ม.นเรศวร รณรงค์คัดแยกและตรวจสอบขยะของเสียอันตราย สร้างมาตรฐานความปลอดภัยและความยั่งยืน

วันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ประกาศขอความร่วมมือจากบุคลากรและนิสิตทุกท่าน ในการ คัดแยกและตรวจสอบขยะของเสียอันตรายอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัยในการทำงานและการเรียนการสอน รวมทั้งเป็นการยกระดับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน

การจัดการขยะของเสียอันตรายถือเป็นภารกิจสำคัญของหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื่องจากการทำงานในห้องปฏิบัติการเกี่ยวข้องกับสารเคมี วัสดุทางชีวภาพ และอุปกรณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม การคัดแยกอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดอย่างปลอดภัย

การคัดแยกและตรวจสอบขยะของเสียอันตราย ยังเป็นส่วนสำคัญของระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับสากล การจัดการที่ถูกต้องช่วยให้สามารถนำของเสียไปกำจัดหรือนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้อย่างปลอดภัย ลดภาระของชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย และป้องกันไม่ให้สารเคมีตกค้างในสิ่งแวดล้อมจนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว

คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้จัดทำ คู่มือการจัดแยกและการจัดเก็บของเสียของมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับบุคลากรและนิสิต โดยคู่มือดังกล่าวครอบคลุมวิธีการคัดแยกประเภทของเสีย การระบุฉลากที่ชัดเจน และการจัดเก็บในพื้นที่ที่เหมาะสม ผู้สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือจัดแยกและการจัดเก็บของเสีย มหาวิทยาลัยนเรศวร

นอกจากนี้ ยังได้กำหนด ระเบียบปฏิบัติการจัดการสารเคมีของสถานบริการวิชาการด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การใช้งาน ตั้งแต่การจัดเก็บ การใช้ ไปจนถึงการทิ้งของเสีย โดยระเบียบปฏิบัตินี้สามารถอ่านได้ที่ ระเบียบปฏิบัติการจัดการสารเคมี ซึ่งเป็นการยืนยันถึงมาตรฐานการจัดการที่ปลอดภัยและตรวจสอบได้

การมีส่วนร่วมของทุกคนในการปฏิบัติตามมาตรการนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ การร่วมมือกันในการ คัดแยกและตรวจสอบขยะของเสียอันตราย ไม่เพียงช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบ

คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ย้ำถึงความสำคัญของการจัดการขยะอันตรายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของบุคลากรและนิสิตทุกระดับ การดำเนินการนี้ไม่เพียงสร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัยในสถาบันการศึกษา แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะต้นแบบการพัฒนาที่สมดุลระหว่าง วิชาการ ความปลอดภัย และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม