Archives 2025

ม.นเรศวร เจ้าภาพจัดประชุมวิชาการ CGCM ด้านการแพทย์แผนจีนครั้งแรกในประเทศไทย ส่งเสริมสุขภาพและความร่วมมือวิจัยระดับโลก

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568 มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ The 21st CGCM Meeting ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) จังหวัดพิษณุโลก โดยมีศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงกรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวต้อนรับ และศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงจารุภา วิโยชน์ เลขาธิการฝ่ายจัดงาน กล่าวรายงานต่อ Prof. Dr. Yung-Chi Cheng ประธาน Consortium for Globalization of Chinese Medicine (CGCM) ผู้กล่าวเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ

การประชุม CGCM เป็นเวทีระดับนานาชาติที่สำคัญในการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และงานวิจัยด้านการแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine: TCM) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนายาสมุนไพรจีนและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อมนุษยชาติ องค์กร CGCM ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 ปัจจุบันมีสมาชิก 166 สถาบัน และภาคอุตสาหกรรมที่ร่วมเครือข่าย 29 แห่งจากทั่วโลก สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือที่ครอบคลุมทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยงานกำกับดูแล และอุตสาหกรรม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีการนำเสนอหัวข้อที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้ง การฝังเข็ม ชีวสารสนเทศศาสตร์ การวิจัยทางคลินิก ทรัพยากรยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ กลไกทางเคมี กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และความร่วมมือระหว่างภูมิภาค โดยเน้นย้ำการประยุกต์ใช้ความรู้ร่วมกันระหว่างภาควิชาการและภาคอุตสาหกรรม อันจะนำไปสู่การสร้างมาตรฐานและการพัฒนาที่ตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพระดับโลก

การประชุมยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ นักวิชาการ นักวิจัย และนิสิตนักศึกษา ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ สร้างเครือข่ายการวิจัยใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดในด้านการแพทย์แผนจีน การแพทย์พื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสของการทำงานร่วมกันในระดับนานาชาติ

นอกจากการนำเสนอผลงานวิจัยแล้ว การประชุมครั้งนี้ยังมีความสำคัญในมิติของ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และสุขภาพ ทั้งในด้านวิชาการและการปฏิบัติจริง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในสังคม ผ่านการประยุกต์ใช้องค์ความรู้และนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เชิงปฏิบัติ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะเจ้าภาพหลัก ได้แสดงบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระดับโลกด้านการแพทย์และการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ตอกย้ำพันธกิจของมหาวิทยาลัยในการเชื่อมโยง งานวิจัยกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม

ท้ายที่สุด การประชุมวิชาการ CGCM Meeting ครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนการวิจัยด้านการแพทย์แผนจีน แต่ยังสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับโลก อันจะช่วยเสริมสร้างสังคมที่เข้มแข็งในการรับมือความท้าทายด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

ม.นเรศวร ชวนใช้สิทธิประกันสังคมด้านทันตกรรม ก่อนสิ้นปี 2567

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม 2567 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอเชิญผู้ประกันตนทุกท่านมาใช้สิทธิประกันสังคมด้านทันตกรรม ก่อนสิ้นปี 2567 โดยสามารถเข้ารับบริการโดย ไม่ต้องสำรองจ่าย เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเท่าเทียม และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

บริการทันตกรรม ที่สามารถใช้สิทธิ ได้แก่ ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ขูดหินปูน และอุดฟัน ซึ่งล้วนเป็นการรักษาสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคในช่องปากระยะยาว และสอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคตาม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 3) ที่มุ่งสร้างหลักประกันด้านสุขภาพที่ครอบคลุมและทั่วถึง

การเปิดให้บริการโดย โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังสะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยในการทำหน้าที่เพื่อสังคม ผ่านการสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสได้รับการดูแลสุขภาพที่ได้มาตรฐาน โดยไม่ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจหรือสังคม

สิทธิประโยชน์นี้สามารถใช้ได้ ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เท่านั้น ผู้ประกันตนจึงควรตรวจสอบสิทธิและเข้ารับบริการก่อนหมดกำหนด เพื่อให้ไม่สูญเสียโอกาสในการดูแลสุขภาพช่องปาก และลดความเสี่ยงต่อโรคในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับการสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนในชุมชน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 5596 7462 และ 0 5596 7481 เพื่อยืนยันสิทธิและวางแผนการเข้ารับบริการอย่างเหมาะสม

ม.นเรศวร เป็นองค์กรที่ยึดมั่นในคุณธรรมและความโปร่งใส

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 งานบริหารความเสี่ยง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรมอบรมเพื่อยกระดับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมุ่งหวังให้ผู้บริหารและบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวรมีความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาองค์กรให้เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรม

การอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิดและบรรยายในหัวข้อ “นโยบายและมาตรการป้องกันการทุจริต” และ “นโยบาย No Gift Policy” ณ ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถ มหาวิทยาลัยนเรศวร การบรรยายดังกล่าวเน้นถึงแนวทางป้องกันการทุจริตในภาครัฐ การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่มีความโปร่งใส และการสร้างจิตสำนึกให้บุคลากรทุกระดับมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งสนับสนุนแนวทางปฏิบัติที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรม

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรที่มีความหลากหลายทางความคิด เปิดโอกาสให้บุคลากรทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมีคุณค่าและยั่งยืน โดยการเน้นย้ำถึงหลักความเคารพและความเสมอภาคในที่ทำงาน การให้ความสำคัญกับความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ และการดำเนินงานโดยยึดมั่นในคุณธรรม เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรทุกคนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยุติธรรมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นดำเนินการ โดยส่งเสริมให้เกิดการบริหารจัดการที่เป็นธรรม ปราศจากอคติ และเคารพสิทธิของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงการดำเนินงานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

การจัดกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนาองค์กรให้เป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส และความยุติธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในระยะยาว มหาวิทยาลัยนเรศวรจะยังคงเดินหน้าส่งเสริมคุณค่าทางจริยธรรมและยกระดับมาตรฐานการบริหารงานเพื่อสร้างองค์กรที่มีคุณภาพและความยั่งยืนในอนาคต

ม.นเรศวร ได้รับรางวัล G-Green ระดับดีเยี่ยม เชิดชูเกียรติด้านการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยเข้ารับ รางวัลตราสัญลักษณ์ G-Green ระดับประเทศ ในฐานะที่มหาวิทยาลัยได้ผ่านการประเมินรับรองความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในปี 2567 โดยได้รับการจัดอันดับในระดับ “Green Office ระดับดีเยี่ยม (ทอง)” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในการประเมินความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมจาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รางวัลนี้ถือเป็นการยอมรับในความพยายามและความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

ในพิธีมอบรางวัลดังกล่าว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นประธานในพิธี มอบรางวัล ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการเชิดชูเกียรติแก่หน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการรักษาสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ การได้รับรางวัลนี้สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของมหาวิทยาลัยในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการศึกษาและการบริหารจัดการมหาวิทยาลัย

รางวัล G-Green นี้ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการดำเนินงานภายใต้ SDG12 (การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ) ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการในหลายๆ ด้าน เช่น การลดการใช้พลาสติก การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า รวมถึงการส่งเสริมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้สร้างความร่วมมือจากทั้งนิสิต บุคลากรและชุมชนในการร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

การได้รับรางวัลในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติแก่มหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงกระตุ้นให้มหาวิทยาลัยยังคงดำเนินการในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างการตระหนักรู้และกระตุ้นให้บุคลากรทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

ที่มา: กองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดประกวดผลงานการพัฒนา “นวัตกรรมรักษ์โลก”

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 กองบริการการศึกษา โดยงานจัดการวิชาศึกษาทั่วไป ร่วมกับคณาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ได้จัดการประกวดผลงานการพัฒนา “นวัตกรรมรักษ์โลก” เพื่อส่งเสริมให้นิสิตได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน ลดขยะ ลดการสูญเปล่า และช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน

กิจกรรมนี้มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการแสดงทางวิทยาศาสตร์และกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยให้เกิดการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดของเสียที่เกิดจากการบริโภคเกินความจำเป็น ในปีนี้มีนิสิตเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 779 คน และส่งผลงานเข้าประกวดทั้งหมด 29 ผลงาน ณ โถงชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอแสดงความยินดีกับนิสิตที่ได้รับรางวัลในการประกวดนวัตกรรมรักษ์โลก ดังนี้
🥇 รางวัลชนะเลิศ: ผลงาน “บ่อดักไขมัน 2 in1” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยไขมันลงสู่แหล่งน้ำ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำให้สะอาดขึ้น
🥈 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: ผลงาน “Pure Flow ไหลสะอาด ไร้ไขมัน” ที่ออกแบบระบบกรองน้ำมันจากครัวเรือนก่อนปล่อยลงท่อน้ำเสีย ช่วยลดมลพิษทางน้ำ
🥉 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: ผลงาน “ถนนชาร์ทรถ EV ด้วยระบบโซล่าเซลล์” ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนการลดการใช้พลังงานฟอสซิล และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
🎖 รางวัลชมเชย:

  • “Second Life จากของเหลือใช้” นำวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดขยะ ลดการสูญเปล่า และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
  • “บ้านที่หายใจได้” ออกแบบบ้านที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและปรับอากาศตามธรรมชาติ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น
  • “กิ๊ฟเซ็ตกระเป๋ารักษ์โลก และเครื่องประดับจากขวดพลาสติก” เปลี่ยนขยะพลาสติกให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก ลดการสูญเปล่า และส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

กิจกรรมนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ ๆ ในการดูแลรักษาโลกของเรา ตอกย้ำแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดขยะ ลดการสูญเปล่า และช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้นของโลกเรา

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

NU Art & Craft Fun Fair 2025: เทศกาลแห่งศิลปะ ความรัก และกลิ่นหอมของกาแฟ

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดงาน “NU Art & Craft Fun Fair 2025” ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิดที่เชื่อมโยงกันระหว่าง เทศกาลแห่งความรัก ผู้คน ดนตรี และกลิ่นหอมของกาแฟ โดยมี ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย เพื่อทำให้มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็น Creative Art Space ที่สำคัญของเมืองพิษณุโลกและเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับการแสดงออกด้านศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์

ในปีนี้ งาน NU Art & Craft Fun Fair 2025 ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลายภาคส่วน เช่น วิทยาลัยเพื่อการค้นคว้าระดับรากฐาน ตลาดประชารัฐ กลุ่มผู้ประกอบการร้านกาแฟ และศิลปินผู้สร้างสรรค์งานคราฟท์จากจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก โดยมีการจัดกิจกรรมหลากหลายที่สะท้อนถึงศิลปะ วัฒนธรรม และความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น การแสดง Lanna Fashion โดยนิสิตชมรมสืบสานล้านนา ที่นำเสนอความหลากหลายของอัตลักษณ์การแต่งกายกลุ่มชาติพันธุ์ล้านนา ภายใต้แนวคิด “Flower of ล้านนา” และ การแสดง Upcycled Fashion ที่มุ่งเน้นการออกแบบร่วมสมัยด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เศรษฐกิจแบบยั่งยืน

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือ การแสดงดนตรีและศิลปะที่ผสานกันอย่างลงตัว เช่น การแสดง Art & Craft NU Dance โดยนิสิตโครงการลูกพระฆเนศ NU Band และ การแสดง Fingerstyle Guitar x Coffee Painting โดย อาจารย์กวิน ภูศรีเทศ แชมป์ Overdrive Acoustic Guitar Contest 2020 และ คุณพัชรพล เสริมสุข ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยอารมณ์และพลัง นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการศิลปะยามค่ำคืน การแสดงดนตรี และกิจกรรมนันทนาการที่เปิดโอกาสให้นิสิตและประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในบรรยากาศแห่งศิลปะและความสุข

วันสุดท้ายของงาน นับเป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศในฝันของใครหลายคน ลานด้านหน้าหอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร กลายเป็นพื้นที่ที่ผสมผสาน ความคิดสร้างสรรค์และอิสระ อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กาแฟกับงานฝีมือ” ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้เข้าร่วมเป็นอย่างมาก ที่นี่เป็นจุดรวมตัวของ ชุมชนศิลปะและงานฝีมือ ที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านจากหลากหลายพื้นที่เข้ามาสอนทักษะศิลปะประดิษฐ์ เช่น การเย็บย่าม เย็บตุ๊กตา และงานวาดภาพ ซึ่งช่วยส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ให้นิสิตและประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้และฝึกฝนฝีมือ

งานนี้ยังเชื่อมโยง ชุมชนกับศิลปะ ผ่านบรรยากาศสบายๆ ที่มี นักดนตรีอาสามาขับกล่อม ควบคู่กับ บูธร้านอาหารและกาแฟจากผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่มาประชันรสชาติจากเวทีแข่งขันระดับประเทศ นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เยาวชน ครอบครัว และตัวแทนชุมชนได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน รวมถึงการสนับสนุน พ่อค้าแม่ค้ารุ่นใหม่ ที่ต้องการอวดฝีมือด้านอาหารและเครื่องดื่มแปลกใหม่

NU Art & Craft Fun Fair 2025 ไม่เพียงเป็นงานที่มอบความสนุกและแรงบันดาลใจ แต่ยังเป็น ต้นแบบของพื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงออกอย่างเสมอภาค สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 5) ที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ SDG 11 ที่ส่งเสริมให้เมืองและชุมชนมีความยั่งยืนผ่านศิลปะ วัฒนธรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมยินดีกับรางวัลวิจัยด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล

วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยศาสตราจารย์ ดร.กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกองการวิจัยและนวัตกรรม ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีแก่นักวิจัยที่ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2567 หนึ่งในนั้นคือ ดร.สุชานัน หรรษอุดม ผู้ได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ระดับดี สาขานิติศาสตร์ จากผลงานวิจัยเรื่อง “การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเลจากการพัฒนากังหันลมนอกชายฝั่งในประเทศไทย”

ผลงานวิจัยดังกล่าวถือเป็นการบูรณาการระหว่างกฎหมาย สิ่งแวดล้อม และพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนากังหันลมนอกชายฝั่ง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่กำลังได้รับความสนใจในประเทศไทยและทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกันก็อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทะเลและการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล

การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล จึงเป็นหัวใจหลักของงานวิจัย โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลเพื่อการผลิตพลังงานสะอาด กับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ งานวิจัยนี้ยังนำเสนอกรอบกฎหมายและมาตรการควบคุมที่ช่วยป้องกันผลกระทบในระยะยาว

นอกจากนี้ยังเป็นงานที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงรอบด้าน (Holistic EIA) ที่ไม่ได้พิจารณาเพียงด้านวิศวกรรมหรือเศรษฐกิจ แต่ครอบคลุมถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศ บริเวณชายฝั่งทะเล และความมั่นคงด้านอาหารของชุมชนชายฝั่งที่พึ่งพาทะเลเป็นแหล่งทำกิน

การศึกษานี้ยังช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทย โดยเสนอแนวทางปรับปรุงกระบวนการ EIA สำหรับโครงการพลังงานลมในทะเล ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทั้งในแง่ของการมีส่วนร่วมของประชาชน การตรวจสอบผลกระทบระยะยาว และการกำหนดมาตรการเยียวยา

ผลลัพธ์ของงานวิจัยสามารถเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานรัฐ ภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และนักวิชาการ ในการกำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ลดความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต

ในระดับนานาชาติ งานวิจัยนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดไปพร้อมกับการรักษาทะเลให้คงความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมก้าวเดินไปด้วยกันอย่างสมดุลและมั่นคง

รางวัลวิทยานิพนธ์ระดับชาติจึงไม่เพียงเป็นเกียรติแก่นักวิจัยเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในการพัฒนาประเทศที่ใส่ใจทั้ง พลังงานสะอาดและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล อย่างแท้จริง

มาทำความรู้จัก NU SDGs “ป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” กันเถอะ

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับ การพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านแนวทาง NU SDGs (Naresuan University Sustainable Development Goals) ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะด้าน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นเป็นแบบอย่างในการพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับนิสิตและบุคลากร

เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรม การให้ความรู้ การอบรม และโครงการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการให้ความรู้ด้านพลังงานสะอาด การจัดการขยะอย่างถูกต้อง และการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการบรรจุเนื้อหาด้านความยั่งยืนเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อให้นิสิตตระหนักถึงความสำคัญของ SDGs และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

มหาวิทยาลัยดำเนินโครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ และโครงการขยะทำเงิน เพื่อรณรงค์ให้เกิดการลด ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ (3Rs) รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในมหาวิทยาลัย ทั้งหมดนี้ได้รับความร่วมมือจาก บุคลากรทุกหน่วยงาน นิสิตที่สนใจ นิสิตจิตอาสา สโมสร และชมรมต่าง ๆ ในการมีส่วนร่วมพัฒนาโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

การพัฒนาอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในรั้วมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมีการทำงานร่วมกับชุมชนและหน่วยงานภายนอกในการสร้างเครือข่าย “มหาวิทยาลัยสีเขียว” (Green University) ที่ส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ กิจกรรมที่จัดขึ้นมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับนิสิตและบุคลากรในการนำหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนไปใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับ การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยสนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการพลังงานสะอาด และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ ทั้งนี้เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงสู่แนวทางที่ยั่งยืน

การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนเรศวรตามแนวทาง NU SDGs ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจในการเป็นมหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบต่อสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งบุคลากร นิสิต และชุมชน เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่าและยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

ที่มา: งานบริการวิชาการ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ชวนร่วมมือกันประหยัดพลังงาน

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการลดการใช้พลังงานภายในอาคาร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเชิญชวนบุคลากร นิสิต และผู้เกี่ยวข้องร่วมมือกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

หนึ่งในแนวทางง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้คือการปรับการใช้แสงสว่างในห้องเรียนและสำนักงาน เปิดหรือปิดไฟตามความจำเป็น และใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว

การปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนะนำให้ตั้งอุณหภูมิในช่วง 25-30 องศาเซลเซียส และเปิดพัดลมเพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศภายในห้อง ช่วยให้ความเย็นกระจายทั่วห้องโดยไม่ทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไป

การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้งานก็เป็นอีกวิธีที่สามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างมาก เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดยังคงใช้พลังงานแม้จะปิดอยู่ การปฏิบัตินี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอัคคีภัยจากไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานอย่างปลอดภัย

การเดินบันไดแทนการใช้ลิฟท์ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ง่ายและได้ผล ไม่เพียงแต่ช่วยลดการใช้พลังงานจากลิฟท์เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรและนิสิต เนื่องจากช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม การใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยรวม มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนในสังคม

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin