ม.นเรศวร ร่วมจัดการปัญหาขยะ คัดแยกเพื่อลดปริมาณอย่างยั่งยืน
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 07.00 น. นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร ลงพื้นที่สำรวจปริมาณขยะและสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดเก็บขยะ พร้อมทั้งประชุมหารือแนวทางในการจัดการปัญหาขยะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จากสถานการณ์ขยะล้นเมืองในจังหวัดพิษณุโลก อันเนื่องมาจากบ่อขยะเอกชนหมดสัญญาและต้องปิดตัวลง ส่งผลให้ไม่สามารถจัดเก็บขยะได้ต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม 1 สัปดาห์
มาตรการสำคัญที่ถูกนำมาใช้ทันที คือการประกาศห้ามนำขยะจากภายนอกเข้ามาทิ้งภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท โดยเป็นการควบคุมและลดภาระปัญหาขยะสะสมภายในมหาวิทยาลัย พร้อมกำหนดแนวทางการจัดการปัญหาขยะที่เน้นทั้งมาตรการควบคุมและการมีส่วนร่วมของทุกคนในชุมชนมหาวิทยาลัย
แนวทางการจัดการขยะถูกกำหนดให้เริ่มจากการ คัดแยกขยะเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ขยะอินทรีย์ ขยะทั่วไป และขยะรีไซเคิล โดยขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร เศษผัก เศษเนื้อสัตว์ เปลือกผลไม้ และใบไม้ จะต้องถูกแยกอย่างเป็นระบบ ขยะทั่วไป เช่น ถุงพลาสติก ซองขนม และบรรจุภัณฑ์อาหาร จะถูกจัดเก็บในถังเฉพาะ ส่วนขยะรีไซเคิล ได้แก่ กระดาษ ขวด แก้ว และกระป๋อง จะถูกแยกเก็บเพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ ขยะอินทรีย์ได้รับการกำหนดช่วงเวลาการจัดเก็บอย่างชัดเจน คือวันละ 2 รอบ ระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ รอบเช้าเวลา 08.00 น. และรอบบ่ายเวลา 15.00 น. มาตรการดังกล่าวช่วยควบคุมกลิ่น ลดการสะสมของแมลงและสัตว์พาหะ รวมถึงป้องกันปัญหาด้านสุขอนามัยภายในมหาวิทยาลัย
การดำเนินงานในครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังเป็นการสร้างระบบจัดการขยะที่มีความยั่งยืน โดยส่งเสริมให้บุคลากรและนิสิตมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เป็นการสร้างความตระหนักรู้และความรับผิดชอบร่วมกันในสังคมมหาวิทยาลัย
มาตรการคัดแยกและจัดการขยะในครั้งนี้ยังเชื่อมโยงกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เนื่องจากขยะรีไซเคิลที่ถูกคัดแยกจะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ลดปริมาณของเสีย และลดภาระการกำจัด ขณะเดียวกันขยะอินทรีย์ก็สามารถนำไปใช้ต่อยอด เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์สำหรับดูแลต้นไม้และพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัย
โครงการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ร่วมจัดการปัญหาขยะ อย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยอาศัยความร่วมมือของบุคลากรและนิสิตทุกคน เพื่อสร้างมหาวิทยาลัยที่สะอาด เป็นระเบียบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนสู่สังคมที่มีการบริโภคและการจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ