ม.นเรศวร เดินหน้าโครงการ Lean Processing ลดขั้นตอนกระบวนงาน พัฒนาสู่มหาวิทยาลัยที่ยั่งยืน
มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการปรับปรุงและลดขั้นตอนกระบวนงานด้านการออกกฎและคำสั่งมหาวิทยาลัย (Lean Processing) โดยมีหัวข้อสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำคำสั่งและการแก้ไขคำสั่งให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ โครงการครั้งนี้จัดโดย กองกฎหมาย มหาวิทยาลัยนเรศวร และได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรูญ สารินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมด้วยการสนับสนุนจาก งานสารบรรณ กองกลาง ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแบบและขั้นตอนการจัดทำคำสั่งมหาวิทยาลัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรูญ สารินทร์ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านแนวทาง Lean Processing ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไปสู่ความเป็นองค์กรที่ยั่งยืน กิจกรรมครั้งนี้ช่วยให้บุคลากรมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดทำและการแก้ไขคำสั่งให้สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบราชการ รวมถึงช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินงาน พร้อมทั้งกำหนดมาตรฐานการทำงานที่เป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ นางสาวลัดดาวัลย์ ชูสาย ผู้อำนวยการกองกฎหมาย มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังได้กล่าวเสริมว่า โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการปรับกระบวนงานด้านการจัดทำและการแก้ไขคำสั่งให้มีความถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน อันจะช่วยเพิ่มทักษะการปฏิบัติงานและสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้กลับไปยังหน่วยงานต้นสังกัดได้อย่างมีประสิทธิผล
โครงการ Lean Processing ครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อความร่วมมือและการเรียนรู้ร่วมกัน ลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการ และสร้างมาตรฐานที่เป็นเอกภาพในมหาวิทยาลัย ส่งผลให้เกิดการจัดการที่มีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ดียิ่งขึ้น
การเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงของหัวหน้าหน่วยงานและบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร แสดงถึงความตระหนักและความตั้งใจที่จะยกระดับมาตรฐานการทำงานด้านกฎหมายและสารบรรณของมหาวิทยาลัยให้ทันสมัยและสอดคล้องกับกรอบกฎหมายของประเทศอย่างต่อเนื่อง
นอกจากการปรับปรุงกระบวนการทำงานแล้ว โครงการยังช่วยสนับสนุนการสร้างความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน โดยเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกระดับได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นับเป็นแนวทางหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งในระบบบริหารจัดการขององค์กร
ท้ายที่สุด โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการ ส่งเสริมการทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ ภายในมหาวิทยาลัย อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งในมิติของสุขภาพองค์กรและสังคมโดยรวม
