ม.นเรศวร จัดทำแผนที่พรรณไม้ สนับสนุนการใช้ระบบนิเวศอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย กองอาคารสถานที่ ได้ดำเนินโครงการสำคัญเพื่อส่งเสริมความรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้จัดทำ แผนที่แสดงพรรณไม้ในมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งรวบรวมข้อมูลต้นไม้กว่า 119 ชนิด พร้อมจำนวนต้นไม้แต่ละประเภทอย่างละเอียด เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลสำคัญสำหรับการศึกษา ค้นคว้า และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย

โครงการนี้ถือเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการพัฒนา ระบบแผนที่ออนไลน์ ที่ประชาชน นักศึกษา และนักวิจัยสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผ่านเว็บไซต์ https://center.office.nu.ac.th/nubotany/index.php?p=map ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นไม้แต่ละชนิด รวมถึงข้อมูลด้าน ปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ของแต่ละต้นอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้

การจัดทำแผนที่พรรณไม้ในครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของ ระบบนิเวศบนบก ที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของทุกคน มหาวิทยาลัยมุ่งหวังให้แผนที่ดังกล่าวกลายเป็นแหล่งเรียนรู้กลางแจ้งสำหรับนิสิตและประชาชนทั่วไป เพื่อให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติรอบตัวและร่วมกันรักษาไว้

ในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม กองอาคารสถานที่ได้ดำเนินการ เก็บข้อมูลต้นไม้ในพื้นที่มหาวิทยาลัยอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ในการเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาในระยะยาว ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงช่วยสนับสนุนการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ท้องถิ่น แต่ยังช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลต้นไม้และพื้นที่สีเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ โครงการยังส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของนิสิต บุคลากร และชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และการสำรวจต้นไม้ร่วมกัน เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ และกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง อันจะนำไปสู่การ จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ภายในพื้นที่ของสถาบัน

โครงการนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อขยายผลสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาฐานข้อมูลพรรณไม้ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัย การศึกษา และการวางนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในระดับมหาวิทยาลัยและระดับประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการ สนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน ผ่านการอนุรักษ์และบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างรอบคอบ แผนที่พรรณไม้จึงไม่เพียงเป็นเครื่องมือด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการรักษาสมดุลของธรรมชาติ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคตอย่างมั่นคง

ม.นเรศวร จัดค่ายพบเพื่อนเดินป่า ครั้งที่ 24 สร้างมิตรภาพและเรียนรู้การอนุรักษ์ป่าไม้

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “ค่ายพบเพื่อนเดินป่า ครั้งที่ 24” ณ อุทยานแห่งชาติลานสาง จังหวัดตาก โดยมีนิสิตจำนวนมากเข้าร่วมเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากธรรมชาติ ผ่านการเดินป่า ศึกษาระบบนิเวศ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมกิจกรรม

การจัดค่ายในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างเสริมความสามัคคีระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

กิจกรรมยังมุ่งเน้นการเรียนรู้การเสียสละ การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในระหว่างการเดินป่า รวมทั้งการฝึกฝนความอดทน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปปรับใช้ทั้งในการเรียนและการดำเนินชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้แนวทางการรักษาและฟื้นฟูธรรมชาติในพื้นที่ป่าไม้ โดยมีการบรรยายและสาธิตเกี่ยวกับการดูแลระบบนิเวศ และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นการ ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าไม้

โครงการค่ายพบเพื่อนเดินป่าได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนในท้องถิ่น อาทิ น้ำดื่มส่งฟรี ม.นเรศวร by A&T – ร้านชำแสงพรหม, พันธุ์สุกรานต์คาเฟ่, LA-DA บุฟเฟต์, Kolae และโรงน้ำแข็งมีบุญ ไอซ์ ซึ่งสะท้อนถึงพลังของความร่วมมือที่ช่วยให้กิจกรรมดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์

บรรยากาศภายในค่ายเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความอบอุ่น ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ทั้งในมิติของธรรมชาติและในมิติของการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยกิจกรรมนี้ยังสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิตตระหนักถึงคุณค่าของป่าไม้และความสำคัญของการอนุรักษ์

กิจกรรมค่ายพบเพื่อนเดินป่าที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 ครั้ง แสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรและชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการปลูกฝังคุณค่าแห่งการอนุรักษ์ในหัวใจของนิสิต เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นบุคลากรที่พร้อมทำงานร่วมกับสังคมและชุมชนในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร กับความงดงามของนกนานาชนิด บ่งบอกถึงระบบนิเวศที่สมบูรณ์

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรเผยแพร่ชุดภาพนกหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ภายในมหาวิทยาลัย โดยฝีมือการถ่ายภาพของคุณมาโนช แตงตุ้ม บุคลากรจากคณะมนุษยศาสตร์ ผู้มีประสบการณ์ด้านการดูนกและถ่ายภาพนกกว่า 30 ปี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การนำเสนอภาพถ่ายในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและ ระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ภายในมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยมีนกอาศัยอยู่มากกว่า 200 ชนิด ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพที่แวะเวียนมาตามฤดูกาล เช่น นกอ้ายงั่วที่เคยเป็นนกหายาก แต่ปัจจุบันสามารถพบได้ตามสระน้ำในมหาวิทยาลัย เป็ดแดงที่หากินตลอดปี เหยี่ยวนกเขาชิคราที่ทำรังภายในพื้นที่ ไปจนถึงนกอพยพอย่างนกแต้วแล้วอกเขียวและนกอุ้มบาตร ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตที่พึ่งพิงระบบนิเวศของที่นี่

ตัวอย่างนกที่พบ เช่น นกยางโทนใหญ่ซึ่งเป็นนกยางขนาดใหญ่ที่สุด ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นที่พักพิงตลอดฤดูกาล หรือนกเอี้ยงหงอนที่รวมฝูงขนาดใหญ่ในช่วงเย็นบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังมีนกกะเต็นอกขาวที่เฝ้าจับปลาตามบ่อน้ำ รวมถึงนกกินปลีอกเหลืองที่หากินน้ำหวานจากดอกไม้ ล้วนเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่การศึกษาแห่งนี้

นกอพยพที่มาหลบหนาวในมหาวิทยาลัยยังช่วยเพิ่มสีสัน เช่น นกคอทับทิมที่มีคอสีแดงสดใสเหมือนอัญมณี หรือนกยอดหญ้าหัวดำที่เกาะตามกอหญ้าเล็ก ๆ ตลอดฤดูหนาว ขณะที่นกตะขาบทุ่งและนกจาบคาหัวเขียวสร้างความโดดเด่นด้วยสีสันสดใสและพฤติกรรมการล่าแมลงที่น่าตื่นตา สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการที่พื้นที่มหาวิทยาลัยถูกพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งด้านสิ่งปลูกสร้างและพื้นที่ธรรมชาติ

ความสำคัญของการอนุรักษ์พื้นที่ธรรมชาติในมหาวิทยาลัยไม่เพียงเป็นที่อยู่อาศัยของนก แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางนิเวศวิทยาและชีววิทยาสำหรับนิสิต นักวิจัย และบุคลากร นกที่อาศัยอยู่ยังช่วยควบคุมประชากรแมลงและรักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหาร ทำให้พื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นตัวอย่างของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติอย่างสมดุล

การเก็บภาพถ่ายนกจำนวน 34 ภาพในปีนี้ยังมีความหมายพิเศษ เพราะตรงกับจำนวนปีแห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของสถาบันเข้ากับความงดงามของธรรมชาติ และช่วยสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับทุกคนที่มีส่วนร่วม

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงไม่เพียงทำหน้าที่เป็นสถาบันการศึกษา แต่ยังเป็นผู้ดูแลรักษาพื้นที่ธรรมชาติที่เป็นที่พึ่งพิงของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด การคงอยู่ของนกมากกว่า 200 ชนิดคือเครื่องยืนยันว่า ที่นี่คือ พื้นที่แห่งระบบนิเวศที่สมบูรณ์ สมควรได้รับการดูแลเพื่อส่งต่อความอุดมสมบูรณ์นี้ไปยังคนรุ่นต่อไป

ม.นเรศวร ขับเคลื่อนสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เสริมพลังความร่วมมือสร้างมหาวิทยาลัยคาร์บอนเป็นกลาง

วันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ประพิธาริ์ ธนารักษ์ คณะทำงานโครงการฯ พร้อมด้วยนิสิตปัจจุบันและศิษย์เก่าของวิทยาลัยฯ เข้าร่วม กิจกรรมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อช่วย “ลด” และ “ชดเชย” (lower & offset) การปล่อยคาร์บอนจนเป็นกลาง ของเครือข่าย C-อพ.สธ. สำหรับสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่าง เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนสู่การเป็น มหาวิทยาลัยแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral University) และมุ่งสู่เป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ผ่านกระบวนการเรียนรู้และการทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืน

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเรื่อง ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และกระบวนการ ลดและชดเชยการปล่อยคาร์บอน (Carbon Offset) โดยเปิดโอกาสให้นิสิตและเครือข่ายได้เรียนรู้แนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมเชิงวิทยาศาสตร์ การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร การคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ และแนวทางการลดการปล่อยจากกิจกรรมต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในการจัดการคาร์บอนอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้เรียนรู้ผ่านการฝึกปฏิบัติจริงเกี่ยวกับ การวัดต้นไม้และการเก็บข้อมูลภาคสนาม เพื่อคำนวณการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้แต่ละชนิด รวมถึงการศึกษาความสามารถของระบบนิเวศป่าไม้และพื้นที่สีเขียวในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และสร้างความเข้าใจในบทบาทของธรรมชาติในการฟื้นฟูสมดุลของสภาพภูมิอากาศ

โครงการนี้ยังเป็นตัวอย่างของ การบูรณาการเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อสนับสนุนการเก็บข้อมูลและประเมินผลการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ โดยใช้ข้อมูลจากอากาศยานไร้คนขับ (Drone) และภาพถ่ายดาวเทียมในการวิเคราะห์มวลชีวภาพของพื้นที่ป่า การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ช่วยให้สามารถติดตามผลได้อย่างต่อเนื่องและมีความแม่นยำทางวิชาการสูง

การดำเนินโครงการเกิดจาก ความร่วมมือของหลายหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แก่ SGtech คณะเกษตรศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ สถานภูมิภาคเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศภาคเหนือตอนล่าง กองส่งเสริมการบริการวิชาการ กองพัฒนาคุณภาพการศึกษา กองอาคารสถานที่ และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยมีเป้าหมายในการสร้างระบบบริหารจัดการคาร์บอนครบวงจร และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในมหาวิทยาลัย

กิจกรรมดังกล่าวยังส่งเสริมให้เกิด ความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคม ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ การรวมพลังความร่วมมือในลักษณะนี้เป็นรากฐานสำคัญของการสร้างเครือข่ายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อ “ลด” และ “ชดเชย” การปล่อยคาร์บอนในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนเป้าหมาย ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยการผสานองค์ความรู้ เทคโนโลยี และพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำและอนาคตที่ยั่งยืนของประเทศ

ม.นเรศวร ร่วมมือชุมชนท้องถิ่น รักษาระบบนิเวศและพัฒนาป่าชุมชนอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย ผศ.ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ ได้มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมการบริการวิชาการ เข้าร่วมประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสร้างระบบนิเวศในนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 3/2567

ภายในที่ประชุม รศ.ดร.ศศิมา เจริญกิจ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ได้นำเสนอแผนพัฒนาป่าชุมชน เพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าชุมชนอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่การอนุรักษ์ระบบนิเวศและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ การนำเสนอนี้ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาป่านิเวศชุมชนให้เป็นแหล่งเรียนรู้และทรัพยากรที่ชุมชนสามารถใช้ร่วมกัน

การประชุมครั้งนี้มี นายสุริชาติ จงจิตต์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และชุมชนกว่า 30 คน ที่ได้ร่วมวางแผนและจัดทำร่างแผนปฏิบัติการสำหรับปีงบประมาณ 2568

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชนผ่านการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมเปิดบ้านเกษตรนเรศวร ส่งเสริมการเรียนรู้การปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์โลก

วันพุธที่ 21 สิงหาคม 2567 คณะครู บุคลากร และนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1-3 โรงเรียนอนุบาลและประถมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 175 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมศึกษาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ ภายใต้หัวข้อ “ฐานจำลองสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติและความรู้เบื้องต้น วัฏจักรชีวิตการเจริญเติบโตของพืช” ณ คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ในงานเปิดบ้านเกษตรนเรศวร (Open House)

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง ทั้งการปลูกต้นไม้และการทำกิจกรรมในฐานความรู้ต่าง ๆ โดยมีนิสิตคณะเกษตรศาสตร์ฯ จากหลายสาขาวิชามาเป็นพี่เลี้ยง ถ่ายทอดความรู้ และสร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง

นักเรียนได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่หลากหลายรูปแบบ อาทิ การจำลองการรีดนมวัว การเรียนรู้การเพาะเลี้ยงปลา การทดลองปลูกพืชในโรงเรือน และการรู้จักผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ แต่ยังปลูกฝังทักษะการสังเกตและการลงมือทำด้วยตนเอง

การลงมือปลูกพืชถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่ช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจวงจรชีวิตของพืช และสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงเช่นนี้ยังช่วยเสริมสร้างความผูกพันระหว่างผู้เรียนกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเป็นการเชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน และชุมชน ผ่านการใช้ทรัพยากรและองค์ความรู้ของคณะเกษตรศาสตร์ฯ มาสนับสนุนการเรียนการสอนในระดับปฐมวัย ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม

การเข้าร่วมกิจกรรมเปิดบ้านเกษตรนเรศวรครั้งนี้ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ได้รับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และฝึกฝนทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างทักษะชีวิตที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวัน

ท้ายที่สุด กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนสำหรับเด็กปฐมวัย แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดความรู้และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการ ส่งเสริมการเรียนรู้การปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์โลก ให้แก่เยาวชนตั้งแต่ระดับต้น

ม.นเรศวร จัดบรรยายพิเศษ “ปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งต่อต้านการทุจริต”

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2567 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติจาก นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งต่อต้านการทุจริต” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บูรณาการอยู่ในรายวิชากฎหมายพื้นฐานเพื่อคุณภาพชีวิต โดยมีนิสิตเข้าร่วมรับฟังการบรรยายกว่า 373 คน ณ ห้องปราบไตรจักร 43 อาคารเรียนปราบไตรจักร 1

การบรรยายครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการปลูกฝังแนวคิดด้านคุณธรรมและความโปร่งใสในสังคม ถือเป็นการเสริมสร้างความรู้และคุณค่าที่จำเป็นต่อการพัฒนานิสิตให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

นอกจากการบรรยายในเชิงทฤษฎีแล้ว วิทยากรยังได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์จริงในสังคมที่เชื่อมโยงการทำลายสิ่งแวดล้อมกับปัญหาการทุจริต เพื่อให้นิสิตเห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเด็น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการทุจริตไม่เพียงแต่กระทบต่อเศรษฐกิจและการเมือง แต่ยังทำลายระบบนิเวศและความยั่งยืนของสังคมด้วย

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างนิสิตให้เป็นพลเมืองที่ดี มีความกล้าหาญในการยืนหยัดต่อสู้กับการทุจริต และมีจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมรอบตัว ถือเป็นการผสานการเรียนรู้ด้านกฎหมายเข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและโปร่งใส โดยการส่งเสริมการปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการต่อต้านการทุจริต เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพของนิสิตและสังคมไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ การเรียนรู้ในลักษณะนี้ยังถือเป็นการส่งเสริมการศึกษาที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างพื้นฐานความรู้ที่นิสิตสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในวิชาชีพ และเป็นแรงผลักดันให้นิสิตมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่มีคุณภาพทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความยุติธรรม

กิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งปลูกฝังคุณค่าของความซื่อสัตย์สุจริตให้แก่เยาวชน เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรมอย่างยั่งยืน

อพ.สธ.-ม.นเรศวร ให้คำปรึกษาการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จ.นครสวรรค์

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2567 ศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ) จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 14 คน ที่เดินทางมาเพื่อขอรับคำปรึกษาและแนวทางการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ณ กองส่งเสริมการบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้มาเยือน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในฐานะพื้นที่การเรียนรู้และการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่นักเรียน ชุมชน และสังคมในระยะยาว

การประชุมให้คำปรึกษาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคณะที่ปรึกษาศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 5 ท่าน ได้แก่ นางรัชนีนรินทร์ คลังเงินวรากร, นางสาวประนอม รัตนชัย, นางพันทิพา สิงหัษฐิต, นางศิริวัลย์ มะโต และนายเฉลิมพล ขยันกิจ โดยที่ประชุมได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงวิชาการและแนวทางการปรับปรุงผลงานตามเกณฑ์มาตรฐานที่ อพ.สธ. กำหนด

โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ) ได้นำเสนอผลการดำเนินงานตามแนวทาง 4 ด้าน 5 องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ซึ่งคณะที่ปรึกษาได้พิจารณาและให้ข้อชี้แนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพการดำเนินงานให้ครบถ้วนและสอดคล้องกับเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อพัฒนาสู่มาตรฐานในระดับสูงขึ้นต่อไป

ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันวิชาการที่ไม่เพียงทำหน้าที่สนับสนุนการเรียนการสอน แต่ยังขยายบทบาทไปสู่การพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการ ส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชและทรัพยากร ทั้งในระดับสถานศึกษาและชุมชน

กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การพัฒนาทักษะ และการยกระดับศักยภาพด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีระบบ ถือเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการทำงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ

นอกจากนี้ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนยังมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังความตระหนักรู้ให้แก่นักเรียนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรียนรู้การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับระบบนิเวศ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมที่มีความยั่งยืน

การให้คำปรึกษาของศูนย์ประสานงาน อพ.สธ.-มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยผลักดันโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ) จังหวัดนครสวรรค์ ให้สามารถพัฒนาสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอย่างมีคุณภาพ และเป็นต้นแบบของการบูรณาการการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร ร่วมโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อความยั่งยืน

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.สุขกิจ ยะโสธรศรีกุล คณบดีคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 ภายใต้แนวคิด “TOGETHER WE GROWTH โตไปด้วยกัน จังหวัดพิษณุโลก”

กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–25 สิงหาคม 2567 ณ โรงเรียนและวัดบ้านพร้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดพิษณุโลกเข้าร่วมกว่า 21 หน่วยงาน ซึ่งสะท้อนถึงพลังความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้

รองศาสตราจารย์ ดร.สุขกิจ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้หลากหลายชนิดในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศ ถือเป็นการ ส่งเสริมการปลูกต้นไม้ มีส่วนร่วมในการสร้างพื้นที่สีเขียว ที่ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน

โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ยังเป็นเวทีแห่งการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ป่าไม้ในระดับชุมชนและสังคม โดยมีการรณรงค์ให้ประชาชน นักเรียน และเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกด้านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเยาว์

นอกจากนี้ กิจกรรมยังแสดงให้เห็นถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานท้องถิ่น องค์กรเอกชน และชุมชน ในการพัฒนาพื้นที่สีเขียวร่วมกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาที่เน้นความร่วมมือ (Partnership for Goals) อันเป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและพลังบวกของผู้เข้าร่วม ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างป่าที่แข็งแรงและเป็นมรดกทางธรรมชาติให้กับคนรุ่นต่อไป การปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังช่วยสร้างความสมานฉันท์ระหว่างชุมชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ “TOGETHER WE GROWTH โตไปด้วยกัน จังหวัดพิษณุโลก” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างพื้นที่สีเขียว และการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมห้องเรียนเสมือนจริง “สาขาวิทยาศาสตร์การประมง” ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การประมง ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมการเรียนรู้จากห้องเรียนเสมือนจริง “ห้องเรียนเสมือนจริงสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การประมง” เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงในรายวิชามีนวิทยาและนิเวศวิทยา โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางน้ำอย่างยั่งยืน

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19–21 สิงหาคม 2567 โดยมีการเรียนรู้เกี่ยวกับ ระบบอวัยวะภายในของปลา และ การแยกเพศในปลา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการวิจัยและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริงภายใต้การดูแลของคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างความเข้าใจในโครงสร้างและการทำงานของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศน้ำ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม การสำรวจและเก็บตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในน้ำ เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้วิธีการเก็บข้อมูลอย่างถูกต้องและมีจริยธรรม ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการศึกษาด้านนิเวศวิทยา การเก็บตัวอย่างอย่างระมัดระวังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล

อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญคือ การเลี้ยงสาหร่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวงจรชีวิตและบทบาทของสาหร่ายในระบบนิเวศ สาหร่ายมีบทบาทในการผลิตออกซิเจนและเป็นแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก การเรียนรู้กระบวนการเพาะเลี้ยงสาหร่ายอย่างยั่งยืนจึงเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการทรัพยากรน้ำในอนาคต

โครงการนี้ยังส่งเสริมให้นักศึกษาเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศทางน้ำ การเรียนรู้ในรูปแบบห้องเรียนเสมือนจริงทำให้นักศึกษาสามารถจำลองสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะโลกร้อน หรือการปนเปื้อนของสารเคมี และเรียนรู้วิธีจัดการเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีทั้งความรู้และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเน้นให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า และสนับสนุนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม

พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรม ขอเชิญนักศึกษาทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้กับ “ห้องเรียนเสมือนจริงสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การประมง” เพื่อสร้างองค์ความรู้และแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางน้ำให้คงอยู่กับเราและคนรุ่นต่อไปอย่างยั่งยืน

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin