ส่งเสริมนิสิตที่มีความพิการด้านร่างกายสร้างรายได้ระหว่างเรียน

น้องทาม นิสิตสาขาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมออกบูทเพ้นกระเป๋าและแก้วภายในงาน “มหกรรมอาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เมืองแผ่นดิน ถิ่นสองแคว” ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 10.00–16.30 น. ณ อาคารอุทยานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยกิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการ ส่งเสริมนิสิตที่มีความพิการด้านร่างกายสร้างรายได้ระหว่างเรียน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนนิสิตคนอื่นๆ

การเข้าร่วมของน้องทามในงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการ ส่งเสริมสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สำหรับนิสิตพิการ ผ่านการใช้ทักษะด้านศิลปะที่เรียนรู้มาในห้องเรียนต่อยอดเป็นผลงานจริง การเพ้นกระเป๋าและแก้วไม่เพียงเป็นกิจกรรมเชิงศิลป์ แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาทักษะอาชีพ และเปิดช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

งานมหกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้นิสิตและประชาชนทั่วไปได้แสดงผลงานและความสามารถทางวิชาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มนิสิตพิการที่มักประสบข้อจำกัดในการเข้าถึงตลาดแรงงาน การมีส่วนร่วมเช่นนี้ช่วยให้พวกเขาได้ฝึกฝนทักษะจริง และสร้างความมั่นใจในการพัฒนาตนเองเพื่อต่อยอดไปสู่การประกอบอาชีพในอนาคต

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ด้วยการเปิดพื้นที่เท่าเทียมให้ทุกคนสามารถนำเสนอศักยภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นนิสิตที่มีความพิการหรือไม่มีความพิการ การมีเวทีร่วมกันเช่นนี้ช่วยสร้างความเข้าใจและทัศนคติที่ดีต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเกื้อกูล

สินค้าที่จัดแสดงในงาน เช่น กระเป๋าเพ้นลายและแก้วเพ้นลาย ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับการพัฒนาทักษะอาชีพอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้สามารถขยายผลไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ และช่วยให้นิสิตพิการสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ทั้งยังเป็นการแบ่งเบาภาระทางเศรษฐกิจของครอบครัว

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงเดินหน้า ส่งเสริมสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และ ส่งเสริมนิสิตที่มีความพิการด้านร่างกายสร้างรายได้ระหว่างเรียน อย่างต่อเนื่อง กิจกรรมนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบสนับสนุนการเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ทางวิชาการ แต่ยังตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการสร้างความเท่าเทียมในสังคม

การอุดหนุนสินค้าของน้องทามและนิสิตพิการจึงไม่ใช่เพียงการซื้อสินค้าศิลปะทั่วไป แต่ยังเป็นการสนับสนุนความพยายามของนิสิตในการสร้างรายได้ด้วยตนเอง และเป็นพลังสำคัญในการผลักดันสังคมที่มีความเข้าใจ เคารพความหลากหลาย และเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างยั่งยืน