Archives 2023

เปิดโลกการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานดิจิทัล

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการ Beyond Coding – Intensive Onsite Training ขึ้นในระหว่างวันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2566 เพื่อมุ่งเน้นให้นิสิตที่ได้รับคัดเลือก จำนวน 60 คน ในเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานดิจิทัล ได้นำทักษะพื้นฐานมาสร้างนวัตกรรมดิจิทัล และมีโอกาสไปฝึกงานในบริษัทและองค์กรชั้นนำของประเทศ อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.สัมฤทธิ์ โม้พวง คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ เป็นประธานในการกล่าวเปิดโครงการดังกล่าว

ซึ่งการจัดโครงการ Beyond Coding – Intensive Onsite Training ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) และมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนสนับสนุน โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ระเบียน วังคีรี เป็นหัวหน้าโครงการ

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร มุ่งอนุรักษ์แหล่งน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยังคงเป็นตัวอย่างที่สำคัญในการสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 15) โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัย ผ่านการดูแลแหล่งน้ำและพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย การสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับสัตว์ป่า และการทำให้มหาวิทยาลัยเป็น “มหาวิทยาลัยสีเขียว” หรือ Green University ที่มีความยั่งยืนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีพื้นที่แหล่งน้ำกว่า 225 ไร่ ซึ่งคิดเป็น 16.24% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยแหล่งน้ำเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ ทั้งในด้านการเป็นแหล่งน้ำสำหรับการใช้งานต่าง ๆ การดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนิสิตและประชาชนที่สนใจในการศึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษ์น้ำและธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์น้ำและสัตว์ป่าหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้

การอนุรักษ์แหล่งน้ำและพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัยยังสะท้อนให้เห็นถึงการเคารพและเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยการตั้งชื่อแหล่งน้ำในมหาวิทยาลัยให้มีชื่อที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรักษาความสำคัญของแหล่งน้ำในพื้นที่และสร้างความตระหนักรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำที่เป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้มีการปลูกต้นไม้และอนุรักษ์พันธุ์ไม้ที่หลากหลาย เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ โดยการสร้างพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัย ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับสิ่งแวดล้อมและมีผลดีต่อสุขภาพของนิสิต บุคลากร และชุมชนโดยรอบ

ในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 15), การอนุรักษ์แหล่งน้ำและพันธุ์ไม้ในมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่ได้เป็นเพียงการรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับระบบนิเวศและการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนและสังคมในการร่วมมือกันอนุรักษ์และปกป้องธรรมชาติให้คงอยู่สำหรับอนาคต

การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในด้านนี้ยังรวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นให้บุคลากรและนิสิตเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติและแหล่งน้ำ รวมถึงการพัฒนานโยบายที่เน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อให้มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นตัวอย่างในการดำเนินการที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงไม่เพียงแค่เป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการเรียนรู้และการวิจัยเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบในการสร้างความตระหนักรู้และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในระดับท้องถิ่น โดยการบูรณาการแนวคิดของการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้วัสดุที่ยั่งยืนด้วยความร่วมมือจาก บุคลากรทุกหน่วยงาน, นิสิตที่สนใจ, นิสิตจิตอาสา, สโมสร, และ ชมรม.

NULIFE เพราะการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด

มหาวิทยาลัยนเรศวร ตอกย้ำบทบาทผู้นำในด้านการส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 4 (SDG 4) ด้วยการเปิดตัว โครงการสัมฤทธิบัตร ที่มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่บุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาตนเอง หรือเตรียมตัวเข้าสู่การศึกษาในระดับปริญญาตรี

โครงการสัมฤทธิบัตรเป็นทางเลือกที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทะเบียนเรียนในรายวิชาระดับปริญญาตรีร่วมกับนิสิตปัจจุบันในชั้นเรียนปกติในเวลาราชการ โดยในภาคเรียนที่ 2/2566 นี้มีรายวิชาให้เลือกมากถึง 82 รายวิชา ครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชา ผู้เรียนสามารถสะสมหน่วยกิตผ่านระบบ Credit Bank ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำผลการเรียนในโครงการนี้ไป เทียบโอนหน่วยกิต เพื่อใช้ในการศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาตรีของมหาวิทยาลัย

โครงการดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบ NULife (Naresuan University Lifelong Learning) แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้ที่ https://nulife.nu.ac.th

โครงการสัมฤทธิบัตรและระบบ NULife ของมหาวิทยาลัยนเรศวรถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยผลักดันการเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียม ส่งเสริมการพัฒนาทักษะในหลากหลายด้าน และสร้างสังคมที่สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างแท้จริง

เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2566 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nu.ac.th/?p=36633 หรือที่ https://www.youtube.com/watch?v=365w_IRBea0#nusdg4

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมพัฒนาสารกำจัดวัชพืชชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการผลิตที่ปลอดภัย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การนำของ ดร.ณิชากร คอนดี อาจารย์ประจำภาควิชาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะเกษตรศาสตร์ ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (SDG 12) ผลงานของท่านคือการคิดค้น “สารกำจัดวัชพืชชีวภาพ (Bioherbicide)” ที่ผลิตจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร โดยใช้แบคทีเรียเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม

พัฒนาการสารกำจัดวัชพืชชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ตั้งแต่ปี 2561 ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตรในการพัฒนาการใช้วัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตรและผลพลอยได้จากการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น กากสับปะรด กากถั่วเหลือง เปลือกทุเรียน และกากมะพร้าว เป็นต้น มาใช้เป็นแหล่งอาหารและพลังงานสำหรับแบคทีเรียในการผลิตสารลดแรงตึงผิวชีวภาพ (biosurfactant) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการผลิตสารกำจัดวัชพืชชีวภาพที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ก่อให้เกิดการตกค้างในสิ่งแวดล้อม

คุณสมบัติของสารกำจัดวัชพืชชีวภาพ สารกำจัดวัชพืชชีวภาพที่พัฒนาขึ้นนั้นมีความสามารถในการกำจัดวัชพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับสารกำจัดวัชพืชเคมีในตลาด แต่แตกต่างตรงที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์นี้จะอยู่ในรูปของสารละลายไมโครอิมัลชันที่ประกอบด้วยสารสำคัญที่ถูกห่อหุ้มในระดับนาโน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายตัวและการซึมผ่านของสารเข้าไปในเนื้อเยื่อของใบวัชพืชได้อย่างรวดเร็ว

ผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สารกำจัดวัชพืชชีวภาพที่พัฒนาขึ้นนี้ยังสามารถทำงานได้ในสภาวะที่ท้าทาย เช่น pH, อุณหภูมิ หรือความเค็มสูง และมีข้อดีคือสามารถผลิตจากวัสดุที่มีต้นทุนต่ำ โดยใช้ของเสียจากการเกษตรและผลพลอยได้จากการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดของเสียที่เป็นอันตราย แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ได้อีกด้วย

การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาสารกำจัดวัชพืชชีวภาพจากมหาวิทยาลัยนเรศวรนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเน้นการผลิตและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับประเทศ ทั้งยังช่วยส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนในประเทศไทย

แนวทางต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ สารกำจัดวัชพืชชีวภาพที่พัฒนาขึ้นมีศักยภาพในการต่อยอดสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในภาคเกษตรกรรมอย่างแพร่หลาย และสามารถลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว นอกจากนี้ยังช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้สารกำจัดวัชพืชที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้และผู้บริโภค ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสใหม่ในตลาดและเสริมสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในภาคการเกษตรได้อย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการต่อยอดเทคโนโลยีนี้ สามารถติดต่อได้ที่ กองการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา หมายเลขโทรศัพท์ 0 5596 8727

การพัฒนาสารกำจัดวัชพืชชีวภาพนี้ไม่เพียงแต่เป็นการวิจัยที่นำไปสู่ความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการเสริมสร้างทิศทางใหม่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบจากการใช้สารเคมี และสนับสนุนการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

เรียนรู้ทักษะพร้อมทำงานกับ Samart Skills

ผู้สมัคร Samart Skills จะได้รับ e-Mail แจ้ง Link เข้าเรียนจาก coursera.org ระหว่างวันที่ 15-20 พฤศจิกายน 2566

ศึกษาขั้นตอนการเข้าเรียนได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Fq6ckupGqC4

สอบถามข้อมูล ได้ที่ คุณจินตนา ชัยรัตนศักดิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5596-1510 หรือ e-Mail : citcoms_training@nu.ac.th

ม.นเรศวร ให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพร เสริมสุขภาพ สร้างรายได้ สู่ชุมชน

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวรภายใต้การนำของ รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ บุญชู รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ และรองศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ แก้วก่อง รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ได้ร่วมกับหน่วยบริการวิชาการเพื่อชุมชนจัดกิจกรรมบริการวิชาการในหัวข้อ “การให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ” ณ ตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการรักษาสุขภาพตามหลักภูมิปัญญาท้องถิ่นและเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SDG 4 การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ SDG 17 การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีความสำคัญต่อการส่งเสริมการใช้สมุนไพรท้องถิ่นเพื่อดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและปลอดภัย ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายประการ โดยเน้นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการบำรุงรักษาสุขภาพและการพัฒนาชุมชน โดยกิจกรรมหลักที่จัดขึ้นคือการสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ซึ่งเป็นการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติในการบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและคัดจมูก นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้เรียนรู้วิธีการใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย

กิจกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงการส่งเสริมสุขภาพ แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12 การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน โดยการเสริมสร้างทักษะในการใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังส่งเสริมให้ประชาชนใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน

นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวัน และเปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชนสามารถพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างรายได้เสริมในชุมชน โดยการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพและสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องถิ่นให้เป็นสินค้าท้องถิ่นที่สามารถสร้างรายได้ในระยะยาว

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงบทบาทในการเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยการร่วมมือกับโรงเรียนบ้านหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ในการจัดกิจกรรมนี้ ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีการเสริมสร้างทักษะและความรู้เพื่อให้ชุมชนสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืนในด้านสุขภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

การดำเนินกิจกรรมนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 4 การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเน้นการให้ความรู้และทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการดูแลสุขภาพในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างความตระหนักในเรื่องการดูแลสุขภาพที่ดี แต่ยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชนท้องถิ่น

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงยืนหยัดในบทบาทสำคัญในการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นแก่ชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในทางที่เหมาะสมและยั่งยืน ส่งผลให้เกิดการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับท้องถิ่นที่ยั่งยืนต่อไป

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม: สร้างประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัย

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566, นางนิพัทธ์ เกษาพร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมดูแลต้อนรับและนำชมกลุ่มลูกค้าและพนักงานจากบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด จำนวน 50 คน ในการเข้าชม ผลงานศิลปะจากคลังสะสม “Color light” ซึ่งจัดแสดง ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวรและพิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัยได้สัมผัสการสร้างสรรค์ผ้าแบบดั้งเดิม และมีกระบวนการในการเรียนรู้ศิลปะผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น.

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม ประสบการณ์ด้านศิลปะ (Learning Experience) ซึ่งมีเป้าหมายในการเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้าน พร้อมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจในคุณค่าของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในทุกยุคทุกสมัย โดยผ่านการสัมผัสกับกระบวนการและเทคนิคการทำผ้าด้วยมือ รวมถึงการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ที่สะท้อนถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

กิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่า โดยการสัมผัสกระบวนการสร้างสรรค์ผ้าด้วยมือและการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำผ้าแบบดั้งเดิมที่เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยและสามารถสืบทอดความรู้เหล่านี้ได้ในอนาคต การศึกษาเกี่ยวกับการทำผ้าและการใช้วัสดุธรรมชาติยังช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในกระบวนการผลิตที่สามารถทำได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกวัยได้เรียนรู้ศิลปะที่มีคุณค่า.

กิจกรรมในครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้วัสดุท้องถิ่นในกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดยการใช้ สีจากธรรมชาติ ในการมัดย้อมผ้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีความยั่งยืนและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

การใช้ วัตถุดิบท้องถิ่น และกระบวนการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีในกิจกรรมการมัดย้อมเป็นการส่งเสริมการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน.

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงการสร้างความร่วมมือที่มีความสำคัญระหว่าง มหาวิทยาลัย ภาครัฐและ ชุมชนท้องถิ่น ในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่สามารถสืบสานไปยังอนาคต. การส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์ศิลปะไทยไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนาน แต่ยังช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติ.

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมนี้ยังเสริมสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย กับ ภาคธุรกิจ เช่นบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในแง่ของการศึกษาศิลปะและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น.

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

รับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ รากฟันเทียมรองรับฟันปลอมทั้งปาก ในขากรรไกรล่าง

โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิด “รับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ รากฟันเทียมรองรับฟันปลอมทั้งปาก ในขากรรไกรล่าง” โครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 2567

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
1. ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป
2. มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเท่านั้น (สิทธิบัตรทอง หรือบัตร 30 บาท)
3. ให้การรักษาโดยอาจารย์ทันตแพทย์ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของรากฟันเทียม

สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ลงทะเบียนผ่าน QR code หรือ โทร: 0-5596-7462
ที่มา: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดโครงการสุขาภิบาลศูนย์อาหารและการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ครั้งที่ 1

กิจกรรมเป็นการอบรมผู้ประกอบการร้านค้าภายในกำกับของกองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้งจาก NU Square และ NU Canteen รวมทั้งสิ้นกว่า 80 ร้านค้า แบ่งเป็น ผู้ประกอบการร้านค้า NU Square จำนวน 48 ร้านค้า และ ผู้ประกอบการร้านค้า NU Canteen จำนวน 32 ร้านค้า

ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต (ดร.จารุวรรณ แดงบุปผา) เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต หัวหน้างานบริการสวัสดิการนิสิต หัวหน้างานกิจกรรมพัฒนานิสิต หัวหน้างานอำนวยการ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

โดยโครงการดังกล่าวยังได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ผศ.ดร.ภญ.ศุภวรรณ พงศ์พัฒนาวุฒิ คณะเภสัชศาสตร์และ รศ.ดร.อัญชลี ศรีจำเริญ คณะเกษตรศาสตร์ฯ มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในหัวข้อ อาหารลดเค็ม/ หวาน และ หัวข้อ อาหารกับการป้องกันโรค เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดกับผู้ประกอบการโดยตรงแล้ว สิ่งที่เป็นเป้าหมาย คือผู้รับบริการ ซึ่งประกอบด้วย อาจารย์ บุคลากร และนิสิต ก็ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของผู้ประกอบการเช่นกัน จัดเมื่อวันที่ 9 – 10 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องล็อบบี้ อาคารขวัญเมือง ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

Healthy baby and Happy mom “เพราะ ลูก คือ ของขวัญพิเศษ ของพ่อแม่ และครอบครัว”

Healthy baby and Happy mom “เพราะ ลูก คือ ของขวัญพิเศษ ของพ่อแม่ และครอบครัว” รพ.มน. ให้บริการฝากครรภ์ คุณภาพ คลอดบุตรและพักฟื้นต่อเนื่องจนถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยทีมสูติแพทย์ กุมารแพทย์ และทีมการพยาบาลที่เชี่ยวชาญ

ติดต่อได้ที่คลินิกสูติ-นรีเวชกรรม ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 1 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร สอบถามเพิ่มเติม 0 5596 5685

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin