ม.นเรศวร หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ส่งเสริมสุขภาพอย่างเท่าเทียม มอบรอยยิ้มแก่ประชาชน

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2567 หน่วยทันตกรรมพระราชทาน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ลงพื้นที่ให้บริการใส่ฟันเทียมพระราชทานแก่ประชาชน ณ โรงพยาบาลอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม 2567 รวมผู้รับบริการจำนวนทั้งสิ้น 46 ราย โดยทีมงานประกอบด้วยอาจารย์ทันตแพทย์ นิสิตระดับบัณฑิตศึกษา ผู้ช่วยทันตแพทย์ และช่างทันตกรรม นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ทันตแพทย์หญิง ดร.วิสาขะ ลิ่มวงศ์ อดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังได้ร่วมลงพื้นที่เป็นขวัญและกำลังใจให้กับทีมงานด้วย

การให้บริการครั้งนี้ แบ่งเป็นการใส่ฟันเทียมแบบ Conventional denture จำนวน 26 ราย และ Digital denture จำนวน 20 ราย ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในหน่วยทันตกรรมพระราชทาน การประยุกต์ Digital denture ทำให้การขึ้นรูปชิ้นงานแม่นยำมากขึ้น ลดการกรอปรับแต่งในช่องปาก และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับฟันเทียมที่มีคุณภาพ สวมใส่สบายและพอดี

สิ่งสำคัญของการดำเนินงานครั้งนี้ คือการผสมผสานเทคโนโลยี CAD Design และการพิมพ์สามมิติ (3D Printing) ในการผลิตฟันเทียม โดยทีมทันตแพทย์และนิสิตปริญญาโทสามารถผลิตฟันเทียมได้ครบตามเป้าหมาย 20 รายภายในระยะเวลาอันจำกัด แสดงถึงศักยภาพของบุคลากรรุ่นใหม่ที่สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพการรักษา

แม้ว่าการผลิต Digital denture ยังมีข้อจำกัด เช่น เรื่องความสวยงามของชิ้นงานและความรวดเร็วในการขึ้นรูป แต่ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนางานด้านทันตกรรมเชิงนวัตกรรม ที่สามารถต่อยอดเพื่อยกระดับบริการสุขภาพช่องปากในอนาคต

โครงการหน่วยทันตกรรมพระราชทานครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมสุขภาพอย่างเท่าเทียม ให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับโอกาสเข้าถึงบริการทางทันตกรรมที่มีคุณภาพ โดยไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงบริการสาธารณสุข

นอกจากนี้ การออกหน่วยยังเป็นเวทีให้นิสิตทันตแพทย์ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ฝึกปฏิบัติจริงร่วมกับทีมอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะวิชาชีพ แต่ยังปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการรับผิดชอบต่อสังคม และการมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่เป็นธรรมและโปร่งใสด้านสุขภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความไม่เสมอภาคด้านการเข้าถึงบริการ และร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

ม.นเรศวร รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ หน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุนงานด้านคนพิการอย่างต่อเนื่อง

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยนเรศวร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภิสา ไวฑูรเกียรติ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้ารับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ “รางวัลหน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุนงานด้านคนพิการอย่างดีเสมอมา” จากนายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก

พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นในงาน “วันคนพิการสากลจังหวัดพิษณุโลก ประจำปี 2567” (International Day of Persons with Disabilities, Phitsanulok Province, year 2024) ภายใต้หัวข้อ “ส่งเสริมการเป็นผู้นำคนพิการเพื่ออนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืน” (Amplifying the leadership of persons with disabilities for an inclusive and sustainable future) ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 5 โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก โดยมีหน่วยงานและองค์กรเครือข่ายด้านคนพิการเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญต่อการ สนับสนุนงานด้านคนพิการ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติ โดยยึดถือแนวคิดการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการศึกษา สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการส่งเสริมศักยภาพด้านการเรียนรู้และการทำงาน

รางวัลเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นต้นแบบของสถาบันการศึกษาที่ไม่เพียงผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถ แต่ยังผลักดันให้สังคมเห็นคุณค่าในความหลากหลาย และร่วมมือสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อผู้พิการ

การสนับสนุนงานด้านคนพิการของมหาวิทยาลัยนเรศวรครอบคลุมทั้งการพัฒนาบริการด้านการเรียนการสอน การวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตคนพิการ และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และขับเคลื่อนนโยบายเชิงบูรณาการ

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังจัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้คนพิการได้มีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการฝึกทักษะ การแนะแนวอาชีพ และการพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคม

การได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยนเรศวร แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้มหาวิทยาลัยเดินหน้าสนับสนุนและสร้างโอกาสที่เท่าเทียมต่อไป เพื่อร่วมสร้างสังคมที่ลดความเหลื่อมล้ำ และก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ชมรมอาสาพัฒนา ม.นเรศวร จัดค่ายหมอกล้อมฝัน เติมเต็มความสุขให้กับเยาวชนและชุมชน

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ชมรมอาสาพัฒนา มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “ค่ายหมอกล้อมฝัน ในอ้อมกอดที่ปลายฝน” ณ โรงเรียนชุมชน 17 บ้านนาตาดี ตำบลบ่อโพธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนิสิตอาสาสมัครเข้าร่วมทำกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่

กิจกรรมแรกที่ชมรมดำเนินการคือ การปรับปรุงสนามเด็กเล่น พร้อมทั้งทาสีและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้และการเล่นที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับเด็ก ๆ ในโรงเรียน อันเป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการของเยาวชน

นอกจากนี้ยังมีการทำ แปลงเกษตรและบ่อเลี้ยงปลาในโรงเรียน เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมและการจัดการอาหารของนักเรียน โดยมุ่งหวังให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง รวมถึงเป็นตัวอย่างของการพึ่งพาตนเองและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

กิจกรรมยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่มอบผลิตภัณฑ์ เช่น นมแลคตาซอยและน้ำดื่มสิงห์ เพื่อแจกจ่ายให้นักเรียนและผู้เข้าร่วมงาน แสดงถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคเอกชน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเยาวชนในท้องถิ่น

นอกจากกิจกรรมเชิงพัฒนาแล้ว ยังมีการจัด กิจกรรมสันทนาการร่วมกับนักเรียน เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุข ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรกับน้อง ๆ นักเรียน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการมีส่วนร่วมและการแบ่งปันในสังคม

โครงการครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและทักษะการทำงานเป็นทีมของนิสิตชมรมอาสาพัฒนา ผ่านการลงพื้นที่จริง ร่วมกันวางแผน และปฏิบัติงานจนเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ทรงคุณค่าและช่วยพัฒนาทั้งผู้ให้และผู้รับ

กิจกรรม ค่ายหมอกล้อมฝัน จึงเป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้และสร้างสังคมแห่งความสุข ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน โรงเรียน และชุมชน เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเกื้อกูลกัน

ม.นเรศวร ให้บริการทางทันตกรรมฟรี เทิดพระเกียรติสมเด็จย่าฯ

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2567 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมให้บริการทางทันตกรรมแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพและวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการให้บริการทางทันตกรรมหลากหลายประเภท เช่น ตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ขูดหินน้ำลาย ถอนฟัน และผ่าฟันคุด ครอบคลุมผู้รับบริการกว่า 500 ราย สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชน และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับชุมชน

การจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการให้บริการด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสืบสานเจตนารมณ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นพระมารดาแห่งวงการทันตแพทย์ไทย อันเป็นบุคคลสำคัญในการพัฒนางานทันตสาธารณสุขของประเทศ

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มุ่งเน้นการพัฒนาบริการวิชาการเพื่อสังคมควบคู่ไปกับภารกิจด้านการเรียนการสอนและการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการสร้างความรู้และความเข้าใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัย

การดำเนินกิจกรรมครั้งนี้ยังเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนระบบสุขภาพของประเทศ โดยการลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับบริการที่มีมาตรฐาน โดยไม่ถูกจำกัดด้วยต้นทุนทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมยังเป็นการบ่มเพาะนิสิตทันตแพทย์ให้มีโอกาสได้เรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง เสริมสร้างทักษะวิชาชีพ ควบคู่กับการปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการเป็นผู้ให้ และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวรจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้างสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งตอกย้ำพันธกิจของสถาบันในการเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศชาติ

ม.นเรศวร นำนิสิตศึกษาชายแดนตาก เรียนรู้สังคม เศรษฐกิจ และความร่วมมือข้ามพรมแดน

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 คณาจารย์และนิสิตในรายวิชาชายแดนศึกษา หลักสูตรการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุศรินทร์ เลิศชวลิตสกุล และอาจารย์กฤษณะ โชติสุทธิ์ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ อำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจสภาพสังคม เศรษฐกิจ และความร่วมมือข้ามพรมแดนในพื้นที่จริง

ในวันแรก คณะศึกษาดูงานได้เข้ารับฟังการบรรยายเกี่ยวกับ การทำงานของแม่ตาวคลินิก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ทั้งสองฝั่งชายแดน โดยเฉพาะการ ส่งเสริมให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ข้ามพรมแดน ที่มุ่งเน้นการดูแลกลุ่มประชากรเปราะบาง จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาการค้าชายแดนบริเวณแม่น้ำเมย และระบบขนส่งสินค้าที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2

ในวันที่สอง คณะได้เข้าศึกษาการจัดการศึกษาแก่เยาวชนไร้สถานะที่ ศูนย์การเรียนรู้ซูแมคี (Thoo Mweh Khee Learning Center) อำเภอพบพระ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมทั้งลงพื้นที่สังเกตการณ์การควบคุมชายแดนและการเคลื่อนย้ายของผู้คนและสินค้าที่บ้านหมื่นฤาชัยและบ้านวาเล่ย์ เพื่อเข้าใจความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับชายแดนอย่างรอบด้าน

ในช่วงบ่าย คณะได้เดินทางไปที่บ้านยะพอหรือบ้านเพาะช้าง เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของชาวกะเหรี่ยงที่สะท้อนถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างสมดุลและยั่งยืน จากนั้นได้ไปศึกษาการพัฒนาการท่องเที่ยวที่โค้ง 33 บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพใหม่ในการสร้างรายได้แก่ชุมชนชายแดน

ในวันสุดท้าย คณะศึกษาดูงานได้เข้าชมการ ค้าขายวัวที่ตลาดวัวโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปะ ซึ่งเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจชายแดน ก่อนจะปิดท้ายการศึกษาดูงานที่ตลาดริมเมย และจุดผ่านแดนถาวรที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 เพื่อเรียนรู้ภาพรวมของการค้าข้ามแดนและบรรยากาศเศรษฐกิจชายแดนอย่างใกล้ชิด

การศึกษาดูงานในครั้งนี้ได้เปิดมุมมองใหม่แก่นิสิต ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการสาธารณสุข ในพื้นที่ชายแดน ตลอดจนความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล

ที่สำคัญ การเรียนรู้นอกห้องเรียนครั้งนี้ยังเป็น การสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิต ตระหนักถึงปัญหาตามแนวชายแดน และเล็งเห็นบทบาทที่ตนเองสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยเฉพาะด้าน การให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ข้ามพรมแดน ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทั้งจิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อสังคม และการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืน

คณะผู้บริหารร่วมรับฟังปัญหาและความต้องการสิ่งสนับสนุนการเรียนของนิสิตพิการ

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2567 ศูนย์บริการนิสิตพิการ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรมพบผู้บริหารมหาวิทยาลัยสำหรับนิสิตพิการปีการศึกษา 2567 จำนวน 14 คน ณ ห้องประชุมเสลา 102 สำนักงานอธิการบดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับฟังความต้องการด้านการเรียนการสอนของนิสิตพิการ

รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้โอวาทและแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ตลอดจนให้ความสำคัญกับการสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาและความเท่าเทียมสำหรับนิสิตทุกกลุ่ม

กิจกรรมนี้ช่วยให้นิสิตพิการสามารถนำเสนอความต้องการเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียน การเข้าถึงสื่อการเรียนการสอน และการจัดกิจกรรมเสริมทักษะอย่างทั่วถึง รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ พร้อมคณะผู้บริหารได้ให้คำปรึกษาและรับฟังความคิดเห็นเพื่อพัฒนานโยบายและมาตรการสนับสนุนให้เหมาะสมกับความต้องการของนิสิต

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่าและศิลปวัฒนธรรม พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมรับฟังและให้แนวทางการสนับสนุนด้านการศึกษาและกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพนิสิตพิการ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้ทุกนิสิตสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ โดยสะท้อนพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาศักยภาพมนุษย์อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนิสิตพิการกับผู้บริหาร เพื่อพัฒนาระบบสนับสนุน การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนการสอน และโครงการกิจกรรมเสริมทักษะที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ของนิสิตทุกคน

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นสนับสนุนการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา พัฒนานิสิตพิการให้เข้าถึงความรู้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในสังคม พร้อมยืนยันถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างนิสิต คณาจารย์ และผู้บริหารในการสร้างการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

ภาพจาก: กองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมมือแม่ตาวคลินิก พัฒนาความรู้สุขภาพประชาชนชายแดน

วันที่ 23-25 สิงหาคม 2567 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมบริการวิชาการด้านสุขภาพชายแดน ภายใต้หัวข้อ “Essential Public Health Issues” ณ แม่ตาวคลินิก Training Center อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความตระหนักด้านสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดน

โครงการนำทีมโดย รศ.ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ และ ดร.รมย์นลิน เขียนจูม ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ พร้อมด้วยคณาจารย์และนิสิตหลักสูตรปริญญาตรี มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้บริการวิชาการอย่างใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่

การจัดกิจกรรมมุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อจากน้ำและอาหาร สุขาภิบาล และสุขวิทยาส่วนบุคคล เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีแก่ประชาชนชายแดน ตลอดจนส่งเสริมความเข้าใจเรื่องอาหารและโภชนาการที่เหมาะสม

อีกทั้งยังครอบคลุมหัวข้ออนามัยแม่และเด็ก การป้องกันโรคติดต่อนำโดยแมลง และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนมีข้อมูลและทักษะในการดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG3 ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเน้นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการสุขภาพและความรู้ด้านสุขภาวะให้แก่กลุ่มประชากรชายขอบที่อาจมีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

นอกจากนี้ กิจกรรมยังสอดคล้องกับ SDG10 ด้านลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากให้บริการและความรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชนชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนแม่สอด ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีข้อจำกัดด้านสวัสดิการสุขภาพและการเข้าถึงข้อมูลบริการทางสาธารณสุข

โครงการบริการวิชาการสุขภาพชายแดนครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และแม่ตาวคลินิก โดยได้รับการสนับสนุนจาก The Asia Foundation เพื่อสร้างความร่วมมือและส่งเสริมสุขภาวะที่ยั่งยืนในพื้นที่ชายแดน

ม.นเรศวร จัดบรรยายแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผ่านกลไกอุดมศึกษา

วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567 คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดการบรรยายพิเศษหัวข้อ “แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผ่านกลไกอุดมศึกษา” โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรพงษ์ บัวหล้า อาจารย์ประจำภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ และอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นวิทยากร ณ ห้อง 311 อาคารปราบไตรจักร 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร

การบรรยายในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการตระหนักถึงบทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการมีส่วนร่วม สนับสนุนงานด้านคนพิการ ให้สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพได้อย่างเท่าเทียม เป็นส่วนสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสร้างสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน

หัวข้อการบรรยายยังเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับโครงสร้างและระบบการศึกษา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้พิการ ทั้งในด้านการเรียนการสอน สิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือผู้พิการให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของภูมิภาค ได้ตระหนักถึงบทบาทของตนในการสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยได้วางแนวทางการทำงานที่เน้นความครอบคลุม การสร้างนโยบายที่เอื้อต่อผู้พิการ และการบูรณาการประเด็นนี้เข้าไปในภารกิจของมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง

การจัดบรรยายครั้งนี้ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่เปิดโอกาสให้คณาจารย์ บุคลากร นิสิต และผู้สนใจทั่วไป ได้ซักถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้จากกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจเชิงลึกในการสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนสังคมที่เท่าเทียมและครอบคลุม โดยมุ่งหวังให้การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างโอกาสและลดความไม่เสมอภาคในสังคมไทย

การจัดงานบรรยายดังกล่าวเป็นอีกก้าวหนึ่งของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการเป็นสถาบันการศึกษาที่ไม่เพียงมุ่งเน้นด้านวิชาการ แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเป็นธรรม โดยเฉพาะการ สนับสนุนงานด้านคนพิการ ให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนต่อไป

ม.นเรศวร ดำเนินโครงการทันตกรรมพระราชทานฯ ให้บริการผู้ต้องขังเรือนจำพิษณุโลก

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ มุ่งเน้นการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน SDGs 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDGs 10 (การลดความเหลื่อมล้ำ) ซึ่งมุ่งเน้นการลดความไม่เสมอภาคและการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้คนที่อาจไม่ได้รับการดูแลสุขภาพตามปกติ เช่น การให้บริการทางทันตกรรมแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประชากรที่มักจะไม่ได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม

โครงการบริการทันตกรรมพระราชทานฯ ที่เรือนจำกลางพิษณุโลก หนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เท่าเทียมกันคือ การให้บริการรักษาทางทันตกรรมแก่ผู้ต้องขัง โดยผ่าน หน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้ออกให้บริการทันตกรรมใน เรือนจำกลางพิษณุโลก ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่ดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง แต่ยังเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการสุขภาพให้กับกลุ่มคนที่อาจขาดโอกาสในการรับการรักษา

ในกิจกรรมนี้ มีผู้ต้องขังมารับการรักษาทางทันตกรรมทั้งหมด 498 ราย โดยการรักษามีหลากหลายประเภท เช่น การถอนฟัน, การผ่าฟันคุด, การตัดไหม, การแต่งกระดูก และการตัดก้อน Fibroma ซึ่งเป็นการให้บริการทันตกรรมที่ครบวงจรเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและปรับปรุงสุขภาพช่องปากของผู้ต้องขังในเรือนจำ

รายละเอียดการรักษาและผลตอบรับจากผู้ต้องขัง การให้บริการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากปัญหาฟันและเหงือกของผู้ต้องขัง แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ต้องขังในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่ได้แสดงความรู้สึกดีใจและขอบคุณที่ได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้ต้องขังหลายคนได้แสดงความต้องการให้มีการจัดบริการทางทันตกรรมในเรือนจำอย่างต่อเนื่อง เพราะการเข้าถึงการรักษาทางทันตกรรมในสถานที่เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยง่ายในชีวิตประจำวันของพวกเขา

การรักษาทางทันตกรรมที่ให้บริการนี้ช่วยลดปัญหาความเจ็บปวดจากฟันผุและฟันคุดที่ผู้ต้องขังต้องเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของผู้ต้องขังในเรือนจำ ที่สามารถรับการรักษาอย่างมีคุณภาพ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเดินทางไปรับบริการที่อื่น

โครงการนี้มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3) ซึ่งมุ่งส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนในทุกกลุ่มประชากร โดยเฉพาะการให้บริการสุขภาพที่เข้าถึงได้ง่ายและเท่าเทียมกันในทุกๆ ชุมชน รวมถึงผู้ต้องขังซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะถูกมองข้ามในแง่ของการดูแลสุขภาพ

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังสอดคล้องกับ SDGs 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) ที่มุ่งเน้นการลดความไม่เสมอภาคในสังคมและส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการสุขภาพ เช่น ผู้ต้องขังในเรือนจำ การให้บริการทันตกรรมพระราชทานฯ นี้เป็นการเสริมสร้างความเท่าเทียมในการดูแลสุขภาพ ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม

ผลกระทบในระยะยาวและความสำคัญของโครงการ การดำเนินโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเจ็บปวดของผู้ต้องขัง แต่ยังส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว เมื่อผู้ต้องขังได้รับการรักษาที่มีคุณภาพ จะสามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับช่องปากและฟัน เช่น โรคเหงือกอักเสบ และฟันผุ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบถึงสุขภาพร่างกายในภาพรวม

การให้บริการทันตกรรมในเรือนจำยังเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากในกลุ่มผู้ต้องขัง ซึ่งอาจนำไปสู่การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของตนเองในอนาคต นอกจากนี้ การให้บริการที่มีคุณภาพยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตของผู้ต้องขัง โดยการดูแลที่ดีช่วยให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่าและได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม

การสร้างความยั่งยืนในชุมชน โครงการทันตกรรมพระราชทานฯ นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อผู้ต้องขังในเรือนจำกลางพิษณุโลกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการใช้ความรู้และทรัพยากรที่มีในการสร้างผลกระทบทางบวกในสังคม โดยการให้บริการด้านสุขภาพที่เป็นไปตามหลักการของ การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) มหาวิทยาลัยนเรศวรมีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ผ่านการให้บริการทางการแพทย์ที่เข้าถึงได้สำหรับทุกกลุ่มประชากร แม้แต่ผู้ต้องขังที่อาจขาดโอกาสในการรับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม

การดำเนินโครงการนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ดีระหว่างมหาวิทยาลัย, หน่วยงานราชการ, และภาคสังคมในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและยั่งยืนในชุมชน โดยการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ต้องขังที่มีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น และจะยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพต่อไปเพื่อสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีและยั่งยืน

ม.นเรศวร ร่วมลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มุ่งลดความไม่เสมอภาคในสังคม

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กับสถาบันการศึกษา หน่วยงาน และองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกว่า 90 แห่ง

พิธีดังกล่าวจัดขึ้นในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 (The 16th National Conference on Persons with Disabilities – NCPD 2024) ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตคนพิการสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ 72 พรรษา โดยมี พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “คุณภาพชีวิตคนพิการสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน” โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวง พม. ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา และองค์กรเครือข่ายด้านคนพิการ เข้าร่วมงานจำนวนมาก รวมทั้งนักวิชาการ นักศึกษา ผู้พิการ และภาคีเครือข่ายกว่า 1,600 คน

การเข้าร่วมของมหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนสิทธิและโอกาสของคนพิการ เพื่อ ลดความไม่เสมอภาค และสร้างระบบสังคมที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตของคนพิการทั้งในระดับการศึกษาและชุมชน

การลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ยังเปิดโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยการทำงานร่วมกันของสถาบันการศึกษาและองค์กรที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในเชิงปฏิบัติ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงยึดมั่นในพันธกิจการพัฒนาสังคมที่เสมอภาค ด้วยการผลักดันกิจกรรมและโครงการที่สร้างความตระหนักรู้ และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของคนพิการในทุกมิติ ทั้งการศึกษา อาชีพ และการมีส่วนร่วมทางสังคม

ความร่วมมือที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เป็นการสร้างเครือข่ายที่แข็งแรงระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ และภาคีต่าง ๆ แต่ยังเป็นการวางรากฐานของการสร้างสังคมที่เท่าเทียม และยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีและคุณค่าของคนพิการ

การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรมีบทบาทร่วมในเวทีระดับชาติครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นสถาบันการศึกษาที่ไม่เพียงสร้างความรู้ แต่ยังสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ทุกคน เพื่อผลักดันสังคมไทยไปสู่ความเสมอภาคและการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin