มาทำความรู้จัก NU SDGs “ป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” กันเถอะ

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับ การพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านแนวทาง NU SDGs (Naresuan University Sustainable Development Goals) ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะด้าน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นเป็นแบบอย่างในการพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับนิสิตและบุคลากร

เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรม การให้ความรู้ การอบรม และโครงการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการให้ความรู้ด้านพลังงานสะอาด การจัดการขยะอย่างถูกต้อง และการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการบรรจุเนื้อหาด้านความยั่งยืนเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อให้นิสิตตระหนักถึงความสำคัญของ SDGs และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

มหาวิทยาลัยดำเนินโครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ และโครงการขยะทำเงิน เพื่อรณรงค์ให้เกิดการลด ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ (3Rs) รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในมหาวิทยาลัย ทั้งหมดนี้ได้รับความร่วมมือจาก บุคลากรทุกหน่วยงาน นิสิตที่สนใจ นิสิตจิตอาสา สโมสร และชมรมต่าง ๆ ในการมีส่วนร่วมพัฒนาโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

การพัฒนาอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในรั้วมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมีการทำงานร่วมกับชุมชนและหน่วยงานภายนอกในการสร้างเครือข่าย “มหาวิทยาลัยสีเขียว” (Green University) ที่ส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ กิจกรรมที่จัดขึ้นมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับนิสิตและบุคลากรในการนำหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนไปใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับ การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยสนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการพลังงานสะอาด และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ ทั้งนี้เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงสู่แนวทางที่ยั่งยืน

การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนเรศวรตามแนวทาง NU SDGs ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจในการเป็นมหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบต่อสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งบุคลากร นิสิต และชุมชน เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่าและยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

ที่มา: งานบริการวิชาการ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดค่ายพบเพื่อนเดินป่า ครั้งที่ 24 สร้างมิตรภาพและเรียนรู้การอนุรักษ์ป่าไม้

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “ค่ายพบเพื่อนเดินป่า ครั้งที่ 24” ณ อุทยานแห่งชาติลานสาง จังหวัดตาก โดยมีนิสิตจำนวนมากเข้าร่วมเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากธรรมชาติ ผ่านการเดินป่า ศึกษาระบบนิเวศ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมกิจกรรม

การจัดค่ายในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างเสริมความสามัคคีระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างเครือข่ายเยาวชนที่มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

กิจกรรมยังมุ่งเน้นการเรียนรู้การเสียสละ การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในระหว่างการเดินป่า รวมทั้งการฝึกฝนความอดทน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปปรับใช้ทั้งในการเรียนและการดำเนินชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้แนวทางการรักษาและฟื้นฟูธรรมชาติในพื้นที่ป่าไม้ โดยมีการบรรยายและสาธิตเกี่ยวกับการดูแลระบบนิเวศ และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นการ ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าไม้

โครงการค่ายพบเพื่อนเดินป่าได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนในท้องถิ่น อาทิ น้ำดื่มส่งฟรี ม.นเรศวร by A&T – ร้านชำแสงพรหม, พันธุ์สุกรานต์คาเฟ่, LA-DA บุฟเฟต์, Kolae และโรงน้ำแข็งมีบุญ ไอซ์ ซึ่งสะท้อนถึงพลังของความร่วมมือที่ช่วยให้กิจกรรมดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์

บรรยากาศภายในค่ายเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความอบอุ่น ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ทั้งในมิติของธรรมชาติและในมิติของการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยกิจกรรมนี้ยังสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิตตระหนักถึงคุณค่าของป่าไม้และความสำคัญของการอนุรักษ์

กิจกรรมค่ายพบเพื่อนเดินป่าที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 ครั้ง แสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรและชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการปลูกฝังคุณค่าแห่งการอนุรักษ์ในหัวใจของนิสิต เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นบุคลากรที่พร้อมทำงานร่วมกับสังคมและชุมชนในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน

ชมรมอาสาพัฒนา ม.นเรศวร จัดค่ายหมอกล้อมฝัน เติมเต็มความสุขให้กับเยาวชนและชุมชน

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ชมรมอาสาพัฒนา มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “ค่ายหมอกล้อมฝัน ในอ้อมกอดที่ปลายฝน” ณ โรงเรียนชุมชน 17 บ้านนาตาดี ตำบลบ่อโพธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนิสิตอาสาสมัครเข้าร่วมทำกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่

กิจกรรมแรกที่ชมรมดำเนินการคือ การปรับปรุงสนามเด็กเล่น พร้อมทั้งทาสีและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้และการเล่นที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับเด็ก ๆ ในโรงเรียน อันเป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการของเยาวชน

นอกจากนี้ยังมีการทำ แปลงเกษตรและบ่อเลี้ยงปลาในโรงเรียน เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมและการจัดการอาหารของนักเรียน โดยมุ่งหวังให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง รวมถึงเป็นตัวอย่างของการพึ่งพาตนเองและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

กิจกรรมยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่มอบผลิตภัณฑ์ เช่น นมแลคตาซอยและน้ำดื่มสิงห์ เพื่อแจกจ่ายให้นักเรียนและผู้เข้าร่วมงาน แสดงถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคเอกชน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเยาวชนในท้องถิ่น

นอกจากกิจกรรมเชิงพัฒนาแล้ว ยังมีการจัด กิจกรรมสันทนาการร่วมกับนักเรียน เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุข ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรกับน้อง ๆ นักเรียน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการมีส่วนร่วมและการแบ่งปันในสังคม

โครงการครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและทักษะการทำงานเป็นทีมของนิสิตชมรมอาสาพัฒนา ผ่านการลงพื้นที่จริง ร่วมกันวางแผน และปฏิบัติงานจนเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ทรงคุณค่าและช่วยพัฒนาทั้งผู้ให้และผู้รับ

กิจกรรม ค่ายหมอกล้อมฝัน จึงเป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้และสร้างสังคมแห่งความสุข ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน โรงเรียน และชุมชน เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเกื้อกูลกัน

ม.นเรศวร คว้ารางวัลชนะเลิศ โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์นให้โลกจำ Upvel 2”

นิสิตจิตอาสา มหาวิทยาลัยนเรศวร สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมูลค่า 30,000 บาท ในการแข่งขัน โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์นให้โลกจำ Upvel 2” ซึ่งเป็นเวทีการแข่งขันมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมุ่งเน้นการ ลดขยะ และ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ผ่านการเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติกใช้แล้ว โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทันสมัย ได้แก่ AIS E-Waste+ และ GC YOU เทิร์น

การแข่งขันครั้งนี้มีการจัดเก็บทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งาน และขวดพลาสติกที่สามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างถูกวิธี มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ส่งตัวแทนนิสิตจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัล ได้แก่ นายอลงกต ทาแก้วเมือง นางสาวภัคจิรา เงกสูงเนิน นายอดิศร แสงอรุณ และนางพรธิดา บุญยะโรจน์ หัวหน้างานบริการสวัสดิการนิสิต กองกิจการนิสิต พร้อมด้วยนางสาวอภิญญา ชำนิ นักวิชาการละครและดนตรี กองกิจการนิสิต เป็นที่ปรึกษาโครงการ

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้างต่อปัญหาขยะ และกระตุ้นให้นิสิต บุคลากร รวมถึงสังคมโดยรอบตระหนักถึงความสำคัญของการ ลดขยะ และการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ การแข่งขันยังเป็นกลไกสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมการคัดแยกขยะและการจัดการอย่างมีระบบในสถาบันการศึกษา

ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้ แสดงถึงพลังของนิสิตจิตอาสาที่ไม่เพียงแต่ลงมือปฏิบัติจริง แต่ยังเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้านสิ่งแวดล้อม การเข้าร่วมแข่งขันในโครงการดังกล่าวช่วยยกระดับทักษะการทำงานเป็นทีม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมร่วมสมัย

การเข้าร่วมโครงการ Green University ยังเป็นการต่อยอดนโยบายของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการก้าวสู่การเป็น Green University อย่างเต็มรูปแบบ ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการสร้างขยะ และจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย

การแข่งขันครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมกว่า 42 แห่งทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นของภาคการศึกษาไทยในการสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

ท้ายที่สุด ความสำเร็จในการคว้ารางวัลครั้งนี้ของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนและสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เห็นถึงความสำคัญของการ ลดขยะ และการ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมได้จริง

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมแบ่งปันข้าวไข่เจียว น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับจิตอาสา จัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ภายใต้แนวคิด “แบ่งปันและยั่งยืน” โดยจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้แก่นิสิตและผู้เข้าร่วมกิจกรรม

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการแจกข้าวไข่เจียว ส้มตำ และอาหารพร้อมเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการแบ่งปันและส่งเสริมความมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมสังคม นิสิตทุกคนได้รับเชิญให้มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

นอกจากการรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว กิจกรรมยังส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงการลดขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยเชิญชวนนิสิตนำภาชนะส่วนตัวมาร่วมกิจกรรม เพื่อสนับสนุนแนวทางการลดขยะพลาสติก

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนิสิต มหาวิทยาลัย และจิตอาสา โดยการร่วมแรงร่วมใจในการจัดเตรียมอาหารและบริการให้กับเพื่อนนิสิต สร้างสังคมแห่งการแบ่งปันและความร่วมมือ

กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานิสิตในด้านคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้วิธีการจัดการอาหารอย่างคุ้มค่า ลดการสูญเสียอาหาร และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังช่วยสร้างความตระหนักในเรื่องความมั่นคงทางอาหารและการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ สำหรับนิสิตทุกคน ถือเป็นการสร้างเสริมทักษะการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการเรียนรู้ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ม.นเรศวร ผนึกความร่วมมือภาคธุรกิจ ขับเคลื่อนสังคมสีเขียวด้วยการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ

วันที่ 3 ตุลาคม 2567

กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมการคัดแยกขยะเพื่อเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” จัดขึ้นโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ AIS โดยมี นายกัณต์กวี วิมุติ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต พร้อมด้วยบุคลากรกองกิจการนิสิต เข้าร่วมกิจกรรม ณ หอพักนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ผ่านภารกิจการคัดแยกและเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล AIS E-Waste+

การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างจิตสำนึกที่สำคัญให้แก่นิสิตและบุคลากร มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะในมหาวิทยาลัย แต่ยังช่วยสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนรอบข้างได้

แพลตฟอร์ม AIS E-Waste+ มีบทบาทสำคัญในการทำให้การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์มีความเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้จริง เป็นการผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน การร่วมมือเช่นนี้ช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการทรัพยากรและป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดจากการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกวิธี

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเปิดโอกาสให้นิสิตและบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง ผ่านการทิ้งขวดน้ำพลาสติกตามขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อสะสมข้อมูลเข้าสู่ระบบการแข่งขัน “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” โดยมี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

  1. ถ่ายรูปขวดน้ำ (กี่ขวดก็ได้)
  2. เข้าระบบกรอกข้อมูล
  3. แนบรูปถ่ายจากข้อ 1 แล้วกดร่วมกิจกรรม

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน ทุกคนสามารถตรวจสอบจำนวนขวดน้ำที่ตนเองได้ร่วมทิ้ง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมทั้งร่วมผลักดันให้มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือ “มอนอ” ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านความยั่งยืนในระดับประเทศ ภายใต้โครงการ Green University

การมีส่วนร่วมของนิสิตและบุคลากรในครั้งนี้ ยังเป็นการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงระบบ การเห็นคุณค่าของความร่วมมือ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต

ในเชิงกลยุทธ์ กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยขยายการรับรู้ในวงกว้างถึงปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์และความสำคัญของการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือ และสามารถต่อยอดไปสู่โครงการอื่น ๆ ในอนาคต

ท้ายที่สุด การจัดกิจกรรมคัดแยกขยะและการเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่มหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของการร่วมมือในการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่จะช่วยสร้างรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้มีความยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

NU PLAYGROUND: ตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม NU PLAYGROUND ขึ้น ณ ลาน Playground หอในมอนอ โดยมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นพื้นที่แห่งความสุขและความสร้างสรรค์สำหรับนิสิตและบุคลากร พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักเรื่องการจัดการขยะ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ภายในงานมีการจัด โซนตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่นำเสนอสินค้าท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก และสินค้าที่ผลิตโดยนิสิตซึ่งเน้นการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ตลาดสีเขียวยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และพฤติกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของนิสิตกับชุมชนโดยรอบ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังรณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมใช้ภาชนะส่วนตัวเพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาขยะ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตได้ลงมือปฏิบัติและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวัน ควบคู่กับการจัด เวิร์กช็อปและการเสวนา เกี่ยวกับการลดขยะและการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ

การจัดงานได้รับการสนับสนุนจากหลายชมรมภายในมหาวิทยาลัย อาทิ ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ชมรมจิตอาสา และชมรมอื่น ๆ ซึ่งร่วมกันจัดกิจกรรม เช่น การรีไซเคิลขยะ การใช้พลังงานทางเลือก และการปลูกต้นไม้ในพื้นที่มหาวิทยาลัย กิจกรรมเหล่านี้มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังสร้างจิตสำนึกความสามัคคีและความรับผิดชอบร่วมกันในหมู่นิสิต

การดำเนินงาน NU PLAYGROUND แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการบูรณาการ แนวคิดสิ่งแวดล้อมเข้ากับวิถีชีวิตของนิสิตและบุคลากร ไม่เพียงแต่ในระดับกิจกรรม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนามหาวิทยาลัยในภาพรวมสู่ความยั่งยืน

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและการลดของเสีย ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาสังคมเมืองที่ยั่งยืนและปลอดขยะ โดยมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชนในวงกว้าง

NU PLAYGROUND จึงไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมหรือตลาดทั่วไป แต่เป็นเวทีเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นิสิตได้พัฒนาทักษะจริง เสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นแรงขับเคลื่อนสู่การสร้าง สังคมสีเขียวและยั่งยืน ซึ่งมหาวิทยาลัยนเรศวรตั้งใจผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รณรงค์การลดขยะภายในมหาวิทยาลัย

คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอเชิญคณาจารย์ บุคลากร และนิสิตเข้าร่วมรณรงค์ลดปริมาณขยะภายในคณะฯ เพื่อลดผลกระทบจากวิกฤติด้านการจัดการขยะในจังหวัดพิษณุโลก กิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบและสร้างวินัยในการลดขยะให้แก่ทุกคนในชุมชนมหาวิทยาลัย โดยเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม

แนวทางการดำเนินการรณรงค์ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก ได้แก่ การลดการใช้พลาสติก โดยรณรงค์ให้งดใช้กล่องโฟม ช้อนส้อมพลาสติก แก้วพลาสติก และถุงพลาสติก แล้วหันมาใช้ภาชนะส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ จาน ช้อนส้อม และถุงผ้า เพื่อลดปริมาณขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ทุกคนร่วมมือกันคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถังขยะที่มีการแยกประเภทตามสี เพื่อให้สามารถนำขยะไปจัดการต่อได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ทางคณะฯ ได้กำหนดจุดทิ้งขยะในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการคัดแยกและกำจัดขยะอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และร่วมกันรณรงค์ลดปัญหาขยะพลาสติกที่เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของขยะต่อสิ่งแวดล้อม และแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนภายในมหาวิทยาลัย รวมถึงหน่วยงาน และชมรมนิสิตต่าง ๆ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะอย่างยั่งยืน กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะภายในคณะศึกษาศาสตร์ แต่ยังเป็นต้นแบบที่ดีให้กับมหาวิทยาลัยและชุมชนโดยรอบ เพื่อให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน SDG12 และ SDG13 นำไปสู่การสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยให้กับทุกคน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมสืบสานงานสืบนาคะเสถียร ครั้งที่ 24 ส่งเสริมการลดขยะขวดพลาสติก

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “สืบสานงานสืบนาคะเสถียร ครั้งที่ 24” เพื่อน้อมรำลึกถึง 34 ปีการจากไปของสืบนาคะเสถียร นักอนุรักษ์ผู้มีคุณูปการต่อสังคมไทย กิจกรรมจัดขึ้น ณ ลาน PLAYGROUND หน้าหอใน ระหว่างเวลา 17.00 – 22.00 น.

หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือกิจกรรม “How to ทิ้ง” ที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้ด้านการจัดการขยะอย่างมีคุณค่า โดยผู้เข้าร่วมสามารถนำขวดพลาสติกขนาดใดก็ได้ จำนวน 15 ขวด มาแลกรับชั่วโมงจิตอาสา 1 ชั่วโมง ซึ่งเปิดรับขวดพลาสติกตั้งแต่เวลา 17.30 – 21.30 น.

กิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนและนิสิตเรียนรู้ถึงวิธีการจัดการขยะที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ สร้างแรงจูงใจให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะ และตระหนักถึงผลกระทบของขยะพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

นอกจากการแลกขวดพลาสติกแล้ว งานยังจัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ช่วยปลูกฝังทัศนคติการอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับผู้เข้าร่วม ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะพื้นที่เรียนรู้ที่ไม่จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงในสังคมและชุมชน

การดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการ ส่งเสริมการลดขยะขวดพลาสติก ผ่านการสร้างกลไกจูงใจเช่น การมอบชั่วโมงจิตอาสา เพื่อเชื่อมโยงการทำความดีเข้ากับการรักษาสิ่งแวดล้อม

โครงการยังมีส่วนสำคัญในการสร้าง ชุมชนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายในมหาวิทยาลัย โดยการสร้างความเข้าใจเรื่องการทิ้งขยะอย่างมีค่า ทำให้ขยะที่เคยไร้ประโยชน์สามารถถูกแปลงเป็นสิ่งที่สร้างคุณค่า ทั้งต่อการเรียนรู้ของนิสิตและต่อระบบสิ่งแวดล้อมในภาพรวม

การจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงคุณูปการของสืบนาคะเสถียร แต่ยังเป็นเวทีที่ทำให้เยาวชนและชุมชนมหาวิทยาลัยได้ร่วมกันแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงแนวคิดการอนุรักษ์เข้ากับการปฏิบัติจริง สร้างการเรียนรู้ที่ยั่งยืน และต่อยอดสู่สังคมที่ลดการใช้พลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม

ม.นเรศวร เสริมศักยภาพนิสิตสู่ผู้นำการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14 (SDG 14) “การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน” ผ่านกิจกรรมศึกษาดูงานของนิสิตในสาขาวิทยาศาสตร์การประมง คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสิตชั้นปีที่ 2 และ 3 ได้เดินทางไปยัง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งทะเล รวมถึงวิธีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกิจกรรมที่เน้นด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนดังนี้:

  1. การบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่ง SEP for SDGs
    นิสิตได้เรียนรู้การประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ในการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่ง เช่น การจัดสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว
  2. การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน
    เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของป่าไม้ชายฝั่งในการสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล เช่น การเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ การลดผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง และการกักเก็บคาร์บอนในระบบนิเวศ
  3. การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนตามแนวพระราชดำริ
    กิจกรรมปลูกป่าชายเลนช่วยสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของป่าชายเลนที่มีต่อระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งและการเป็นแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำ

บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริม SDG 14 กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงมุ่งเน้นการสร้างความรู้และทักษะเชิงวิชาการให้กับนิสิต แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการศึกษาและการปฏิบัติจริงในพื้นที่ นิสิตได้รับโอกาสในการทำความเข้าใจบทบาทของทรัพยากรทางทะเลที่มีต่อชุมชนและเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเรียนรู้แนวทางในการลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล

ส่งเสริมความรู้คู่การอนุรักษ์ มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะสร้างนักวิชาการรุ่นใหม่ที่มีความเข้าใจถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลในบริบทที่กว้างขวางขึ้น เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลอย่างสมดุลและยั่งยืนในอนาคต

ที่มา: ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin