ม.นเรศวร ร่วมจัดนิทรรศการแนะนำหลักสูตร ในงาน ONE STOP OPEN HOUSE 2024

วันที่ 27 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567: มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมจัดนิทรรศการแนะนำหลักสูตรในงาน ONE STOP OPEN HOUSE 2024 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 2 บูธ B1 โดยมีอาจารย์ บุคลากร พี่นิสิต และพี่ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยมาร่วมให้ข้อมูลและแนะนำหลักสูตรที่นักเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสนใจศึกษาต่อมากที่สุดในระดับปริญญาตรี

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้นำเสนอหลักสูตรที่หลากหลายที่นักเรียนสามารถเลือกศึกษาต่อได้ พร้อมทั้งมีการแสดงนวัตกรรมด้านการศึกษาและการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นแนวทางให้นักเรียนที่กำลังตัดสินใจเลือกสถานศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี

งานนี้เป็นโอกาสสำคัญในการแนะนำโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะในส่วนของหลักสูตรที่เปิดสอนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคต

การจัดนิทรรศการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4 ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการศึกษาให้ทุกคนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างเท่าเทียม

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับนักเรียนและผู้ปกครอง รวมทั้งการได้พบปะกับบุคลากรและศิษย์เก่าที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ในการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย

การเข้าร่วมงาน ONE STOP OPEN HOUSE 2024 ในครั้งนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีได้มีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจเลือกสถานศึกษาและหลักสูตรที่ตรงกับความสนใจและความสามารถของตนเอง

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จับมือบริษัทน้ำตาลพิษณุโลก พัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลสู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์ โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท น้ำตาลพิษณุโลก จำกัด นำโดยนายเอกรัตน์ เตชะเวช กรรมการบริหารบริษัท ณ ห้องประชุมนเรศวร 304 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้มีความยั่งยืน

ความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล

รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการต่อยอดพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็น “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ” โดยการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่สามารถร่วมมือกับบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกในการพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี และกระบวนการผลิตอ้อยและน้ำตาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ลดการเผาอ้อย ส่งเสริมเกษตรยั่งยืน

บริษัทน้ำตาลพิษณุโลกมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนเรศวรมากว่า 10 ปี โดยมีการต่ออายุข้อตกลงทุก 5 ปี เพื่อพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ซึ่งส่งผลให้การผลิตอ้อยสดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทสามารถลดการเผาอ้อยลงจนเหลือเพียง 3% จากทั้งหมด และตั้งเป้าให้การผลิตอ้อยในอนาคตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จากอ้อย

นายเอกรัตน์ เตชะเวช กรรมการบริหารบริษัทน้ำตาลพิษณุโลก กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอ้อยและน้ำตาลรายใหญ่อันดับสองของโลก กลุ่มไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกเป็นส่วนหนึ่ง มุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลสู่ความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การทดสอบพันธุ์อ้อยใหม่ การบริหารจัดการไร่อ้อย และการใช้ของเหลือจากกระบวนการผลิต เช่น กากอ้อย เพื่อนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ภาชนะจากกากอ้อย ไบโอพลาสติก และอาหารสัตว์

สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs

ความร่วมมือครั้งนี้ดำเนินการภายใต้กรอบของ SDG2 (การยุติความหิวโหย) โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวไร่อ้อย อีกทั้งยังสนับสนุน SDG17 (หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

วิจัยและพัฒนาต่อเนื่องเพื่อเศรษฐกิจไทย

มหาวิทยาลัยนเรศวรและบริษัทน้ำตาลพิษณุโลกจะดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องในหลายด้าน เช่น วิทยาศาสตร์การเกษตร วิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมเกษตร เศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในประเทศไทย และส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ที่มา: ข่าว/ภาพ พิษณุโลกฮอตนิวส์

ม.นเรศวร ร่วมประชุม Thailand’s Innovation Policy Week 2027

วันพุธที่ 27 – วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยนายภวัต ภาชนะ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา เข้าร่วมประชุม “Thailand’s Innovation Policy Week” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สมาคมวิชาชีพนักจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยี (AITP) องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) และสมาคมอนุญาตให้ใช้สิทธิประเทศไทย (LES Thailand)

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดตัว สมาคมวิชาชีพนักจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยี (AITP) ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญที่สร้างเครือข่ายนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการทรัพย์สินทางปัญญาจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศการจัดการเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ภายในงานยังมีการนำเสนอผลการศึกษา “Patent Landscape ในสาขาเกษตรอาหาร” ซึ่งจัดทำโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจาก WIPO โดยผลการศึกษาได้สะท้อนภาพรวมด้านสิทธิบัตรและทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีในสาขาเกษตรและอาหาร อันเป็นฐานข้อมูลเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถกำหนดแนวทางวิจัยและพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศและตลาดโลก

นอกจากนี้ยังมีการประชุมประจำปีของ สมาคมอนุญาตให้ใช้สิทธิประเทศไทย (LES Thailand) ภายใต้หัวข้อการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช่วยเสริมศักยภาพขององค์กรให้สามารถแข่งขันและเติบโตในเวทีนานาชาติได้อย่างมั่นคง

การเข้าร่วมของมหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้ เป็นการยืนยันบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะ ศูนย์กลางความรู้ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ที่พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับการวิจัยและนวัตกรรมไทยสู่มาตรฐานสากล

อีกทั้งยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการจัดการเทคโนโลยี การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการพัฒนานโยบายนวัตกรรม ซึ่งล้วนเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

การประชุม “Thailand’s Innovation Policy Week” จึงมีความหมายอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบการจัดการนวัตกรรมของประเทศ ทั้งในแง่การยกระดับศักยภาพนักวิจัยและผู้ประกอบการ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ และยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศในการ ส่งเสริมด้านการจัดการเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญา

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม Bootcamp R2M2024 ภาคเหนือ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยสู่เส้นทางนวัตวณิชย์

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัด กิจกรรม Bootcamp ระดับภูมิภาค (ภาคเหนือ) ภายใต้โครงการเส้นทางสู่นวัตวณิชย์ (Research to Market: R2M2024) ครั้งที่ 12 ณ โรงแรม The Imperial Hotel & Convention Centre Phitsanulok จังหวัดพิษณุโลก โดยมี ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างอบอุ่น

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์เชิงปฏิบัติการด้านการพัฒนางานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ โดยมุ่งเน้นการยกระดับผลงานวิจัยให้เกิดการต่อยอด และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจได้จริง อันเป็นกลไกสำคัญในการ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยสู่เส้นทางนวัตวณิชย์ และสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืน

สำหรับกิจกรรม Bootcamp ครั้งนี้ มีมหาวิทยาลัยเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเข้าร่วมทั้งสิ้น 7 มหาวิทยาลัย รวมจำนวน 21 ทีม ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งถือเป็นการรวมพลังเครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมในระดับภูมิภาค

ภายในงานมีกิจกรรมที่โดดเด่น เช่น Highlight Session และกิจกรรม ICE Breaking ที่จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง นับเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนที่เต็มไปด้วยพลังของเยาวชนและนักวิจัยรุ่นใหม่

กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.อนวัช มีเคลือบ รักษาการหัวหน้างานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยนเรศวร ทำหน้าที่วิทยากร ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนางานวิจัยไปสู่เชิงธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการ R2M หรือ Research to Market ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพงานวิจัยของประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา และนักวิจัยได้นำผลงานวิจัยมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ และสร้างคุณค่าให้กับสังคม ตลอดจนช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม

การจัดกิจกรรม Bootcamp ในครั้งนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานพันธมิตรในเครือข่าย ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมงานวิจัยให้ก้าวสู่ตลาด แต่ยังช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะเจ้าภาพ ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนผลักดันผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว

ม.เรศวร ร่วมเสริมสร้างความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการกฎหมาย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 16 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมที่สงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่โปร่งใสและเข้มแข็ง ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านกฎหมาย โดยกิจกรรมล่าสุดคือ “การให้คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้นแก่ประชาชน” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม

  1. หัวข้อและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
    • กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ทำอย่างไรเมื่อจะฟ้อง หรือถูกฟ้อง”
    • มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
      • กระบวนการทางกฎหมายในกรณีฟ้องร้อง
      • การเตรียมเอกสารที่จำเป็น
      • ขั้นตอนและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี
    • ให้บริการ คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้น แก่ประชาชน บุคลากร และนิสิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  2. ผู้ร่วมดำเนินกิจกรรม
    • ความร่วมมือระหว่าง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ สภาทนายความภาค 6
    • การผนึกกำลังนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานด้านกฎหมาย
  3. กลุ่มเป้าหมาย
    • ประชาชนในพื้นที่ ตำบลท่าโพธิ์
    • บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
    • ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
  4. วัน เวลา และสถานที่จัดกิจกรรม
    • วัน: อังคารที่ 3 ธันวาคม 2567
    • เวลา: 08.30 – 12.00 น.
    • สถานที่: บริเวณโถงชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  5. การลงทะเบียน
    • ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน QR Code หรือลิงก์ที่ระบุในประกาศ

กิจกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลากหลายมิติ ได้แก่

  • การลดความเหลื่อมล้ำ: ช่วยให้ประชาชนที่ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำปรึกษาด้านกฎหมาย
  • การเสริมสร้างความรู้: ส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม
  • การเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน: สนับสนุนให้ชุมชนมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหากฎหมายด้วยตัวเอง

การดำเนินงานของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้กรอบเป้าหมาย SDG 16 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมผ่านการส่งเสริมความยุติธรรมและการให้ความรู้แก่ประชาชนในวงกว้าง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน นอกจากนี้ยัง สะท้อนถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรวิชาชีพ โดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกับ สภาทนายความภาค 6 ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและวิชาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 17: เครือข่ายความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม

ชมรมอาสาพัฒนา ม.นเรศวร จัดค่ายหมอกล้อมฝัน เติมเต็มความสุขให้กับเยาวชนและชุมชน

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ชมรมอาสาพัฒนา มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “ค่ายหมอกล้อมฝัน ในอ้อมกอดที่ปลายฝน” ณ โรงเรียนชุมชน 17 บ้านนาตาดี ตำบลบ่อโพธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนิสิตอาสาสมัครเข้าร่วมทำกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่

กิจกรรมแรกที่ชมรมดำเนินการคือ การปรับปรุงสนามเด็กเล่น พร้อมทั้งทาสีและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้และการเล่นที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับเด็ก ๆ ในโรงเรียน อันเป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการของเยาวชน

นอกจากนี้ยังมีการทำ แปลงเกษตรและบ่อเลี้ยงปลาในโรงเรียน เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมและการจัดการอาหารของนักเรียน โดยมุ่งหวังให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง รวมถึงเป็นตัวอย่างของการพึ่งพาตนเองและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

กิจกรรมยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่มอบผลิตภัณฑ์ เช่น นมแลคตาซอยและน้ำดื่มสิงห์ เพื่อแจกจ่ายให้นักเรียนและผู้เข้าร่วมงาน แสดงถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคเอกชน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเยาวชนในท้องถิ่น

นอกจากกิจกรรมเชิงพัฒนาแล้ว ยังมีการจัด กิจกรรมสันทนาการร่วมกับนักเรียน เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุข ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรกับน้อง ๆ นักเรียน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการมีส่วนร่วมและการแบ่งปันในสังคม

โครงการครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและทักษะการทำงานเป็นทีมของนิสิตชมรมอาสาพัฒนา ผ่านการลงพื้นที่จริง ร่วมกันวางแผน และปฏิบัติงานจนเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ทรงคุณค่าและช่วยพัฒนาทั้งผู้ให้และผู้รับ

กิจกรรม ค่ายหมอกล้อมฝัน จึงเป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้และสร้างสังคมแห่งความสุข ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน โรงเรียน และชุมชน เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเกื้อกูลกัน

ม.นเรศวร x อายิโนะโมะโต๊ะ เปิดโอกาสทอง! เรียนฟรี 4 ปี

มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับมูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ จัดกิจกรรมแนะนำโครงการทุนการศึกษา “ทุนส่งน้องเรียนจบและทุนอาเซียน พลัสวัน” ณ ห้องล็อบบี้ ชั้น 2 อาคารขวัญเมือง ระหว่างเวลา 09.30 – 11.30 น. โดยเปิดโอกาสให้นิสิตที่สนใจสมัครรับทุนเรียนฟรีตลอด 4 ปีการศึกษา

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชน มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่นิสิตในหลากหลายสาขา ทั้งด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อาหาร โภชนาการ สุขภาพ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีความรู้ความสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมและประเทศชาติ

ทุนการศึกษานี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนิสิตที่มีความตั้งใจและศักยภาพ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้เข้าถึงการเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและเสริมสร้างความเท่าเทียมด้านโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้สนใจได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับเงื่อนไข คุณสมบัติ และขั้นตอนการสมัครทุน ผ่านการแนะนำโดยตรงจากผู้จัดโครงการ เพื่อให้ผู้สมัครมีความเข้าใจและเตรียมความพร้อมได้อย่างถูกต้องและชัดเจน

นอกจากนี้ โครงการยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและสังคม ระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรภาคเอกชน โดยมุ่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนทางการศึกษาและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในระยะยาว

การสนับสนุนด้านการศึกษาในลักษณะนี้ยังเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education) และการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (Partnerships for the Goals) ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าแก่สังคม

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการทุนอายิโนะโมะโต๊ะ และการสมัครได้ที่ เว็บไซต์กองพัฒนานิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-5596-8334 (พี่ขวัญ)

ม.นเรศวร ร่วมสถานทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก จัดนิทรรศการผ้าไทย ส่งเสริมความร่วมมือวัฒนธรรมไทย-เม็กซิโก

วันพุธที่ 30 ตุลาคม – วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทย เพื่อส่งเสริมความนิยมผ้าไทยและแฟชั่นไทย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก โดยมี ผศ. ชโรธรณ์ ทิพย์อุปถัมภ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบฯ และนางสาววรรณชลี กุลศรีไชย หัวหน้างานศิลปวัฒนธรรม กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ร่วมกันดำเนินการออกแบบและจัดแสดงนิทรรศการ

การจัดแสดงครั้งนี้เน้นการนำเสนอ ผ้าชาติพันธุ์ไท ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับผ้าของประเทศเม็กซิโก จึงช่วยสะท้อนถึงความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งระหว่างสองประเทศ การสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเช่นนี้ถือเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างคุณค่าใหม่ให้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย

นิทรรศการได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมอย่างมาก ทั้งนักการทูต นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปที่เข้าชมนิทรรศการ ต่างชื่นชมในความงดงามของผ้าไทยและแฟชั่นไทย ตลอดจนความพยายามของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมให้ก้าวสู่เวทีนานาชาติ

การเข้าร่วมในครั้งนี้ยังช่วย ส่งเสริมวัฒนธรรมและการประสานความร่วมมือ ระหว่างประเทศไทยและเม็กซิโก โดยมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านศิลปะ การออกแบบ และภูมิปัญญา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ด้านการพัฒนาเมืองและชุมชน นิทรรศการครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิปัญญาผ้าไทยในการเป็นรากฐานของ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นนวัตกรรมแฟชั่นและผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ในระดับชุมชน และช่วยรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมในบริบทสังคมร่วมสมัย

นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างคณาจารย์ นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานในกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ยังแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการทำงานแบบบูรณาการ ที่นำทั้งความรู้เชิงวิชาการและประสบการณ์ปฏิบัติมาสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ทั้งยังเป็นตัวอย่างของการผสานความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ

การจัดนิทรรศการในต่างประเทศครั้งนี้ จึงเป็นทั้งการเผยแพร่คุณค่าของผ้าไทย และเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงบทบาทเชิงรุกในการผลักดันวัฒนธรรมไทยสู่สังคมโลก และมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเมืองและความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนา Energy Storage แลกเปลี่ยนนวัตกรรมพลังงานสะอาด

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี (SGtech) มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัช สุริวงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและกิจการนิสิต และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดธง เม่นสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ได้เข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงานด้าน Energy Storage ภายใต้หัวข้อ “Renewable Energy and MicroGrid Technology” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม 2567

การสัมมนาในครั้งนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบไมโครกริด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมจากหลายหน่วยงานได้เรียนรู้แนวโน้มและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บพลังงานและการจัดการระบบพลังงานอัจฉริยะ

ภายในงาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดธง เม่นสิน ได้บรรยายในหัวข้อ “Smart Microgrid Zero Net Energy (ZNE) concept implementation at Naresuan University” โดยเน้นย้ำถึงการพัฒนาแนวคิด Smart Microgrid ที่สามารถนำไปสู่การจัดการพลังงานภายในมหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยผลักดันเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในระยะยาว

การนำเสนอครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด และการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในด้านการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างต้นแบบให้กับสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ในการพัฒนาระบบพลังงานที่มีความยืดหยุ่นและเป็นมิตรต่อสังคม

นอกจากนี้ การเข้าร่วมสัมมนายังเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภายนอก ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงวิชาการและประสบการณ์จริง เพื่อพัฒนานวัตกรรมและแนวทางใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในอนาคต

ความร่วมมือดังกล่าวยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพของนักวิจัย อาจารย์ และบุคลากรในการขยายผลงานวิจัยด้านพลังงานไปสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์และสังคม โดยเชื่อมโยงการวิจัยเข้ากับการใช้ประโยชน์ในระดับชุมชนและระดับประเทศ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

ในภาพรวม การเข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงานครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และการสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านพลังงานและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในอนาคต

ที่มา: วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนา Smart Cities เสริมงานวิจัยพลังงานสะอาด

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม – วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ดร.จักรกฤษ เติมฤทธิกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมด้วยคุณสรวุฒิ จิตตานนท์ นิสิตหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสมาร์ตกริดเทคโนโลยี เข้าร่วมสัมมนาวิชาการ The 10th IEEE International Smart Cities Conference ภายใต้หัวข้อ “Smart Cities : Revolution for Mankind” ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

การเข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้เปิดโอกาสให้คณะผู้เข้าร่วมจากมหาวิทยาลัยนเรศวร แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้าน สมาร์ตซิตี้และพลังงานอัจฉริยะ กับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและนวัตกรรมระหว่างประเทศ

คุณสรวุฒิ จิตตานนท์ ได้นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ “Photovoltaic Surface Environmental Contaminant Detection Based on Saliency Prediction” ซึ่งมุ่งเน้นการตรวจจับสิ่งปนเปื้อนบนพื้นผิวของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

การนำเสนอผลงานวิจัยครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานวัตกรรม พลังงานสะอาดและยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของเมืองอัจฉริยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สัมมนาครั้งนี้ยังเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดด้าน เทคโนโลยีสมาร์ตกริด การจัดการพลังงานอัจฉริยะ การใช้ IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในเมืองและชุมชนให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานยังส่งเสริมการสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและระบบพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค

การมีส่วนร่วมในสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านพลังงาน พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชนและเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืนในอนาคต

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin