Archives June 2024

คณะสหเวชศาสตร์ ม.นเรศวร จัดประชุมวิชาการครบรอบ 28 ปี ส่งเสริมสุขภาพ สร้างความร่วมมือสู่สังคมที่ยั่งยืน

วันพุธที่ 5 มิถุนายน 2567 คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดงานประชุมวิชาการเนื่องในโอกาสครบรอบ 28 ปี แห่งการสถาปนาคณะ ณ โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก โดยมี รศ.ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายแพทย์รัฐภูมิ ชามพูนท รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิษณุเวช รวมถึงผู้บริหารในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ

งานประชุมวิชาการครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Care For Health: Make a Better Society” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่ดีขึ้นผ่านการส่งเสริมสุขภาพและการดูแลประชาชน โดยคำว่า “CARE” ยังเป็นค่านิยมหลักของคณะสหเวชศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย Creativity, Adaptability, Responsibility และ Empathy ที่มุ่งเน้นทั้งการสร้างสรรค์ การปรับตัว ความรับผิดชอบ และความเข้าใจผู้อื่น

กิจกรรมภายในงานครอบคลุมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพ ผ่านการปาฐกถาพิเศษ การประชุมกลุ่มวิชาชีพสหเวชศาสตร์ และการนำเสนองานวิจัยด้านสุขภาพ รวมถึงนิทรรศการ “In the Hall of Recollection” ที่จัดแสดงภาพและเรื่องราว 28 ความทรงจำสำคัญ พร้อมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการแพทย์จากบริษัทชั้นนำ

การประชุมในครั้งนี้ยังเป็นเวทีสร้างความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัย หน่วยงานด้านสาธารณสุข และภาคเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ต่อยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากการเสริมสร้างความรู้แล้ว งานนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ กับศิษย์เก่าและพันธมิตรต่าง ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและขับเคลื่อนพันธกิจของคณะสหเวชศาสตร์ อันจะนำไปสู่การสร้างชุมชนที่มีสุขภาวะดีและมีความเข้มแข็งในการรับมือกับภัยสุขภาพ

การจัดงานประชุมวิชาการครบรอบ 28 ปี ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความต่อเนื่องในการพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ด้านสุขภาพของคณะสหเวชศาสตร์ ตลอดจนการทำงานร่วมกันระหว่างหลายภาคส่วน เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่ทันสมัยและตอบสนองต่อสังคมได้อย่างแท้จริง

ท้ายที่สุด กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของคณะสหเวชศาสตร์ในรอบ 28 ปี แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่อการพัฒนาที่เชื่อมโยง การส่งเสริมสุขภาพ การรับมือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่สังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต

รณรงค์และประชาสัมพันธ์งดสูบบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก

ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์งดสูบบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก (World No Tobacco Day) ซึ่งสอดคล้องกับ SDGs 3 การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบจากการสูบบุหรี่ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น มะเร็งปอด โรคหัวใจ และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ในด้านโทษของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพของบุคคลและสังคม

กิจกรรมในปีนี้ประกอบด้วยการเดินรณรงค์ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยใช้สื่อประชาสัมพันธ์เช่น แผ่นป้ายและโปสเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษของการสูบบุหรี่ และการให้คำแนะนำในการเลิกสูบบุหรี่ รวมถึงการจัดเวทีสัมมนาและการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

กิจกรรมนี้มีเป้าหมายในการลดอัตราการสูบบุหรี่ในกลุ่มนิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยนเรศวร ช่วยลดภาระโรคจากการสูบบุหรี่ และส่งเสริมการเลือกวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี โดยตรงกับ SDG 3 ซึ่งมุ่งเน้นการลดปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ เช่น การสูบบุหรี่ พร้อมทั้งช่วยสร้างสังคมที่ปราศจากบุหรี่ และการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน

คณะเกษตรฯ ม.นเรศวร ร่วมงานแถลงข่าวครบรอบ 34 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย พร้อมนำเสนอศักยภาพ “ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีฯ”

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยผู้บริหารคณะ เข้าร่วมงานแถลงข่าวครบรอบ 34 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมนำเสนอผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและกิจกรรมที่จะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้

ภายในงาน คณะเกษตรศาสตร์ฯ ได้แสดงศักยภาพด้านการให้บริการและการวิจัยผ่าน “ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีการแปรรูปผลผลิตการเกษตรและอาหาร” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการแปรรูปผลผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ยืดอายุการเก็บรักษา ออกแบบบรรจุภัณฑ์ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร โดยมุ่งตอบโจทย์ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และชุมชน

ศูนย์ฯ ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมเกษตรครบวงจร ตั้งแต่การวิจัยเชิงลึก การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ไปจนถึงการสร้างแบรนด์และการตลาด เพื่อผลักดันสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้าสู่ตลาดที่กว้างขึ้น รองรับการแข่งขันในระดับประเทศและระดับสากล

อีกหนึ่งหน่วยงานสำคัญภายใต้คณะเกษตรศาสตร์ฯ คือ สถานพัฒนามาตรฐานและเฝ้าระวังการปนเปื้อนสารเคมีในผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารอินทรีย์ ซึ่งมีความพร้อมในการตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้างและปัจจัยการผลิตทางการเกษตร โดยใช้ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ISO/IEC 17025 เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า

การให้บริการของสถานพัฒนาฯ ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเคมี (การตรวจสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างและสารสำคัญในกัญชา-กัญชง) ด้านเคมีสิ่งแวดล้อม (ตรวจดิน น้ำ ปุ๋ย และโลหะหนักตกค้าง) และด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร (ตรวจจุลชีววิทยา อณูพันธุศาสตร์ และสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม) ซึ่งเป็นระบบการให้บริการที่ทันสมัยและครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้บริการทุกระดับ

นอกจากนี้ ศูนย์ยังได้รับรองมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์ TOC ในน้ำทิ้งและแหล่งน้ำผิวดิน รวมถึงการตรวจวิเคราะห์จุลินทรีย์ในผักและผลไม้ ขณะเดียวกันการตรวจวิเคราะห์สารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในผลไม้ และการตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในดิน ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการขอมาตรฐาน ISO/IEC 17025 เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและยกระดับคุณภาพการบริการ

งานแถลงข่าวครั้งนี้มีสื่อมวลชนจากหลายแขนงเข้าร่วมกว่า 40 คน ณ หอประชุมมหาราช อาคารอุทยานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารและเผยแพร่บทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะศูนย์กลางองค์ความรู้ ที่มุ่งใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งสร้างระบบนิเวศการเกษตรที่ยั่งยืน

การนำเสนอผลงานและบริการในครั้งนี้จึงสะท้อนถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการบูรณาการงานวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่สังคม โดยมี “ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยี” เป็นกลไกหลักที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและอุตสาหกรรมเกษตร ควบคู่ไปกับการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน

ม.นเรศวร เปิดรับสมัคร ทุนการศึกษานิสิต ประจำปีการศึกษา 2567

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ประกาศเปิดรับสมัคร ทุนการศึกษานิสิต ประจำปีการศึกษา 2567 ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4). การเปิดรับสมัครทุนการศึกษานี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในด้านการศึกษา และเปิดโอกาสให้นิสิตที่มีความสามารถแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา

การรับสมัครทุนการศึกษานี้จะเปิดรับตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2567 โดยนิสิตสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ของกองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร. มหาวิทยาลัยได้กำหนดขั้นตอนที่ชัดเจนในการรับสมัครและคัดเลือกนิสิตที่มีสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษา ซึ่งจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ผ่านเว็บไซต์และเพจของกองกิจการนิสิต

นิสิตที่มีสิทธิ์สัมภาษณ์ทุนการศึกษาจะได้รับการสัมภาษณ์จากคณะกรรมการส่วนกลางในระหว่างวันที่ 25-31 กรกฎาคม 2567 เพื่อประเมินคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้สมัครในการได้รับทุน. ทั้งนี้ การสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการคัดเลือกนิสิตที่มีความมุ่งมั่นในการเรียนและสามารถนำทุนการศึกษานี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการศึกษาต่อ

หลังจากการสัมภาษณ์แล้ว มหาวิทยาลัยจะประกาศรายชื่อนิสิตที่ได้รับทุนการศึกษาในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป. การประกาศผลนี้จะทำให้ผู้ที่ได้รับทุนสามารถวางแผนการศึกษาได้อย่างมั่นใจและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษา

การจัดสรรทุนการศึกษานี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการศึกษาที่เท่าเทียม และช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษา. ทุนการศึกษานี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้นิสิตที่ได้รับทุนมีโอกาสพัฒนาตนเองและทำให้การศึกษาของพวกเขาสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่

สุดท้ายนี้ หากนิสิตท่านใดไม่เข้ารับการสัมภาษณ์หรือไม่รายงานตัวตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ในการรับทุนการศึกษา. ดังนั้น การปฏิบัติตามกำหนดเวลาที่มหาวิทยาลัยได้ตั้งไว้จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญในการศึกษาต่อ

ม.นเรศวร นำน้ำเสียหมุนเวียน ลดการใช้น้ำใหม่ สนับสนุนอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการจัดการน้ำ (Sustainable Development Goal 6: Clean Water and Sanitation) โดยเฉพาะการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ผ่านระบบน้ำหมุนเวียน (Water Recycling) เพื่อลดการใช้น้ำใหม่และสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ

พื้นที่ทั้งหมดของมหาวิทยาลัยครอบคลุมกว่า 2,167,624 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่สีเขียวคิดเป็น 55.35% ของพื้นที่รวม ซึ่งประกอบด้วยสนามหญ้า สวนดอกไม้ ต้นไม้ และพื้นที่ป่า พื้นที่เหล่านี้ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้น้ำในการรดต้นไม้และบำรุงรักษา

เพื่อให้การดูแลพื้นที่สีเขียวเป็นไปอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการระบบบำบัดน้ำเสียและนำกลับมาใช้ใหม่ โดยในแต่ละปีมหาวิทยาลัยผลิตน้ำเสียประมาณ 1,090,752 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วถึง 72% หรือประมาณ 783,996 ลูกบาศก์เมตร ถูกนำกลับมาใช้เพื่อดูแลพื้นที่สีเขียวของมหาวิทยาลัย

ผลลัพธ์และความยั่งยืน การนำน้ำหมุนเวียนกลับมาใช้ในระบบนอกจากจะช่วยลดการใช้น้ำประปาใหม่แล้ว ยังช่วยลดต้นทุนในการจัดหาน้ำ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว มหาวิทยาลัยนเรศวรแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDG 6

โครงการน้ำหมุนเวียนนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างชาญฉลาดในภาคการศึกษา และส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการจัดการทรัพยากรน้ำในกลุ่มนักศึกษา บุคลากร และชุมชนโดยรอบ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

ม.นเรศวร ส่งเสริมสุขภาพนิสิตด้วยสนามกีฬาและพื้นที่ออกกำลังกายที่ครบวงจร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพของนิสิต โดยจัดให้มี สนามกีฬาและพื้นที่การออกกำลังกาย ที่เพียบพร้อมและหลากหลาย เพื่อให้นิสิตได้ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน

พื้นที่ออกกำลังกายในมหาวิทยาลัยประกอบด้วย สนามฟุตบอล 2 แห่ง, สนามกีฬาและอาคารอเนกประสงค์, สนามแบดมินตัน, สนามบาสเกตบอล, สนามฟุตซอล 2 แห่ง, สนามเทนนิส 2 แห่ง, สนามเปตอง, สนามเทเบิลเทนนิส, สนามวอลเลย์บอลชายหาด และ สระว่ายน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ช่วยตอบโจทย์การออกกำลังกายที่หลากหลายให้แก่นิสิต

การพัฒนา พื้นที่การออกกำลังกาย ภายในรั้วมหาวิทยาลัยนเรศวร ไม่เพียงเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสุขภาพ แต่ยังเป็นการปลูกฝังให้นิสิตมี Lifestyle ที่ใส่ใจสุขภาพ รู้จักการจัดสมดุลชีวิต การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการดูแลสุขภาพจิตควบคู่ไปด้วย

กิจกรรมการออกกำลังกายที่เกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านี้ยังช่วยส่งเสริม ความสัมพันธ์ในสังคมมหาวิทยาลัย ทำให้นิสิต บุคลากร และชุมชนรอบข้าง ได้มีส่วนร่วมในการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่า ก่อให้เกิดความร่วมมือที่ดี และสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ควบคู่สุขภาพที่แข็งแรง

การจัดให้มีสนามกีฬาและพื้นที่ออกกำลังกายที่ครบถ้วนเช่นนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being) ซึ่งมหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งหวังให้นิสิตและบุคลากรได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน และพร้อมต่อการเรียนรู้และการทำงานในทุกมิติ

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing

กิจกรรมแรกก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เราได้ชูประเด็นของ NU Pride ไม่ใช่เป็นเพราะกระแส แต่เรามีสิ่งที่อยากจะสื่อสารกับนิสิต คือ “LGBTQIA+ have the freedom to live their truth without fear!” เพราะเราจะทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับนิสิตทุกคน ที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตนเอง และได้รับการยอมรับ ทั้งนี้เป้าหมายหลักก็คือ เพื่อให้นิสิตมีชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข

ขอบคุณ ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในการที่ให้นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีข้อบังคับ ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ โดยให้ถูกต้องตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี ซึ่งจุดนั้นเองทำให้เราในฐานะผู้บริหารชุดปัจจุบันอยากจะย้ำจุดยืนของมหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ เพราะเรามองว่า การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เราควรเคารพ และเห็นคุณค่าของความหลากหลายที่สวยงาม

กิจกรรมที่เราใช้สื่อสารกับนิสิตคือการจัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing หรือทางม้าลายสายรุ้ง บริเวณหน้าหอพักนิสิต ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เป็นผลงานร่วมกันระหว่างนิสิต คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้ก้าวเดินอย่างภาคภูมิใจสถาบันแห่งนี้ ก้าวข้ามความแตกต่าง และการยอมรับซึ่งกันและกัน และที่สำคัญเราอยากให้นิสิตใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐาน

มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้ความสำคัญกับสิทธิและความเสมอภาคในการแต่งกายของนิสิตตามเพศสภาพ อาจารย์ต๊อก ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่าและศิลปวัฒนธรรม ระบุว่าการแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพเป็นการแสดงออกถึง เสรีภาพ และ ความเสมอภาคขั้นพื้นฐาน

การเคารพและให้คุณค่าต่อความหลากหลายในการแต่งกายสะท้อนถึง ความเข้าใจและการยอมรับความแตกต่าง ของนิสิตในมหาวิทยาลัย พร้อมส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและเป็นมิตรต่อทุกคน

กิจกรรมและนโยบายที่สนับสนุนการแต่งกายตามเพศสภาพช่วยให้นิสิตมี อิสระในการแสดงออก และสร้างความรู้สึก เท่าเทียมและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะปลูกฝัง ค่านิยมของความเคารพและยอมรับความแตกต่าง ผ่านการเรียนการสอน กิจกรรมพัฒนานิสิต และการสนับสนุนด้านสิทธิขั้นพื้นฐาน

นโยบายนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมการศึกษา ที่หลากหลายและยั่งยืน ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ความมั่นใจ และความรับผิดชอบต่อสังคมของนิสิต

นิสิตที่ได้รับการสนับสนุนสามารถมี ส่วนร่วมในกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยรูปแบบการแต่งกาย

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งเน้นการสร้าง พื้นที่ปลอดภัยและสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกคนสามารถแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงอย่างภาคภูมิใจ พร้อมสร้างสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืนต่อไป

แนะนำคณะผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการบริหารงานที่เน้น ความเสมอภาคทางเพศ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทของสตรีในด้านการศึกษา การบริหาร และการพัฒนาสังคม เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนมี โอกาสเท่าเทียมกัน

ทีมผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์วรารัชต์ มหามนตรี รองคณบดีฝ่ายบริหาร, ดร.นิภารัตน์ อิ่มศิลป์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ, ดร.ณัฐพร ไข่มุกข์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ ดร.ภูริตา เรืองจิรยศ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มุ่งเน้นการสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานของสตรี และเปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่

คณะมนุษยศาสตร์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้ และการให้บริการวิชาการแก่สังคม โดยคำนึงถึง ความเท่าเทียมและโอกาสที่ทั่วถึง ทั้งนี้ยังมีโครงการส่งเสริมบทบาทของสตรีในการขับเคลื่อนสังคมทั้งด้านการศึกษา การบริหาร และการพัฒนาชุมชน

การพัฒนานิสิตเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ คณะสนับสนุนทั้งด้านวิชาการ การวิจัย และการเสริมสร้าง ทักษะชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต พร้อมเน้นความร่วมมือกับ เครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและการทำงานที่เท่าเทียม

มหาวิทยาลัยและคณะมนุษยศาสตร์ยังดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่ ความเป็นธรรมและความยั่งยืน โดยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งความเสมอภาค

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นให้สตรีมี บทบาทสำคัญในทุกระดับของสังคม ทั้งในเวทีท้องถิ่นและระดับสากล เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและแท้จริง

การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้าง สังคมที่เท่าเทียมและครอบคลุมทุกกลุ่ม พร้อมเสริมสร้างโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพและพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่

ม.นเรศวร สร้างพื้นที่ปลอดภัย NU Pride ให้นิสิตแสดงความเป็นตัวตนอย่างภาคภูมิใจ

กิจกรรมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เน้นประเด็น NU Pride เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนิสิตทุกคน โดยสื่อสารถึงข้อความสำคัญว่า “LGBTQIA+ have the freedom to live their truth without fear!” เพื่อให้นิสิตสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตนเองอย่างภาคภูมิใจและใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข

กิจกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนและผลักดันอย่างต่อเนื่องจาก ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร และ รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ให้ความสำคัญและมีส่วนในการขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดทำ ข้อบังคับว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ซึ่งระบุว่านิสิตสามารถเลือกแต่งกายตามเพศสภาพได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายของมหาวิทยาลัย นับเป็นมาตรการที่สะท้อนถึงการเคารพ เสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ

ในปีการศึกษานี้ มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing หรือการสร้างทางม้าลายสายรุ้งบริเวณหน้าหอพักนิสิต ซึ่งเป็นกิจกรรมครั้งที่ 3 ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง นิสิต คณาจารย์ และบุคลากร ของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นตัวตนและการยอมรับความหลากหลายทางเพศ

กิจกรรมนี้ช่วยให้นิสิตสามารถ ก้าวเดินอย่างภาคภูมิใจ สะท้อนถึงความหลากหลายและการยอมรับซึ่งกันและกันในสถาบันการศึกษา อีกทั้งยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะชีวิตอย่างมีคุณค่า

มหาวิทยาลัยยังเน้นการสร้างความตระหนักในเรื่อง ความเสมอภาคทางเพศและสิทธิพื้นฐาน ให้แก่นิสิตและบุคลากร โดยใช้กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์และการสื่อสารสาธารณะ เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ยอมรับความหลากหลายและเคารพความแตกต่างในสังคม

สุดท้าย กิจกรรม NU Pride ของมหาวิทยาลัยนเรศวรสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้าง สังคมที่เท่าเทียมและครอบคลุมทุกกลุ่ม สนับสนุนให้นิสิตทุกคนสามารถใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ ภาคภูมิใจในตัวเอง และมีความสุขในการเรียนรู้และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสงบสุข

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin