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบ เพื่อให้พื้นที่นี้คงความน่าใช้งานและเป็นมิตรกับทั้งคนและสัตว์ไปพร้อมกัน

การจัดตั้งพื้นที่สีเขียวดังกล่าวสะท้อนถึงความใส่ใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรต่อการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี ตลอดจนการสร้าง เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม และยังเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศบนบก

ในด้านการสนับสนุนสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี มหาวิทยาลัยยังมี ศูนย์สุขภาวะนิสิต เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 08.30 – 20.00 น. เพื่อเป็นแหล่งพึ่งพิงและให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่ต้องการคลายความกังวลหรือหาเพื่อนรับฟัง โดยสามารถติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 0-5596-1273 หรือเพจศูนย์สุขภาวะนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

พื้นที่สีเขียวและการบริการด้านสุขภาวะเหล่านี้ไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของนิสิตและบุคลากร แต่ยังช่วยสร้างความผูกพันระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนโดยรอบ ถือเป็นตัวอย่างของการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งทางกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อม

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงไม่เพียงเป็นสถานศึกษา แต่ยังเป็น พื้นที่ความสุขของผู้คนทุกช่วงวัย ที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้เวลาเพื่อสร้างรอยยิ้ม ความสุข และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พร้อมร่วมกันดูแลพื้นที่นี้ให้คงอยู่เป็นแหล่งพักผ่อนและการเรียนรู้ตลอดไป

ม.นเรศวร มุ่งอนุรักษ์แหล่งน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญต่อแนวทางการจัดการและอนุรักษ์แหล่งน้ำภายในมหาวิทยาลัย โดยตระหนักถึงความสำคัญของน้ำในฐานะทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นหัวใจสำคัญของชีวิตและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการพื้นที่แหล่งน้ำในมหาวิทยาลัยนเรศวรถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสร้างมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีพื้นที่แหล่งน้ำกว่า 225 ไร่ คิดเป็น 16.24% ของพื้นที่ทั้งหมด การดูแลและอนุรักษ์พื้นที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความร่มรื่นและความสวยงาม แต่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนและสถานที่ออกกำลังกายของนิสิต บุคลากร และประชาชนโดยรอบ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกอพยพและสิ่งมีชีวิตน้ำหลายชนิด ซึ่งช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ

เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยได้ตั้งชื่อแหล่งน้ำภายในพื้นที่ให้มีความหมายและสอดคล้องกับประวัติศาสตร์และพระราชวงศ์ ได้แก่

  1. สระเอกกษัตรี (ข้างอาคารจอดรถ ซ้ายมือทางเข้าหอสมุด)
  2. สระมณีรัตนา (บริเวณเทเลทับบี้ ตรงข้ามอาคารเอกประสงค์)
  3. สระบรมดิลก (ตรงข้ามคณะแพทยศาสตร์)
  4. สระสุริโยทัย (พื้นที่หอพักนิสิต NU Dorm)
  5. สระสองกษัตริย์ (บริเวณหอพระเทพรัตน์)
  6. สระสุพรรณกัลยา (ข้างสระว่ายน้ำสุพรรณกัลยา)

การตั้งชื่อดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการเทิดพระเกียรติและเชิดชูพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระราชวงศ์ แต่ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้แก่สังคมและผู้ใช้พื้นที่ถึงคุณค่าของน้ำและความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ

นอกจากการอนุรักษ์แหล่งน้ำแล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรยังดำเนินการปลูกต้นไม้และดูแลพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การสร้างพื้นที่สีเขียวช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพิ่มคุณภาพอากาศ และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ รวมถึงสนับสนุนสุขภาพที่ดีของนิสิตและบุคลากร

การดำเนินงานดังกล่าวยังสอดคล้องกับการส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งน้ำในด้านวิชาการ โดยมหาวิทยาลัยนำองค์ความรู้จากงานวิจัยมาประยุกต์ใช้เพื่อดูแลคุณภาพน้ำและระบบนิเวศ ตลอดจนจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจแก่นิสิต เยาวชน และชุมชนในเรื่องความสำคัญของน้ำและสิ่งแวดล้อม

ในเชิงปฏิบัติ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้นิสิตและบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วม เช่น การปลูกต้นไม้ การดูแลพื้นที่รอบแหล่งน้ำ และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เกิดการบูรณาการระหว่างการเรียนการสอน งานวิจัย และกิจกรรมเพื่อสังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงไม่เพียงเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นด้านวิชาการ แต่ยังเป็นต้นแบบในการสร้างความตระหนักรู้และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น โดยการบูรณาการแนวคิดพัฒนาที่ยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ สนับสนุนการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงความมุ่งมั่นในการส่งเสริม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 15) ซึ่งมุ่งเน้นการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรม วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ 2566 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นโดย กองอาคารสถานที่ และได้รับการนำโดย นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม

ภายในกิจกรรมนี้ บุคลากรจากกองอาคารสถานที่ ได้ร่วมมือกันในการดูแลและบำรุงพื้นที่สีเขียวบริเวณด้านหลังอาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การพรวนดิน, การใส่ปุ๋ย, การรดน้ำ, การตัดแต่งกิ่งไม้, และ การกำจัดวัชพืช โดยเฉพาะ ปุ๋ยอินทรีย์ ที่ใช้ในกิจกรรมนี้ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบไม้, กิ่งไม้ และผสมกับ ถ่านชีวภาพ (Biochar) ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรในพื้นที่อย่างยั่งยืน

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นตัวอย่างที่ดีด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังได้ สร้างการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้วัสดุที่ยั่งยืนจากความร่วมมือของ บุคลากรทุกหน่วยงาน, นิสิตที่สนใจ, นิสิตจิตอาสา, สโมสร และ ชมรม

ม.นเรศวร ส่งเสริมเกษตรยั่งยืนผ่านกิจกรรมดำนา ปลูกข้าว วิชชาลัยข้าวและชาวนา

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรม “ร่วมแรงร่วมใจ ดำนา ปลูกข้าว วิชชาลัยข้าวและชาวนา” เพื่อส่งเสริมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ วิถีเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม ควบคู่ไปกับ การพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ภายในมหาวิทยาลัย กิจกรรมนี้มีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ ความสำคัญของการผลิตอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการบริหารจัดการทรัพยากรดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย นักศึกษา บุคลากร และชุมชนท้องถิ่น ได้มีโอกาสเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริงในกระบวนการ ปลูกข้าวแบบดั้งเดิม ตั้งแต่ การเตรียมดิน, การดำนา, และการดูแลรักษานาข้าว โดยใช้แนวทางที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร และ การบำรุงดินด้วยปุ๋ยธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและส่งเสริมความสมดุลทางธรรมชาติ

กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้าง ความเข้าใจเกี่ยวกับการผลิตอาหารที่ยั่งยืน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึง บทบาทสำคัญของเกษตรกร ในระบบเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้นำ องค์ความรู้และแนวคิดการเกษตรพอเพียง ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงปลูกฝังแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง ให้แพร่หลายมากขึ้น

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบอาหารภายในมหาวิทยาลัยให้ ปลอดภัยและยั่งยืน โดยนำผลผลิตจากโครงการนี้ไปสนับสนุน โครงการอาหารปลอดภัย พร้อมทั้งขยายแนวคิด การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ให้ครอบคลุมในระดับชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

กิจกรรมนี้ยังเป็นเวทีสำหรับการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกหน่วยงาน นิสิตที่สนใจ นิสิตจิตอาสา สโมสร และชมรมต่าง ๆ ในการร่วมกัน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะเป็นต้นแบบของสถาบันการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับ ความสมดุลระหว่างการพัฒนา การศึกษา และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคม

ที่มา: กองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงาน ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้กล่าวต้อนรับและร่วมประชุมกับศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิชัย ใจกล้า รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้จัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดำเนินงาน ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.) โดยสร้างความร่วมมือและเป็นเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์ประสานงาน การแลกเปลี่ยนวิทยากร การพัฒนาความรู้ รูปแบบการทำงาน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน การหนุนเสริม และสนับสนุนความรู้แก่สมาชิก อพ.สธ.ในการดำเนินงานสนองพระราชดำริ อพ.สธ. ณ ห้องประชุมเทาแสด ชั้น 1 อาคารศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จัดให้มีการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาทั้ง 6 ท่านเพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการทำงานร่วมกัน และแผนการดำเนินงานของศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.ทั้ง 2 แห่ง รวมถึงการเข้าร่วมงานจัดนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถิ่น ระดับภูมิภาค ครั้งที่ 7 ปี 2566 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม และการสร้างความร่วมมือและกำหนดทิศทางการดำเนินงานที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันตามกรอบของ อพ.สธ. ในปีงบประมาณ 2567 ต่อไป

ที่มา: ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin