ม.นเรศวร ได้รับรางวัล G-Green ระดับดีเยี่ยม เชิดชูเกียรติด้านการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยเข้ารับ รางวัลตราสัญลักษณ์ G-Green ระดับประเทศ ในฐานะที่มหาวิทยาลัยได้ผ่านการประเมินรับรองความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในปี 2567 โดยได้รับการจัดอันดับในระดับ “Green Office ระดับดีเยี่ยม (ทอง)” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในการประเมินความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมจาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รางวัลนี้ถือเป็นการยอมรับในความพยายามและความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

ในพิธีมอบรางวัลดังกล่าว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นประธานในพิธี มอบรางวัล ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการเชิดชูเกียรติแก่หน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการรักษาสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ การได้รับรางวัลนี้สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของมหาวิทยาลัยในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการศึกษาและการบริหารจัดการมหาวิทยาลัย

รางวัล G-Green นี้ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการดำเนินงานภายใต้ SDG12 (การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ) ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการในหลายๆ ด้าน เช่น การลดการใช้พลาสติก การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า รวมถึงการส่งเสริมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้สร้างความร่วมมือจากทั้งนิสิต บุคลากรและชุมชนในการร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

การได้รับรางวัลในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติแก่มหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงกระตุ้นให้มหาวิทยาลัยยังคงดำเนินการในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างการตระหนักรู้และกระตุ้นให้บุคลากรทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

ที่มา: กองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดประกวดผลงานการพัฒนา “นวัตกรรมรักษ์โลก”

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 กองบริการการศึกษา โดยงานจัดการวิชาศึกษาทั่วไป ร่วมกับคณาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ได้จัดการประกวดผลงานการพัฒนา “นวัตกรรมรักษ์โลก” เพื่อส่งเสริมให้นิสิตได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน ลดขยะ ลดการสูญเปล่า และช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน

กิจกรรมนี้มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการแสดงทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยให้เกิดการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดของเสียที่เกิดจากการบริโภคเกินความจำเป็น ในปีนี้มีนิสิตเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 779 คน และส่งผลงานเข้าประกวดทั้งหมด 29 ผลงาน ณ โถงชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอแสดงความยินดีกับนิสิตที่ได้รับรางวัลในการประกวดนวัตกรรมรักษ์โลก ดังนี้
🥇 รางวัลชนะเลิศ: ผลงาน “บ่อดักไขมัน 2 in1” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยไขมันลงสู่แหล่งน้ำ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำให้สะอาดขึ้น
🥈 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: ผลงาน “Pure Flow ไหลสะอาด ไร้ไขมัน” ที่ออกแบบระบบกรองน้ำมันจากครัวเรือนก่อนปล่อยลงท่อน้ำเสีย ช่วยลดมลพิษทางน้ำ
🥉 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: ผลงาน “ถนนชาร์ทรถ EV ด้วยระบบโซล่าเซลล์” ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนการลดการใช้พลังงานฟอสซิล และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
🎖 รางวัลชมเชย:

  • “Second Life จากของเหลือใช้” นำวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดขยะ ลดการสูญเปล่า และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
  • “บ้านที่หายใจได้” ออกแบบบ้านที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและปรับอากาศตามธรรมชาติ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น
  • “กิ๊ฟเซ็ตกระเป๋ารักษ์โลก และเครื่องประดับจากขวดพลาสติก” เปลี่ยนขยะพลาสติกให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก ลดการสูญเปล่า และส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

กิจกรรมนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ ๆ ในการดูแลรักษาโลกของเรา ตอกย้ำแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดขยะ ลดการสูญเปล่า และช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้นของโลกเรา

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัด Workshop ประดิษฐ์เครื่องประดับและที่คั่นหนังสือจากฝาขวดพลาสติก

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรม Workshop: DIY เครื่องประดับและที่คั่นหนังสือจากฝาขวดพลาสติก โดยเชิญบุคลากรกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ นางสาววรรณชลี กุลศรีไชย หัวหน้างานศิลปวัฒนธรรม และ นางสาวเยาวทัศน์ อรรถาชิต เป็นวิทยากรสาธิตและบรรยาย

กิจกรรมมีหัวข้อหลักว่า “การประดิษฐ์ของเหลือใช้กลับนำมาใช้ประโยชน์ ลดโลกร้อน” เพื่อให้นิสิตและผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้การใช้ วัสดุเหลือใช้ ให้เกิดคุณค่าใหม่ สร้างสรรค์ เครื่องประดับ และ ที่คั่นหนังสือ ที่สามารถใช้งานได้จริง

การนำ ฝาขวดพลาสติก และ เศษวัสดุอื่น ๆ มาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ มีส่วนช่วย ลดปริมาณขยะ ทั้งในมหาวิทยาลัยและชุมชน พร้อมเสริมสร้าง ทักษะความคิดสร้างสรรค์ การประยุกต์ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และสามารถต่อยอดเป็น งานอดิเรก หรือ อาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้

นิสิตและผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้กระบวนการ คัดเลือกวัสดุออกแบบประกอบ, และ ตกแต่ง เครื่องประดับและที่คั่นหนังสือ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการเรียนรู้แบบ บูรณาการ และการศึกษาเพื่อ ความยั่งยืน

กิจกรรมนี้จัดขึ้นในงาน มหกรรมหนังสือ NU Book Fair ครั้งที่ 25 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ (QS) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเกิดความตระหนักเรื่อง การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ, ลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม, และสามารถต่อยอดเป็น รายได้เสริม

การเรียนรู้ผ่าน Workshop ช่วยสนับสนุนเป้าหมายด้านการศึกษาให้ผู้เข้าร่วมมี ความรู้ความสามารถ, และ ทักษะ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งด้าน ความคิดสร้างสรรค์การจัดการทรัพยากร, และ การสร้างรายได้เสริม

สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยนเรศวร ยังคงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกิจกรรมที่เชื่อมโยง การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม, และ ความยั่งยืน เพื่อสร้างนิสิตและบุคลากรที่ตระหนักถึง ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน พร้อมต่อยอดทักษะไปสู่ รายได้อย่างยั่งยืน และส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิต

ม.นเรศวร เดินหน้าติดตั้งโซลาร์เซลล์ สร้างพลังงานสะอาดสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว

มหาวิทยาลัยนเรศวร ดำเนินการติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์ บนหลังคาอาคารต่าง ๆ ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย รวมถึงบริเวณ สระสุริโยทัย เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 12 เมกะวัตต์ สำหรับใช้ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายสู่การเป็น มหาวิทยาลัยสีเขียว ที่เน้นการใช้ พลังงานสะอาด และการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การดำเนินโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยและพันธมิตรทางพลังงาน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้ พลังงานหมุนเวียน ลดการพึ่งพา พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ยังเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มุ่งสร้างระบบพลังงานที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคุ้มค่าในระยะยาว

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้วางแผนบูรณาการ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เข้ากับระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคาร เพื่อควบคุมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวจะช่วยให้สามารถ ติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ และบริหารจัดการภาระโหลดไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม เป็นการ ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของมหาวิทยาลัยในระยะยาว

ในด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ พลังงานจากแสงอาทิตย์ ช่วยลดปริมาณการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ สู่บรรยากาศ ซึ่งเป็นการสนับสนุนเป้าหมายของการลดผลกระทบต่อ สภาพภูมิอากาศโลก และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างยั่งยืน โครงการนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางของประเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ สังคมคาร์บอนต่ำ และการใช้ เทคโนโลยีสะอาด เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ในมิติของการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีเป้าหมายที่จะใช้พื้นที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เป็น แหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานหมุนเวียน สำหรับนิสิต นักวิจัย และบุคลากร ตลอดจนเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานภายนอกที่สนใจด้านพลังงานทางเลือก การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่จริงจะช่วย ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และพัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต

โครงการดังกล่าวยังสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรงให้กับมหาวิทยาลัย จากการ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และเพิ่มความ มั่นคงทางพลังงาน ในระยะยาว การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำงบประมาณส่วนที่ประหยัดได้ไปใช้พัฒนา โครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของนิสิตและบุคลากร

การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการพัฒนาเชิงโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการเป็นผู้นำด้าน พลังงานสะอาด และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เป็นอีกหนึ่ง “มุมของความยั่งยืนที่มอนอ” ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม และความพร้อมของมหาวิทยาลัยในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต

ม.นเรศวร ชวนร่วมกิจกรรมสุขเสลา มาร์เก็ต “สุข สุก ศุกร์” ส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมสุขเสลา มาร์เก็ต Season “สุข สุก ศุกร์” ณ สวนเสลา หน้าอาคารวิสุทธิกษัตริย์ เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์กิจกรรมทางวัฒนธรรมและการตลาดแบบยั่งยืนให้กับนักศึกษา บุคลากร และประชาชนทั่วไป

กิจกรรมครั้งนี้เปิดตัวเสื้อสุขเสลาสุดคิ้วท์ สำหรับผู้เข้าร่วมงานทุกคน สามารถเลือกซื้อในราคาย่อมเยา พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบผ่านโปรโมชั่นลดทันที 5 บาท สำหรับผู้ที่นำแก้วหรือภาชนะส่วนตัวมาใช้ เพื่อสนับสนุนแนวคิดลดขยะและป้องกันการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง

นอกจากนี้ยังมีเวิร์กชอป DIY งานไวนิลถุงตาข่ายใส่แก้วน้ำให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้และสร้างสรรค์งานด้วยตนเองฟรี เพื่อส่งเสริมทักษะการใช้วัสดุอย่างคุ้มค่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งของที่มีอยู่แล้ว

กิจกรรม “How to แยก” ให้ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีแก่ผู้เข้าร่วมงาน เพื่อสร้างความตระหนักในการจัดการขยะ ลดปริมาณขยะ และสนับสนุนการนำวัสดุกลับมาใช้ซ้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการบริโภคอย่างยั่งยืน

ช่วงเย็นมีการจัดนิทรรศการ Night at the Museum เรื่อง Halloween: Thai Ghost ให้ผู้เข้าร่วมงานเรียนรู้และเพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย พร้อมกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้เชิงประสบการณ์

กิจกรรมแต่งผีเดินเล่นภายในงานสุขเสลา มาร์เก็ต มีการมอบคูปองแทนเงินสด 20 บาท สำหรับผู้เข้าร่วมที่แต่งกายสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมความสนุกสนานและการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมทุกเพศทุกวัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมสุขเสลา มาร์เก็ตให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ สร้างสรรค์ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักศึกษา ชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ และการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ม.นเรศวร คว้ารางวัลชนะเลิศ โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์นให้โลกจำ Upvel 2”

นิสิตจิตอาสา มหาวิทยาลัยนเรศวร สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมูลค่า 30,000 บาท ในการแข่งขัน โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์นให้โลกจำ Upvel 2” ซึ่งเป็นเวทีการแข่งขันมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมุ่งเน้นการ ลดขยะ และ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ผ่านการเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติกใช้แล้ว โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทันสมัย ได้แก่ AIS E-Waste+ และ GC YOU เทิร์น

การแข่งขันครั้งนี้มีการจัดเก็บทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งาน และขวดพลาสติกที่สามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างถูกวิธี มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ส่งตัวแทนนิสิตจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัล ได้แก่ นายอลงกต ทาแก้วเมือง นางสาวภัคจิรา เงกสูงเนิน นายอดิศร แสงอรุณ และนางพรธิดา บุญยะโรจน์ หัวหน้างานบริการสวัสดิการนิสิต กองกิจการนิสิต พร้อมด้วยนางสาวอภิญญา ชำนิ นักวิชาการละครและดนตรี กองกิจการนิสิต เป็นที่ปรึกษาโครงการ

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้างต่อปัญหาขยะ และกระตุ้นให้นิสิต บุคลากร รวมถึงสังคมโดยรอบตระหนักถึงความสำคัญของการ ลดขยะ และการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ การแข่งขันยังเป็นกลไกสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมการคัดแยกขยะและการจัดการอย่างมีระบบในสถาบันการศึกษา

ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้ แสดงถึงพลังของนิสิตจิตอาสาที่ไม่เพียงแต่ลงมือปฏิบัติจริง แต่ยังเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้านสิ่งแวดล้อม การเข้าร่วมแข่งขันในโครงการดังกล่าวช่วยยกระดับทักษะการทำงานเป็นทีม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมร่วมสมัย

การเข้าร่วมโครงการ Green University ยังเป็นการต่อยอดนโยบายของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการก้าวสู่การเป็น Green University อย่างเต็มรูปแบบ ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการสร้างขยะ และจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย

การแข่งขันครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมกว่า 42 แห่งทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นของภาคการศึกษาไทยในการสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

ท้ายที่สุด ความสำเร็จในการคว้ารางวัลครั้งนี้ของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนและสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เห็นถึงความสำคัญของการ ลดขยะ และการ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมได้จริง

ม.นเรศวร ผนึกความร่วมมือภาคธุรกิจ ขับเคลื่อนสังคมสีเขียวด้วยการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ

วันที่ 3 ตุลาคม 2567

กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมการคัดแยกขยะเพื่อเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” จัดขึ้นโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ AIS โดยมี นายกัณต์กวี วิมุติ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต พร้อมด้วยบุคลากรกองกิจการนิสิต เข้าร่วมกิจกรรม ณ หอพักนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ผ่านภารกิจการคัดแยกและเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล AIS E-Waste+

การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างจิตสำนึกที่สำคัญให้แก่นิสิตและบุคลากร มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะในมหาวิทยาลัย แต่ยังช่วยสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนรอบข้างได้

แพลตฟอร์ม AIS E-Waste+ มีบทบาทสำคัญในการทำให้การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์มีความเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้จริง เป็นการผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน การร่วมมือเช่นนี้ช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการทรัพยากรและป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดจากการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกวิธี

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเปิดโอกาสให้นิสิตและบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง ผ่านการทิ้งขวดน้ำพลาสติกตามขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อสะสมข้อมูลเข้าสู่ระบบการแข่งขัน “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” โดยมี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

  1. ถ่ายรูปขวดน้ำ (กี่ขวดก็ได้)
  2. เข้าระบบกรอกข้อมูล
  3. แนบรูปถ่ายจากข้อ 1 แล้วกดร่วมกิจกรรม

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน ทุกคนสามารถตรวจสอบจำนวนขวดน้ำที่ตนเองได้ร่วมทิ้ง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมทั้งร่วมผลักดันให้มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือ “มอนอ” ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านความยั่งยืนในระดับประเทศ ภายใต้โครงการ Green University

การมีส่วนร่วมของนิสิตและบุคลากรในครั้งนี้ ยังเป็นการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงระบบ การเห็นคุณค่าของความร่วมมือ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต

ในเชิงกลยุทธ์ กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยขยายการรับรู้ในวงกว้างถึงปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์และความสำคัญของการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือ และสามารถต่อยอดไปสู่โครงการอื่น ๆ ในอนาคต

ท้ายที่สุด การจัดกิจกรรมคัดแยกขยะและการเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่มหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของการร่วมมือในการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่จะช่วยสร้างรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้มีความยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

NU PLAYGROUND: ตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม NU PLAYGROUND ขึ้น ณ ลาน Playground หอในมอนอ โดยมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นพื้นที่แห่งความสุขและความสร้างสรรค์สำหรับนิสิตและบุคลากร พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักเรื่องการจัดการขยะ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ภายในงานมีการจัด โซนตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่นำเสนอสินค้าท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก และสินค้าที่ผลิตโดยนิสิตซึ่งเน้นการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ตลาดสีเขียวยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และพฤติกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของนิสิตกับชุมชนโดยรอบ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังรณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมใช้ภาชนะส่วนตัวเพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาขยะ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตได้ลงมือปฏิบัติและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวัน ควบคู่กับการจัด เวิร์กช็อปและการเสวนา เกี่ยวกับการลดขยะและการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ

การจัดงานได้รับการสนับสนุนจากหลายชมรมภายในมหาวิทยาลัย อาทิ ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ชมรมจิตอาสา และชมรมอื่น ๆ ซึ่งร่วมกันจัดกิจกรรม เช่น การรีไซเคิลขยะ การใช้พลังงานทางเลือก และการปลูกต้นไม้ในพื้นที่มหาวิทยาลัย กิจกรรมเหล่านี้มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังสร้างจิตสำนึกความสามัคคีและความรับผิดชอบร่วมกันในหมู่นิสิต

การดำเนินงาน NU PLAYGROUND แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการบูรณาการ แนวคิดสิ่งแวดล้อมเข้ากับวิถีชีวิตของนิสิตและบุคลากร ไม่เพียงแต่ในระดับกิจกรรม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนามหาวิทยาลัยในภาพรวมสู่ความยั่งยืน

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและการลดของเสีย ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาสังคมเมืองที่ยั่งยืนและปลอดขยะ โดยมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชนในวงกว้าง

NU PLAYGROUND จึงไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมหรือตลาดทั่วไป แต่เป็นเวทีเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นิสิตได้พัฒนาทักษะจริง เสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นแรงขับเคลื่อนสู่การสร้าง สังคมสีเขียวและยั่งยืน ซึ่งมหาวิทยาลัยนเรศวรตั้งใจผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ม.นเรศวร ส่งเสริมสร้างมูลค่าจากขยะ ผ่านการประกวดนวัตกรรม “ขยะทำเงิน”

วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการประกวดผลงานการพัฒนานวัตกรรม “ขยะทำเงิน” ณ โถง ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทักษะการนำเสนอและการคิดวิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์ของนิสิต ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถนำขยะกลับมาเพิ่มมูลค่าและใช้ประโยชน์ได้จริง

โครงการนี้เปิดพื้นที่ให้กับนิสิตในการแสดงศักยภาพด้านการพัฒนาไอเดียที่ตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การนำขวดพลาสติก ฝาขวดพลาสติก เศษผ้า ถุงขนมพลาสติก และกระป๋องน้ำอัดลม มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือแม้แต่การนำน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากขยะอินทรีย์มาใช้ในการดูแลต้นไม้ ซึ่งล้วนเป็นการใช้ทรัพยากรที่เหลืออย่างคุ้มค่า

การประกวดครั้งนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม แต่ยังเป็นเวทีในการฝึกฝนทักษะสำคัญของนิสิต เช่น การสื่อสารเชิงวิชาการ การคิดเชิงวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดในการเรียน การทำงาน และการพัฒนาสังคมในอนาคต

การนำขยะมาเพิ่มมูลค่ายังช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการทิ้งอย่างไม่ถูกวิธี อีกทั้งยังเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยนเรศวรสู่การเป็นสถาบันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โครงการ “ขยะทำเงิน” ยังเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนเห็นถึงคุณค่าของสิ่งที่หลายคนมองว่าไร้ค่า และสามารถพลิกแนวคิดมาสร้างรายได้หรือสร้างประโยชน์ใหม่ได้ นับเป็นการบ่มเพาะวิธีคิดด้านการใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ และการสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ โครงการยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนิสิตที่มีความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านการจัดการขยะและการสร้างนวัตกรรมสีเขียว ซึ่งสามารถขยายผลต่อยอดไปสู่กิจกรรมและโครงการในระดับที่กว้างขึ้น

การจัดโครงการประกวดผลงาน “ขยะทำเงิน” จึงเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมสร้างมูลค่าจากขยะ ผ่านการบูรณาการความรู้และการปฏิบัติจริง ควบคู่กับการพัฒนาทักษะของนิสิต เพื่อก้าวไปสู่การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร รณรงค์รับบริจาคยาเหลือใช้ ส่งต่อเพื่อประโยชน์แก่สังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยคณะเภสัชศาสตร์ และเครือข่ายจิตอาสา ได้จัดโครงการรับบริจาค ยาเหลือใช้ เพื่อนำไปคัดกรองและกระจายต่อไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลน การดำเนินงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ใช้ยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเปล่าของทรัพยากรทางการแพทย์ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพสำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล

โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่า ยาซึ่งถูกทิ้งหรือปล่อยไว้จนเสื่อมคุณภาพยังสามารถสร้างคุณค่าได้ หากถูกนำมาคัดกรองและนำไปใช้ต่อในสถานพยาบาลที่ต้องการ การดำเนินงานจึงไม่เพียงเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ยังเป็นการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดปัญหาขยะยา และลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของสังคมด้านสาธารณสุข

ขั้นตอนการบริจาคทำได้โดยง่าย เพียงนำยาเหลือใช้มาไว้ที่ จุดรับขยะกำพร้า ภายในมหาวิทยาลัย โดยผู้บริจาคต้องขีดฆ่าชื่อผู้ป่วยบนฉลากเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแยกยาไว้ต่างหากและแจ้งทีมงานจิตอาสาว่าเป็น “ยาเหลือใช้” จากนั้นทีมงานจะทำการรวบรวมและจัดส่งไปยัง อาจารย์ดำรงค์ศักดิ์ เป๊กทอง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง

ทีมงานคณะเภสัชศาสตร์จะตรวจสอบคุณภาพและจัดหมวดหมู่ยา ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เช่น โรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก รวมทั้งโรงพยาบาลอื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีความต้องการยาอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาที่จำเป็นได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

สำหรับยา หมดอายุ ประชาชนยังสามารถส่งรวมมากับขยะกำพร้าได้ เพื่อให้ทีมงานดำเนินการกำจัดอย่างถูกวิธี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชน การดำเนินงานในรูปแบบนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังจุดรับบริจาค ยังสามารถส่งยาเหลือใช้โดยตรงไปที่ อาจารย์ดำรงค์ศักดิ์ เป๊กทอง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 99 ม.9 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000 ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้เครือข่ายจิตอาสาสามารถรวบรวมยาได้จากพื้นที่ทั่วประเทศ

โครงการนี้สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของมหาวิทยาลัย ภาคประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการทรัพยากรด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน การ ใช้ยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงไม่เพียงช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ยังเป็นการลดขยะ ป้องกันมลพิษ และสร้างวัฒนธรรมการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า

ท้ายที่สุด การรณรงค์รับบริจาคยาเหลือใช้ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ทั้งในมิติสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยแสดงให้เห็นว่าการจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบสามารถสร้างประโยชน์ได้ทั้งต่อผู้คนและต่อโลกใบนี้ในระยะยาว

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin