ม.นเรศวร จัดแสดงนวัตกรรมสุขภาพสร้างอาชีพ ส่งเสริมพัฒนาด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดี      

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมการสร้างงานและอาชีพที่มีคุณค่าภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG 8) ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างการจ้างงานที่มีคุณภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมจัดแสดงนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและการสร้างอาชีพในงาน “มหกรรมอาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เมืองแผ่นดิน ถิ่นสองแคว” ณ อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก งานนี้เป็นการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพในท้องถิ่น โดยมีการจัดแสดงนวัตกรรม “Fibroe jas” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากการวิจัยและพัฒนาในมหาวิทยาลัย ที่สามารถสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่

นอกจากนี้ยังมีการจัดสาธิตการกู้ชีพฉุกเฉินด้วยเครื่อง AED และการปั๊มหัวใจ CPR โดยทีมกู้ชีพฉุกเฉินจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ด้านการช่วยชีวิตแก่ประชาชนและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน การฝึกอบรมและสาธิตนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมทักษะด้านการแพทย์ แต่ยังสามารถสร้างโอกาสในการทำงานให้กับผู้เข้าร่วมในอนาคต

การดำเนินงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมการสร้างอาชีพและการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดพิษณุโลกและพื้นที่ใกล้เคียง โดยการสร้างเครือข่ายความรู้และการสร้างโอกาสในการทำงานที่มีคุณค่าและยั่งยืนในอนาคต

ให้ความรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนในชุมชนมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

ในพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน 2566 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้ความตระหนัก และเล็งเห็นถึงความสำคัญของสถาบันการศึกษามีหน้าที่พัฒนาคน ช่วยให้คนมีศักยภาพ สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ทั้งนี้กระบวนการจัดการศึกษาและการสร้างสุขภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาผู้เรียน และเป็นสิ่งที่จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปกับการส่งเสริมให้มีการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีของผู้เรียนรวมทั้งครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ในสถาบันการศึกษา ทางคณาจารย์และนิสิต สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม ชั้นปีที่ 3 นำโดย ผศ.ดร. สรัญญา ถี่ป้อม ผู้รับผิดชอบโครงการ จึงได้จัดโครงการบริการวิชาการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ณ วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก อ. เมือง จ. พิษณุโลก ซึ่งได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยตรีกิตติ กุตนันท์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก เป็นประธานในการเปิดโครงการฯ และให้การสนับสนุนกิจกรรมโครงการฯ รวมถึงได้รับความอนุเคราะห์จากนายคำนวน หงส์สิงห์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข และนางทัศวรรณ์ สุพรรณสาย นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ จากเทศบาลตำบลบ้านคลอง มาเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม

การจัดโครงการบริการวิชาการทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นิสิตนำความรู้ที่เรียนมาใช้ในการบริการวิชาการต่อสังคม และเพื่อชุมชมได้รับการบริการเกี่ยวกับการจัดการปัญหาทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นักเรียนจากวิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก จำนวน 40 คน นิสิตหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม ชั้นปีที่ 3 จำนวน 67 คน เพื่อส่งเสริมทำให้เกิดกระบวนการสร้างการเรียนรู้ร่วมกันของทุกภาคส่วนจนเกิดเป็นความตระหนักรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและนำไปสู่การมีพฤติกรรมอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน โรงเรียน จนไปถึงหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่

ที่มา: สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ มน.

“การสร้างมูลค่าจากขยะ (Waste to Value (WoV) Towards Healthy Planet)”

ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมในงานเกษตรนเรศวร เอ็กซ์โป 2023 โดยคณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเป็นกิจกรรม “การสร้างมูลค่าจากขยะ (Waste to Value (WoV) Towards Healthy Planet)”

ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เวลา 08.30 – 16.30 น. สถานที่ ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ห้องประชุม 9 รับจำนวน 40 ที่นั่ง วิทยากร : ดร.สุดาวดี ยะสะกะ และอาจารย์ณัฐพงศ์ โปรยสุรินทร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

รายละเอียดกิจกรรม https://www.naiexpo.agi.nu.ac.th/?p=4654
ลงทะเบียนได้ที่ https://docs.google.com/…/1FAIpQLScc0_D…/viewform

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

NU SciPark พาผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ ยกระดับธุรกิจและเสริมแกร่งวิสาหกิจชุมชน ผ้าตัดเย็บสนามคลี

อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร (NU SciPark) ร่วมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจัดกิจกรรมยกระดับธุรกิจสำหรับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเย็บผ้า ตำบลสนามคลี อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ภายใต้แผนงาน Regional Entrepreneur Upgrade เพื่อสร้างโอกาสและเสริมศักยภาพธุรกิจในภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยการถ่ายทอดความรู้และทักษะทางด้านการผลิตที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการธุรกิจในระดับท้องถิ่น.

กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันที่ 9 และ 11 กรกฎาคม 2566 มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับกระบวนการทำผ้าพิมพ์ลายใบไม้ (Eco Printing) และเทคนิคการห่มสี ซึ่งเป็นการนำแนวคิดด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ในงานฝีมือของชุมชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน โดยวิทยากรจากงานศิลปวัฒนธรรม กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมได้นำเสนอเทคนิคการพิมพ์ลายใบไม้และการผสมผสานเทคนิคการทำผ้ามัดย้อมเพื่อเพิ่มความหลากหลายและความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าตัดเย็บ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าชุมชนและสร้างความแตกต่างในตลาด.

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการยกระดับความพร้อมของเทคโนโลยีและส่งเสริมระบบนิเวศสำหรับสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ภายใต้ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น การเข้าถึงผลประโยชน์จากงานวิจัย โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการบริการด้านเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจได้จริง.

ในอนาคตอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้รับโอกาสทางธุรกิจและสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างต่อเนื่อง โดยการสร้างความร่วมมือกับชุมชนและผู้ประกอบการในทุกระดับ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและในภูมิภาค.

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ของอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร สามารถติดต่อได้ที่ https://linktr.ee/sciparkcontent โทร: 0 5596 8755

ม.นเรศวร โชว์งานวิจัยในงานเกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023

เมื่อวันที่ 3-9 กรกฎาคม 2566 คณะวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วมจัดกิจกรรมและนิทรรศการ งานเกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023 (Naresuan Agriculture Innovation Expo2023) ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการนวัตกรรมเกษตรยั่งยืน” (Sustainable Integrated Innovation Agriculture) ณ อาคารศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลกและองค์กรภาคีเครือข่าย จัดงาน ‘เกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023’ แสดงนวัตกรรมและความรู้เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน

ระหว่างวันที่ 3-9 กรกฎาคม 2566 คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดงาน “เกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023” ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งคณะ โดยในปีนี้ งานได้รับการยกระดับจากการจัดงานเกษตรประจำปีให้เป็นงาน ระดับเอ็กซ์โป ที่มุ่งเน้นการแสดงสินค้า นวัตกรรม และกิจกรรมหลากหลายด้านการเกษตร เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

การจัดงานในปีนี้มุ่งเน้นให้เกษตรกร นักวิชาการ และผู้ประกอบการทางธุรกิจเกษตรได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และเกษตรกรตัวอย่างในการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และกระบวนการที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และพัฒนาธุรกิจเกษตรอย่างยั่งยืน พร้อมการสนับสนุนให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเกษตรทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

งาน “เกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023” ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายต่างๆ เช่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก และองค์กรต่างๆ ที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เข้าชมได้มีโอกาสสัมผัสกับนวัตกรรมการเกษตรและการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติของอุตสาหกรรมการเกษตร

สิ่งที่น่าสนใจในงาน ได้แก่:

  1. การแสดงสินค้าและนวัตกรรมการเกษตร เช่น เทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ ระบบเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) เครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆ ที่ช่วยลดแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
  2. การสัมมนาและการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับการพัฒนาเกษตรกรรมในยุคดิจิทัล การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การใช้พลังงานทดแทนในการเกษตร
  3. กิจกรรมฝึกอบรมและเวิร์กช็อป ในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ การปลูกพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาธุรกิจเกษตรที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน SDG 2 (การขจัดความหิวโหยและส่งเสริมการเกษตรอย่างยั่งยืน) และ SDG 12 (การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน) ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถลดผลกระทบจากการผลิตที่ไม่ยั่งยืน

ข้อมูลเพิ่มเติม: ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร โทรศัพท์ 0 5596 2718 หรือที่ https://www.naiexpo.agi.nu.ac.th

4o mini

เกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป ที่ NAI EXPO 2023

งาน เกษตรนเรศวร เอ็กซ์โป (NAI EXPO 2023) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 9 กรกฎาคม 2566 ที่ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมฯ พิษณุโลก (KNECC) โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นในการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนและการใช้เทคโนโลยีในการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ตามเป้าหมาย SDG2 (การสร้างความมั่นคงทางอาหาร) ให้กับชุมชนและสังคม

งานนี้มีหลากหลายกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งสายคนรักต้นไม้, สายรักสัตว์, สายเทคโนโลยี, สายโดรน, สายกิน, สายช็อป และสายเต้น พร้อมต้อนรับทุกคนในครอบครัว งานนี้จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ด้านการเกษตรที่ทันสมัย เช่น การดูแลดินและบำรุงดินให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก พร้อมทั้งนำเสนอการเกษตรแบบยั่งยืนครบวงจรที่สามารถนำไปใช้ในการผลิตและการบริโภค

นอกจากนี้ยังมีการจัดฝึกอบรมที่หลากหลายเพื่อเปลี่ยนมุมมองและสร้างอาชีพในด้านการเกษตร รวมถึงการประกวดแข่งขันไก่ สุนัข ปลากัด ชิงถ้วยพระราชทาน และการพบกับนวัตกรรมด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและสังคม

ผู้เข้าร่วมงานยังสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางคืนที่จัดให้มีการเต้นและฟังเพลงจากศิลปิน พร้อมทั้งลุ้นรับของแจกฟรี 7,000 ชิ้น และอิ่มอร่อยกับเมนูหลากหลายจากร้านค้ากว่า 200 ร้าน

งาน NAI EXPO 2023 เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและการเกษตรที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDG2 ในการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ NAI EXPO 2023 หรือ TikTok NAI EXPO.

ให้ความรู้ “การสร้างมูลค่าจากขยะ” Waste to Value (WOV)

วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2566 สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย ดร.สุดาวดี ยะสะกะ และ อาจารย์ณัฐพงศ์ โปรยสุรินทร์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมจัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การสร้างมูลค่าจากขยะ” Waste to Value (WOV) Towards Healthy Planet ในงานเกษตรนเรศวร Expo2023 โดยวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมมาจากแนวคิดการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางสุดท้ายและการนำเอาวัสดุเหลือใช้ และของเสียมาใช้ประโยชน์ใหม่ให้เกิดความคุ้มค่าที่สุดและสร้างมูลค่าเพื่อตอบโจทย์หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงแนวทางการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดปัญหาขยะมูลฝอยสะสมและการปลดปล่อยมลพิษที่เรียกว่า โมโครพลาสติก ที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต ดังนั้นแนวคิดนี้ถือว่าเป็นการช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมและโลกของเราสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ต่อไป ณ ห้องอบรม 9 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

4 มหาวิทยาลัยร่วมพลิกโฉมสร้างเครือข่ายเพื่อการวิจัย ขับเคลื่อนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

วันที่ 27-28 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพมหานคร, ศาสตราจารย์ ดร.กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม และ ดร.ยุทธพงษ์ ทองพบ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม พร้อมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมการประชุมวิชาการภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมมหาวิทยาลัย แพลตฟอร์มวิจัยเครือข่าย” (Reinventing University by Research Network Platform) โดยมีการร่วมมือจากสถาบันการศึกษาหลักในประเทศไทย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยพะเยา และ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนางานวิจัยที่ตอบโจทย์ความท้าทายของชุมชน สังคม และประเทศชาติ โดยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเหล่านี้.

การประชุมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน SDGs 9: อุตสาหกรรม, นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน และ SDGs 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งมีการสร้างแพลตฟอร์มวิจัยที่เชื่อมโยงมหาวิทยาลัยและองค์กรภายนอก เพื่อเสริมสร้างการพัฒนานวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคมในระดับพื้นที่และระดับนานาชาติ.

ความร่วมมือและวิจัยในประเด็นสำคัญ ศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ รองอธิการบดีด้านการวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผยถึงการร่วมมือของมหาวิทยาลัยในเครือข่ายนี้ว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องการเปิดพื้นที่ให้กับนักวิจัยจากทั้ง 4 มหาวิทยาลัย เพื่อตอบโจทย์ปัญหาสำคัญในภูมิภาคและประเทศ โดยมุ่งเน้นการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม. แพลตฟอร์มวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยและภาคีพันธมิตร เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนในชุมชนและสังคม ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ.

ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวร ศ.ดร.กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวถึงการวิจัยที่มหาวิทยาลัยนเรศวรเริ่มต้นในครั้งนี้ โดยเน้นที่ประเด็น University-Urban Design and Development หรือเมืองมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการออกแบบและพัฒนาเมืองที่เชื่อมโยงกับการศึกษาภายในมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งชุมชนและสังคมในด้านการพัฒนาเมืองและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. งานวิจัยในประเด็นนี้คาดว่าจะขยายผลไปสู่การวิจัยในประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายความร่วมมือทางวิจัยในอนาคต.

การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ การประชุมครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้าง เครือข่ายงานวิจัย ระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศ และเชื่อมโยงกับ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีและงานวิจัยที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาชุมชน สังคม และการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน. เครือข่ายความร่วมมือนี้จะช่วยผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากผลการวิจัยที่มีผลกระทบต่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน.

การสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมที่มีความยั่งยืน โดยการเชื่อมโยงงานวิจัยและการพัฒนาพื้นที่ร่วมกับพันธมิตรจากภาคส่วนต่าง ๆ. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางวิจัยและการพัฒนาในพื้นที่ รวมถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระดับประเทศและภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมและสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม.

กิจกรรมนี้เป็นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยและการเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาและองค์กรอื่น ๆ เพื่อผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนตาม SDGs 9 และ SDGs 17, โดยการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต.

ภาพ/ข่าว: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยพะเยา

ม.นเรศวร ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ณ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี

วันที่ 26-29 มิถุนายน 2566 รศ.ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร อาจารย์ เดินทางไปศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมาร์ทกริดและแนวทางการสนับสนุนการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ณ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ดังนี้

– ประชุมร่วมกับผู้บริหารหน่วยงาน Overseas Emissions Reduction Team, Ministry of Trade, Industry & Energy เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกในต่างประเทศของเกาหลีใต้

– ประชุมร่วมกับคณะผู้บริหาร บริษัท SK E&S และ บริษัท SK on ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี Energy Storage System (ESS) ของเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและแนวทางการดำเนินธุรกิจ

– เข้าเยี่ยมชมและประชุมร่วมกับผู้บริหาร บริษัท Busan Jungkwan Energy ซึ่งดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการด้านระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่จุงกวาง (Jungkwan) เมืองปูซาน (Busan) เพื่อเยี่ยมชมการบริหารจัดการ Distributed Energy Resources (DERs) จาก DR, ESS, Solar PV, V2G, Microgrid Forecasting ด้วยการใช้เทคโนโลยี Advanced Distribution Management System (ADMS), Distribution Automation System (DAS), Virtual Power Plant (VPP), Distribution Energy Resources Management System and Energy Storage System (DERMS & ESS)

– เข้าเยี่ยมชมและประชุมร่วมกับผู้บริหาร บริษัท POSCO DX ซึ่งเป็น DR Operator ของเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจการตอบสนองด้านโหลด (Demand Response Operation) ในเกาหลีใต้

– เข้าเยี่ยมชมและประชุมร่วมกับผู้บริหาร บริษัท EIPGRID ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับ VPP Platform, RE forecast ด้วย AI technology และแนวทางการดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการพลังงานในรูปแบบ Energy as a Service (EaaS)

ที่มา: วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin