ม.นเรศวร จัดกิจกรรม Bootcamp R2M2024 ภาคเหนือ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยสู่เส้นทางนวัตวณิชย์

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัด กิจกรรม Bootcamp ระดับภูมิภาค (ภาคเหนือ) ภายใต้โครงการเส้นทางสู่นวัตวณิชย์ (Research to Market: R2M2024) ครั้งที่ 12 ณ โรงแรม The Imperial Hotel & Convention Centre Phitsanulok จังหวัดพิษณุโลก โดยมี ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างอบอุ่น

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์เชิงปฏิบัติการด้านการพัฒนางานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ โดยมุ่งเน้นการยกระดับผลงานวิจัยให้เกิดการต่อยอด และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจได้จริง อันเป็นกลไกสำคัญในการ ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยสู่เส้นทางนวัตวณิชย์ และสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืน

สำหรับกิจกรรม Bootcamp ครั้งนี้ มีมหาวิทยาลัยเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเข้าร่วมทั้งสิ้น 7 มหาวิทยาลัย รวมจำนวน 21 ทีม ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งถือเป็นการรวมพลังเครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมในระดับภูมิภาค

ภายในงานมีกิจกรรมที่โดดเด่น เช่น Highlight Session และกิจกรรม ICE Breaking ที่จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง นับเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนที่เต็มไปด้วยพลังของเยาวชนและนักวิจัยรุ่นใหม่

กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.อนวัช มีเคลือบ รักษาการหัวหน้างานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยนเรศวร ทำหน้าที่วิทยากร ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนางานวิจัยไปสู่เชิงธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการ R2M หรือ Research to Market ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพงานวิจัยของประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา และนักวิจัยได้นำผลงานวิจัยมาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ และสร้างคุณค่าให้กับสังคม ตลอดจนช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม

การจัดกิจกรรม Bootcamp ในครั้งนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานพันธมิตรในเครือข่าย ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมงานวิจัยให้ก้าวสู่ตลาด แต่ยังช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะเจ้าภาพ ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนผลักดันผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว

ม.เรศวร ร่วมเสริมสร้างความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการกฎหมาย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 16 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมที่สงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่โปร่งใสและเข้มแข็ง ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านกฎหมาย โดยกิจกรรมล่าสุดคือ “การให้คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้นแก่ประชาชน” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม

  1. หัวข้อและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
    • กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ทำอย่างไรเมื่อจะฟ้อง หรือถูกฟ้อง”
    • มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
      • กระบวนการทางกฎหมายในกรณีฟ้องร้อง
      • การเตรียมเอกสารที่จำเป็น
      • ขั้นตอนและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี
    • ให้บริการ คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้น แก่ประชาชน บุคลากร และนิสิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  2. ผู้ร่วมดำเนินกิจกรรม
    • ความร่วมมือระหว่าง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ สภาทนายความภาค 6
    • การผนึกกำลังนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานด้านกฎหมาย
  3. กลุ่มเป้าหมาย
    • ประชาชนในพื้นที่ ตำบลท่าโพธิ์
    • บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
    • ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
  4. วัน เวลา และสถานที่จัดกิจกรรม
    • วัน: อังคารที่ 3 ธันวาคม 2567
    • เวลา: 08.30 – 12.00 น.
    • สถานที่: บริเวณโถงชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  5. การลงทะเบียน
    • ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน QR Code หรือลิงก์ที่ระบุในประกาศ

กิจกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลากหลายมิติ ได้แก่

  • การลดความเหลื่อมล้ำ: ช่วยให้ประชาชนที่ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำปรึกษาด้านกฎหมาย
  • การเสริมสร้างความรู้: ส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม
  • การเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน: สนับสนุนให้ชุมชนมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหากฎหมายด้วยตัวเอง

การดำเนินงานของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้กรอบเป้าหมาย SDG 16 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมผ่านการส่งเสริมความยุติธรรมและการให้ความรู้แก่ประชาชนในวงกว้าง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน นอกจากนี้ยัง สะท้อนถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรวิชาชีพ โดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกับ สภาทนายความภาค 6 ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและวิชาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 17: เครือข่ายความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม

ชมรมอาสาพัฒนา ม.นเรศวร จัดค่ายหมอกล้อมฝัน เติมเต็มความสุขให้กับเยาวชนและชุมชน

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ชมรมอาสาพัฒนา มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม “ค่ายหมอกล้อมฝัน ในอ้อมกอดที่ปลายฝน” ณ โรงเรียนชุมชน 17 บ้านนาตาดี ตำบลบ่อโพธ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนิสิตอาสาสมัครเข้าร่วมทำกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่

กิจกรรมแรกที่ชมรมดำเนินการคือ การปรับปรุงสนามเด็กเล่น พร้อมทั้งทาสีและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้และการเล่นที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับเด็ก ๆ ในโรงเรียน อันเป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการของเยาวชน

นอกจากนี้ยังมีการทำ แปลงเกษตรและบ่อเลี้ยงปลาในโรงเรียน เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมและการจัดการอาหารของนักเรียน โดยมุ่งหวังให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง รวมถึงเป็นตัวอย่างของการพึ่งพาตนเองและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

กิจกรรมยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่มอบผลิตภัณฑ์ เช่น นมแลคตาซอยและน้ำดื่มสิงห์ เพื่อแจกจ่ายให้นักเรียนและผู้เข้าร่วมงาน แสดงถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคเอกชน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเยาวชนในท้องถิ่น

นอกจากกิจกรรมเชิงพัฒนาแล้ว ยังมีการจัด กิจกรรมสันทนาการร่วมกับนักเรียน เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุข ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรกับน้อง ๆ นักเรียน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการมีส่วนร่วมและการแบ่งปันในสังคม

โครงการครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและทักษะการทำงานเป็นทีมของนิสิตชมรมอาสาพัฒนา ผ่านการลงพื้นที่จริง ร่วมกันวางแผน และปฏิบัติงานจนเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ทรงคุณค่าและช่วยพัฒนาทั้งผู้ให้และผู้รับ

กิจกรรม ค่ายหมอกล้อมฝัน จึงเป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้และสร้างสังคมแห่งความสุข ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน โรงเรียน และชุมชน เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเกื้อกูลกัน

ม.นเรศวร x อายิโนะโมะโต๊ะ เปิดโอกาสทอง! เรียนฟรี 4 ปี

มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับมูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ จัดกิจกรรมแนะนำโครงการทุนการศึกษา “ทุนส่งน้องเรียนจบและทุนอาเซียน พลัสวัน” ณ ห้องล็อบบี้ ชั้น 2 อาคารขวัญเมือง ระหว่างเวลา 09.30 – 11.30 น. โดยเปิดโอกาสให้นิสิตที่สนใจสมัครรับทุนเรียนฟรีตลอด 4 ปีการศึกษา

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคเอกชน มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่นิสิตในหลากหลายสาขา ทั้งด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อาหาร โภชนาการ สุขภาพ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีความรู้ความสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมและประเทศชาติ

ทุนการศึกษานี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนิสิตที่มีความตั้งใจและศักยภาพ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้เข้าถึงการเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและเสริมสร้างความเท่าเทียมด้านโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้สนใจได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับเงื่อนไข คุณสมบัติ และขั้นตอนการสมัครทุน ผ่านการแนะนำโดยตรงจากผู้จัดโครงการ เพื่อให้ผู้สมัครมีความเข้าใจและเตรียมความพร้อมได้อย่างถูกต้องและชัดเจน

นอกจากนี้ โครงการยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและสังคม ระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรภาคเอกชน โดยมุ่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนทางการศึกษาและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในระยะยาว

การสนับสนุนด้านการศึกษาในลักษณะนี้ยังเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education) และการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (Partnerships for the Goals) ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าแก่สังคม

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการทุนอายิโนะโมะโต๊ะ และการสมัครได้ที่ เว็บไซต์กองพัฒนานิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-5596-8334 (พี่ขวัญ)

ม.นเรศวร ร่วมสถานทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก จัดนิทรรศการผ้าไทย ส่งเสริมความร่วมมือวัฒนธรรมไทย-เม็กซิโก

วันพุธที่ 30 ตุลาคม – วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทย เพื่อส่งเสริมความนิยมผ้าไทยและแฟชั่นไทย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก โดยมี ผศ. ชโรธรณ์ ทิพย์อุปถัมภ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบฯ และนางสาววรรณชลี กุลศรีไชย หัวหน้างานศิลปวัฒนธรรม กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ร่วมกันดำเนินการออกแบบและจัดแสดงนิทรรศการ

การจัดแสดงครั้งนี้เน้นการนำเสนอ ผ้าชาติพันธุ์ไท ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับผ้าของประเทศเม็กซิโก จึงช่วยสะท้อนถึงความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งระหว่างสองประเทศ การสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเช่นนี้ถือเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างคุณค่าใหม่ให้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย

นิทรรศการได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมอย่างมาก ทั้งนักการทูต นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปที่เข้าชมนิทรรศการ ต่างชื่นชมในความงดงามของผ้าไทยและแฟชั่นไทย ตลอดจนความพยายามของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมให้ก้าวสู่เวทีนานาชาติ

การเข้าร่วมในครั้งนี้ยังช่วย ส่งเสริมวัฒนธรรมและการประสานความร่วมมือ ระหว่างประเทศไทยและเม็กซิโก โดยมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านศิลปะ การออกแบบ และภูมิปัญญา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ด้านการพัฒนาเมืองและชุมชน นิทรรศการครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิปัญญาผ้าไทยในการเป็นรากฐานของ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นนวัตกรรมแฟชั่นและผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ในระดับชุมชน และช่วยรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมในบริบทสังคมร่วมสมัย

นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างคณาจารย์ นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานในกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ยังแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการทำงานแบบบูรณาการ ที่นำทั้งความรู้เชิงวิชาการและประสบการณ์ปฏิบัติมาสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ทั้งยังเป็นตัวอย่างของการผสานความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ

การจัดนิทรรศการในต่างประเทศครั้งนี้ จึงเป็นทั้งการเผยแพร่คุณค่าของผ้าไทย และเป็นเวทีในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงบทบาทเชิงรุกในการผลักดันวัฒนธรรมไทยสู่สังคมโลก และมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเมืองและความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนา Energy Storage แลกเปลี่ยนนวัตกรรมพลังงานสะอาด

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี (SGtech) มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัช สุริวงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและกิจการนิสิต และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดธง เม่นสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ได้เข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงานด้าน Energy Storage ภายใต้หัวข้อ “Renewable Energy and MicroGrid Technology” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม 2567

การสัมมนาในครั้งนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบไมโครกริด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมจากหลายหน่วยงานได้เรียนรู้แนวโน้มและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บพลังงานและการจัดการระบบพลังงานอัจฉริยะ

ภายในงาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดธง เม่นสิน ได้บรรยายในหัวข้อ “Smart Microgrid Zero Net Energy (ZNE) concept implementation at Naresuan University” โดยเน้นย้ำถึงการพัฒนาแนวคิด Smart Microgrid ที่สามารถนำไปสู่การจัดการพลังงานภายในมหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยผลักดันเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในระยะยาว

การนำเสนอครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด และการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในด้านการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างต้นแบบให้กับสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ในการพัฒนาระบบพลังงานที่มีความยืดหยุ่นและเป็นมิตรต่อสังคม

นอกจากนี้ การเข้าร่วมสัมมนายังเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภายนอก ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงวิชาการและประสบการณ์จริง เพื่อพัฒนานวัตกรรมและแนวทางใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในอนาคต

ความร่วมมือดังกล่าวยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพของนักวิจัย อาจารย์ และบุคลากรในการขยายผลงานวิจัยด้านพลังงานไปสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์และสังคม โดยเชื่อมโยงการวิจัยเข้ากับการใช้ประโยชน์ในระดับชุมชนและระดับประเทศ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

ในภาพรวม การเข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงานครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และการสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านพลังงานและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในอนาคต

ที่มา: วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนา Smart Cities เสริมงานวิจัยพลังงานสะอาด

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม – วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ดร.จักรกฤษ เติมฤทธิกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมด้วยคุณสรวุฒิ จิตตานนท์ นิสิตหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสมาร์ตกริดเทคโนโลยี เข้าร่วมสัมมนาวิชาการ The 10th IEEE International Smart Cities Conference ภายใต้หัวข้อ “Smart Cities : Revolution for Mankind” ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

การเข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้เปิดโอกาสให้คณะผู้เข้าร่วมจากมหาวิทยาลัยนเรศวร แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้าน สมาร์ตซิตี้และพลังงานอัจฉริยะ กับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและนวัตกรรมระหว่างประเทศ

คุณสรวุฒิ จิตตานนท์ ได้นำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อ “Photovoltaic Surface Environmental Contaminant Detection Based on Saliency Prediction” ซึ่งมุ่งเน้นการตรวจจับสิ่งปนเปื้อนบนพื้นผิวของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

การนำเสนอผลงานวิจัยครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานวัตกรรม พลังงานสะอาดและยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของเมืองอัจฉริยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สัมมนาครั้งนี้ยังเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดด้าน เทคโนโลยีสมาร์ตกริด การจัดการพลังงานอัจฉริยะ การใช้ IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในเมืองและชุมชนให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานยังส่งเสริมการสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและระบบพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค

การมีส่วนร่วมในสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านพลังงาน พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชนและเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืนในอนาคต

NU SEED ม.นเรศวร ร่วมขับเคลื่อน Startup Thailand League พัฒนานวัตกรรุ่นใหม่สู่การเป็นผู้ประกอบการ

วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร (NU SEED) นำโดย ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยบุคลากร เข้าร่วมการประชุมชี้แจงแผนการดำเนินโครงการ Startup Thailand League ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ

การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่ได้รับความสนใจจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศกว่า 55 แห่ง ทั้งมหาวิทยาลัยในเครือข่ายที่เข้าร่วมต่อเนื่องและมหาวิทยาลัยใหม่ที่พร้อมก้าวเข้าสู่สนามแห่งนวัตกรรม สะท้อนถึงพลังความร่วมมือและการตื่นตัวด้านการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในระดับอุดมศึกษา

โครงการ Startup Thailand League มีเป้าหมายหลักเพื่อ ส่งเสริม Startup และยกระดับศักยภาพของเยาวชนในมหาวิทยาลัย ให้มีทั้งทักษะเชิงนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการสร้างธุรกิจที่พร้อมแข่งขันในตลาดจริง การบ่มเพาะเช่นนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจฐานความรู้และนวัตกรรม

สำหรับมหาวิทยาลัยนเรศวร การเข้าร่วมในโครงการนี้สอดคล้องกับพันธกิจในการพัฒนามหาวิทยาลัยสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ” โดยใช้กลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์เป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมสนับสนุนให้นิสิตและเยาวชนสามารถเปลี่ยนแนวคิดเชิงนวัตกรรมไปสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพจริง

การประชุมครั้งนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้การพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ และสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

โครงการ Startup Thailand League ยังช่วยเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาทดลองทำงานในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับการทำธุรกิจจริง ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และเรียนรู้การปรับตัวในสภาวะการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาทักษะที่สำคัญสำหรับการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต

การมีส่วนร่วมของ NU SEED ในครั้งนี้จึงเป็นการยืนยันบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการทดลอง พร้อมทั้งพัฒนานวัตกรเยาวชนสู่การเป็น Startup ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างแท้จริง

ม.นเรศวร เปิดรับสมัครทุนการศึกษานิสิต ปี 2567 เพิ่มโอกาสทางการศึกษา

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 – สาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวรเข้าร่วมประชุมข้ามทวีปกับเครือข่ายนานาชาติ ระหว่างเวลา 14.30 น. ตามเวลาประเทศอิตาลี (19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) จนถึง 21.45 น. ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมการนำเสนอโครงการความร่วมมือด้านวิจัยและวิชาการทางการศึกษาตลอดชีวิต (LLL)

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างสาขาสังคมศึกษา สมาคมสังคมศึกษาสัมพันธ์ และเครือข่ายนานาชาติ The International Adult and Continuing Education (IACE) เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการศึกษา การวิจัย และการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศ

กิจกรรมดังกล่าวเน้นการแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ในการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาตลอดชีวิต รวมถึงการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างเท่าเทียม

โครงการความร่วมมือด้านการวิจัยและวิชาการนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการศึกษา การพัฒนาองค์ความรู้ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่ผู้เรียนทุกวัย

การเข้าร่วมประชุมข้ามทวีปครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการพัฒนาความรู้ด้านการศึกษาและสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับสากล เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และนวัตกรรมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับงาน The IACE Hall of Fame 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ University of Florence ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 7–9 พฤศจิกายน 2567 โดยทีมงานจะนำเสนอโครงการความร่วมมืออย่างเป็นทางการ

สาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังคงมุ่งมั่นสร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดโครงการศึกษาดูงานเสริมความรู้ SDGs สู่พลเมืองโลกในสหประชาชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2567 – มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดโครงการศึกษาดูงานเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองโลกและความเข้าใจในการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยนิสิตได้เข้าศึกษาดูงานที่คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) และเยี่ยมชมสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

โครงการนี้มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมทั้งแสดงบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศในระดับสากล นอกจากนี้ยังเน้นการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษและการเจรจาในบริบทนานาชาติให้แก่นิสิตและบัณฑิต

การเข้าร่วมโครงการเปิดโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากการทำงานขององค์กรระหว่างประเทศและสถานทูต ทั้งในด้านการทูต การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการเสริมสร้างทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการเป็นพลเมืองโลก

โครงการศึกษาดูงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยนเรศวรภายใต้โครงการ NU GO UN เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเข้มข้นให้แก่นิสิต โดยคณะเภสัชศาสตร์สนับสนุนค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าที่พักสำหรับนิสิตจำนวนหนึ่ง

ความร่วมมือและการสนับสนุนดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสร้างโอกาสให้นิสิตเรียนรู้และเติบโตเป็นพลเมืองโลกที่มีความรู้และทักษะสำคัญในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการพัฒนาความรู้และทักษะที่มีคุณค่าให้แก่นิสิต เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมที่ดีและยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

โครงการศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นตัวอย่างของการบูรณาการความรู้ด้านการศึกษาและการสร้างโอกาสในการเรียนรู้เชิงปฏิบัติจริง สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนและการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ เตรียมความพร้อมให้นิสิตสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนในอนาคต

ที่มา: งานกิจการนิสิต คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin