Archives February 2024

ม.นเรศวร จัดอบรม “หนี ซ่อน สู้” เสริมทักษะเอาชีวิตรอดยามวิกฤต

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.00 – 15.00 น. ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้หัวข้อ “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งเป็นแนวทางการเอาชีวิตรอดจากเหตุกราดยิงและเหตุคนคลุ้มคลั่ง โดยได้รับความร่วมมือจากสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก

การอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พ.ต.ท.บารมี จงแจ้ง รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพิษณุโลก และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเหตุวิกฤต มาถ่ายทอดองค์ความรู้และจัดการฝึกซ้อมสถานการณ์จำลอง เพื่อสร้างความเข้าใจและความมั่นใจแก่ผู้เข้าร่วม

กลุ่มเป้าหมายหลักของการอบรม ได้แก่ พี่เลี้ยงเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคลากรในคณะพยาบาลศาสตร์ ซึ่งต่างได้รับการฝึกฝนทั้งด้านการรับรู้สถานการณ์ การแจ้งเตือน และการควบคุมความตื่นตระหนก เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและปกป้องเด็กได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

หัวใจสำคัญของการฝึกคือการซักซ้อม วิธีการเอาชีวิตรอด หนี – ซ่อน – สู้ อย่างถูกต้อง โดยเน้นให้ผู้เข้าร่วมสามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติเมื่อเผชิญเหตุ เช่น เลือกเส้นทางหลบหนีที่ปลอดภัย ปิดกั้นพื้นที่เมื่อซ่อนตัว และใช้วิธีต่อสู้เป็นทางเลือกสุดท้ายหากหลีกเลี่ยงไม่ได้

การจัดอบรมยังมีส่วนสำคัญต่อการสร้าง วัฒนธรรมความปลอดภัยในมหาวิทยาลัย ที่เชื่อมโยงกับแนวทางการพัฒนาเมืองและชุมชนที่ปลอดภัยและยั่งยืน เพราะการเตรียมพร้อมและฝึกฝนบุคลากรให้มีทักษะการเอาชีวิตรอด ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้เผชิญเหตุได้จริง

นอกจากนี้ กิจกรรมครั้งนี้ยังสะท้อนถึง ความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐ ในการสร้างองค์ความรู้และเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น เป็นตัวอย่างการบูรณาการทรัพยากรและความเชี่ยวชาญเพื่อยกระดับความปลอดภัยในสังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวรส่งเสริมด้านความปลอดภัย วิธีการเอาชีวิตรอด เหตุกราดยิง คนคลุ้มคลั่ง จึงเป็นมากกว่าการอบรมทั่วไป แต่เป็นการสร้างระบบความร่วมมือและความรู้ด้านความปลอดภัยที่เชื่อมโยงทั้งระดับบุคคล มหาวิทยาลัย และชุมชนโดยรอบ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความยั่งยืนให้กับสังคม

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม From Gearlaxy x สัปเหร่อ สร้างงานสร้างอาชีพในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร กองกิจการนิสิต และกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จัดกิจกรรม “From Gearlaxy with love x สัปเหร่อ” ณ Gearlaxy Space อาคาร USIS และบริเวณสนามหญ้าหลังลานพระวิษณุกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมี ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กำพล ทรัพย์สมบูรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวรายงาน

กิจกรรมสำคัญในครั้งนี้คือ การเสวนาในหัวข้อ “จาก Start-up สู่ธุรกิจภาพยนตร์ในระดับแนวหน้า” โดยมี “ต้องเต” นายธิติ ศรีนวล นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจากเรื่อง สัปเหร่อ ที่ทำรายได้ทะลุ 600 ล้านบาท พร้อมทีมงานและนักแสดงร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ถ่ายทอดแนวคิดการสร้างผลงานเชิงสร้างสรรค์ที่สามารถต่อยอดสู่ความสำเร็จเชิงพาณิชย์

นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม Hug NU โดยกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และกิจกรรม มน.กลางแปลง I’m in LOVE โดยกองกิจการนิสิต ซึ่งฉายภาพยนตร์ สัปเหร่อ และหนังสั้น “ขณะนั้น ตอนนี้ ตลอดไป” ของเทศบาลนครพิษณุโลก ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้คู่ความบันเทิง เปิดพื้นที่ให้นิสิตและประชาชนเข้าถึงมิติใหม่ของการใช้สื่อเพื่อพัฒนาสังคม

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงการบูรณาการระหว่างภาควิชาการและภาคสนับสนุนของมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการคิดสร้างสรรค์ การต่อยอดนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ และการสร้างความเข้าใจในกลไกอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่สามารถเป็นต้นแบบในการพัฒนาทักษะเพื่อการทำงานในอนาคต

กิจกรรมยังเป็นเวทีที่ช่วยให้นิสิตได้เรียนรู้จาก ประสบการณ์ตรงของผู้ประกอบการและศิลปิน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เยาวชนเห็นถึงความเป็นไปได้ในการสร้างเส้นทางอาชีพใหม่ ๆ ในโลกธุรกิจสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมบันเทิง สอดคล้องกับการสร้างงานสร้างอาชีพในยุคดิจิทัลที่หลากหลาย

โครงการนี้ยังแสดงถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน การพัฒนาทักษะทั้งด้าน Soft Skills และ Hard Skills ให้กับนิสิต ผ่านเวทีการเรียนรู้ที่ผสมผสานทั้งความรู้ทางวิชาการและประสบการณ์จริง เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ท้ายที่สุด กิจกรรม From Gearlaxy with love x สัปเหร่อ ไม่เพียงเป็นงานเชิงสร้างสรรค์ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาทุนมนุษย์ เชื่อมโยงการศึกษาและอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงมีบทบาทชัดเจนในการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยสู่ความยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดประชุมผู้นำนิสิตพบอธิการบดี ครั้งที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย

วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดการประชุมผู้นำนิสิตพบอธิการบดี ครั้งที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2566 โดยมีผู้นำนิสิตจากหลากหลายองค์กรเข้าร่วม อาทิ สภานิสิต องค์การนิสิต สโมสรนิสิตคณะ/วิทยาลัย ชมรม และกลุ่มกิจกรรมอิสระ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสะท้อนมุมมองต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยในมิติต่าง ๆ

การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดี เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม และ ดร.จารุวรรณ แดงบุบผา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต เข้าร่วมประชุมเพื่อให้คำแนะนำและรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้นำนิสิตโดยตรง

ภายในที่ประชุม ท่านอธิการบดีได้กล่าวถึงนโยบายและทิศทางการพัฒนานิสิตให้เป็น Global Citizen พร้อมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแนวคิด Sustainable Campus Life โดยเปิดโอกาสให้นิสิตมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการแสดงความคิดเห็นและการขับเคลื่อนกิจกรรมของมหาวิทยาลัย

ข้อเสนอที่ได้รับจากผู้นำนิสิตมีความหลากหลาย เช่น การปรับปรุงพื้นที่จราจรและภูมิทัศน์บริเวณสระสุริโยทัยที่ชำรุด การปรับปรุงห้องเรียนที่มีการใช้งานมาเป็นเวลานาน การแก้ไขปัญหาลานจอดรถในโซนกลุ่มคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ การเสนอมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่ในพื้นที่มหาวิทยาลัย และการจัดการบริการเปิด-ปิดสนามกีฬาอย่างเป็นระบบ

การเปิดพื้นที่ให้นิสิตได้เสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย ผ่านการมีส่วนร่วมของนิสิตซึ่งถือเป็นพลเมืองรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญของสังคม

กองกิจการนิสิตในฐานะหน่วยงานหลัก ได้รวบรวมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งหมดจากการประชุมครั้งนี้ เพื่อนำไปพิจารณาและใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นรูปธรรม

การประชุมดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างช่องทางในการสื่อสารระหว่างผู้บริหารและนิสิต แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ เปิดกว้างสำหรับการแสดงออกทางความคิดเห็น ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบประชาธิปไตยภายในสถาบันอุดมศึกษา

ด้วยแนวทางนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงสามารถเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส มีส่วนร่วม และส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนในระดับมหาวิทยาลัยและสังคมวงกว้างต่อไป

ม.นเรศวร ส่งเสริมพลังงานสะอาด จัดอบรมติดตั้งโซลาร์เซลล์ลดคาร์บอนยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและการลดการปล่อยคาร์บอนผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาชุมชนและส่งเสริมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเมื่อวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2567 ได้จัดการฝึกอบรมในหลักสูตร การติดตั้งและบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร รุ่นที่ 1 ให้กับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ณ ศูนย์ฝึกปฏิบัติการไฟฟ้าแรงสูง ตำบลไทยาวาส อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

การฝึกอบรมครั้งนี้ดำเนินงานโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย ดร.คงฤทธิ์ แม้นศิริ นายรัฐพร เงินมีศรี และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บัณฑูร เวียงมูล ซึ่งได้บรรยายและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการติดตั้ง การบำรุงรักษา และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในเชิงเทคนิคและการประยุกต์ใช้จริง โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทักษะและศักยภาพของผู้เข้ารับการฝึกอบรมในการใช้นวัตกรรมพลังงานสะอาด

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน แต่ยังสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการลดคาร์บอนในภาคพลังงานและชุมชนท้องถิ่น สนับสนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำตามเป้าหมาย SDG 7 เพื่อพลังงานสะอาดและเข้าถึงได้

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นในบทบาทของการเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา วิจัย และการบริการวิชาการ เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความยั่งยืนให้แก่ชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
งานบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
ที่อยู่: 99 หมู่ 9 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
โทร: 055-963144
อีเมล: watcharaju@nu.ac.th
เว็บไซต์: งานบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์

ม.นเรศวร จัดเวทีแถลงนโยบายเลือกตั้งผู้นำนิสิต ส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 งานกิจกรรมพัฒนานิสิต กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรมแนะนำตัวและแถลงนโยบายของผู้สมัครเลือกตั้งผู้นำนิสิต ประจำปีการศึกษา 2567 ณ ลาน Playground หอพักนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้แสดงวิสัยทัศน์ นโยบาย และแนวทางในการทำงาน เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นแก่เพื่อนนิสิต

กิจกรรมดังกล่าวมีผู้สมัครเข้าร่วมอย่างคึกคัก ทั้งผู้สมัครตำแหน่งสมาชิกสภานิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้สมัครตำแหน่งประธานสโมสรนิสิตคณะ/วิทยาลัย และผู้สมัครตำแหน่งนายกองค์การนิสิต โดยในปีนี้ พรรค NU Forward ได้ส่งผู้สมัครเข้าร่วมการเลือกตั้งและนำเสนอนโยบายที่สะท้อนความต้องการของนิสิตในยุคปัจจุบัน

การแถลงนโยบายครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีสำหรับการนำเสนอนโยบายของผู้สมัครเท่านั้น แต่ยังเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยในมหาวิทยาลัย เปิดโอกาสให้นิสิตมีส่วนร่วมในการรับฟังความคิดเห็น และพิจารณานโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนมหาวิทยาลัย

การจัดกิจกรรมเลือกตั้งผู้นำนิสิตถือเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยในระดับสถาบันการศึกษา นิสิตได้เรียนรู้การเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วม ฝึกฝนการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์นโยบาย และพิจารณาความเหมาะสมของผู้แทนที่จะทำหน้าที่บริหารงานในนามของนิสิต

นอกจากนี้ การเลือกตั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในการดำเนินงานขององค์กรนิสิต ซึ่งสอดคล้องกับการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในสังคมประชาธิปไตย และเป็นการปูพื้นฐานความรับผิดชอบร่วมกันของเยาวชนในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน

การมีส่วนร่วมของนิสิตในกระบวนการเลือกตั้ง ยังช่วยสร้างทักษะการเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีม และการประสานงานเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการพัฒนาตนเองและการเป็นกำลังสำคัญของสังคมในอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งผู้นำนิสิตในฐานะกลไกที่สร้างการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างประชาธิปไตย และยืนยันความมุ่งมั่นในการพัฒนาเยาวชนให้เป็นผู้มีคุณภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยในอนาคต ผ่านการส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยในทุกระดับของการเรียนรู้และการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

รายการ “พบเภสัชกร” เทรนด์การดูแลสุขภาพโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ในปี 2024

ทุกวันศุกร์ เวลา 18.30 – 19.00 น. รายการ “พบเภสัชกร” ดำเนินรายการโดย อาจารย์เภสัชกรกฤษฏิ์ วัฒนธรรม ภาควิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ เทรนด์การดูแลสุขภาพโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ในปี 2024 เพื่อสร้างความรู้และความตระหนักเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการโรค NCD อย่างยั่งยืน

รายการดังกล่าวเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับ การดูแลสุขภาพองค์รวม ทั้งด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการติดตามภาวะสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อและส่งเสริมสุขภาพที่ดีสอดคล้องกับเป้าหมาย SDG3

อ.ภก.กฤษฏิ์ วัฒนธรรม ได้แนะนำแนวทางการปรับพฤติกรรมสุขภาพในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้ฟังสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เช่น การเลือกอาหารที่เหมาะสม การรักษาน้ำหนักตัว การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน

การเผยแพร่ความรู้ผ่าน สื่อวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร FM 107.25 MHz และช่องทางออนไลน์ www.nuradio.nu.ac.th ทำให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวางและสะดวกสบาย ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสุขภาพในชุมชนและประชากรทั่วไป

รายการยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ในกลุ่มประชากรทุกช่วงวัย เพื่อให้เกิด การปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างยั่งยืน ลดภาระค่าใช้จ่ายทางการรักษาและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน

ผู้ฟังสามารถติดตามรายการสดและเข้าชมย้อนหลังผ่าน ช่องทางออนไลน์ เพื่อเรียนรู้และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง

การดำเนินรายการครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้าง ความรู้ด้านสุขภาพสาธารณะ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมในการป้องกันโรคตามแนวทาง SDG3: Good Health and Well-being

ประชุมวิชาการ The 8th TICC Thailand International College Consortium International Conference 2024

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.สิริมาส เฮงรัศมี ผู้อำนวยการวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ศศิมา เจริญกิจ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและวิจัย ร่วมด้วยคณาจารย์และหัวหน้างานบริการวิชาการและวิจัย วิทยาลัยนานาชาติ เข้าร่วมพิธีเปิดงานประชุมวิชาการ The 8th TICC Thailand International College Consortium International Conference 2024 (8th# TICC 2024) ในหัวข้อ “Integrating Perspectives from Different Disciplines for Current and Emerging Society Needs towards Sustainable Development Goals (SDGs)”

     โดยวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการฯ ร่วมกับเครือข่ายวิทยาลัยนานาชาติแห่งประเทศไทยจำนวน 8 แห่ง ได้แก่ International College, Khon Kaen University; Faculty of International Studies, Prince of Songkla University, Phuket Campus; and Naresuan University International College. Burapha University International College; Prince of Songkla University International College, Hat Yai Campus; International College for Sustainability Studies, Srinakharinwirot University; Chiang Mai University Digital Innovation International College; and Silpakorn University International College.

     ในการนี้ Mr. Andris Adhitra อาจารย์ประจำสาขาวิชาการจัดการอีเวนต์ โรงแรม และการท่องเที่ยว วิทยาลัยนานาชาติ  B.B.A. Program in Event, Hotel and Tourism Management (EHTM)  ได้รับรางวัล “Best Paper Award” จากหัวข้อวิจัย “Visit Intention of Indonesia Tourists to Thailand in Post-Covid 19 Crisis” ภายในงานประชุมวิชาการครั้งนี้ด้วย โดยงานจัดขึ้น ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา, กรุงเทพมหานคร

คณะวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร นำเสนอนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกในงานวันนักประดิษฐ์ 2567

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำผลงานวิจัยและนวัตกรรม “บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากแผ่นกระดาษฟางข้าวลามิเนตด้วยฟิล์มพอลิเมอร์ชีวภาพ” เข้าร่วมจัดแสดงในงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2567 ณ Event Hall 100 – 102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา

ผลงานวิจัยดังกล่าวเป็นการพัฒนาของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรารัตน์ มหาศรานนท์ ร่วมกับทีมวิจัยซึ่งประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.สุกัญญา รอส, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หนึ่งฤทัย สุพรม, นางสาวเบญจวรรณ ขันโท และนางสาวโศรยา แก้วเพีย โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ต้นแบบบรรจุภัณฑ์ผลิตจาก ฟิล์มพอลิเมอร์ชีวภาพ (พอลิแลคติกแอซิด) ที่ผสมน้ำมันมะพร้าวและแป้งมันสำปะหลัง เพื่อนำมาลามิเนตกับกระดาษฟางข้าว ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ที่ได้ถูกออกแบบให้มีหลายรูปแบบ เช่น กล่องสามเหลี่ยม กล่องสี่เหลี่ยม และจานเพื่อใช้ใส่อาหาร

ในการทดลองใช้งานจริง บรรจุภัณฑ์เหล่านี้ถูกนำไปใช้กับอาหารหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง เค้ก คุกกี้ แซนวิช ขนมจีบ และซาลาเปาในร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ และร้านอาหาร พบว่ามีความเหมาะสมต่อการใช้งานจริง อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม

ผลงานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ถือเป็นแนวทางการจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับเกษตรกร รวมถึงการเสริมสร้างความตระหนักรู้ในชุมชนเกี่ยวกับการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของนักวิจัยไทยในการเชื่อมโยงงานวิจัยกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงถึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน

นอกจากนี้ การเข้าร่วมจัดแสดงในงานวันนักประดิษฐ์ 2567 ยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรมสู่สาธารณะ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการที่สนใจนำผลงานไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์

ท้ายที่สุด ผลงาน “บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้จากแผ่นกระดาษฟางข้าวลามิเนตด้วยฟิล์มพอลิเมอร์ชีวภาพ” จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการ ส่งเสริมนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สามารถต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และสังคมได้อย่างแท้จริง

ม.นเรศวร จัดโครงการเผยแพร่งานวิจัยการแปรรูปไม้ไผ่ ส่งเสริมการต่อยอดผลงานวิจัยเชิงพาณิชย์

วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการบริการวิชาการในหัวข้อ “การแปรรูปไม้ไผ่เชิงพาณิชย์ของประเทศไทยในอนาคต: Future commercial bamboo processing in Thailand” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และผลงานวิจัยของคณาจารย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รวมถึงภูมิปัญญาไทยให้กับบุคลากรจาก Bhutan Tshar Institute ประเทศภูฏาน

การจัดโครงการครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนงานวิชาการสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพของไม้ไผ่ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญ สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและตอบสนองต่อความต้องการในตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีบทบาทสำคัญในการทำวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการแปรรูปไม้ไผ่ โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่และขยายโอกาสเชิงพาณิชย์ในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างประเทศ โดยบุคลากรจากภูฏานจะสามารถนำแนวทางและผลงานวิจัยที่ได้รับไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศตนเอง ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการในระดับนานาชาติ และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ร่วมกัน

นอกจากนี้ การเผยแพร่ผลงานวิจัยยังมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมต่อยอดผลงานวิจัยเชิงพาณิชย์ ผ่านการนำองค์ความรู้ด้านการแปรรูปไม้ไผ่ไปใช้จริง ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และการพัฒนาชุมชน ถือเป็นการผสานวิชาการเข้ากับการสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจและสังคม

โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านอุตสาหกรรมและนวัตกรรม ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์

ด้วยการบูรณาการองค์ความรู้ทางวิชาการ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการต่อยอดเชิงพาณิชย์ ทำให้โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีเผยแพร่ผลงานวิจัย แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างนวัตกรรมที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ และช่วยผลักดันมหาวิทยาลัยนเรศวรสู่การเป็นศูนย์กลางทางวิชาการและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร พัฒนานวัตกรรมตรวจเศษซากโควิดจากน้ำเสีย ส่งเสริมเพื่อเตือนภัยล่วงหน้าการระบาดในชุมชน

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศเพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ สิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม (SHEI) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ พร้อมด้วยคณะนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ วิทยาลัยนานาชาติ และบริษัท อิเลคทรอนิกส์ เชลล์ จำกัด นำเสนอสิ่งประดิษฐ์ “RE-Secure: COVID-19 Early Warning. V1” ในงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ

โครงการดังกล่าวเป็นการต่อยอดงานวิจัยจากการตรวจหาเศษซากไวรัสโควิด-19 ในน้ำเสีย โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในปีงบประมาณ 2564 และ 2565 เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่สามารถเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในระดับชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากนักเรียน นิสิต ประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชนที่เข้าร่วมชมงาน

นวัตกรรม “RE-Secure: COVID-19 Early Warning. V1” พัฒนาขึ้นจากเทคนิค Aptamer ทำให้สามารถตรวจสอบเศษซากไวรัสในน้ำเสียได้อย่างแม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องสกัดตัวอย่างหรือใช้ห้องปฏิบัติการที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ห้องปฏิบัติการ BSL-2 enhanced ที่มักใช้ในการตรวจ RT-qPCR จึงช่วยลดขั้นตอนและต้นทุนการตรวจสอบได้อย่างมาก

นอกจากนั้น ทีมวิจัยยังได้พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อประมวลผลจากชุดตรวจเคลื่อนที่ ทำให้สามารถตรวจจับการติดเชื้อในอาคาร โรงเรียน โรงงาน หรือชุมชนได้ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดจริงประมาณ 7-14 วัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดการควบคุมโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นได้อย่างทันท่วงที

ผลงานนี้ยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการเฝ้าระวังโรคระบาดได้มากกว่า 90% เมื่อเทียบกับวิธีการเดิม จึงถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนระบบสาธารณสุขและการบริหารจัดการภัยสุขภาพในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน

การพัฒนานวัตกรรมตรวจเศษซากไวรัสในน้ำเสียยังเป็นแนวทางสำคัญที่สอดคล้องกับการจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากช่วยให้สามารถใช้ระบบน้ำเสียเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้แบบไม่รุกรานและครอบคลุมพื้นที่ในวงกว้าง

สิ่งประดิษฐ์ “RE-Secure: COVID-19 Early Warning. V1” ยังได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนหลายแขนง รวมถึงรายการข่าวสามมิติ ช่อง 3 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 ตอกย้ำถึงความสำคัญของงานวิจัยนี้ต่อการสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้าการระบาดในชุมชน และเป็นแรงผลักดันให้ทีมวิจัยพัฒนานวัตกรรมต่อยอดในอนาคต

การทำงานครั้งนี้เป็นภาพสะท้อนของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ที่ช่วยกันขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างแนวทางใหม่ในการ ส่งเสริมเพื่อเตือนภัยล่วงหน้าการระบาดในชุมชน และเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin