นักวิจัย ม.นเรศวร ยกระดับกล้วยไข่สู่นวัตกรรม “ผลิตภัณฑ์นิวตราซูติคอลเม็ดเคี้ยวกล้วยไข่ผสมน้ำมันเมล็ดกัญชง” พร้อมต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์
วันพุธที่ 24 มกราคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “ผลิตภัณฑ์นิวตราซูติคอลเม็ดเคี้ยวกล้วยไข่ผสมน้ำมันเมล็ดกัญชง” ซึ่งได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงกรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม กล่าวต้อนรับสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมงาน ณ ห้อง H111 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนำโดยศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิง จารุภา วิโยชน์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับคณะนักวิจัย ได้ยกระดับผลผลิตทางการเกษตรของไทยอย่าง “กล้วยไข่” ผสมผสานกับสมุนไพรไทย “เมล็ดกัญชง” ผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนา โดยมีการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ผลิตภัณฑ์นิวตราซูติคอลเม็ดเคี้ยวกล้วยไข่ผสมน้ำมันเมล็ดกัญชงนี้ ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มการดูดซึมสารสำคัญอย่างเบต้า-แคโรทีน ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันการแดงของผิวหนังจากการสัมผัสแสงแดด โดยนวัตกรรมนี้ถือเป็นการแปรรูปสินค้าเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
คุณลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์ คือการนำกล้วยไข่มาพัฒนาในรูปแบบเม็ดเคี้ยวที่รับประทานง่าย สามารถใช้เป็นอาหารว่างหรือเสริมมื้ออาหาร โดยไม่เพียงมอบรสชาติจากกล้วยแท้ แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว มีส่วนช่วยป้องกันการเกิด photoaging ที่เกิดจากรังสี UV ในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ผ่านกระบวนการสกัดและแปรรูปที่รักษาคุณภาพและความคงตัวของสารสำคัญ พร้อมทั้งคัดสรรส่วนผสมที่เหมาะสม จนได้สูตรตำรับเม็ดเคี้ยวที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบทางคลินิกเพื่อยืนยันผลลัพธ์ในการช่วยป้องกันการแดงจากแสงแดด
การคิดค้นนวัตกรรมครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรไทยไปสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีมาตรฐานและมูลค่าสูง สามารถสร้างความแตกต่างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด
มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ” โดยพร้อมสนับสนุนงานวิจัยที่สามารถนำองค์ความรู้มาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์จริง ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับประเทศ