โรงเรียนมัธยมสาธิต ม.นเรศวร จัดโครงการเชิดชู รู้คุณค่าภาษาไทย
วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 ศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ ประจันบาน คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารคณะศึกษาศาสตร์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการ มัธยมสาธิตฯ เชิดชู รู้คุณค่าภาษาไทย ณ โดมอเนกประสงค์ โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยโครงการในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “วรรณคดีมีชีวิตในสายธารเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ที่มุ่งเน้นการนำวรรณคดีและวัฒนธรรมไทยมาเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจยุคใหม่
การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของภาษาและวรรณคดีไทย ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพนักเรียนให้สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาเป็นผลงานเชิงเศรษฐกิจ โดยยึดรากฐานของ ทุนทางวัฒนธรรม ที่มีอยู่แล้วในสังคมไทย เป็นการผสมผสานการเรียนรู้เข้ากับการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ภายในโครงการมีการจัดกิจกรรมทางวิชาการหลากหลายรูปแบบ ทั้งการประกวดแข่งขันด้านวิชาการ การจัดแสดงนิทรรศการ และการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ที่ต่อยอดจากวรรณคดีไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย สอดคล้องกับแนวทางการสร้าง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ที่กำลังได้รับความสนใจในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
หนึ่งในกิจกรรมที่โดดเด่นคือการแสดงลิเกวรรณคดีไทย เรื่อง “พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร” โดยคณะครูและนักเรียนโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่สร้างบรรยากาศคึกคักและเต็มไปด้วยสีสันทางศิลปวัฒนธรรม นับเป็นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานกับการเรียนการสอนอย่างสร้างสรรค์
โครงการดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักเรียน ครู อาจารย์ และผู้ปกครอง โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทยอย่างมีคุณค่า และสามารถนำไปต่อยอดสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เหมาะสมกับสังคมยุคปัจจุบัน
การดำเนินโครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ผ่านการบูรณาการวรรณคดีเข้ากับการศึกษา สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ และการสร้างชุมชนที่รักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมควบคู่กับความทันสมัย
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมยังช่วยพัฒนาทักษะสำคัญของนักเรียนทั้งในด้านการคิดวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารเชิงวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และยังช่วยสร้างรากฐานความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้คงอยู่ต่อไป