ม.นเรศวร ร่วมมือ GIZ จัดประชุมพัฒนานโยบาย Agrivoltaics เสริมพลังงานสะอาดระดับนานาชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2567 วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับโครงการ Clean, Affordable and Secure Energy for Southeast Asia (CASE) ภายใต้องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการพัฒนานโยบายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปลูกพืชร่วมกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ หรือที่เรียกว่า Agrivoltaics

การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการ Recommended policy and regulation pertaining Agrivoltaics in Thailand ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการศึกษาแนวทางปฏิบัติ “Agrivoltaics in Thailand” ภายใต้โครงการ Thai-German Energy Dialogue (TGED) ที่จัดขึ้นในปี 2566 การดำเนินการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการสร้างแนวทางเชิงนโยบายที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความต้องการพลังงานของประเทศ

Agrivoltaics ถือเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ที่ดิน โดยการผสานการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์เข้ากับการเกษตรกรรม การประชุมดังกล่าวจึงเป็นเวทีสำคัญในการหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรวบรวมข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายและกฎระเบียบที่เหมาะสมและสามารถปฏิบัติได้จริง

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทในการวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทน มุ่งเน้นการผลักดัน Agrivoltaics ให้เป็นหนึ่งในแนวทางที่สนับสนุนทั้งการสร้างพลังงานสะอาดและการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน ตอบสนองต่อความท้าทายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ประเทศกำลังเผชิญ

การร่วมมือกับ GIZ และโครงการ CASE ในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเชื่อมโยงในระดับนานาชาติที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งด้านนโยบายและการปฏิบัติ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม การพัฒนานโยบายที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนจะทำให้เกิดการยอมรับและการนำไปใช้ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การประชุมดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และข้อเสนอเชิงนโยบาย แต่ยังเป็นเวทีที่ช่วยผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อเดินหน้าสู่ระบบพลังงานสะอาดที่สามารถเข้าถึงได้ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

ทั้งนี้ ผลการประชุมและข้อเสนอแนะที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ในการกำหนดทิศทางการพัฒนา นโยบายและกฎระเบียบด้าน Agrivoltaics ของประเทศไทยในอนาคต ซึ่งจะช่วย ส่งเสริมการพัฒนานโยบายและกฎระเบียบ ที่ตอบโจทย์ความมั่นคงด้านพลังงาน การใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการและความเคลื่อนไหวด้านพลังงานสะอาดและ Agrivoltaics ได้ที่ SGTech Naresuan University, Instagram SGTech และ Facebook SGTech NU

ม.นเรศวร ร่วมกิจกรรม “From We to World เพาะความสุข ปลูกความยั่งยืน”

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ฯ รองศาสตราจารย์ ดร.จรัณธร บุญญานุภาพ อาจารย์ประจำภาควิชาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ และรองศาสตราจารย์ ดร.ศศิมา เจริญกิจ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมปลูกป่าในกิจกรรม “From We to World เพาะความสุข ปลูกความยั่งยืน” ณ พื้นที่นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 39 ปี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. โดยมีเป้าหมายในการสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 การเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ถือเป็นแนวทางสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฟื้นฟูระบบนิเวศ

ในกิจกรรมครั้งนี้ มีการปลูกไม้ยืนต้นหลายชนิด จำนวนกว่า 434 ต้น นำโดยนายศรายุทธ เนียมฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการผลิต โครงการเอส 1 ปตท.สผ. พร้อมด้วยคุณสุรชาติ จงจิตต์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ และมีผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานราชการ พนักงาน ปตท.สผ. บริษัทผู้รับเหมา ประชาชน และนักวิชาการ เข้าร่วมรวมกว่า 200 คน

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการบูรณาการระหว่างภาคเอกชน ชุมชน และสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การปลูกป่าไม่เพียงเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังช่วยฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ในระยะยาว

ในโอกาสเดียวกัน รองศาสตราจารย์ ดร.สิทธิชัย ชูสำโรง รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศและกิจการนิสิต พร้อมด้วยดร.นพรัตน์ อินถา อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร และคณะนิสิต ได้ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อตรวจเก็บข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศสำหรับใช้จัดทำแผนที่การพัฒนาป่าชุมชนในอนาคต

การใช้เทคโนโลยีโดรนร่วมกับการปลูกป่าเป็นตัวอย่างของการบูรณาการนวัตกรรมเข้ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการวางแผนพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่จริง

นอกจากนี้ กิจกรรมปลูกป่ายังช่วยสร้างความตระหนักแก่ประชาชนในชุมชนและผู้เข้าร่วมงาน เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลกผ่านการลงมือทำในระดับท้องถิ่น

ท้ายที่สุด การเข้าร่วมปลูกป่าในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองวาระสำคัญของ ปตท.สผ. เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการ ร่วมปลูกป่า เพื่อสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนและสังคมในระยะยาว

ม.นเรศวร ขับเคลื่อนโครงการ “กำจัดยาที่ถูกต้อง” สร้างความร่วมมือเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

วันพุธที่ 19 มิถุนายน 2567 นิสิตคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการ “กำจัดยาที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม” (Safeguarding the Environment through Proper Medicine Disposal) ณ โรงเรียนเนินมะปรางวิทยา อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการทิ้งยาอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในมิติ One Health

โครงการดังกล่าวถือเป็นการบูรณาการความรู้และการปฏิบัติ โดยนิสิตแกนนำได้รับการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารและภาวะผู้นำ ควบคู่ไปกับการสร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันระหว่างสาขาวิชาชีพ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและสามารถประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างเครือข่ายหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานด้านการศึกษา การสาธารณสุข และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาแนวทางการจัดการยาที่ถูกต้องและยั่งยืน

ภายในกิจกรรม มีการให้ความรู้แก่นักเรียนและชุมชนเกี่ยวกับผลกระทบของการทิ้งยาอย่างไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ดิน หรือการสร้างความเสี่ยงต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ การตระหนักรู้ในประเด็นเหล่านี้จะช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกำจัดยา

นอกจากการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว โครงการยังเน้นการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการเป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง โดยเยาวชนจะมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้สู่ครอบครัวและชุมชน ช่วยต่อยอดการสร้างสังคมที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพร่วมกัน

โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายมหาวิทยาลัยไทยด้านสุขภาพหนึ่งเดียว (Thailand One Health University Network : THOHUN) ซึ่งเป็นการยืนยันถึงพลังความร่วมมือในระดับประเทศที่เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานในครั้งนี้

กิจกรรมกำจัดยาที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม จึงเป็นทั้งการสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาศักยภาพนิสิต และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ตอกย้ำพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการทำงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สู่สังคมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

คณะสหเวชศาสตร์ ม.นเรศวร จัดประชุมวิชาการครบรอบ 28 ปี ส่งเสริมสุขภาพ สร้างความร่วมมือสู่สังคมที่ยั่งยืน

วันพุธที่ 5 มิถุนายน 2567 คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดงานประชุมวิชาการเนื่องในโอกาสครบรอบ 28 ปี แห่งการสถาปนาคณะ ณ โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก โดยมี รศ.ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายแพทย์รัฐภูมิ ชามพูนท รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิษณุเวช รวมถึงผู้บริหารในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ

งานประชุมวิชาการครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Care For Health: Make a Better Society” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่ดีขึ้นผ่านการส่งเสริมสุขภาพและการดูแลประชาชน โดยคำว่า “CARE” ยังเป็นค่านิยมหลักของคณะสหเวชศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย Creativity, Adaptability, Responsibility และ Empathy ที่มุ่งเน้นทั้งการสร้างสรรค์ การปรับตัว ความรับผิดชอบ และความเข้าใจผู้อื่น

กิจกรรมภายในงานครอบคลุมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพ ผ่านการปาฐกถาพิเศษ การประชุมกลุ่มวิชาชีพสหเวชศาสตร์ และการนำเสนองานวิจัยด้านสุขภาพ รวมถึงนิทรรศการ “In the Hall of Recollection” ที่จัดแสดงภาพและเรื่องราว 28 ความทรงจำสำคัญ พร้อมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการแพทย์จากบริษัทชั้นนำ

การประชุมในครั้งนี้ยังเป็นเวทีสร้างความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัย หน่วยงานด้านสาธารณสุข และภาคเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ต่อยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากการเสริมสร้างความรู้แล้ว งานนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ กับศิษย์เก่าและพันธมิตรต่าง ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและขับเคลื่อนพันธกิจของคณะสหเวชศาสตร์ อันจะนำไปสู่การสร้างชุมชนที่มีสุขภาวะดีและมีความเข้มแข็งในการรับมือกับภัยสุขภาพ

การจัดงานประชุมวิชาการครบรอบ 28 ปี ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความต่อเนื่องในการพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ด้านสุขภาพของคณะสหเวชศาสตร์ ตลอดจนการทำงานร่วมกันระหว่างหลายภาคส่วน เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่ทันสมัยและตอบสนองต่อสังคมได้อย่างแท้จริง

ท้ายที่สุด กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของคณะสหเวชศาสตร์ในรอบ 28 ปี แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่อการพัฒนาที่เชื่อมโยง การส่งเสริมสุขภาพ การรับมือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่สังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต

ม.นเรศวร รวมพลังชุมชน ส่งเสริมความรู้ สุขภาพ และภูมิปัญญาท้องถิ่น

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 ภาควิชาจุลชีววิทยาและปรสิตวิทยา นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย สุ่มประดิษฐ หัวหน้าภาควิชา พร้อมด้วยบุคลากรประจำภาควิชา คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ บุคลากรจากภาควิชากายวิภาคศาสตร์ สำนักงานเลขานุการฯ สถานบริการวิชาการด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนิสิตระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา จัดกิจกรรมออกหน่วยบริการวิชาการให้ความรู้แก่ประชาชน นักเรียน และผู้ประกอบการในชุมชน

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณาการวิชาการแก่สังคม และโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และการบำเพ็ญประโยชน์ โดยจัดขึ้น ณ อาคารอเนกประสงค์วิสาหกิจชุมชนบ้านคลองซับรัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาดิน และวัดถ้ำผาหลวง ตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

การจัดกิจกรรมมุ่งเน้นส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่ชุมชน โดยมีการให้บริการตรวจสมรรถภาพร่างกายพื้นฐานและตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อสร้างความรู้ด้านสุขภาพและการป้องกันโรคในชุมชน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติบำบัด โดยเน้นเห็ดและสมุนไพรสู่สุขภาพ การใช้สมุนไพรบำบัดโรค พร้อมสาธิตการทำขมิ้นดองน้ำผึ้ง และการใช้ยาสามัญประจำบ้านอย่างถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง

กิจกรรมด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อมมีการบรรยายการกำจัดแมลงวันทองอย่างยั่งยืน พร้อมสาธิตการทำกับดักแมลงวัน รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร และสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนคลองซับรัง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน

เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ภาควิชาฯ จัดกิจกรรมให้คำแนะนำในการพัฒนาฉลากผลิตภัณฑ์และช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดออนไลน์ เช่น น้ำมะม่วงเข้มข้นและน้ำมะม่วงพร้อมดื่ม พร้อมกิจกรรมแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยปราชญ์ชาวบ้าน

ด้านสังคมและศาสนา กิจกรรมได้รวมการทำบุญถวายสังฆทานชุดยาสามัญประจำบ้านแด่พระภิกษุสงฆ์ ณ วัดถ้ำผาหลวง สะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคมและการมีส่วนร่วมในชุมชนอย่างยั่งยืน ภาควิชาจุลชีววิทยาและปรสิตวิทยาขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือในการจัดกิจกรรมให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ม.นเรศวร ลงพื้นที่ติดตามการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ โรงเรียนภูขัดรวมไทยพัฒนา

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2567 นายวิกานต์ วันสูงเนิน เจ้าหน้าที่วิจัย วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี (SGtech) มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นตัวแทน SGtech ร่วมกับสำนักงานพลังงานจังหวัดพิษณุโลก และองค์การบริหารส่วนตำบลนาบัว ลงพื้นที่ ติดตามการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ ณ โรงเรียนภูขัดรวมไทยพัฒนา อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อประเมินสภาพการทำงานของระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งในโรงเรียน ตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ระบบกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยสนับสนุนการใช้ไฟฟ้าในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง

ระบบโซลาร์เซลล์ที่ได้รับการติดตั้งถือเป็นพลังงานสะอาดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของโรงเรียน และยังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานในพื้นที่ชนบท การ บำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพการผลิตไฟฟ้าให้คงที่

การดำเนินการในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ชุมชนและบุคลากรในพื้นที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาระบบพลังงานทดแทน โดยเน้นการใช้และบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนในระยะยาว

นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังสะท้อนถึงความสำคัญของ การมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ ที่ช่วยให้การใช้พลังงานทดแทนเกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นได้อย่างเป็นรูปธรรม

การมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอจากพลังงานสะอาดไม่เพียงตอบโจทย์ด้านพลังงานเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการศึกษา และช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกล

การลงพื้นที่ติดตามในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการผลักดันการใช้ พลังงานสะอาดเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ ไม่เพียงช่วยให้ระบบผลิตไฟฟ้าดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง แต่ยังเป็นการนำเทคโนโลยีสะอาดมาต่อยอดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานหมุนเวียนให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคต

ผลงานนวัตกรรม “ChixTein” ม.นเรศวร คว้าสุดยอดนวัตกรรมอาหารบนเวทีโลก

วันพุธที่ 12 มิถุนายน 2567 ผลงานนวัตกรรม ChixTein ของนักวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 สุดยอดนวัตกรรมอาหาร ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมเวที Thailand’s Taste of Tomorrow 2024 ณ Riverside Studios กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนศักยภาพของงานวิจัยไทยสู่ระดับโลก และเป็นการส่งเสริมสุดยอดนวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนและตลาดโลกในอนาคต

ผลงาน ChixTein เกิดจากความร่วมมือระหว่าง รองศาสตราจารย์ ดร.ขนิษฐา รุตรัตนมงคล อาจารย์ประจำภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร และ บริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด จำกัด โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนไก่เข้มข้นคุณภาพสูงในรูปแบบผงโปรตีนที่สามารถใช้ได้หลากหลาย ทั้งในอาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์

ผลิตภัณฑ์ ChixTein มีแนวคิดสำคัญคือการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตที่สะอาดและปลอดภัย ปราศจากสารสังเคราะห์ สารกันบูด และสารเติมแต่ง เพื่อสร้างโปรตีนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการพึ่งพากระบวนการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นโปรตีนที่มีรสชาติธรรมชาติจากเนื้อไก่ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม

การคัดเลือก ChixTein เข้าสู่เวทีระดับโลกในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Food Innovation Global Market Launchpad ที่มุ่งผลักดันธุรกิจนวัตกรรมอาหารของไทยสู่การเติบโตในตลาดสากล โดยมีการจัดกิจกรรมเสวนาและบรรยายภายใต้หัวข้อ “Thailand’s Taste of Tomorrow: Fostering the Future of Food, Faith, and Flavours” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และ Food Innopolis

สำหรับเอกลักษณ์ของงาน Thailand’s Taste of Tomorrow 2024 ได้รับแรงบันดาลใจจาก “วารีกุญชร” สัตว์ป่าหิมพานต์ในตำนาน โดยมีช้างสีม่วงพร้อมหู หาง และครีบสีชมพู ใช้เป็นสัญลักษณ์สะท้อนถึงยานพาหนะทางวัฒนธรรมที่จะนำพา FoodTech Startups ฝ่าฟัน Valley of Death และก้าวสู่ความสำเร็จในตลาดโลกด้วยพลังความร่วมมือจากทุกฝ่าย

บริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด จำกัด ถือเป็น บริษัท Spin Off 100% จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีพันธกิจสำคัญคือ Feed the World with Sustainable Protein มุ่งสร้างนวัตกรรมโปรตีนคุณภาพสูงจากทรัพยากรที่ประเทศไทยมีศักยภาพ พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Technology) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่เวทีโลก

การเข้าร่วมเวทีในครั้งนี้นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว ไม่เพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคต แต่ยังถ่ายทอดอัตลักษณ์ไทยที่โดดเด่น แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ กลายเป็นจุดขายที่ดึงดูดความสนใจของนานาชาติ และทำให้ผู้เข้าร่วมงานเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้พัฒนานวัตกรรมอาหารสู่ตลาดโลก

ChixTein จึงไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์อาหาร แต่เป็นนวัตกรรมที่สะท้อนความสามารถด้านงานวิจัยและการสร้างธุรกิจเชิงนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยไทย อันจะเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับประเทศ และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการส่งเสริมสุดยอดนวัตกรรมอาหารเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ขอบคุณภาพจาก: www.innolifethailand.com

ม.นเรศวร ร่วมกับ รพ.สต. คัดกรองจอประสาทตาเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวาน ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ

หน่วยเวชปฏิบัติชุมชน งานบริการปฐมภูมิและสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมกับภาควิชาจักษุวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเครือข่าย ได้จัดโครงการ “ตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสื่อมในผู้ป่วยโรคเบาหวาน” ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) วังนาคู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมสุขภาพประชาชนและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน

โดยโครงการนี้มีแพทย์และบุคลากรจากภาควิชาจักษุวิทยา ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์จากงานบริการปฐมภูมิและทีมงานจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเครือข่ายเป็นผู้ให้บริการตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และสามารถนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ในการดำเนินโครงการครั้งนี้ มีผู้ป่วยโรคเบาหวานจากชุมชนเข้ามารับการตรวจคัดกรองจำนวนทั้งสิ้น 96 คน ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพในระดับชุมชนตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 3 (Good Health and Well-Being) ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพและป้องกันโรค โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนทางตา

การตรวจคัดกรองในครั้งนี้มีความสำคัญในการคัดกรองโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะเริ่มต้น ซึ่งสามารถทำการรักษาและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นในผู้ป่วยได้ หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานให้แก่ชุมชนในพื้นที่ห่างไกล โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปโรงพยาบาลใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 10 (Reduced Inequality) ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงบริการสุขภาพ

โครงการนี้ยังได้มีการสร้างความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล และชุมชน ซึ่งเป็นรูปแบบการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาและการป้องกันโรคในระดับชุมชนตามแนวทางของ SDGs.

วันที 4 มิถุนายน 2567 หน่วยเวชปฏิบัติชุมชน งานบริการปฐมภูมิและสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมกับภาควิชา
จักษุวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเครือข่าย จัดโครงการตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสือมในผู้ปวยโรคเบาหวาน ณ รพ.สต. บ้านเสาหิน โดยมีแพทย์ บุคลากรจากภาควิชาจักษุวิทยา บุคลากรปฐมภูมิฯ และรพ.สต. ในเครือข่ายร่วมให้บริการ โดยมีผู้ปวยโรคเบาหวานเข้ามารับบริการตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสือมทังหมด 146 คน

คณะวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร จัดประชุมนานาชาติ iGST 2024 พร้อมรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2567 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The International Conference of The Genetics Society of Thailand (iGST) 2024 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีทางวิชาการสำคัญที่รวบรวมคณาจารย์ นักวิจัย นิสิต และผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพันธุศาสตร์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ

นอกจากความสำคัญด้านวิชาการแล้ว การประชุมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการรณรงค์ลดขยะพลาสติกผ่านการใช้ แก้วกระดาษย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Eco-Friendly Paper Cup: Yes! Bio) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และบริษัท SMS Corporation Co., Ltd. ซึ่งได้สนับสนุนการนำแก้ว Yes! Bio มาใช้ภายในงาน ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับการจัดการประชุมวิชาการ โดยผสานเป้าหมายทางวิชาการและการดูแลสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

การใช้แก้วย่อยสลายได้ในการประชุม iGST 2024 ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการขยะที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการสร้างตัวอย่างที่ดีในการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนแทนการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการลดปัญหาขยะที่เป็นหนึ่งในประเด็นสิ่งแวดล้อมระดับโลก

การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงแค่เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ เช่นการเลือกใช้แก้วที่ย่อยสลายได้ สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนต่อสังคมและธรรมชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ การจัดงานยังแสดงถึงพลังของความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนที่มุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือเช่นนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่แนวทางที่ยั่งยืน และยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเครือข่ายเพื่อการพัฒนาในระดับประเทศและระดับโลก

ท้ายที่สุด การประชุม iGST 2024 ไม่เพียงแต่เป็นเวทีระดับนานาชาติที่ยกระดับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการจัดกิจกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างองค์ความรู้และพัฒนางานวิชาการ เพื่อก้าวสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน

ม.นเรศวร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่นำเสนอรูปแบบการเพิ่มรายได้ครัวเรือนแก่สมาชิกนิคมสร้างตนเองบางระกำ (นิคม NEXT) พร้อมสำรวจอาชีพของสมาชิกเพื่อสร้างความเข้าใจในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ เป็นผู้ร่วมนำเสนอแนวทางการเพิ่มรายได้แก่สมาชิกนิคม โดยจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านอาชีพและการจัดการเกษตร

รูปแบบการเพิ่มรายได้ที่นำเสนอประกอบด้วย การเลี้ยงไก่พื้นเมือง การเลี้ยงปลา การเลี้ยงกบ และการปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG1 ขจัดความยากจน และ SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ชุมชน

การลงพื้นที่ครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้างความรู้และทักษะด้านอาชีพให้แก่สมาชิกนิคม โดยใช้แนวทางเชิงปฏิบัติ ทำให้ครัวเรือนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคส่วนท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับ SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ทำให้เกิดเครือข่ายการสนับสนุนชุมชนอย่างเข้มแข็ง

การนำเสนอความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์และการปลูกพืชผักในลักษณะออร์แกนิกและไฮโดรโพนิกส์ ยังช่วยส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารและสุขภาพของครัวเรือน สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างระบบเศรษฐกิจฐานรากที่เข้มแข็ง

การลงพื้นที่นิคมสร้างตนเองครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งความพยายามของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนงานด้านวิชาการและบริการวิชาการสู่ชุมชน สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประชากรกลุ่มเป้าหมายในระยะยาว

หากต้องการเข้าร่วมกิจกรรมหรือรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อกองส่งเสริมการบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อรับแนวทางการพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin