ม.นเรศวร หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ส่งเสริมสุขภาพอย่างเท่าเทียม มอบรอยยิ้มแก่ประชาชน

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2567 หน่วยทันตกรรมพระราชทาน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ลงพื้นที่ให้บริการใส่ฟันเทียมพระราชทานแก่ประชาชน ณ โรงพยาบาลอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม 2567 รวมผู้รับบริการจำนวนทั้งสิ้น 46 ราย โดยทีมงานประกอบด้วยอาจารย์ทันตแพทย์ นิสิตระดับบัณฑิตศึกษา ผู้ช่วยทันตแพทย์ และช่างทันตกรรม นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ทันตแพทย์หญิง ดร.วิสาขะ ลิ่มวงศ์ อดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังได้ร่วมลงพื้นที่เป็นขวัญและกำลังใจให้กับทีมงานด้วย

การให้บริการครั้งนี้ แบ่งเป็นการใส่ฟันเทียมแบบ Conventional denture จำนวน 26 ราย และ Digital denture จำนวน 20 ราย ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในหน่วยทันตกรรมพระราชทาน การประยุกต์ Digital denture ทำให้การขึ้นรูปชิ้นงานแม่นยำมากขึ้น ลดการกรอปรับแต่งในช่องปาก และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับฟันเทียมที่มีคุณภาพ สวมใส่สบายและพอดี

สิ่งสำคัญของการดำเนินงานครั้งนี้ คือการผสมผสานเทคโนโลยี CAD Design และการพิมพ์สามมิติ (3D Printing) ในการผลิตฟันเทียม โดยทีมทันตแพทย์และนิสิตปริญญาโทสามารถผลิตฟันเทียมได้ครบตามเป้าหมาย 20 รายภายในระยะเวลาอันจำกัด แสดงถึงศักยภาพของบุคลากรรุ่นใหม่ที่สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพการรักษา

แม้ว่าการผลิต Digital denture ยังมีข้อจำกัด เช่น เรื่องความสวยงามของชิ้นงานและความรวดเร็วในการขึ้นรูป แต่ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนางานด้านทันตกรรมเชิงนวัตกรรม ที่สามารถต่อยอดเพื่อยกระดับบริการสุขภาพช่องปากในอนาคต

โครงการหน่วยทันตกรรมพระราชทานครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมสุขภาพอย่างเท่าเทียม ให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับโอกาสเข้าถึงบริการทางทันตกรรมที่มีคุณภาพ โดยไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงบริการสาธารณสุข

นอกจากนี้ การออกหน่วยยังเป็นเวทีให้นิสิตทันตแพทย์ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ฝึกปฏิบัติจริงร่วมกับทีมอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะวิชาชีพ แต่ยังปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการรับผิดชอบต่อสังคม และการมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่เป็นธรรมและโปร่งใสด้านสุขภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความไม่เสมอภาคด้านการเข้าถึงบริการ และร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ