ม.นเรศวร เปิดหอศิลป์ จัดนิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ และศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิด นิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 68 และ นิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ ครั้งที่ 39 ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในศิลปะสมัยใหม่ ตลอดถึงส่งเสริมให้มีการแสดงศักยภาพผลงานศิลปะให้มีคุณภาพสูง

นิทรรศการแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ จิตรกรรม ภาพพิมพ์ และสื่อผสม รวมทั้งสิ้น 64 ชิ้นงาน เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 27 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อให้ประชาชน นักศึกษา และผู้สนใจด้านศิลปะเข้าถึงผลงานได้อย่างกว้างขวาง

การจัดนิทรรศการครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ยกระดับการศึกษาและการเรียนรู้ด้านศิลปะ โดยเปิดพื้นที่หอศิลป์เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งสำหรับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และช่วยปลูกฝังความเข้าใจเชิงลึกต่อศิลปะสมัยใหม่

การสนับสนุนการจัดแสดงผลงานของศิลปินรุ่นเยาว์ยังช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างศิลปินต่างรุ่น ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่กำลังพัฒนาทักษะด้านศิลปะ นับเป็นการส่งเสริมศักยภาพบุคลากรสร้างสรรค์รุ่นใหม่ให้ก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญของสังคมในอนาคต

ด้านการพัฒนาเมืองและชุมชน การเปิดหอศิลป์ให้ประชาชนเข้าชมฟรีในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง ช่วยสร้างโอกาสให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเข้าถึงงานศิลป์อย่างทั่วถึง ทำให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นศูนย์กลางทางศิลปะที่มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนโดยรอบ

นอกจากนี้ การจัดนิทรรศการยังสะท้อนถึง การบูรณาการระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานด้านศิลปะ และชุมชน เพื่อสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และเป็นแบบอย่างของการใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง

นิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ และนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงเป็นทั้งเวทีเผยแพร่ศิลปะคุณภาพสูง และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองและการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการสร้างสังคมแห่งความรู้และความยั่งยืนในอนาคต

ม.นเรศวร รณรงค์รับบริจาคยาเหลือใช้ ส่งต่อเพื่อประโยชน์แก่สังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยคณะเภสัชศาสตร์ และเครือข่ายจิตอาสา ได้จัดโครงการรับบริจาค ยาเหลือใช้ เพื่อนำไปคัดกรองและกระจายต่อไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลน การดำเนินงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ใช้ยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเปล่าของทรัพยากรทางการแพทย์ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพสำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล

โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่า ยาซึ่งถูกทิ้งหรือปล่อยไว้จนเสื่อมคุณภาพยังสามารถสร้างคุณค่าได้ หากถูกนำมาคัดกรองและนำไปใช้ต่อในสถานพยาบาลที่ต้องการ การดำเนินงานจึงไม่เพียงเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ยังเป็นการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดปัญหาขยะยา และลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของสังคมด้านสาธารณสุข

ขั้นตอนการบริจาคทำได้โดยง่าย เพียงนำยาเหลือใช้มาไว้ที่ จุดรับขยะกำพร้า ภายในมหาวิทยาลัย โดยผู้บริจาคต้องขีดฆ่าชื่อผู้ป่วยบนฉลากเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแยกยาไว้ต่างหากและแจ้งทีมงานจิตอาสาว่าเป็น “ยาเหลือใช้” จากนั้นทีมงานจะทำการรวบรวมและจัดส่งไปยัง อาจารย์ดำรงค์ศักดิ์ เป๊กทอง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง

ทีมงานคณะเภสัชศาสตร์จะตรวจสอบคุณภาพและจัดหมวดหมู่ยา ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เช่น โรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก รวมทั้งโรงพยาบาลอื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีความต้องการยาอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาที่จำเป็นได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

สำหรับยา หมดอายุ ประชาชนยังสามารถส่งรวมมากับขยะกำพร้าได้ เพื่อให้ทีมงานดำเนินการกำจัดอย่างถูกวิธี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชน การดำเนินงานในรูปแบบนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังจุดรับบริจาค ยังสามารถส่งยาเหลือใช้โดยตรงไปที่ อาจารย์ดำรงค์ศักดิ์ เป๊กทอง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 99 ม.9 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000 ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้เครือข่ายจิตอาสาสามารถรวบรวมยาได้จากพื้นที่ทั่วประเทศ

โครงการนี้สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของมหาวิทยาลัย ภาคประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการทรัพยากรด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน การ ใช้ยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงไม่เพียงช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ยังเป็นการลดขยะ ป้องกันมลพิษ และสร้างวัฒนธรรมการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า

ท้ายที่สุด การรณรงค์รับบริจาคยาเหลือใช้ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ทั้งในมิติสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยแสดงให้เห็นว่าการจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบสามารถสร้างประโยชน์ได้ทั้งต่อผู้คนและต่อโลกใบนี้ในระยะยาว

ทุนการศึกษา จากศิษย์เก่าสู่ศิษย์ปัจจุบัน เติมพลังใจสู่ความสำเร็จ

วันพุธที่ 18 กันยายน 2567 สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับกองกิจการนิสิต จัดพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษา โดยมี นางจิตมากร รอบบรรเจิด นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ ห้องนเรศวร 310 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี

การจัดมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ มีนิสิตที่ได้รับทุนจำนวน 49 คน รวมมูลค่า 260,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษา และเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่นิสิตในการมุ่งมั่นเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เต็มที่

โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG1 ขจัดความยากจน เนื่องจากการศึกษาคือกุญแจสำคัญในการสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิต การมอบทุนช่วยให้นิสิตที่มีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม และลดความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษา

นอกจากนี้ พิธีมอบทุนยังสะท้อนถึงพลังของ ความร่วมมือ (SDG17) ระหว่างศิษย์เก่า มหาวิทยาลัย และภาคีผู้สนับสนุน ที่พร้อมผนึกกำลังเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ความร่วมแรงร่วมใจในครั้งนี้แสดงถึงเครือข่ายที่เข้มแข็งซึ่งจะเป็นต้นแบบของการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน

ความสำคัญของทุนการศึกษาไม่ได้อยู่เพียงแค่จำนวนเงิน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของกำลังใจที่มอบแก่นิสิตผู้รับทุน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง เพื่อก้าวสู่การเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบต่อสังคม

การจัดกิจกรรมลักษณะนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างนิสิต ศิษย์เก่า และมหาวิทยาลัย อันเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งในระดับสถาบันและสังคมโดยรวม

ท้ายที่สุด การมอบทุนการศึกษาโดยสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร ถือเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าในอนาคตของสังคม เพราะนิสิตที่ได้รับทุนจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรที่มุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตคุณภาพเพื่อขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน

ม.นเรศวร พานิสิตเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านโครงการนอกห้องเรียนและโครงการพระราชทาน

วันเสาร์ที่ 21 และวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการการเรียนการสอนนอกห้องเรียนในรายวิชาศึกษาทั่วไป วิชา 002212 “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความยั่งยืน” ภาคเรียนต้น ปีการศึกษา 2567 ณ กองทัพภาคที่ 3 อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้และเข้าใจแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นการประยุกต์ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน ตลอดจนส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) แก่นิสิต ผ่านกิจกรรมและกระบวนการเรียนการสอนแบบ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับความอนุเคราะห์จากแม่ทัพภาคที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ในการสนับสนุนสถานที่ พร้อมทั้งจัดรถบัสและพลขับสำหรับรับ-ส่งผู้เข้าร่วมโครงการอย่างสะดวกและปลอดภัย

ในโครงการนี้ ยังมีการจัดทีมวิทยากรที่เชี่ยวชาญมาบรรยายและให้คำแนะนำตามแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ แก่นิสิต เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาและสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้โครงการพระราชทาน เช่น ศูนย์ผลิตพันธุ์กบพระราชทาน ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน และโรงครัวพระราชทาน ซึ่งเป็นตัวอย่างการประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับชุมชนและสังคม

โครงการนี้ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐในภูมิภาค ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดี ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพนิสิตให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ พร้อมรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน

การจัดโครงการยังสอดคล้องกับการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนได้เข้าถึงทรัพยากรด้านความรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถและความเข้าใจในหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ทั้งในด้านวิทยากร แหล่งเรียนรู้ และการอำนวยความสะดวกแก่นิสิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดโครงการประกวดผลงานและสัมมนา พัฒนาคุณภาพการศึกษาและท้องถิ่น สู่การศึกษาที่มีคุณภาพและความร่วมมืออย่างยั่งยืน

วันพุธที่ 25 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดงาน โครงการประกวดผลงานและสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาคุณภาพการศึกษา และการพัฒนาท้องถิ่นโดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยง เครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมทั้งร่วมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดัน การศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวที แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการและการพัฒนาท้องถิ่น ระหว่างเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่าง โดยมุ่งสร้างแรงจูงใจให้อาจารย์ นักวิจัย และบุคลากรจากหลากหลายสถาบันอุดมศึกษาร่วมกันพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ และสามารถขยายผลการดำเนินงานไปสู่สังคมวงกว้างได้อย่างแท้จริง

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของโครงการคือ การยกระดับคุณภาพการศึกษา ที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาท้องถิ่น ผ่านการสนับสนุนและการทำงานร่วมกันของมหาวิทยาลัยในฐานะพี่เลี้ยงกับโรงเรียนและชุมชน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาผู้เรียนในระบบเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่สามารถนำไปต่อยอดเพื่อแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

ภายในงานยังมีการนำเสนอผลงานและโครงการที่มีความโดดเด่น เป็นแบบอย่างที่สามารถต่อยอดได้จริง พร้อมการแลกเปลี่ยนมุมมองจากสถาบันเครือข่าย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและสร้างแนวทางในการปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ การดำเนินงานในลักษณะนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเครือข่ายอุดมศึกษาในการ สนับสนุนการเรียนรู้แบบเปิดและเข้าถึงได้สำหรับทุกกลุ่มในสังคม

สถานที่จัดงาน ณ ห้องประชุมมหาราช 1 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ถูกจัดเตรียมให้เป็นพื้นที่กลางของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การบรรยาย และการนำเสนอผลงาน ซึ่งเป็นการรวมพลังของภาคการศึกษา โรงเรียน และชุมชนเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนาการศึกษาอย่างรอบด้าน

การดำเนินโครงการในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการสร้างเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน และท้องถิ่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคม และเป็นการเสริมสร้างพลังความร่วมมือที่มั่นคงและต่อเนื่อง

กิจกรรมโครงการประกวดผลงานและสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรและเครือข่ายอุดมศึกษา ในการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ สนับสนุนการเรียนรู้ที่เปิดกว้างและเข้าถึงได้ และร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนทั้งในระดับโรงเรียน ท้องถิ่น และระดับชาติ

ม.นเรศวร เดินหน้าสู่พลังงานสะอาด จับมือเอกชนติดตั้งระบบโซลาร์ 12 MWp หนุนเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ บริษัท เพาเวอร์ซิสเต็มส์แอนด์โซลูชั่นส์ จำกัด จัดพิธีลงนามสัญญาโครงการติดตั้งและให้บริการระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมคณะผู้บริหาร และนายนครินทร์ ไทรงามสถิต กรรมการบริษัทฯ เข้าร่วมพิธี ณ ห้องนเรศวร 310 อาคารสำนักงานอธิการบดี ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

โครงการดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนสู่การใช้ พลังงานสะอาด และ พลังงานยั่งยืน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสนับสนุนนโยบายการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ตามสัญญา การติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีขนาดกำลังติดตั้งรวม 12 MWp ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 20 ล้านหน่วยต่อปี และคาดว่าจะช่วยมหาวิทยาลัยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานตลอดอายุสัญญาลงได้กว่า 395,100,919 บาท ถือเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

บริษัท เพาเวอร์ซิสเต็มส์แอนด์โซลูชั่นส์ จำกัด จะเป็นผู้ดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าตลอดระยะเวลาโครงการ 12 ปี เพื่อให้ระบบดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นในความมั่นคงทางพลังงานของมหาวิทยาลัย

การดำเนินโครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการเป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้ พลังงานยั่งยืน และเดินหน้าสู่ความเป็น มหาวิทยาลัยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านพลังงานและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โครงการดังกล่าวยังเป็นตัวอย่างที่ดีของ การมีส่วนร่วม ระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ในการบูรณาการความรู้ เทคโนโลยี และทรัพยากร เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด ที่สามารถขยายผลและเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานอื่น ๆ ต่อไป

มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำบทบาทในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนในระบบ พลังงานสะอาด และการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เพื่อผลักดันเป้าหมายการลดโลกร้อน และสร้างสังคมที่พร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต

NU Hackathon & Pitching 2024 ส่งเสริมทักษะด้านการคิดค้นนวัตกรรมของนิสิต

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับบริษัท เอ็กซ์โตซอฟท์ จำกัด จัดโครงการ “NU Hackathon & Pitching 2024” ภายใต้หัวข้อ การพัฒนาเครื่องมือ Performance Test ด้วยเทคโนโลยี Cloud, AI และ Machine Learning โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวรายงาน และคุณณัฐพล กล้าหาญ ผู้บริหารจากบริษัทเอ็กซ์โตซอฟท์ จำกัด กล่าวต้อนรับ ณ อาคารขวัญเมือง มหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้นิสิตได้เรียนรู้การพัฒนาเครื่องมือด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์จริง ผ่านรูปแบบ Hackathon ที่มีเวลาเพียง 48 ชั่วโมงสำหรับการสร้างสรรค์ผลงาน โดยเน้นการฝึกทักษะการแก้ไขปัญหาเชิงระบบและการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับบุคลากรยุคดิจิทัล

ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Performance Testing มาร่วมบรรยายและเสวนา เช่น การชี้ทิศทางและความสำคัญของการทดสอบประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ในยุคปัจจุบัน การกำหนดแนวทางการทดสอบและการค้นพบที่สำคัญ ตลอดจนการนำเทคโนโลยี Cloud, AI และ Machine Learning มาใช้ในอนาคตของการทดสอบระบบ ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้นิสิตเข้าใจถึงบทบาทของเทคโนโลยีล้ำสมัยในอุตสาหกรรม

การจัดโครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนในมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้งกองกิจการนิสิต กองกลาง คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร และอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงการบูรณาการทรัพยากรและองค์ความรู้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่นิสิต

เป้าหมายสำคัญของกิจกรรมคือการพัฒนาทักษะด้าน Performance Testing และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Technology) เช่น AI และ Machine Learning ซึ่งจะช่วยให้นิสิตมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สามารถต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การทำงานจริงในภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นใจ

โครงการนี้ยังเป็นการเชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคเอกชน โดยสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญกับนักศึกษา อันจะนำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง และสนับสนุนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาคและนานาชาติ

การจัด NU Hackathon & Pitching 2024 จึงไม่เพียงเป็นกิจกรรมเชิงวิชาการ แต่ยังเป็นการส่งเสริมทักษะด้านการคิดค้นนวัตกรรมของนิสิต เพื่อสร้างกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและสังคมไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

ม.นเรศวร ขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มเป้าหมายพิเศษ

วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยกองส่งเสริมการบริการวิชาการ ร่วมกับนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก จัดประชุมถอดบทเรียนการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อวิเคราะห์และพัฒนาแนวทางการสนับสนุนคุณภาพชีวิตในมิติต่าง ๆ ของกลุ่มเป้าหมาย

การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายสุริชาติ จงจิตต์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่-ท้องถิ่น และประชากรกลุ่มเป้าหมายพิเศษกว่า 80 คน เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยนเรศวร มอบหมายบุคลากรกองส่งเสริมการบริการวิชาการเข้าร่วมประชุมเพื่อสนับสนุนการถอดบทเรียนและติดตามผลการดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ

ดร.อนวัช มีเคลือบ รักษาการหัวหน้างานประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่วิทยากรถอดบทเรียนและนำเสนอข้อมูลเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับการพัฒนาทุนมนุษย์ในมิติต่าง ๆ รวมถึงแนวทางการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้สำหรับประชากรกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน

การประชุมครอบคลุมการวิเคราะห์มิติต่าง ๆ ได้แก่ การสร้างอาชีพและรายได้ การพัฒนาเด็กและเยาวชน การจัดการป่าชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงมิติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำในชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG1 ด้านการขจัดความยากจน และ SDG17 ด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

กิจกรรมครั้งนี้ยังเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน หน่วยงานรัฐ และชุมชนท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมสำหรับประชากรกลุ่มเป้าหมาย

การประชุมถอดบทเรียนและวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาประชากรกลุ่มเป้าหมายพิเศษ จึงเป็นการสร้างกรอบแนวทางที่เป็นระบบและมีข้อมูลรองรับ สนับสนุนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนโครงการวิจัยและบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยนเรศวรเพื่อสังคมและการพัฒนาอย่างเท่าเทียม

ม.นเรศวร มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดโครงการต้นแบบ ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน

วันพุธที่ 4 กันยายน 2567 ณ ห้องนเรศวร 310 อาคารสำนักงานอธิการบดี ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ 16/2567 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธี และได้ให้เกียรติมอบรางวัลการประกวดโครงการหน่วยงานต้นแบบที่มีส่วนร่วมในการ ส่งเสริมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน

การประกวดในครั้งนี้แบ่งออกเป็นหลายสาขา ได้แก่ โครงการส่งเสริมผลงานวิชาการก้าวสู่ระดับสากล (NU Star Awards) โดยในประเภทนวัตกรรมเทคโนโลยีหรือดิจิทัลแห่งปี รางวัลชนะเลิศตกเป็นของ ดร.วราภรณ์ ยังเอี่ยม กับผลงาน “I Watch Sodium” application ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อาจารย์ธนสาร ช่างนาวา กับผลงาน Thermo Defender V2 + ML

ในประเภทผลงานที่โดดเด่นในการพัฒนาภูมิภาค รางวัลชนะเลิศได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภก.ดำรงศักดิ์ เป๊กทอง กับผลงาน PharmaSea: Saving the Medicine & Saving the Sea ขณะที่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ตกเป็นของ วิทยาลัยนานาชาติ จากผลงาน NUIC’s Social Responsibility through Enhancing Language Proficiency in Lower Northern Thailand

สำหรับประเภทผลงานที่โดดเด่นในการเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม รางวัลชนะเลิศได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ กับผลงาน From Hazard to Hope: SHEI’s 15-Year Pioneering Journey in Environmental Cleanup Leadership และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.พยุง ซีดาร์ กับผลงาน Knowledge Management for the Development of Human Resources and the Environment in the Huai Ton Nun Community

ในส่วนของโครงการหน่วยงานต้นแบบที่มีส่วนขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน ประเภทหน่วยงาน รางวัลชนะเลิศได้แก่ คณะสหเวชศาสตร์ จากผลงาน หน่วยส่งเสริมสุขภาพ (Health Club) ขณะที่ประเภทบุคลากร รางวัลชนะเลิศได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.เดช วัฒนชัยยิ่งเจริญ จากผลงาน โครงการศึกษาทบทวนแผนการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์

ในประเภทนิสิต รางวัลชนะเลิศตกเป็นของ นายญาณพัฒน์ พร้อมมูล จากผลงาน Safeguarding the Environment through Proper Medicine Disposal ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นายศรัณย์ เหมะ กับผลงาน Quality of Mud Fermented Natural Dyeing of Water Hyacinth Strands และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวอมรรัตน์ ไวสาริกิจ จากผลงาน EcoFlowWrap: Breathable Packaging Film from Spent Coffee Grounds

นอกจากนี้ ยังมีการประกวด VDO Content “การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเป้าหมายความยั่งยืน” ซึ่งรางวัลชนะเลิศตกเป็นของ นายนวิน เกตุบาง, นายจักรภัทร เชียงทิพย์ และนางสาวกัลยาณี ตั้งใจ จากผลงานเพลง “เปลี่ยนแปลงด้วยมือเรา” ขณะที่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาวปิณจ์ฑิรา การะเกตุ และนางสาวโสภิษฐา โพธิ์ประจำศีล จากผลงาน บทบาทของสำนักหอสมุดในการสนับสนุนการศึกษาที่มีคุณภาพ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวจิราวดี เดชนุกูล และนางสาวพรรษา รักลาย จากผลงาน ไก่แก้บนย่อยสลายได้

การมอบรางวัลในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างจริงจังของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างแรงจูงใจแก่คณะ หน่วยงาน บุคลากร และนิสิต ให้ผลิตผลงานที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับการ ส่งเสริมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน และการพัฒนาสังคมโดยรวม

กิจกรรมดังกล่าวยังเป็นตัวอย่างของความร่วมมือเชิงพันธมิตรระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก สร้างผลงานที่ไม่เพียงมีคุณค่าทางวิชาการ แต่ยังเชื่อมโยงกับการพัฒนาในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ อันเป็นหัวใจของการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

ม.นเรศวร จับมือ Hawaii Energy Institute ส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานทดแทน

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ Prof. Dr. Richard Rocheleau ผู้อำนวยการ Hawaii Energy Institute (HNEI), University of Hawaii, สหรัฐอเมริกา และ Dr. Cung Vu ในการหารือเชิงวิชาการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานทดแทน ณ ห้องสุพรรณกัลยา ชั้น 2 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร

การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือทางวิชาการและการวิจัยด้าน พลังงานทดแทน ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญทั้งในมิติของสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยผลักดันการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศ

นอกจากการหารือเชิงวิชาการแล้ว ยังมีการพูดคุยถึงการต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี กับ Hawaii Natural Energy Institute (HNEI), University of Hawaii เพื่อสานต่อความร่วมมือในการดำเนินโครงการด้านพลังงานสะอาดและการจัดการเทคโนโลยีสมาร์ตกริด

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมด้านพลังงานทดแทน โดยไม่เพียงแต่สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ แต่ยังมุ่งผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในระดับปฏิบัติ ซึ่งสามารถนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างคุ้มค่า

การเชื่อมโยงกับ HNEI ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยพลังงานชั้นนำของโลก ยังช่วยเปิดประตูให้มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เข้าถึงเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนนักวิจัย การพัฒนาองค์ความรู้ และการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล

ในระยะยาว ความร่วมมือดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมพลังงาน การจัดการระบบสมาร์ตกริด และการบริหารจัดการพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประเทศและภูมิภาคได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับ University of Hawaii ยังเป็นตัวอย่างของการ สร้างพันธมิตรระหว่างประเทศ ที่มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ถือเป็นกลไกสำคัญของการพัฒนาที่ไม่เพียงสร้างคุณค่าต่อสถาบันการศึกษา แต่ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานสะอาดและยั่งยืนในระดับประเทศและระดับโลก

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin