ม.นเรศวร ส่งเสริมเป็นมหาวิทยาลัยแนวหน้าด้านเทคโนโลยีการอาหาร

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับการอนุมัติรับรองหลักสูตรมาตรฐานระดับนานาชาติจาก Institute of Food Technologists (IFT), USA ถือเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยไทยในการยกระดับคุณภาพการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารสู่มาตรฐานสากล

การรับรองดังกล่าวมีผลระหว่างปี ค.ศ. 2025-2030 โดยหลักสูตรนี้เป็นหนึ่งในเพียง 4 สถาบันของประเทศไทยที่ผ่านเกณฑ์การรับรองจาก IFT ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร รวมถึงการสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทั่วโลก

หลักสูตรที่ได้รับการรับรองนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพและมาตรฐานที่สูงของการเรียนการสอน และยังเป็นการยืนยันถึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์อาหาร ที่สามารถสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อ ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร และความยั่งยืนในอนาคต

การเรียนการสอนในหลักสูตรเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การอาหารกับการประยุกต์ใช้จริง เพื่อให้นักศึกษามีทักษะพร้อมปฏิบัติ สามารถก้าวสู่ตลาดแรงงานทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา การศึกษาที่มีคุณภาพ ให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในระดับโลก

คณะกรรมการประเมินจาก IFT ได้ทำการตรวจสอบคุณภาพหลักสูตรในหลายมิติ ทั้งด้านโครงสร้างการเรียนการสอน การวิจัย การสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษา ซึ่งผลลัพธ์สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของหลักสูตรและการทำงานอย่างเป็นระบบของคณาจารย์และบุคลากร

ความสำเร็จครั้งนี้ยังเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคณาจารย์ พนักงาน ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ผู้บริหารมหาวิทยาลัย รวมถึงหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันให้หลักสูตรมีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ

การได้รับการรับรองหลักสูตรในครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของคณะเกษตรศาสตร์ฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมเป็นมหาวิทยาลัยแนวหน้าด้านเทคโนโลยีการอาหาร เพื่อสร้างกำลังคนที่สามารถตอบสนองต่อความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหาร และสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต


ม.นเรศวร ร่วมสืบสานประเพณีปลูกข้าวชาวเทา–แสด สร้างความรู้และชุมชนยั่งยืน

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมลงแขกปลูกข้าวชาวเทา – แสด ณ วิชชาลัยข้าวและชาวนา มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน

กิจกรรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย ผู้บริหาร บุคลากร นิสิต คณะครู และนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนอนุบาลและประถมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งมีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติการปลูกข้าวอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมจากภายนอกมหาวิทยาลัย ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ กลุ่มผู้สูงอายุ และชุมชนท้องถิ่น โดยกลุ่มผู้สูงอายุถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประเพณีการปลูกข้าวและวิธีการดูแลข้าวตามแนวปฏิบัติของชาวเทา – แสด

กิจกรรมลงแขกปลูกข้าวครั้งนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมความรู้เรื่องเกษตรกรรมแบบยั่งยืน การรักษาพันธุ์ข้าวพื้นเมือง และการสร้างความเข้าใจด้านความมั่นคงทางอาหารแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป

นอกจากการปลูกข้าวแล้ว กิจกรรมยังจัดให้มีการเรียนรู้ขั้นตอนการเตรียมแปลง การหว่านเมล็ด การดูแลต้นกล้า และการเก็บเกี่ยว เพื่อให้นิสิตและเยาวชนสามารถเรียนรู้การเกษตรเชิงปฏิบัติอย่างครบวงจร

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังช่วยสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และหน่วยงานท้องถิ่น สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และสนับสนุนการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันของคนในชุมชน

สุดท้าย การลงแขกปลูกข้าวชาวเทา – แสด สะท้อนถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมการเกษตร การรักษาพันธุ์ข้าวท้องถิ่น และการสร้างโอกาสทางการเรียนรู้แก่เยาวชนและประชากรทั่วไปอย่างยั่งยืน โดยใช้วิชาการและประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่นเป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง

ม.นเรศวร จับมือบริษัทน้ำตาลพิษณุโลก พัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลสู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท น้ำตาลพิษณุโลก จำกัด นำโดยนายเอกรัตน์ เตชะเวช กรรมการบริหารบริษัท ณ ห้องประชุมนเรศวร 304 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้มีความยั่งยืน

ความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล

รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการต่อยอดพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ” โดยการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่สามารถร่วมมือกับบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกในการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี และกระบวนการผลิตอ้อยและน้ำตาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ลดการเผาอ้อย ส่งเสริมเกษตรยั่งยืน

บริษัทน้ำตาลพิษณุโลกมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนเรศวรมากว่า 10 ปี โดยมีการต่ออายุข้อตกลงทุก 5 ปี เพื่อพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ซึ่งส่งผลให้การผลิตอ้อยสดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทสามารถลดการเผาอ้อยลงจนเหลือเพียง 3% จากทั้งหมด และตั้งเป้าให้การผลิตอ้อยในอนาคตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จากอ้อย

นายเอกรัตน์ เตชะเวช กรรมการบริหารบริษัทน้ำตาลพิษณุโลก กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอ้อยและน้ำตาลรายใหญ่อันดับสองของโลก กลุ่มไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกเป็นส่วนหนึ่ง มุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลสู่ความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การทดสอบพันธุ์อ้อยใหม่ การบริหารจัดการไร่อ้อย และการใช้ของเหลือจากกระบวนการผลิต เช่น กากอ้อย เพื่อนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ภาชนะจากกากอ้อย ไบโอพลาสติก และอาหารสัตว์

สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs

ความร่วมมือครั้งนี้ดำเนินการภายใต้กรอบของ SDG2 (การยุติความหิวโหย) โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวไร่อ้อย อีกทั้งยังสนับสนุน SDG17 (หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

วิจัยและพัฒนาต่อเนื่องเพื่อเศรษฐกิจไทย

มหาวิทยาลัยนเรศวรและบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกจะดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องในหลายด้าน เช่น วิทยาศาสตร์การเกษตร วิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมเกษตร เศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทย และส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ที่มา: ข่าว/ภาพ พิษณุโลกฮอตนิวส์

ม.นเรศวร เปิดรับนิสิตลงทะเบียนเรียนรายวิชาศึกษาทั่วไป เสริมทักษะเกษตรและอาหารอย่างยั่งยืน

คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศเปิดรับนิสิตลงทะเบียนเรียน รายวิชาศึกษาทั่วไป (GE) ประจำภาคเรียนที่ 2/2567 โดยมีจุดมุ่งหมายในการเสริมสร้างความรู้ด้านเกษตร อาหาร และวิถีชีวิตอย่างยั่งยืน

สำหรับภาคเรียนนี้ คณะเกษตรศาสตร์ฯ ได้แนะนำ รายวิชาใหม่ 002314 ทักษะผู้ประกอบการและนวัตกรด้านอาหาร เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการด้านอาหาร ทั้งกระบวนการคิดสร้างสรรค์ และแนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมสร้างประสบการณ์จริงและกิจกรรมการเรียนรู้ที่สนุกสนาน

นอกจากนี้ยังเปิดให้ลงทะเบียนอีก 3 รายวิชา ได้แก่ 002211 วิถีชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในศตวรรษที่ 21 ที่มุ่งเน้นความรู้ด้านการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม

รายวิชา 002404 อาหารและวิถีชีวิต เปิดโอกาสให้นิสิตศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและวัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชน และผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเข้าใจด้านความมั่นคงอาหารและโภชนาการ

อีกหนึ่งรายวิชา 002206 แอนโทรโปซีน ช่วยให้นิสิตเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อวิถีชีวิตมนุษย์ สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

นิสิตที่สนใจสามารถลงทะเบียนเรียนผ่านระบบ www.reg.nu.ac.th ตามช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อวางแผนการเรียนรู้และเสริมสร้างทักษะด้านเกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานบริการการศึกษา สำนักงานเลขานุการคณะเกษตรศาสตร์ฯ อาคาร 2 หรือโทร 055-962707 เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับรายวิชาและแนวทางการลงทะเบียนเรียน

กิจกรรมการเรียนการสอนของคณะเกษตรศาสตร์ฯ ในภาคเรียนนี้ มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ที่ใช้งานได้จริง ส่งเสริมการเรียนรู้แบบบูรณาการ และสนับสนุนการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการเป็นผู้ประกอบการและนักนวัตกรรมด้านอาหารในอนาคต

ม.นเรศวร ชวนร่วมกิจกรรมสุขเสลา มาร์เก็ต “สุข สุก ศุกร์” ส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมสุขเสลา มาร์เก็ต Season “สุข สุก ศุกร์” ณ สวนเสลา หน้าอาคารวิสุทธิกษัตริย์ เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์กิจกรรมทางวัฒนธรรมและการตลาดแบบยั่งยืนให้กับนักศึกษา บุคลากร และประชาชนทั่วไป

กิจกรรมครั้งนี้เปิดตัวเสื้อสุขเสลาสุดคิ้วท์ สำหรับผู้เข้าร่วมงานทุกคน สามารถเลือกซื้อในราคาย่อมเยา พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบผ่านโปรโมชั่นลดทันที 5 บาท สำหรับผู้ที่นำแก้วหรือภาชนะส่วนตัวมาใช้ เพื่อสนับสนุนแนวคิดลดขยะและป้องกันการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง

นอกจากนี้ยังมีเวิร์กชอป DIY งานไวนิลถุงตาข่ายใส่แก้วน้ำให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้และสร้างสรรค์งานด้วยตนเองฟรี เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้วัสดุอย่างคุ้มค่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งของที่มีอยู่แล้ว

กิจกรรม “How to แยก” ให้ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีแก่ผู้เข้าร่วมงาน เพื่อสร้างความตระหนักในการจัดการขยะ ลดปริมาณขยะ และสนับสนุนการนำวัสดุกลับมาใช้ซ้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการบริโภคอย่างยั่งยืน

ช่วงเย็นมีการจัดนิทรรศการ Night at the Museum เรื่อง Halloween: Thai Ghost ให้ผู้เข้าร่วมงานเรียนรู้และเพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย พร้อมกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้เชิงประสบการณ์

กิจกรรมแต่งผีเดินเล่นภายในงานสุขเสลา มาร์เก็ต มีการมอบคูปองแทนเงินสด 20 บาท สำหรับผู้เข้าร่วมที่แต่งกายสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมความสนุกสนานและการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมทุกเพศทุกวัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมสุขเสลา มาร์เก็ตให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ สร้างสรรค์ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักศึกษา ชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมแบ่งปันข้าวไข่เจียว น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับจิตอาสา จัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ภายใต้แนวคิด “แบ่งปันและยั่งยืน” โดยจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้แก่นิสิตและผู้เข้าร่วมกิจกรรม

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการแจกข้าวไข่เจียว ส้มตำ และอาหารพร้อมเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการแบ่งปันและส่งเสริมความมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมสังคม นิสิตทุกคนได้รับเชิญให้มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

นอกจากการรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว กิจกรรมยังส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงการลดขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยเชิญชวนนิสิตนำภาชนะส่วนตัวมาร่วมกิจกรรม เพื่อสนับสนุนแนวทางการลดขยะพลาสติก

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนิสิต มหาวิทยาลัย และจิตอาสา โดยการร่วมแรงร่วมใจในการจัดเตรียมอาหารและบริการให้กับเพื่อนนิสิต สร้างสังคมแห่งการแบ่งปันและความร่วมมือ

กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานิสิตในด้านคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้วิธีการจัดการอาหารอย่างคุ้มค่า ลดการสูญเสียอาหาร และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังช่วยสร้างความตระหนักในเรื่องความมั่นคงทางอาหารและการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ สำหรับนิสิตทุกคน ถือเป็นการสร้างเสริมทักษะการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการเรียนรู้ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ม.นเรศวร เดินหน้า โครงการอาหารปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค ยกระดับมาตรฐานร้านอาหารในมหาวิทยาลัย ให้สะอาด ปลอดภัย และมั่นใจได้ทุกมื้อ

วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ดำเนินการจัดโครงการ อาหารปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค โดยมุ่งยกระดับคุณภาพร้านจำหน่ายอาหารภายในมหาวิทยาลัยให้ได้มาตรฐานด้านสุขาภิบาลอาหารที่ถูกต้อง สะอาด และปลอดภัยสำหรับนิสิต บุคลากร และผู้รับบริการทุกคน

กิจกรรมหลักของโครงการประกอบด้วยการตรวจประเมินสุขาภิบาลอาหารโดยใช้ แบบตรวจประเมิน SAN ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญในการกำกับคุณภาพการจัดการร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีการตรวจสุขลักษณะของผู้สัมผัสอาหารผ่านการ Swap มือ และการตรวจสอบภาชนะสำหรับใส่อาหาร เพื่อให้มั่นใจว่าได้มาตรฐานด้านความสะอาดและปลอดภัย

การตรวจประเมินในครั้งนี้ครอบคลุมโรงอาหาร 4 แห่ง ได้แก่ โรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ รวมทั้งสิ้นกว่า 30 ร้าน โดยทุกขั้นตอนดำเนินการภายใต้กรอบการประเมินที่เข้มงวดและมีความโปร่งใส

โครงการนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นด้านกายภาพ เช่น ความสะอาดของภาชนะและพื้นที่ประกอบอาหาร แต่ยังให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านชีวภาพ เช่น การควบคุมการปนเปื้อนเชื้อโรค และการปฏิบัติตามมาตรฐานสุขลักษณะของผู้สัมผัสอาหาร อันเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันโรคจากการบริโภคอาหารและน้ำ

นอกจากนี้ยังเป็นเวทีส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารภายในมหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของ สุขาภิบาลอาหาร และสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาการจัดการร้านค้าให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการบริโภคที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้บริการในระยะยาว

การดำเนินโครงการดังกล่าวยังมีส่วนสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน โดยมุ่งลดความเสี่ยงจากการบริโภคอาหารที่ไม่สะอาด และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านโภชนาการให้กับสังคมการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระดับมหาวิทยาลัย

ท้ายที่สุด โครงการ อาหารปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่สะท้อนบทบาทของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขเพื่อสร้างมาตรฐานอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืน อันเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ และยังเป็นการ ส่งเสริมอาหารปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค ให้เป็นวัฒนธรรมการบริโภคที่มั่นคงภายในสถาบันการศึกษา

ม.นเรศวร จัดงานเปิดบ้านเกษตรนเรศวร (Open House)

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2567 คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดพิธีเปิดงานเปิดบ้านเกษตรนเรศวร (Open House) โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร เป็นประธานในพิธี และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ฯ กล่าวรายงานต่อที่ประชุม

การจัดงานเปิดบ้านเกษตรนเรศวรครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและสาระความรู้เกี่ยวกับคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งแนะแนวการเลือกคณะและสาขาวิชา รวมถึงแนะนำเส้นทางอาชีพที่เกี่ยวข้องให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป

งาน Open House มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจในกระบวนการเรียนการสอนและการวิจัยด้านเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน เพื่อให้นักเรียนและผู้เข้าร่วมงานได้เห็นภาพรวมของการพัฒนาความรู้ด้านเกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงกับความมั่นคงทางอาหาร

ภายในงานมีกิจกรรมบรรยายพิเศษแนะแนวการศึกษาต่อ และอบรมถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะและสร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดในการทำงานและธุรกิจด้านเกษตรกรรม

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงสินค้าทางการเกษตร นวัตกรรม และเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงสินค้าราคาพิเศษจากนิสิตและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและสนับสนุนการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ

กิจกรรมห้องเรียนเสมือนจริง และการแข่งขันประกวดสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน โดยมีเงินรางวัลรวมกว่า 60,000 บาท เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้านเกษตรและวิทยาศาสตร์

งานเปิดบ้านเกษตรนเรศวรจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม 2567 ณ คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก โดยกิจกรรมทั้งหมดสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาความยั่งยืนด้านอาหารและการศึกษาของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวร สร้างพื้นที่แห่งความสุข “ตลาดโบราณย้อนยุค”

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีการสร้างพื้นที่แห่งความสุข “ตลาดโบราณย้อนยุค” เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างคนในมหาวิทยาลัย, ชุมชนโดยรอบ, และผู้ประกอบการท้องถิ่น สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ, สังคม, และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs ที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ตลาดโบราณย้อนยุคไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเลือกซื้ออาหารที่สะอาด ปลอดภัย และมีราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวของขนมและอาหารโบราณที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม การสร้างพื้นที่เช่นนี้ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นการส่งเสริมเป้าหมาย SDG 4 “การศึกษาที่มีคุณภาพ” และ SDG 11 “เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน”

นอกจากนี้ ตลาดโบราณย้อนยุคยังเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน การเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีโอกาสสร้างรายได้ถือเป็นการส่งเสริม SDG 8 “การทำงานที่ดีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ” โดยการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการในชุมชน อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเงินภายในพื้นที่ ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น

ในด้านสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมีกิจกรรมร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการนำขวดพลาสติกใช้แล้วมาใช้ใหม่เป็นภาชนะในการปลูกต้นไม้ เช่น การปลูกต้นไม้ในขวดพลาสติกที่เป็นวัสดุรีไซเคิล ช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่และลดขยะในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12 “การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน” โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การสร้างพื้นที่แห่งความสุขเช่นนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาความยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงเป็นต้นแบบของการพัฒนาชุมชนและสังคมที่ยั่งยืน ผ่านการใช้ความรู้ วัฒนธรรม และนวัตกรรมในทุกมิติของการพัฒนา

ม.นเรศวร ส่งเสริมอาหารเพื่อสุขภาพผ่าน “ตลาดสีเขียว” ขับเคลื่อนการบริโภคปลอดภัยและเกษตรยั่งยืน

คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรม “ตลาดสีเขียว” เพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตรระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ สร้างความตระหนักด้านการบริโภคอาหารปลอดภัย และสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่นให้สามารถจำหน่ายผลผลิตได้โดยตรงสู่ผู้บริโภคในราคายุติธรรม กิจกรรมตลาดสีเขียวจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันพุธ ณ บริเวณคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ตลาดสีเขียวเป็นหนึ่งในแนวทางการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัย โดยเน้นการสร้างระบบอาหารที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในตลาดมีการจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท เช่น ผักปลอดสารพิษ ผักพื้นบ้าน ข้าวสาร ผลไม้ตามฤดูกาล อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ เครื่องดื่มสมุนไพร และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากชุมชน ซึ่งทั้งหมดล้วนผ่านกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นธรรมต่อผู้ผลิต

กิจกรรมตลาดสีเขียวไม่เพียงเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพ แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพในสังคม มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแนวคิด “จากฟาร์มถึงจาน” (Farm to Table) เพื่อให้ผู้บริโภคตระหนักถึงที่มาของอาหารและคุณค่าทางโภชนาการที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

นอกจากนี้ ตลาดสีเขียวยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนในระดับฐานราก เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงสามารถนำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายโดยตรงกับผู้บริโภค ซึ่งช่วยลดต้นทุนการขนส่ง ลดการสูญเสียในห่วงโซ่อาหาร และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างมั่นคง ทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนท้องถิ่น

ในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ตลาดสีเขียวของมหาวิทยาลัยนเรศวรยังส่งเสริมการลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยรณรงค์ให้ผู้ซื้อและผู้ขายใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ถุงผ้า กล่องกระดาษ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ เพื่อสร้างพฤติกรรมการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ตลาดสีเขียวยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยในการศึกษาเกี่ยวกับระบบอาหารปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ และการตลาดเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในหลักเศรษฐกิจพอเพียง และการดำรงชีวิตอย่างสมดุลระหว่างสุขภาพ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอาหารเพื่อสุขภาพในทุกมิติ กิจกรรมตลาดสีเขียวจึงเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานเพื่อสร้าง “สังคมแห่งสุขภาวะ” ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวและเป็นแบบอย่างของสถาบันการศึกษาที่คำนึงถึงสุขภาพและความมั่นคงทางอาหารของสังคมอย่างแท้จริง

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin