ม.นเรศวร วิจัยแก้จน ขจัดความยากจนด้วยข้อมูลเชิงพื้นที่

มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดกิจกรรมแสดงผลงานวิจัยแก้ไขปัญหาความยากจนจังหวัดพิษณุโลก ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ภาคเหนือตอนล่าง ระยะที่ 3 โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร ทำหน้าที่หัวหน้าโครงการวิจัย พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วมอย่างกว้างขวาง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก

โครงการวิจัยดังกล่าวมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนในเชิงโครงสร้าง โดยใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของความยากจน และออกแบบแนวทางแก้ไขอย่างตรงจุด การดำเนินงานในลักษณะนี้ถือเป็นการบูรณาการระหว่างงานวิจัยและการปฏิบัติจริง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะ SDG1 การขจัดความยากจน ที่มุ่งสร้างระบบสนับสนุนให้ครัวเรือนเปราะบางสามารถเข้าถึงโอกาสทางอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ตลอดจนลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้เกิดความเท่าเทียม

การดำเนินงานของโครงการยังสอดคล้องกับ SDG10 การลดความเหลื่อมล้ำ โดยเน้นการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมแก่กลุ่มประชากรทุกช่วงวัย ทุกสถานะ และทุกชุมชนในจังหวัดพิษณุโลก ผ่านกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานท้องถิ่น และภาคประชาชน เพื่อขยายผลการพัฒนาที่ทั่วถึงและเป็นธรรม

นอกจากนี้ โครงการยังสะท้อนถึงความสำคัญของ SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ที่เกิดจากการประสานพลังของหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย หน่วยงานสนับสนุนทุนอย่าง บพท. ภาคธุรกิจ และเครือข่ายภาคประชาชน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการวิจัยสู่การปฏิบัติจริง อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง

ผลงานวิจัยที่นำเสนอในการจัดแสดงครั้งนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงพื้นที่แล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจให้หน่วยงานอื่น ๆ นำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง ถือเป็นการขยายผลที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและสร้างนวัตกรรมการแก้ไขปัญหาความยากจนที่เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่น

ในอนาคต มหาวิทยาลัยนเรศวรจะยังคงยึดมั่นในบทบาท “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคม” ที่มุ่งผลิตงานวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อแก้ไขปัญหาของสังคมจริง พร้อมทั้งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างสังคมที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และเป็นธรรมอย่างแท้จริง

ชมวิดีโอ Facebook: วิจัยแก้จน

ม.นเรศวร ร่วมกับ บพท. จัดแสดงผลงานวิจัย “แก้จน” ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนเบ็ดเสร็จและแม่นยำฯ

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดแสดง “ผลงานวิจัยแก้ไขปัญหาความยากจนจังหวัดพิษณุโลก” ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ ภาคเหนือตอนล่าง ระยะที่ 3 โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในงาน และ ดร.ยุทธพงษ์ ทองพบ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

โครงการนี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้าง ด้วยการใช้ข้อมูลวิจัยเชิงพื้นที่ เพื่อระบุปัญหาที่แท้จริงและออกแบบแนวทางแก้ไขอย่างแม่นยำ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย SDG1 ขจัดความยากจน โดยการสร้างระบบสนับสนุนที่ช่วยให้ครัวเรือนเปราะบางสามารถเข้าถึงโอกาสในการประกอบอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ

นอกจากการลดความยากจนแล้ว โครงการยังมีบทบาทสำคัญในการ ลดความเหลื่อมล้ำ (SDG10) ผ่านการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มประชากรที่ด้อยโอกาส ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านในพื้นที่ชนบท ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงทรัพยากร บริการทางสังคม และนวัตกรรมที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างระหว่างกลุ่มคนในสังคมอย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการ คือการสร้าง ความร่วมมือ (SDG17) ระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และหาแนวทางแก้ปัญหาเชิงบูรณาการ การทำงานร่วมกันในลักษณะนี้แสดงให้เห็นถึงการผนึกกำลังเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และต่อยอดไปสู่การแก้ไขปัญหาในระดับประเทศ

การจัดแสดงผลงานในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเผยแพร่งานวิจัยเชิงวิชาการ แต่ยังเป็นเวทีให้ชุมชนได้เห็นตัวอย่างของนวัตกรรมและแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านอาชีพ การพัฒนาทักษะ และการสร้างเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยสร้างผลลัพธ์ในระยะยาว

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงตอกย้ำบทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการเป็น ศูนย์กลางความรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเชื่อมโยงการวิจัยกับการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่และสังคม ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์การแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของประเทศ ผ่านการสร้างสังคมที่เท่าเทียม มีคุณภาพชีวิตที่ดี และยั่งยืนในระยะยาว

ม.นเรศวร ร่วมกับ บพท. เปิดตัวโครงการวิจัย ‘แก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จในภาคเหนือตอนล่าง’

โครงการวิจัย “การศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำภาคเหนือตอนล่าง: กรณีศึกษาจังหวัดพิษณุโลก” ซึ่งจัดโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยนเรศวร ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำวิจัยและนวัตกรรมมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับท้องถิ่น โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการศึกษาปัญหาความยากจนในภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อน โครงการนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่ยังสอดคล้องกับหลายเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน SDG 1 (การขจัดความยากจน), SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ), และ SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี)

1. แก้ไขปัญหาความยากจน: มุมมองจากโครงการวิจัย: การดำเนินโครงการวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายหลักในการพัฒนากลยุทธ์การแก้ไขปัญหาความยากจนในภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความท้าทายหลายด้าน ทั้งความไม่เสมอภาคในการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ การขาดแคลนทรัพยากร และขาดทักษะในการสร้างอาชีพที่ยั่งยืน การศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนในครั้งนี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในพื้นที่ โดยมองปัญหาความยากจนในหลายมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การศึกษา การเสริมสร้างทักษะ และการเข้าถึงบริการพื้นฐานที่จำเป็น เช่น น้ำ, พลังงาน, และการดูแลสุขภาพ

2. การสอดคล้องกับ SDG 1: การขจัดความยากจน: โครงการวิจัยนี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับพื้นที่ผ่านการให้ความรู้และทักษะแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยหรือขาดโอกาสในการพัฒนาอาชีพและการศึกษา การพัฒนากลยุทธ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำนั้น เป็นการช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้ชุมชนสามารถพัฒนาความสามารถในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน การออกแบบแนวทางการแก้ไขความยากจนที่มีประสิทธิภาพนี้ เป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDG 1: การขจัดความยากจน ซึ่งมุ่งหวังให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นและเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมกัน

การพัฒนาในรูปแบบนี้จะช่วยให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการศึกษา ทักษะการประกอบอาชีพ และแหล่งทรัพยากรที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งสามารถนำไปสู่การยุติความยากจนในระดับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

3. การลดความเหลื่อมล้ำ: SDG 10: โครงการวิจัยนี้ยังเชื่อมโยงกับ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมุ่งเน้นการลดช่องว่างระหว่างกลุ่มคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจแตกต่างกันในพื้นที่ การศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในด้านต่าง ๆ เช่น การศึกษาไม่เท่าเทียม การขาดทักษะทางวิชาชีพ หรือการขาดแคลนโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐานที่จำเป็น เช่น น้ำ, พลังงาน, การดูแลสุขภาพ, การศึกษา และการมีงานทำ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในชุมชน

การสร้างโอกาสในการพัฒนาโดยการให้ความรู้และทักษะ การส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา และการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ต่าง ๆ จะช่วยลดช่องว่างเหล่านี้และทำให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพและมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน

4. การเสริมสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน: SDG 8: การวิจัยและผลลัพธ์จากโครงการนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยการออกแบบแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับทรัพยากรท้องถิ่นและความสามารถของชุมชน การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนเป็นการส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืนและการสร้างงานในชุมชน ถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น

การวิจัยนี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนท้องถิ่น แต่ยังช่วยให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการพึ่งพิงจากภายนอก และสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน SDG 8: การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี ได้รับการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการสนับสนุนการพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับทรัพยากรในพื้นที่

5. บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน: มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาหลักในภาคเหนือตอนล่าง มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการวิจัยและการพัฒนาในพื้นที่ ศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ หัวหน้าโครงการวิจัย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูลวิจัยที่มีความแม่นยำในการออกแบบนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยระบุว่า “การใช้วิจัยในเชิงลึกเป็นเครื่องมือในการพัฒนาที่ยั่งยืน จะช่วยให้เราเข้าใจปัญหาความยากจนในแต่ละพื้นที่ได้ดีขึ้น และสามารถออกแบบมาตรการที่ตรงกับความต้องการของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

การทำงานร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และการนำองค์ความรู้ทางวิชาการมาใช้ในการพัฒนาชุมชน ถือเป็นการขับเคลื่อน SDG 17: การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย, หน่วยงานภาครัฐ, และภาคเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

โครงการวิจัยนี้จึงเป็นการนำวิจัยและนวัตกรรมมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับบริบทท้องถิ่น ถือเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกด้าน

ม.นเรศวร นำเสนอผลงานวิจัยแก้จน สร้างโอกาสและความยั่งยืน

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดงาน “ผลงานวิจัยแก้ไขปัญหาความยากจนจังหวัดพิษณุโลก” ภายใต้โครงการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำภาคเหนือตอนล่าง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก โดยมีพิธีเปิดในเวลา 17.00 น. งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสนับสนุน SDG1 ขจัดความยากจนและ SDG17 การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

งานดังกล่าวจัดแสดงผลงานวิจัยที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อระบุปัญหาความยากจนและออกแบบแนวทางแก้ไขอย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยให้ครัวเรือนเปราะบางสามารถเข้าถึงโอกาสในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้อย่างมั่นคง

หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของงานคือ “ตลาดนัดแรงงานจากผู้มีรายได้น้อย” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถพบปะและซื้อขายผลิตภัณฑ์หรือบริการจากผู้ประกอบการรายย่อย ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตรงกับเป้าหมาย SDG10 การลดความเหลื่อมล้ำทั้งในและระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการที่สนับสนุนผู้มีรายได้น้อย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและการตลาด รวมถึงเพิ่มความรู้และทักษะการบริหารจัดการรายได้ของผู้ประกอบการขนาดเล็กและครัวเรือนเปราะบาง ซึ่งถือเป็นการลงทุนทางสังคมที่ตอบโจทย์ SDG1 และ SDG17

งานนี้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติระหว่างนักวิจัย เจ้าหน้าที่รัฐ และภาคส่วนเอกชน เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงนโยบายและพัฒนากลไกสนับสนุนที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในพื้นที่ ทำให้การแก้ไขปัญหาความยากจนมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

คณะผู้จัดงานเน้นย้ำว่าการร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ และภาคประชาสังคม จะช่วยสร้างเครือข่ายสนับสนุนที่เข้มแข็ง ทำให้นิสิต นักวิจัย และประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงความรู้และทรัพยากรในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง

การจัดงานในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอผลงานวิจัยเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความตระหนักและแรงบันดาลใจให้กับชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียม เข้าถึงโอกาส และสามารถพัฒนาความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม

ม.นเรศวร ขับเคลื่อนผู้ประกอบการภูมิภาคสู่ตลาดโลก ผ่านโครงการ REGIONAL TO GLOBAL (R2G2024)

อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับสมัครผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ REGIONAL TO GLOBAL (R2G2024) เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคสู่ลูกค้าในระดับโลก ผ่านการ ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพด้านการตลาด เทคโนโลยี และนวัตกรรม ด้วยเครือข่ายความร่วมมือของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผู้ประกอบการนวัตกรรมไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน

โครงการ R2G2024 ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่มุ่ง พัฒนาและผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจฐานวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมในภูมิภาค ให้มีความพร้อมในการขยายตลาดออกสู่ระดับโลก (Global Market Expansion) ผ่านกระบวนการอบรมแบบ Boot Camp ที่เข้มข้น โดยได้รับการถ่ายทอดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งออก (Export Training) การสร้างกลยุทธ์การตลาดระหว่างประเทศ (International Marketing Strategy) และการพัฒนาแบรนด์สินค้าให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก (Global Branding)

ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสในการเรียนรู้เทคนิคการส่งออกอย่างมืออาชีพ รวมถึงการวางแผนธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดต่างประเทศ เพื่อให้สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ สร้างระบบนิเวศธุรกิจนวัตกรรมที่ยั่งยืน (Sustainable Innovation Ecosystem) และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

กลุ่มเป้าหมายของโครงการประกอบด้วยผู้ประกอบการนิติบุคคลที่มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในระดับภูมิภาคมาแล้ว หรือเคยผ่านกระบวนการบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรม เช่น TBI, UBI หรือโครงการนักธุรกิจเทคโนโลยีรุ่นใหม่ (New Gen Technopreneur) โดยเฉพาะผู้ที่มี ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พร้อมต่อการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ (Export-Ready Products and Services) และมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี รวมทั้งสามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ในระดับเบื้องต้น

การดำเนินโครงการนี้ยังเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา (Public-Private-Academic Partnership) เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการตลาด เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการในภูมิภาค เพื่อ ส่งเสริมต่อยอดการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก

โครงการ R2G2024 ยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ด้วยการพัฒนา ผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม (Innovation-Based Entrepreneurs) ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน การกระจายรายได้ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง เศรษฐกิจนวัตกรรม (Innovation Economy)

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงขอเชิญผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและต้องการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ เข้าร่วมโครงการ REGIONAL TO GLOBAL (R2G2024) ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 084-8869405 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน (Innovative and Sustainable Economy) และสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยสู่ระดับนานาชาติ

#มหาวิทยาลัยนเรศวร #อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร #R2G2024 #RegionaltoGlobal #ผู้ประกอบการนวัตกรรม #ExportReady #GlobalMarket #InnovationEconomy #NaresuanUniversity #NU #NUSDGs

รับสมัคร นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ทุน กสศ. ปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 ทุน

มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เปิดรับสมัครนักศึกษาสำหรับ หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล (PNNU) รุ่นที่ 15 สำหรับปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 ทุน โดยมอบ ทุนการศึกษาเรียนฟรี 1 ปี พร้อมทั้งมี เงินเดือนให้ระหว่างการเรียน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการประกอบอาชีพผู้ช่วยพยาบาล และต้องการได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความตั้งใจและผลการเรียนที่ดี

ส่งเสริม SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ

ทุนการศึกษานี้เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้าง SDG 4 หรือ การศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวรตระหนักถึงความสำคัญของการให้โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาในสาขาวิชาชีพที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน การให้ทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาที่มีฐานะยากจน แต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะและความสามารถในการทำงานที่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เรียนและชุมชนในระยะยาว

สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ

ทุนการศึกษานี้ยังสอดคล้องกับ SDG 10 หรือ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการให้โอกาสทางการศึกษากับกลุ่มนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความสามารถและตั้งใจจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะในสาขาวิชาชีพที่มีความสำคัญต่อสังคม เช่น อาชีพผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเป็นอาชีพที่ขาดแคลนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุข การให้ทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา แต่ยังช่วยเสริมสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับผู้เรียน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสทางการงานที่ดีขึ้น และสามารถยกระดับชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมได้

ข้อมูลและคุณสมบัติของผู้สมัคร

ทุนการศึกษานี้เปิดรับสมัครสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ และมีผลการเรียนดี ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ของการขับเคลื่อน SDG 10 ในการลดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยให้โอกาสแก่นักศึกษาที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทรัพยากรในการศึกษาต่อในระดับสูงได้มีโอกาสศึกษาต่อและพัฒนาทักษะในอาชีพผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงในภาคการแพทย์และการสาธารณสุข

ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่รักในอาชีพผู้ช่วยพยาบาลและมีความตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองในสายอาชีพนี้ โดยการเข้าศึกษาในหลักสูตรที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในวงการการแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถในการทำงานได้อย่างมีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของสังคม

การเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 17: การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ทุนการศึกษานี้ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างพันธมิตรที่สำคัญระหว่างมหาวิทยาลัย, นักศึกษา, และหน่วยงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนการศึกษาและการพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมมือกับ กองทุนส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิต (กสศ.) ในการให้ทุนการศึกษานี้ ซึ่งเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยไม่แบ่งแยกทางเศรษฐกิจและสังคม

ทุนการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาอาชีพที่มีคุณภาพและยั่งยืนให้กับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองในสาขาอาชีพที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคม การมอบทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนาทักษะเพื่อรองรับตลาดแรงงานที่ต้องการความสามารถในด้านการแพทย์และสาธารณสุข

โครงการนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน SDG 4 และ SDG 10 โดยให้โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม รวมถึงการสร้างอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับผู้เรียนในอนาคต.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ผ่านทาง Line OA : https://lin.ee/e6DDQaJ หรือ Line OA: @694nsyob
ติดตามข่าวสารผ่านเพจ หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ม.นเรศวร PNNU >> https://web.facebook.com/profile.php?id=100090172741425
เข้าไปสมัครด่วนเลยจ้าหรือติดตามข้อมูลได้ที่เว๊บไซต์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ผนึกกำลังภาครัฐ–เอกชน สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจภูมิภาค

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรม NU SciPark Dinner Talk 2024 เพื่อสร้างเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในจังหวัดพิษณุโลก โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการ ส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมจากภาครัฐ และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในภาคเหนือตอนล่างให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน กิจกรรมจัดขึ้น ณ ห้องคอนเวนชั่น 2 โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก มีผู้บริหารและตัวแทนหน่วยงานสำคัญเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ผ่านความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ โดยอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจ เพื่อสร้างระบบนิเวศทางนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) ที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการนำองค์ความรู้ไปใช้สร้างประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค

ภายในงานมีการจัดเสวนาในหัวข้อ “มุมมองและความคาดหวังของภาคเอกชนจังหวัดพิษณุโลกต่อการส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมจากภาครัฐ” โดยได้รับเกียรติจากผู้แทนภาคเอกชนชั้นนำในพื้นที่ ทั้งภาคอุตสาหกรรม หอการค้า และกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการยกระดับศักยภาพของธุรกิจในภูมิภาค เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันและกำหนดแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้มีความยั่งยืน

การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ ในการ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ผ่านการส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยและธุรกิจท้องถิ่นให้เข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการสร้างช่องทางการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้ธุรกิจรายเล็กสามารถพัฒนาและแข่งขันได้ในตลาดระดับประเทศและนานาชาติ การสนับสนุนดังกล่าวยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งขึ้น

อีกทั้งกิจกรรมนี้ยังเน้นการ ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี การวิจัย และการถ่ายทอดนวัตกรรมในลักษณะของการใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อให้การลงทุนด้านนวัตกรรมเกิดประโยชน์สูงสุดและต่อยอดสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในระยะยาว

การดำเนินงานของอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้ ยังตอกย้ำแนวทาง การสร้างพันธมิตรความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาแนวทางการสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกระดับให้มีความพร้อมต่อการแข่งขันและสามารถสร้างธุรกิจที่เติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต

ด้วยความร่วมมือในลักษณะนี้ อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นกลไกสำคัญในการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศ ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการลดความยากจน การสร้างงานที่มั่นคง และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคให้ดีขึ้น อันเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืนในทุกมิติ

ม.นเรศวร ส่งเสริมการเรียนรู้และความเท่าเทียมทางการศึกษา

วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดประชุมชี้แจงรายละเอียดทุนการศึกษาผ่านคณะวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2566 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สัญญา เครือหงษ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ให้เกียรติเป็นวิทยากรและกล่าวให้โอวาทแก่นิสิตผู้เข้าร่วมงาน ณ ห้อง SC1-210 อาคารบริหาร คณะวิทยาศาสตร์

ในการประชุมครั้งนี้ ได้แนะนำทุนการศึกษา ปตท.สผ. โครงการเอส 1 ประเภท “เรียนดี อันดับที่ 1 ของสาขาวิชา” จำนวน 8 ทุน ทุนละ 2,500 บาท เพื่อส่งเสริมนิสิตที่มีผลการเรียนดีเด่นและสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีทุนการศึกษา ปตท.สผ. โครงการเอส 1 ประเภท “เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์” จำนวน 8 ทุน ทุนละ 10,000 บาท ซึ่งมุ่งเน้นให้นิสิตที่มีผลการเรียนดีแต่ประสบปัญหาทางการเงิน สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม

คณะวิทยาศาสตร์ยังได้มอบทุนการศึกษานิสิตของคณะ จำนวน 15 ทุน ทุนละ 5,000 บาท เพื่อสนับสนุนนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษาต่อเนื่อง

การประชุมครั้งนี้ช่วยให้นิสิตเข้าใจรายละเอียดการสมัคร การพิจารณาคุณสมบัติ และเงื่อนไขการรับทุน พร้อมทั้งสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมุ่งมั่นในการเรียนและพัฒนาตนเอง

นอกจากการให้ข้อมูลด้านทุนการศึกษาแล้ว งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ยังเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิตเห็นคุณค่าของการศึกษาและความสำคัญของการวางแผนทางการเงินเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในระยะยาว

การประชุมและมอบทุนการศึกษาครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรการเรียนรู้ และสนับสนุนให้บัณฑิตมีคุณภาพพร้อมต่อยอดการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองในอนาคต

กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

การจัดพิธีปฐมนิเทศนิสิตทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2566 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่มีความสามารถ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ)

ส่งเสริมการศึกษาเพื่อความยั่งยืน (SDG 4)

ในปีการศึกษา 2566 กองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มอบ ทุนการศึกษา 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 146 ทุน โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1.12 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย:

  • กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 124 ทุน มูลค่า 1,000,000 บาท
  • ทุนการศึกษา รศ.ดร.แมรี่ สารวิทย์ จำนวน 2 ทุน มูลค่า 20,000 บาท
  • ทุนการศึกษาเพื่อนิสิตกิจกรรม จำนวน 20 ทุน มูลค่า 100,000 บาท

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสนับสนุนทางการเงิน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการศึกษาในระดับที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนานิสิตให้มีทักษะและความรู้ที่จำเป็นในตลาดแรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ทุกคน โดยไม่ให้การขาดแคลนทรัพยากรเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนการศึกษาเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยการมอบทุนให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสได้เรียนต่อและพัฒนาทักษะการทำงานที่สำคัญ การให้ทุนดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตาม SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนา สามารถเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาตนเองได้โดยไม่ถูกจำกัดด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ

การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยการให้โอกาสแก่นิสิตในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และมีส่วนในการพัฒนาสังคมให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในอนาคต นอกจากนี้ การมีทุนการศึกษาสำหรับกิจกรรมและกิจกรรมพัฒนาผู้นำ ก็เป็นการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกันในชุมชน ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญในการสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร เปิดพิธีปฐมนิเทศนิสิตทุนการศึกษาประจำปี 2566

วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 งานกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดพิธีปฐมนิเทศนิสิตทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 ณ ห้องประชุมอาคารขวัญเมือง เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาและสร้างแรงจูงใจให้แก่นิสิต โดยมี ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยอาจารย์และบุคลากรร่วมให้เกียรติ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภัคพงศ์ หอมเนียม รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ร่วมเป็นผู้แทนคณะวิชานำเสนอแนวทางและวัตถุประสงค์ของทุนการศึกษา เพื่อให้แน่ใจว่านิสิตผู้ได้รับทุนสามารถนำโอกาสนี้ไปพัฒนาศักยภาพการเรียนและสร้างความก้าวหน้าในอนาคต

ในปีการศึกษานี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรมอบทุนการศึกษาให้แก่นิสิตรวมทั้งหมด 147 ทุน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,120,000 บาท เพื่อสนับสนุนนิสิตที่มีความสามารถและขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยแบ่งเป็นกองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 125 ทุน เป็นเงิน 1,000,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีทุนการศึกษาเฉพาะรายบุคคล ได้แก่ ทุน รองศาสตราจารย์ ดร.แมรี่ สารวิทย์ จำนวน 2 ทุน เป็นเงิน 20,000 บาท และทุนการศึกษาเพื่อนิสิตกิจกรรม จำนวน 20 ทุน เป็นเงิน 100,000 บาท เพื่อกระตุ้นให้นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างสรรค์และพัฒนาความรู้รอบด้าน

พิธีปฐมนิเทศครั้งนี้มีการให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่นิสิตเกี่ยวกับการจัดการทุนการศึกษา การวางแผนการใช้เงินเพื่อการศึกษา และการสร้างสมดุลระหว่างการเรียนและกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อให้นิสิตสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้รับทุนการศึกษาในปีนี้จำนวน 12 ทุน รวมเป็นเงิน 56,000 บาท แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาในทุกสาขาวิชาและการสร้างแรงจูงใจแก่นิสิตที่มีความสามารถและขาดแคลนทุนทรัพย์

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่มอบโอกาสและช่วยเหลือนิสิตมาโดยตลอด การมอบทุนการศึกษาครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาศักยภาพนิสิตให้เติบโตอย่างมั่นคงทั้งด้านความรู้และคุณภาพชีวิต

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin