Archives August 2024

ม.นเรศวร จัดโครงการ NU x Influencer พัฒนาทักษะนิสิต สร้างงานสร้างอาชีพยุคดิจิทัล

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2567 งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมเสวนา NU x Influencer ภายใต้หัวข้อ “Mental Well-being การสร้างคอนเทนต์ และพื้นที่ปลอดภัยของหัวใจ” ณ เวทีกลางงาน NU Art & Craft Fun Fair โดยได้รับเกียรติจาก Influencer ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง ได้แก่ พี่กิ่ง ทิพย์ธิดา จากเพจ “แม่อยากได้รูป 1 คอลเลคชัน” และพี่ฮารุ ชนากานต์ จากเพจ “The Muggle’s” พร้อมดำเนินรายการโดย นายธรรมรงค์ สาริกุล เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างคอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์และดูแลสุขภาพจิตใจ

วันเสาร์ที่ 3 และวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2567 จัดกิจกรรม NU x Influencer โดย MC of SWU ณ อาคารคณะโลจิสติกส์และดิจิทัลซัพพลายเชน ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการชมรมส่งเสริมทักษะการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (MC of SWU) พร้อมด้วยชมรมพิธีกรมหาวิทยาลัยนเรศวร (MC of NU) เพื่อพัฒนาทักษะให้นิสิตก้าวสู่การเป็น Influencer อย่างมีคุณภาพ

กิจกรรม Workshop มีเนื้อหาหลากหลาย เช่น “การสร้างสื่อและตัวตนที่น่าจดจำผ่าน Storytelling Canvas” ที่ช่วยให้นิสิตได้เรียนรู้เทคนิคการเล่าเรื่อง การวางโครงสร้างคอนเทนต์ และการนำเสนออย่างมืออาชีพ สอดคล้องกับทักษะที่ตลาดแรงงานยุคดิจิทัลต้องการ และเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์

การเสวนาและอบรมเหล่านี้ช่วยให้นิสิตได้เห็นความสำคัญของ การสร้างงานสร้างอาชีพ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ใช้ทักษะการสื่อสารและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาตนเอง สร้างรายได้ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระดับประเทศและนานาชาติ

นอกจากนี้ยังเป็นเวทีเชื่อมโยงระหว่าง ศิษย์เก่าและนิสิตปัจจุบัน ผ่านการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต ทั้งยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันที่สนับสนุนการพัฒนาทักษะชีวิตและวิชาชีพของนิสิต

โครงการ NU x Influencer ยังสะท้อนถึงการนำทรัพยากรด้านวิชาการและกิจกรรมนอกหลักสูตรมาใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้นิสิตได้ฝึกฝนทักษะทั้งในด้าน Soft Skills และ Hard Skills ที่สำคัญต่อการทำงานจริง ต่อยอดสู่โอกาสในการประกอบอาชีพที่มั่นคง

ท้ายที่สุด กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับศักยภาพของนิสิตในด้านการสื่อสารและการผลิตสื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างรากฐานในการพัฒนาทุนมนุษย์ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ให้พร้อมเผชิญกับโลกการทำงานยุคดิจิทัล

ม.นเรศวร ส่งเสริม Work-Life Balance จัดมหกรรม Healthy Pre-Aging ดูแลก่อนสูงวัย

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดงาน “มหกรรม Healthy Pre-Aging (ดูแลก่อนสูงวัย)” ณ ศูนย์การค้าเซนทรัล พิษณุโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และสร้างความตระหนักด้านสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นในสาขาสหเวชศาสตร์ พร้อมทั้งเผยแพร่บทบาทของคณะและมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมสุขภาวะของสังคม กิจกรรมนี้จัดขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 28 ปี แห่งการสถาปนาคณะสหเวชศาสตร์ และครบรอบ 34 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยนเรศวร

พิธีเปิดงานจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 โดยมี ดร.พิสุทธ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยนเรศวร หอการค้าจังหวัดพิษณุโลก และผู้บริหารศูนย์การค้าเซนทรัล พิษณุโลก เข้าร่วมในพิธีเปิดภายใต้แนวคิด “CARE” ที่มุ่งเน้นการสะสมสุขภาพผ่าน Health Coin 4 เหรียญ ได้แก่ การตรวจสุขภาพ (Check Up) การเคลื่อนไหวร่างกาย (Active) การผ่อนคลาย (Relax) และ การกินเพื่อสุขภาพ (Eat Healthy)

ภายในงานมีการจัดเสวนาและสาธิตกิจกรรมด้านสุขภาพมากมาย อาทิ การเสวนาเรื่อง “ดูแลสมองด้วยการออกกำลังกาย” โดย นายแพทย์วีระพันธ์ สุวรรณนามัย ศัลยแพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคสมองและระบบประสาท การสาธิตออกกำลังกาย “Fit Age วัยเก๋า” โดย คุณฟ้าใส พึ่งอุดม รวมถึงการพูดคุยในหัวข้อ “พิษณุโลกเมืองสุขภาพดี” โดย ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ มหาวิทยาลัย และชุมชนในการส่งเสริมสุขภาพที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ยังมีการเสวนาในหัวข้อ “สูตรลับชะลอชรา” โดย คุณแม่เฉลา มั่นคง และคุณพ่อจักรี มั่นคง เจ้าของเพจ “แม่อยากได้รูป 1 คอลเลคชั่น” พร้อมการสาธิตทำอาหารเพื่อสุขภาพในหัวข้อ “Real-รส-Healthy” โดย คุณศศิกานต์ ศรีสังข์ และ คุณเอกวัฒน์ พันธาสุ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารพื้นถิ่นจาก “บ้านมหาวิบูลย์” รวมถึงกิจกรรม “เบิร์นไขมันด้วยซุมบ้า” โดย ดร.ประสรรค์ ตันติเสนาะ เพื่อสร้างความสนุกและส่งเสริมการออกกำลังกายในทุกช่วงวัย

ภายในงานยังมีบริการตรวจสุขภาพฟรีโดยคณาจารย์และนิสิตจากคณะสหเวชศาสตร์ เช่น การตรวจวัดมวลกระดูกด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ โดยสาขารังสีเทคนิค การสาธิตการใช้เครื่อง PMS (Peripheral Magnetic Stimulation) เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อและลดอาการปวด โดยสาขากายภาพบำบัด การตรวจวัดสายตาและถ่ายภาพจอประสาทตา โดยสาขาทัศนมาตรศาสตร์ และการตรวจระดับไขมันในเลือดด้วยการเจาะเลือดปลายนิ้ว โดยสาขาเทคนิคการแพทย์และหน่วยกิจกรรมเพื่อสังคม

การจัดงานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการส่งเสริม Work-Life Balance และการสร้างเสริมสุขภาวะของบุคลากรและประชาชนในชุมชน ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนา “มหาวิทยาลัยสุขภาพดี” ที่ให้ความสำคัญทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนสุขภาพอย่างยั่งยืน

คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร แสดงให้เห็นถึงบทบาทเชิงรุกในการเผยแพร่ความรู้ การบริการวิชาการ และการส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชน ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเข้าถึงได้จริง อันเป็นการต่อยอดสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง

การจัดมหกรรม Healthy Pre-Aging ครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นกิจกรรมฉลองครบรอบของคณะและมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสุขภาพ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตนเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อการสูงวัยอย่างมีคุณภาพในอนาคต

ม.นเรศวร คำนึงความสำคัญของคนเดินเท้าและผู้ใช้ถนนในมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินการติดตั้ง สัญญาณไฟจราจรสำหรับคนข้ามถนน บริเวณทางม้าลายหลายจุดภายในมหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการสัญจร และสร้างสภาพแวดล้อมการเดินทางที่เหมาะสมสำหรับนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไปที่เข้ามาใช้พื้นที่

การติดตั้งสัญญาณไฟจราจรดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และสร้างวินัยในการใช้ถนนร่วมกัน โดยเน้นให้ผู้ขับขี่รถทุกประเภทหยุดรถเมื่อถึงสัญญาณไฟแดงและมีผู้ต้องการข้ามถนน เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยแก่ผู้สัญจรทางเท้า

สำหรับผู้ที่ต้องการข้ามถนน ได้มีการติดตั้งปุ่มกดเรียกสัญญาณไฟ เพื่อให้รถหยุดทั้งสองฝั่งก่อนที่จะเดินข้ามถนนอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการปลูกฝังให้ทุกคน เคารพกฎจราจร และให้ความสำคัญกับชีวิตของผู้สัญจรทางเท้าเป็นอันดับแรก

มหาวิทยาลัยยังได้รณรงค์ให้นิสิต บุคลากร และผู้ที่ใช้ถนนภายในพื้นที่ ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วเกินกำหนด ปฏิบัติตามสัญญาณไฟอย่างเคร่งครัด และแสดงน้ำใจต่อผู้ใช้ถนนด้วยกัน เพื่อสร้างวัฒนธรรมการจราจรที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตร

อีกหนึ่งมาตรการสำคัญคือการรณรงค์ให้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง เมื่อใช้ถนนภายในมหาวิทยาลัย การสวมหมวกนิรภัยไม่เพียงช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยและความรับผิดชอบร่วมกัน

มาตรการด้านความปลอดภัยเหล่านี้สอดคล้องกับการพัฒนา เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน โดยการออกแบบพื้นที่ที่ให้ความสำคัญกับคนเดินเท้าและผู้ใช้ถนนทุกประเภท พร้อมทั้งลดความเสี่ยงจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ผ่านการติดตั้งสัญญาณไฟจราจร การรณรงค์การขับขี่อย่างมีวินัย และการส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างสังคมการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ภาพโดย: คณะสังคมศาสตร์​ มหา​วิทยาลัย​นเรศวร

ม.นเรศวร ติดตั้งกังหันพลังงานแสงอาทิตย์ บำบัดน้ำเสีย ลดใช้พลังงานไฟฟ้า

วันที่ 22 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยมุ่งเน้นการจัดการน้ำสะอาดและสุขาภิบาล ตามเป้าหมาย SDG 6 ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและปลอดภัย

โครงการเครื่องเติมอากาศกังหันตีน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar-Powered Aerator) เป็นหนึ่งในโครงการเด่นที่สะท้อนความมุ่งมั่นนี้ กองอาคารสถานที่ของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ติดตั้งเครื่องเติมอากาศที่ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ บำบัดน้ำเสีย และลดปัญหาน้ำเน่าเสียภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย

เครื่องเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ใช้แทนมอเตอร์ AC 2 แรงม้า ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดวัน ช่วยลดต้นทุนพลังงานได้อย่างชัดเจน หากเปรียบเทียบกับการใช้มอเตอร์ AC วันละ 5-7 ชั่วโมง เครื่องเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 9,000 – 12,000 บาทต่อปีต่อเครื่อง

ปัจจุบันมีการติดตั้งเครื่องเติมอากาศทั้งหมด 16 เครื่อง ครอบคลุมพื้นที่น้ำสำคัญ ได้แก่ สระสองกษัตริย์ สระบรมดิลก สระเอกกษัตริย์ สระมณีรัตนา และสระน้ำประตู 6 ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำและสร้างระบบนิเวศน้ำที่สมดุลภายในมหาวิทยาลัย

โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่ยังเสริมสร้างความตระหนักถึงการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสีเขียวในภาคการศึกษา และเป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการเรียนการสอน

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้บุคลากรและนิสิตเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์น้ำและพลังงาน พร้อมสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างเสริมความยั่งยืน ทั้งในด้านการจัดการน้ำสะอาด การประหยัดพลังงาน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

การดำเนินโครงการเครื่องเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืนและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและป้องกันโรคในที่ทำงาน

ในแง่ของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ทุกคนในทุกช่วงวัย มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อเสริมสร้างสุขภาพของบุคลากรและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรคือ โครงการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงาน กิจกรรมที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นโดย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิดโครงการ

วัตถุประสงค์ของโครงการ: การป้องกันโรคจากการทำงาน โครงการนี้มีจุดประสงค์หลักในการให้ความรู้และส่งเสริมการป้องกันโรคที่เกิดจากการทำงาน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (ออฟฟิศซินโดรม) ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่เกิดจากการทำงานที่มีลักษณะซ้ำซากหรือท่าทางที่ไม่เหมาะสมในการทำงาน เช่น การนั่งทำงานในท่าทางที่ผิดปกติ การยกของหนัก หรือการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การให้คำแนะนำในการออกกำลังกายและการเสริมสมรรถภาพทางกายจึงมีความสำคัญในการลดความเสี่ยงจากโรคเหล่านี้

โครงการนี้มุ่งเน้นการให้ความรู้กับบุคลากรในหน่วยงานที่มีความเสี่ยงจากปัญหาด้านการยศาสตร์ และการให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการป้องกันและการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย เพื่อช่วยให้บุคลากรสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต

การตรวจสุขภาพและประเมินสมรรถภาพทางกาย โครงการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงานนี้มีการจัดกิจกรรม การตรวจสมรรถภาพทางกาย ซึ่งช่วยให้บุคลากรทราบข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและการทำงานของร่างกายที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมการทำงานของตนเอง โดยผ่านการประเมินสภาพทางกายและการแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดอาการเจ็บป่วยจากการทำงานที่ยืดเยื้อและป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต เช่น ปัญหาจากท่าทางการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม หรือการยกของหนัก

การตรวจสมรรถภาพทางกายจะช่วยให้บุคลากรทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง และสามารถปรับพฤติกรรมการทำงานให้มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้วิธีการป้องกันอาการเจ็บป่วยจากการทำงานที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาว

การอบรมและการสาธิต หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของโครงการคือ การอบรมเกี่ยวกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งให้ความรู้ในการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการทำงานเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการทำงาน ทั้งในด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังมี การสาธิตการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคทางกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น โรคปวดหลังหรือออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะช่วยให้บุคลากรสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

การสนับสนุนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โครงการนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 3 “การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีในทุกกลุ่มประชากร การลดอัตราการเจ็บป่วยจากการทำงาน และการส่งเสริมความยั่งยืนในสังคมที่มีสุขภาพดีขึ้น การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคที่เกิดจากการทำงานและการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงานมีส่วนช่วยในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ผลกระทบทางสุขภาพและเศรษฐกิจ จากรายงานของ สำนักงานประกันสังคม ระหว่างปี 2562-2566 พบว่าโรคที่เกิดจากการทำงานในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น โรคปวดหลังจากการยกของหนักหรือการนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งในด้านสุขภาพของบุคลากรและผลผลิตทางเศรษฐกิจ ในกรณีนี้การลงทุนในการป้องกันโรคจากการทำงานถือเป็นการลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยที่สามารถป้องกันได้ และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในอนาคต

การสร้างสังคมสุขภาพดีและยั่งยืน การดำเนินโครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคในที่ทำงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีและยั่งยืน โดยโครงการนี้มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากร และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่าง ๆ ในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีในระยะยาว

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงขอเชิญชวนบุคลากรทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมนี้เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัย และร่วมกันพัฒนาสังคมที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนไปพร้อมกัน

หากท่านสนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ ห้องประชุมเอกาทศรถ 9 อาคารสิรินธร โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน่วยอาชีวอนามัยและส่งเสริมสุขภาพนิสิตที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ใส่ใจสุขภาพ

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2567 สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย ดร.กนกทิพย์ จักษุ ผู้รับผิดชอบโครงการฯ ร่วมกับคณาจารย์และนิสิตชั้นปีที่ 4 ได้ดำเนินโครงการบริการวิชาการตรวจติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม ณ โรงเรียนอนุบาลและประถมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจด้านบริการวิชาการของมหาวิทยาลัย และยังเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลในสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน

กิจกรรมสำคัญที่ดำเนินการ ได้แก่ การตรวจสุขาภิบาลทั่วไปภายในโรงเรียน การประเมินสุขาภิบาลอาหารและน้ำดื่มน้ำใช้ การตรวจสอบสุขาภิบาลห้องส้วม ตลอดจนการจัดการขยะและการควบคุมสัตว์นำโรค กิจกรรมเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้โรงเรียนมีข้อมูลที่เป็นระบบเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงและจัดการสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของนักเรียน

ผลลัพธ์ที่ได้รับไม่เพียงแต่เป็นข้อมูลเชิงวิชาการที่สามารถนำไปใช้ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้แก่คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง ในการร่วมกันรักษาสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยและยั่งยืน เพื่อเป็นการป้องกันโรคและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในระยะยาว

การดำเนินโครงการนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG3: Good Health and Well-being) ที่มุ่งเน้นการสร้างสุขภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนแก่ทุกคน โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ตอกย้ำบทบาทของตนในการขับเคลื่อนองค์ความรู้สู่ชุมชน และพัฒนาสังคมไทยไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ม.นเรศวร เปิดโอกาสการศึกษาเท่าเทียม จัดทำสัญญา กยศ. ให้นิสิตกว่า 3,200 คน

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย กองบริการการศึกษา ได้ดำเนินการจัด โครงการทำสัญญากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ประจำปีการศึกษา 2567 ณ ห้อง 32 และ 52 ชั้น 2 อาคารปราบไตรจักร 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีนิสิตเข้าร่วมทำสัญญาทั้งสิ้น 3,223 คน โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับนิสิตที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน และเป็นส่วนหนึ่งของการ ส่งเสริมโอกาสการศึกษาเท่าเทียม สำหรับเยาวชนทุกคน

การดำเนินงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา โดยมุ่งลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและสังคมที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการสร้างระบบสนับสนุนทางการเงินที่โปร่งใส ยุติธรรม และเข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเรียนต่ออย่างเท่าเทียมโดยไม่ถูกจำกัดด้วยฐานะทางการเงิน

โครงการทำสัญญากยศ. ประจำปีนี้ยังเป็นกลไกสำคัญในการ สนับสนุนการศึกษาที่มีคุณภาพ ผ่านการให้กู้ยืมอย่างมีระบบและมีมาตรฐาน เพื่อให้นิสิตสามารถตั้งใจศึกษาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย การลดภาระทางการเงินของนิสิตจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนมุ่งมั่นพัฒนาตนเองและต่อยอดความรู้สู่การทำงานที่มีคุณค่าในอนาคต

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้ ส่งเสริมความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกองทุนเงินให้กู้ยืม เพื่อให้กระบวนการดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านความสะดวก รวดเร็ว และความถูกต้อง โดยมุ่งเน้นให้การช่วยเหลือเข้าถึงผู้ที่มีความจำเป็นอย่างแท้จริง นับเป็นแบบอย่างของการสร้างระบบการศึกษาและสวัสดิการที่เอื้อต่อการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

การดำเนินโครงการในครั้งนี้ไม่ได้เพียงมุ่งเน้นเรื่องการเงินเท่านั้น แต่ยังเน้นสร้างความตระหนักรู้ให้นิสิตเห็นถึงความสำคัญของ ความรับผิดชอบต่อสังคมและการคืนทุนการศึกษาในอนาคต เพื่อให้ระบบการกู้ยืมสามารถหมุนเวียนไปช่วยเหลือนักศึกษารุ่นต่อ ๆ ไปได้อย่างยั่งยืน เป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความรับผิดชอบ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงดำเนินนโยบาย สนับสนุนการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาโครงการและกิจกรรมที่ช่วยให้นิสิตทุกกลุ่มได้รับโอกาสเรียนรู้ตามศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นโครงการทุนการศึกษา การแนะแนวอาชีพ หรือกิจกรรมส่งเสริมทักษะชีวิต เพื่อสร้างรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับบุคคลและสังคม

โดยภาพรวม โครงการทำสัญญากยศ. ประจำปีการศึกษา 2567 เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการศึกษาเพื่อสังคม ด้วยการสร้างระบบสนับสนุนที่ครอบคลุมทั้งด้านการเงินและคุณภาพชีวิตของนิสิต ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางโอกาสและส่งเสริมให้เยาวชนทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน

NU Hackathon 2024 เสริมศักยภาพนิสิตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร (NU SciPark) จัดกิจกรรม BOOTCAMP ภายใต้โครงการ “NU Hackathon 2024” เพื่อพัฒนาเครื่องมือ Performance Test โดยใช้เทคโนโลยี Cloud, AI และ Machine Learning ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากการบูรณาการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร กองกิจการนิสิต กองกลาง และอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมลักษณ์ วรรณฤมล กีเยลาโรว่า ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิดงาน และคุณณัฐพล กล้าหาญ ผู้บริหารบริษัทเอ็กช์โตซอฟท์ จำกัด กล่าวต้อนรับนิสิต พร้อมทั้งมีผู้บริหารจากหลายคณะและหน่วยงานร่วมพิธีเปิด ณ ห้อง SC5-213 อาคารภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

การจัด BOOTCAMP ในครั้งนี้ มุ่งเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะการปฏิบัติจริงให้แก่นิสิต ผ่านการอบรมเชิงลึกกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท EXTOSOFT โดยครอบคลุมทั้งแนวคิดการทดสอบซอฟต์แวร์ การใช้เครื่องมือ JMeter การประยุกต์ AI และ Machine Learning ในการตรวจสอบและพยากรณ์ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงเทคโนโลยี Docker และการนำเสนอผลงานด้วย Pitch Desk Template

เวิร์กชอปแต่ละหัวข้อถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ทักษะที่จำเป็นในโลกเทคโนโลยีปัจจุบัน โดยเฉพาะการนำ AI มาใช้ในการตรวจสอบประสิทธิภาพและคาดการณ์โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นทักษะที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการ และช่วยให้นิสิตสามารถพัฒนาความรู้สู่การประยุกต์ใช้จริง

นอกจากการพัฒนาทักษะเฉพาะทางแล้ว กิจกรรมยังเน้นกระบวนการ Hackathon ที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม การคิดวิเคราะห์ปัญหา และการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้นิสิตก้าวสู่การเป็นกำลังคนคุณภาพในอนาคต

ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับบริษัทเอกชนครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการบูรณาการองค์ความรู้และประสบการณ์จากทั้งสองภาคส่วน อันจะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมที่เข้มแข็ง และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพตอบโจทย์อุตสาหกรรมยุคดิจิทัล

การจัดงาน NU Hackathon 2024 จึงไม่เพียงเป็นเวทีการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของการส่งเสริมทักษะด้านการคิดค้นนวัตกรรมของนิสิต ที่สามารถต่อยอดเป็นผลงานจริงและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย NU SciPark ยังคงเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ทักษะ และความสามารถด้านเทคโนโลยี พร้อมทั้งเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างสังคมแห่งนวัตกรรมในอนาคต

ม.นเรศวร ส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียม จัดทำสัญญา กยศ. สนับสนุนนิสิตขาดแคลนทุนทรัพย์

มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำพันธกิจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในเป้าหมายการศึกษาที่เท่าเทียมและการเรียนรู้ตลอดชีวิต (SDG 4) ผ่านโครงการที่ช่วยสนับสนุนนิสิตขาดแคลนทุนทรัพย์ให้สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 3-4 สิงหาคม 2567 กองบริการการศึกษาได้จัดโครงการทำสัญญากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ประจำปีการศึกษา 2567 ณ ห้อง 32, 52 ชั้น 2 อาคารปราบไตรจักร 1 ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีนิสิตเข้าร่วมทำสัญญาจำนวน 3,223 ราย

โครงการนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือนิสิตที่มีข้อจำกัดทางการเงินให้สามารถเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นสนับสนุนการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาศักยภาพนิสิตในทุกมิติ

การดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถพัฒนาตนเอง เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

ที่มา: งานส่งเสริมการจัดการศึกษา กองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin