Archives 2023

ม.นเรศวร จัดประชุมจัดทำแผนงานและงบประมาณโครงการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด 2566

ดร.จารุวรรณ แดงบุบผา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต เป็นประธานการประชุมจัดทำแผนงานและงบประมาณโครงการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม 2566 ทั้งนี้ มีสถาบันอุดมศึกษาในเขตภาคเหนือตอนล่าง เข้าร่วมจำนวน 16 สถาบัน
—————————–
ณ ห้องประชุมเทาแสด อาคารศูนย์แสดงนิทรรศการ และการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมหาวิทยาลัยนเรศวร
อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

ให้ความรู้และสร้างความตระหนักตามมาตรฐานสำนักงานสีเขียว

วันที่ 24 มกราคม 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐิติรัตน์ สุวรรณสม รองคณบดีฝ่ายบริหาร กล่าวต้อนรับวิทยากรและกล่าวเปิดโครงการสำนักงานสีเขียว เรื่อง การให้ความรู้และสร้างความตระหนักตามมาตรฐานสำนักงานสีเขียว (การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การจัดการขยะ) วิทยากรโดย อาจารย์วรางค์ลักษณ์ ซ่อนกลิ่น อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้ให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการจัดการของเสียและมลพิษ การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการสร้างบรรยากาศการทำงานในอาคารสำนักงานบริหาร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจัดการหน่วยงานตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมตามแก่บุคลากรสายสนับสนุนคณะมนุษยศาสตร์ ณ ห้องประชุม HU 2303 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมจัดทำแผนงานโครงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาปลอดผลิตภัณฑ์ยาสูบ

เมื่อวันที่ 19-20 มกราคม 2566 ณ โรงแรมเดอะแกรนด์ริเวอร์ไซด์ จังหวัดพิษณุโลก ดร.จารุวรรณ แดงบุบผาผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต เป็นประธานกล่าวต้อนรับและเข้าร่วมการประชุมจัดทำแผนงานโครงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาปลอดผลิตภัณฑ์ยาสูบสร้างสิ่งแวดล้อมให้ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ภาคเหนือตอนล่าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566ทั้งนี้ มีสถาบันอุดมศึกษาในเขตภาคเหนือตอนล่าง เข้าร่วมจำนวน 23 สถาบัน จัดโดยโครงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาปลอดผลิตภัณฑ์ยาสูบฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร (แม่ข่าย)

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

TM Clearing House อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร

วันที่ 18 มกราคม 2566 ดร.สราวุธ สัตยากวี ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี และรักษาการในตำเเหน่งรองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เเละเจ้าหน้าที่อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วม ประชุม Retreat แนวทางการดำเนินการโครงการ Talent Mobility ประจำปีงบประมาณ 2566 พร้อมด้วยคณะกรรมการพิจารณาโครงการ Talent Mobility ผู้บริหาร ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษา นักวิจัย และเจ้าหน้าที่จากเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั่วประเทศ ณ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น

——————————————————–

สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ดำเนินโครงการการเคลื่อนย้ายบุคลากรเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในภาคอุตสาหกรรม (Talent Mobility) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรวิจัยของสถาบันอุดมศึกษา ผ่านการเคลื่อนย้ายบุคลากรในการพัฒนาองค์ความรู้ การแก้ไขปัญหา ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาให้กับสถานประกอบการ ได้กำหนดจัดการประชุม Retreat แนวทางการดำเนินการโครงการ Talent Mobility ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมี ศาสตราจารย์ ปริญญา จินดาประเสริฐ ประธานคณะกรรมการ Talent Mobility เป็นประธานการประชุม และผู้ช่วยศาสตราจารย์ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ เป็นผู้นำเสนอผลการวิเคราะห์และสรุปผลการถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการศูนย์อำนวยความสะดวก Talent Mobility (TM Clearing House) และนำเสนอ (ร่าง) แนวทางการดำเนินการโครงการ Talent Mobility และผู้เข้าร่วมการประชุม ร่วมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการโครงการ Talent Mobility

ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมกับเทศบาลนครพิษณุโลก จับมือ สสส. จัดกิจกรรมสุขกลางเมือง เรื่องแรงบันดาลใจในวัยเยาว์

วันนี้(16 ม.ค.)เทศบาลนครพิษณุโลก ร่วมกับกลุ่มลานละมุน สภาเด็กและเยาวชนเทศบาลนครพิษณุโลก เครือข่าย Young Phitsanulok Forum กลุ่มพิดโลกจัดเต็ม เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก สำนักงานสาธารณสุข จ.พิษณุโลก สรรพสามิตพื้นที่พิษณุโลก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.พิษณุโลก วัฒนธรรม จ.พิษณุโลก และสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด สุขกลางเมือง : เรื่องแรงบันดาลใจในวัยเยาว์ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายในงานมีการแสดงจากกลุ่มเด็กเยาวชน การออกบูธกิจกรรม การแสดงจากศิลปิน และการเสวนาในหัวข้อ “เด็กไม่เคยเป็นผู้ใหญ่ ร่วมปลูกดอกไม้ให้เมืองสองแคว”

ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า เทศบาลนครพิษณุโลกเห็นความสำคัญของการสร้างพื้นที่ปลอดภัย สร้างสรรค์ ให้ประชาชนในพื้นที่ด้วยการผลักดันให้เกิดสวนสาธารณะ สวนสุขภาพถึงสามแห่งในเขตเทศบาล โดยหวังให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่พักผ่อน ออกกำลัง และให้เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการได้ใช้เป็นสถานที่ทำกิจกรรมที่สนใจ

“เทศบาลในฐานะเป็นผู้ดูแล ผู้จัดการเมือง พยายามจัดการให้มีพื้นที่สำหรับคนทุกกลุ่ม การมีสวนสาธารณะเป็นทางเลือกแต่ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด กลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นอีกกลุ่มที่เราให้ความสนใจ ยอมรับว่าในช่วงแรกผู้ใหญ่อย่างเราไม่สามารถสื่อสารถึงความต้องการที่แท้จริงของเด็กได้ แต่หลังเกิดการมีสภาเด็กและเยาวชนเทศบาลนครพิษณุโลกทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เทศบาลได้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของเยาวชนทั้งเรื่องกีฬาเอ็กซ์ตรีม อีสปอร์ต คอสเพลย์ หรือกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ทำให้เทศบาลสามารถสนับสนุนทั้งพื้นที่ อุปกรณ์ หรือมีแนวนโยบายที่ตรงกับความต้องการของเยาวชนได้มากขึ้น” ดร.เปรมฤดี กล่าว

นายจักรภัทร ชูสกุลพัฒนา ผู้ประสานงานเยาวชน YSDN พิษณุโลก ตัวแทนคณะผู้จัดงาน กล่าวว่า ตนและเพื่อน ๆ อยากเห็นจังหวัดพิษณุโลกและทุกจังหวัดมีพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้แด็ก เยาวชน ได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ มีพื้นที่ในการแสดงออกซึ่งความสามารถ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และอยากให้ภาครัฐสนับสนุน การจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ภายใต้ชื่องานสุขกลางเมือง : เรื่องแรงบันดาลใจในวัยเยาว์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชน ส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์ เกิดการเรียนรู้ในเด็กและเยาวชนจังหวัดพิษณุโลก ทั้งพื้นที่กายภาพ พื้นที่ความคิด พื้นที่สร้างสรรค์ และยั่งยืน โดยเหตุผลที่เลือกใช้สวนกลางเมืองพิษณุโลกเป็นสถานที่จัดงานเนื่องจากเป็นสวนสาธารณะที่เป็นสถานที่ห้ามดื่ม ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามสูบบุหรี่ตามกฎหมาย มีความปลอดภัย

“ผู้ใหญ่ทุกภาคส่วนในสังคมควรจะปรับมุมมองที่ว่า หาเพชรในตม เพราะเราไม่จำเป็นต้องไปหาเพชรในตม เพียงแค่ปรับสภาพตมให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี และตมก็จะสร้างเพชรขึ้นมาได้ ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ถ้าสภาพแวดล้อมดี คนก็จะดีตามไปด้วย” นายจักรภัทร กล่าว

นางสาวศิวรินทร์ พูลวงษ์ (วรินทร์) ศิลปินแนวเพลงอินดี้ กล่าวว่าในฐานะที่ตนเป็นศิลปินรุ่นใหม่ และเป็นผู้ปกครองที่มีลูก อยากเห็นการมีพื้นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์แบบนี้เกิดขึ้นในทุกจังหวัด เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ให้ทุกคนในครอบครัว สามารถทำกิจกรรมร่วมกันเกิดความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวแล้ว ยังเป็นพื้นที่ที่ให้เด็กได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข การได้ออกไปทำกิจกรรมดี ๆ ในพื้นที่ดี ๆ จะทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

​ด้าน นางทิชา ณ นคร ผู้อำยวนการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก และที่ปรึกษามูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า เด็กจำนวนมากในประเทศนี้อยู่ในครอบครัวที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ ไม่มีเวลามากพอที่จะส่งเสริมให้เด็กได้มีทักษะชีวิตที่สามารถนำพาตัวเองให้รอดพ้นจากปัญหาสังคมที่เข้ามาคุกคามในหลายมิติ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ ที่ต้องส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์ กิจกรรมสร้างสรรค์ ที่ทุกคนต้องเข้าถึงได้โดยง่าย

“เมื่อเด็กไม่เคยเป็นผู้ใหญ่มีก่อน จึงไม่สามารถที่จะจัดการหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่อยากให้เป็นได้ และถึงแม้ผู้ใหญ่จะเคยเป็นเด็กมาก่อนก็ใช่ว่าจะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเด็กได้ทุกเรื่อง การเปิดโอกาสให้เด็กได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากสุด” นางทิชา กล่าว

ที่มา: mgronline

“จิตอาสาเต้านมเทียม” คืนความมั่นใจให้ชีวิตผู้ป่วยหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม

กิจกรรมจิตอาสาเต้านมเทียม ม.นเรศวร เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อคืนคุณภาพชีวิตผู้ป่วยหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม แต่เดิมทำเพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ต่อมาได้ขยายผลไปโรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดพิษณุโลก เช่น โรงพยาบาลพุทธชินราช โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และขยายไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลสงขลา ศูนย์มะเร็งลำปาง ศูนย์มะเร็งลพบุรี เป็นต้น เพื่อคืนความมั่นใจ ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติมีความมั่นใจ เป็นต้น

ปัจจุบันบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ กว่า 1,000 คู่ และเปิดรับสำหรับคนไข้ที่ประสงค์ขอรับกับกลุ่มกิจกรรมโดยตรงผ่าน Facebook จิตอาสาเต้านมเทียม มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมให้ความรู้กับหน่วยงานที่สนใจ ทำเต้านมเทียม และที่สำคัญเป็นการจัดสรรเวลาให้นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรได้เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เรียนรู้การแบ่งปันและการช่วยเหลือผู้อื่น ฝึกสมาธิ ความอดทด เกิดความสามัคคีและมีความรับผิดชอบ

ที่มา: จิตอาสาเต้านมเทียม มหาวิทยาลัยนเรศวร

สำนักหอสมุดได้นำเสื้อผ้าที่ตู้ลืมของ บริจาคให้กับทางชมรมสืบสานวัฒนธรรมม้ง มหาวิทยาลัยนเรศวร นำไปบริจาคต่อให้กับน้องๆบนดอยได้ใส่กันหนาว ในโครงการเปิดบ้านส่องวิถีม้ง ครั้งที่ 7

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สำนักหอสมุดได้นำเสื้อผ้าที่ตู้ลืมของ บริจาคให้กับทางชมรมสืบสานวัฒนธรรมม้ง

มหาวิทยาลัยนเรศวร นำไปบริจาคต่อให้กับน้องๆบนดอยได้ใส่กันหนาว ในโครงการเปิดบ้านส่องวิถีม้ง ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 29-31 ธันวาคม 2565 ณ บ้านเจดีย์โคะ ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ที่มา: สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม. นเรศวร พัฒนาระบบ ‘อพม.Smart’ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมได้รวดเร็ว แม่นยำ

นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ ม. นเรศวร พัฒนาระบบ ‘อพม.Smart’ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมได้รวดเร็ว แม่นยำ ร่วมกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และมูลนิธิศูนย์วิจัยและติดตามความเป็นธรรมทางสุขภาพ เพื่อขยายผลใช้ทั้งประเทศ

ซึ่งเป็นระบบไอที ที่ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมได้รวดเร็ว แม่นยำ และปัจจุบันระบบนี้ใช้ได้เฉพาะใน 16 จังหวัดทดลอง เท่านั้น โดยมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร โดยให้ อพม. ที่มีจำนวนกว่า 300,000 คนทั่วประเทศ ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่ได้ใช้งาน

โดยนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ที่ร่วมพัฒนาระบบดังกล่าว นำโดย ผศ.ดร. ธนะธร พ่อค้า (ผู้ช่วยคณบดีด้านนวัตกรรมการเรียนรู้ คณะวิทยาศาสตร์) ดร. ณัฐพล คุ้มใหญ่โต ผศ.ดร.วินัย วงษ์ไทย และ นิสิตคณะวิทยาศาสตร์หลายคนที่มิได้เอ่ยนาม นำโดย นายธนกฤต ไกรสิงห์ นายชมพูนิกข์ เตียวเจริญพร นายณัฐสรัญ บุญเกตุ นายดิสทัต เชื้อเขตรกรรม นางสาวสุนิษา ไกรเพชร เป็นต้น และผู้ช่วยวิจัยหลายท่าน เช่น นางสาวณัฐนาถ รัตนประหาต

รมว.พม. ยัง ร่วมขับเคลื่อนการใช้งาน อพม. Smart ที่ร่วมพัฒนาโดย คณะวิทยาศาสตร์ ม. นเรศวร เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 ณ ห้องปรินซ์บอลรูม 2 – 3 โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ โดยผู้เข้าประชุม คือ ผู้เกี่ยวข้องจาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด ประมาณ 300 คน

ที่มา: กองการวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวิทยาลัยนเรศวร

ลอกคลองน้ำทิ้งชุมชน ม.นเรศวร

เมื่อเวลา 13.30 น. วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ลงพื้นที่ดูความคืบหน้าในการลอกคลองน้ำทิ้งจากชุมชนลงคลองหนองเหล็ก ขอขอบคุณ นายธวัช สิงหเดช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ ในการประสานงานเครื่องจักรกลจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกและขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มา ณ ที่นี้

ที่มา: กองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ตรวจเชื้อโควิดใน ‘น้ำเสีย’ ของเที่ยวบินจีน เฝ้าระวังไวรัสกลายพันธุ์

นวัตกรรมการตรวจเชื้อ ‘โควิด-โอมิครอน-ฝีดาษลิง’ ในน้ำเสีย ที่มาจากเครื่องบิน สนามบิน และชุมชน เครื่องมือเฝ้าระวังโรคระบาดและไวรัสกลายพันธุ์ หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจีน

รายงานจากหนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ ชี้แจงว่า คณะทำงานเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงานเพื่อการรับมือโรคโควิด-19 แห่งคณะรัฐมนตรีจีน สั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นตรวจน้ำเสียจากบ้านเรือนที่เข้าสู่โรงงานบำบัดน้ำเสีย 

ขณะเดียวกันหลาย ๆ ประเทศ เช่น เบลเยียม แคนาดา ออสเตรีย และออสเตรเลีย ก็มีนโยบายประกาศให้สั่งตรวจ “น้ำเสีย” ของเครื่องบินที่มาจากจีน รวมถึงติดตามการเปลี่ยนแปลงในอัตราการติดเชื้อ ปริมาณไวรัส และทำการถอดลำดับพันธุกรรมไวรัส เพื่อเฝ้าระวังโรคระบาด และเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของไวรัสหลังการเปิดประเทศ

ซึ่งประเทศไทยได้ใช้นวัตกรรมตรวจหาน้ำเสียเพื่อหาเชื้อโควิด-19 และฝีดาษลิงในสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินเชียงใหม่ มาเป็นระยะเวลา 9 เดือน (มกราคม 2565 – กันยายน 2565) และได้มีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ว่าจะมีการตรวจเชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียจากเที่ยวบินที่มาจากจีนในไตรมาส 2566 นี้ด้วย

โครงการวิจัยดังกล่าวนำร่องจาก “วิจัยว่าการตรวจเศษซากเชื้อ SARS-CoV-2 ในน้ำเสียชุมชน” มีผู้วิจัยคือ ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.นเรศวร งานวิจัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ผ่านสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) 

ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ ให้สัมภาษณ์กับทางกรุงเทพธุรกิจว่า การตรวจวัดเศษซากเชื้อโควิด-19 โอมิครอน และฝีดาษลิงในน้ำเสียโสโครกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ทำได้โดยการตรวจน้ำเสียของสิ่งปฏิกูลจากมนุษย์ 

ได้แก่ อุจจาระหรือปัสสาวะ ที่มาจากผู้โดยสารในเที่ยวบิน ทั้งการใช้ห้องน้ำบนเครื่องบิน และห้องน้ำในสนามบินขาเข้า-ขาออก ซึ่งผลการตรวจอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มกราคม – กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะไม่พบเชื้อไวรัส 

ตรวจเชื้อโควิดใน ‘น้ำเสีย’ ของเที่ยวบินจีน เฝ้าระวังไวรัสกลายพันธุ์

นอกจากนี้ ยังใช้การตรวจดังกล่าวกับน้ำเสียในชุมชนต่าง ๆ รวม 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก นครสวรรค์ ตาก และยะลา การตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสในน้ำเสีย สามารถนำไปประยุกต์เพื่อเฝ้าระวังอีกหลาย ๆ ด้าน แบ่งออกเป็นดังนี้

  1. เฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด และแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนเกิดการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน กลุ่มอาคาร (คอนโด) และอาคาร (โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่ง ร้านอาหาร สถานที่ราชการ) 
  2. คาดการณ์ (คำนวณอย่างคร่าว ๆ) จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งที่แสดงและไม่แสดงอาการในระดับชุมชน หรือกลุ่มอาคาร
  3. ประเมินความจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการเข้มงวด เช่น มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนของเมือง
  4. ประเมินความสำเร็จของการดำเนินมาตรการ
  5. ประเมินการติดเชื้อในชุมชนที่เพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศ
  6. เฝ้าระวังการติดเชื้อ SARS-CoV-2 สายพันธุ์ต่าง ๆ ในชุมชน โดยฉพาะสายพันธุ์อันตรายใหม่ ๆ
  7. ประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนในการลดการติดเชื้อในชุมชน

“ในขณะนี้กำลังพัฒนาเพื่อสามารถตรวจเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ๆ ได้ เช่น ไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ที่ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ โดยใช้วิธีการเดียวกันคือ เก็บน้ำเสียมาตรวจไวรัส 4-5 ชนิด” ผศ.ดร.ธนพล กล่าว 

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นิยามของประโยคที่ว่า “การเสียชีวิตจากโควิด-19” ของทางการจีน ซึ่งทาง WHO ระบุว่า สถิติอย่างเป็นทางการของจีนสะท้อนภาพที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวตามโรงพยาบาล หรือตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากรายงาน Why monitor wastewater of flights arriving from China for Covid? มองว่า มาตรการตรวจสอบและวิเคราะห์น้ำเสีย จะช่วยเพิ่มข้อมูลที่ขาดหายไปจากจีนได้เป็นอย่างดี “การได้รู้ว่า ผู้โดยสาร 30-50% ที่เดินทางมาจากจีนนั้นติดโควิดอยู่ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในช่วงที่ตัวเลขที่เชื่อถือได้นั้นขาดหายไป”

อย่างไรก็ตาม การเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้ามายังคงต้องใช้เทคนิค RT-PCR และการถอดรหัสสารพันธุกรรมจากตัวอย่างน้ำเสียถือเป็นการป้องกันเชิงรุกที่สำคัญ 

เพราะเมื่อมีการตรวจวินิจฉัยเชื้อได้อย่างรวดเร็วก็จะสามารถแยกผู้ป่วยออกจากสังคมเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงที และสามารถลดการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ และเฝ้าระวังไวรัสที่จะกลายพันธุ์ได้

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin