ม.นเรศวร มุ่งอนุรักษ์แหล่งน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ
มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญต่อแนวทางการจัดการและอนุรักษ์แหล่งน้ำภายในมหาวิทยาลัย โดยตระหนักถึงความสำคัญของน้ำในฐานะทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นหัวใจสำคัญของชีวิตและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการพื้นที่แหล่งน้ำในมหาวิทยาลัยนเรศวรถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสร้างมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)
มหาวิทยาลัยนเรศวรมีพื้นที่แหล่งน้ำกว่า 225 ไร่ คิดเป็น 16.24% ของพื้นที่ทั้งหมด การดูแลและอนุรักษ์พื้นที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความร่มรื่นและความสวยงาม แต่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนและสถานที่ออกกำลังกายของนิสิต บุคลากร และประชาชนโดยรอบ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกอพยพและสิ่งมีชีวิตน้ำหลายชนิด ซึ่งช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ
เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยได้ตั้งชื่อแหล่งน้ำภายในพื้นที่ให้มีความหมายและสอดคล้องกับประวัติศาสตร์และพระราชวงศ์ ได้แก่
- สระเอกกษัตรี (ข้างอาคารจอดรถ ซ้ายมือทางเข้าหอสมุด)
- สระมณีรัตนา (บริเวณเทเลทับบี้ ตรงข้ามอาคารเอกประสงค์)
- สระบรมดิลก (ตรงข้ามคณะแพทยศาสตร์)
- สระสุริโยทัย (พื้นที่หอพักนิสิต NU Dorm)
- สระสองกษัตริย์ (บริเวณหอพระเทพรัตน์)
- สระสุพรรณกัลยา (ข้างสระว่ายน้ำสุพรรณกัลยา)
การตั้งชื่อดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการเทิดพระเกียรติและเชิดชูพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระราชวงศ์ แต่ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้แก่สังคมและผู้ใช้พื้นที่ถึงคุณค่าของน้ำและความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ
นอกจากการอนุรักษ์แหล่งน้ำแล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรยังดำเนินการปลูกต้นไม้และดูแลพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การสร้างพื้นที่สีเขียวช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพิ่มคุณภาพอากาศ และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ รวมถึงสนับสนุนสุขภาพที่ดีของนิสิตและบุคลากร
การดำเนินงานดังกล่าวยังสอดคล้องกับการส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งน้ำในด้านวิชาการ โดยมหาวิทยาลัยนำองค์ความรู้จากงานวิจัยมาประยุกต์ใช้เพื่อดูแลคุณภาพน้ำและระบบนิเวศ ตลอดจนจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจแก่นิสิต เยาวชน และชุมชนในเรื่องความสำคัญของน้ำและสิ่งแวดล้อม
ในเชิงปฏิบัติ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้นิสิตและบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วม เช่น การปลูกต้นไม้ การดูแลพื้นที่รอบแหล่งน้ำ และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เกิดการบูรณาการระหว่างการเรียนการสอน งานวิจัย และกิจกรรมเพื่อสังคม
มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงไม่เพียงเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นด้านวิชาการ แต่ยังเป็นต้นแบบในการสร้างความตระหนักรู้และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น โดยการบูรณาการแนวคิดพัฒนาที่ยั่งยืน