Archives June 2024

แนะนำคณะผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการบริหารงานที่เน้น ความเสมอภาคทางเพศ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทของสตรีในด้านการศึกษา การบริหาร และการพัฒนาสังคม เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนมี โอกาสเท่าเทียมกัน

ทีมผู้บริหารคณะมนุษยศาสตร์ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์วรารัชต์ มหามนตรี รองคณบดีฝ่ายบริหาร, ดร.นิภารัตน์ อิ่มศิลป์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ, ดร.ณัฐพร ไข่มุกข์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ ดร.ภูริตา เรืองจิรยศ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มุ่งเน้นการสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานของสตรี และเปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่

คณะมนุษยศาสตร์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้ และการให้บริการวิชาการแก่สังคม โดยคำนึงถึง ความเท่าเทียมและโอกาสที่ทั่วถึง ทั้งนี้ยังมีโครงการส่งเสริมบทบาทของสตรีในการขับเคลื่อนสังคมทั้งด้านการศึกษา การบริหาร และการพัฒนาชุมชน

การพัฒนานิสิตเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ คณะสนับสนุนทั้งด้านวิชาการ การวิจัย และการเสริมสร้าง ทักษะชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต พร้อมเน้นความร่วมมือกับ เครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและการทำงานที่เท่าเทียม

มหาวิทยาลัยและคณะมนุษยศาสตร์ยังดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่ ความเป็นธรรมและความยั่งยืน โดยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งความเสมอภาค

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นให้สตรีมี บทบาทสำคัญในทุกระดับของสังคม ทั้งในเวทีท้องถิ่นและระดับสากล เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและแท้จริง

การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้าง สังคมที่เท่าเทียมและครอบคลุมทุกกลุ่ม พร้อมเสริมสร้างโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพและพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่

ม.นเรศวร สร้างพื้นที่ปลอดภัย NU Pride ให้นิสิตแสดงความเป็นตัวตนอย่างภาคภูมิใจ

กิจกรรมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เน้นประเด็น NU Pride เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนิสิตทุกคน โดยสื่อสารถึงข้อความสำคัญว่า “LGBTQIA+ have the freedom to live their truth without fear!” เพื่อให้นิสิตสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตนเองอย่างภาคภูมิใจและใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข

กิจกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนและผลักดันอย่างต่อเนื่องจาก ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร และ รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ให้ความสำคัญและมีส่วนในการขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดทำ ข้อบังคับว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ซึ่งระบุว่านิสิตสามารถเลือกแต่งกายตามเพศสภาพได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายของมหาวิทยาลัย นับเป็นมาตรการที่สะท้อนถึงการเคารพ เสรีภาพและความหลากหลายทางเพศ

ในปีการศึกษานี้ มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing หรือการสร้างทางม้าลายสายรุ้งบริเวณหน้าหอพักนิสิต ซึ่งเป็นกิจกรรมครั้งที่ 3 ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง นิสิต คณาจารย์ และบุคลากร ของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นตัวตนและการยอมรับความหลากหลายทางเพศ

กิจกรรมนี้ช่วยให้นิสิตสามารถ ก้าวเดินอย่างภาคภูมิใจ สะท้อนถึงความหลากหลายและการยอมรับซึ่งกันและกันในสถาบันการศึกษา อีกทั้งยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะชีวิตอย่างมีคุณค่า

มหาวิทยาลัยยังเน้นการสร้างความตระหนักในเรื่อง ความเสมอภาคทางเพศและสิทธิพื้นฐาน ให้แก่นิสิตและบุคลากร โดยใช้กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์และการสื่อสารสาธารณะ เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ยอมรับความหลากหลายและเคารพความแตกต่างในสังคม

สุดท้าย กิจกรรม NU Pride ของมหาวิทยาลัยนเรศวรสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้าง สังคมที่เท่าเทียมและครอบคลุมทุกกลุ่ม สนับสนุนให้นิสิตทุกคนสามารถใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ ภาคภูมิใจในตัวเอง และมีความสุขในการเรียนรู้และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสงบสุข

ทาสีถนนทางม้าลายสายรุ้ง

เชิญร่วมกิจกรรม Pride month : ทาสีถนนทางม้าลายสายรุ้ง วันที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณหน้าอาคารขวัญเมือง (หอใน)

เพื่อส่งเสริมและให้ความสำคัญด้านความเท่าเทียมและความเสมอภาคภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นพื้นที่ในการแสดงออกด้านความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง โดยมีคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย อาจารย์ บุคลากร และนิสิตทำกิจกรรมร่วมกัน

ม.นเรศวร รวมพลังชุมชน ส่งเสริมความรู้ สุขภาพ และภูมิปัญญาท้องถิ่น

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 ภาควิชาจุลชีววิทยาและปรสิตวิทยา นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย สุ่มประดิษฐ หัวหน้าภาควิชา พร้อมด้วยบุคลากรประจำภาควิชา คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ บุคลากรจากภาควิชากายวิภาคศาสตร์ สำนักงานเลขานุการฯ สถานบริการวิชาการด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนิสิตระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา จัดกิจกรรมออกหน่วยบริการวิชาการให้ความรู้แก่ประชาชน นักเรียน และผู้ประกอบการในชุมชน

กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณาการวิชาการแก่สังคม และโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และการบำเพ็ญประโยชน์ โดยจัดขึ้น ณ อาคารอเนกประสงค์วิสาหกิจชุมชนบ้านคลองซับรัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาดิน และวัดถ้ำผาหลวง ตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

การจัดกิจกรรมมุ่งเน้นส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่ชุมชน โดยมีการให้บริการตรวจสมรรถภาพร่างกายพื้นฐานและตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อสร้างความรู้ด้านสุขภาพและการป้องกันโรคในชุมชน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติบำบัด โดยเน้นเห็ดและสมุนไพรสู่สุขภาพ การใช้สมุนไพรบำบัดโรค พร้อมสาธิตการทำขมิ้นดองน้ำผึ้ง และการใช้ยาสามัญประจำบ้านอย่างถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง

กิจกรรมด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อมมีการบรรยายการกำจัดแมลงวันทองอย่างยั่งยืน พร้อมสาธิตการทำกับดักแมลงวัน รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร และสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนคลองซับรัง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน

เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ภาควิชาฯ จัดกิจกรรมให้คำแนะนำในการพัฒนาฉลากผลิตภัณฑ์และช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดออนไลน์ เช่น น้ำมะม่วงเข้มข้นและน้ำมะม่วงพร้อมดื่ม พร้อมกิจกรรมแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยปราชญ์ชาวบ้าน

ด้านสังคมและศาสนา กิจกรรมได้รวมการทำบุญถวายสังฆทานชุดยาสามัญประจำบ้านแด่พระภิกษุสงฆ์ ณ วัดถ้ำผาหลวง สะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคมและการมีส่วนร่วมในชุมชนอย่างยั่งยืน ภาควิชาจุลชีววิทยาและปรสิตวิทยาขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือในการจัดกิจกรรมให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ม.นเรศวร ลงพื้นที่ติดตามการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ โรงเรียนภูขัดรวมไทยพัฒนา

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2567 นายวิกานต์ วันสูงเนิน เจ้าหน้าที่วิจัย วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี (SGtech) มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นตัวแทน SGtech ร่วมกับสำนักงานพลังงานจังหวัดพิษณุโลก และองค์การบริหารส่วนตำบลนาบัว ลงพื้นที่ ติดตามการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ ณ โรงเรียนภูขัดรวมไทยพัฒนา อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อประเมินสภาพการทำงานของระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งในโรงเรียน ตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ระบบกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยสนับสนุนการใช้ไฟฟ้าในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง

ระบบโซลาร์เซลล์ที่ได้รับการติดตั้งถือเป็นพลังงานสะอาดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของโรงเรียน และยังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานในพื้นที่ชนบท การ บำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพการผลิตไฟฟ้าให้คงที่

การดำเนินการในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ชุมชนและบุคลากรในพื้นที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาระบบพลังงานทดแทน โดยเน้นการใช้และบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนในระยะยาว

นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังสะท้อนถึงความสำคัญของ การมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ ที่ช่วยให้การใช้พลังงานทดแทนเกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นได้อย่างเป็นรูปธรรม

การมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอจากพลังงานสะอาดไม่เพียงตอบโจทย์ด้านพลังงานเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการศึกษา และช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกล

การลงพื้นที่ติดตามในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการผลักดันการใช้ พลังงานสะอาดเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์ ไม่เพียงช่วยให้ระบบผลิตไฟฟ้าดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง แต่ยังเป็นการนำเทคโนโลยีสะอาดมาต่อยอดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานหมุนเวียนให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคต

ผลงานนวัตกรรม “ChixTein” ม.นเรศวร คว้าสุดยอดนวัตกรรมอาหารบนเวทีโลก

วันพุธที่ 12 มิถุนายน 2567 ผลงานนวัตกรรม ChixTein ของนักวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 สุดยอดนวัตกรรมอาหาร ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมเวที Thailand’s Taste of Tomorrow 2024 ณ Riverside Studios กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนศักยภาพของงานวิจัยไทยสู่ระดับโลก และเป็นการส่งเสริมสุดยอดนวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนและตลาดโลกในอนาคต

ผลงาน ChixTein เกิดจากความร่วมมือระหว่าง รองศาสตราจารย์ ดร.ขนิษฐา รุตรัตนมงคล อาจารย์ประจำภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร และ บริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด จำกัด โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนไก่เข้มข้นคุณภาพสูงในรูปแบบผงโปรตีนที่สามารถใช้ได้หลากหลาย ทั้งในอาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์

ผลิตภัณฑ์ ChixTein มีแนวคิดสำคัญคือการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตที่สะอาดและปลอดภัย ปราศจากสารสังเคราะห์ สารกันบูด และสารเติมแต่ง เพื่อสร้างโปรตีนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการพึ่งพากระบวนการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นโปรตีนที่มีรสชาติธรรมชาติจากเนื้อไก่ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม

การคัดเลือก ChixTein เข้าสู่เวทีระดับโลกในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Food Innovation Global Market Launchpad ที่มุ่งผลักดันธุรกิจนวัตกรรมอาหารของไทยสู่การเติบโตในตลาดสากล โดยมีการจัดกิจกรรมเสวนาและบรรยายภายใต้หัวข้อ “Thailand’s Taste of Tomorrow: Fostering the Future of Food, Faith, and Flavours” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และ Food Innopolis

สำหรับเอกลักษณ์ของงาน Thailand’s Taste of Tomorrow 2024 ได้รับแรงบันดาลใจจาก “วารีกุญชร” สัตว์ป่าหิมพานต์ในตำนาน โดยมีช้างสีม่วงพร้อมหู หาง และครีบสีชมพู ใช้เป็นสัญลักษณ์สะท้อนถึงยานพาหนะทางวัฒนธรรมที่จะนำพา FoodTech Startups ฝ่าฟัน Valley of Death และก้าวสู่ความสำเร็จในตลาดโลกด้วยพลังความร่วมมือจากทุกฝ่าย

บริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด จำกัด ถือเป็น บริษัท Spin Off 100% จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีพันธกิจสำคัญคือ Feed the World with Sustainable Protein มุ่งสร้างนวัตกรรมโปรตีนคุณภาพสูงจากทรัพยากรที่ประเทศไทยมีศักยภาพ พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Technology) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่เวทีโลก

การเข้าร่วมเวทีในครั้งนี้นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว ไม่เพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคต แต่ยังถ่ายทอดอัตลักษณ์ไทยที่โดดเด่น แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ กลายเป็นจุดขายที่ดึงดูดความสนใจของนานาชาติ และทำให้ผู้เข้าร่วมงานเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้พัฒนานวัตกรรมอาหารสู่ตลาดโลก

ChixTein จึงไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์อาหาร แต่เป็นนวัตกรรมที่สะท้อนความสามารถด้านงานวิจัยและการสร้างธุรกิจเชิงนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยไทย อันจะเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับประเทศ และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการส่งเสริมสุดยอดนวัตกรรมอาหารเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ขอบคุณภาพจาก: www.innolifethailand.com

ม.นเรศวร ร่วมกับ รพ.สต. คัดกรองจอประสาทตาเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวาน ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ

หน่วยเวชปฏิบัติชุมชน งานบริการปฐมภูมิและสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมกับภาควิชาจักษุวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเครือข่าย ได้จัดโครงการ “ตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสื่อมในผู้ป่วยโรคเบาหวาน” ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) วังนาคู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมสุขภาพประชาชนและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน

โดยโครงการนี้มีแพทย์และบุคลากรจากภาควิชาจักษุวิทยา ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์จากงานบริการปฐมภูมิและทีมงานจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเครือข่ายเป็นผู้ให้บริการตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และสามารถนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ในการดำเนินโครงการครั้งนี้ มีผู้ป่วยโรคเบาหวานจากชุมชนเข้ามารับการตรวจคัดกรองจำนวนทั้งสิ้น 96 คน ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพในระดับชุมชนตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 3 (Good Health and Well-Being) ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพและป้องกันโรค โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนทางตา

การตรวจคัดกรองในครั้งนี้มีความสำคัญในการคัดกรองโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะเริ่มต้น ซึ่งสามารถทำการรักษาและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นในผู้ป่วยได้ หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานให้แก่ชุมชนในพื้นที่ห่างไกล โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปโรงพยาบาลใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 10 (Reduced Inequality) ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงบริการสุขภาพ

โครงการนี้ยังได้มีการสร้างความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล และชุมชน ซึ่งเป็นรูปแบบการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาและการป้องกันโรคในระดับชุมชนตามแนวทางของ SDGs.

วันที 4 มิถุนายน 2567 หน่วยเวชปฏิบัติชุมชน งานบริการปฐมภูมิและสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมกับภาควิชา
จักษุวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเครือข่าย จัดโครงการตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสือมในผู้ปวยโรคเบาหวาน ณ รพ.สต. บ้านเสาหิน โดยมีแพทย์ บุคลากรจากภาควิชาจักษุวิทยา บุคลากรปฐมภูมิฯ และรพ.สต. ในเครือข่ายร่วมให้บริการ โดยมีผู้ปวยโรคเบาหวานเข้ามารับบริการตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสือมทังหมด 146 คน

ม.นเรศวร เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินนิสิต 24 ชั่วโมง ส่งเสริมความปลอดภัยและการดูแลเหตุฉุกเฉินอย่างทันท่วงที

มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ประกาศเปิดให้บริการ ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินนิสิต เพื่อดูแลและช่วยเหลือนิสิตในทุกกรณีฉุกเฉิน โดยศูนย์ดังกล่าวเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วนโทร. 08-6936-9977 ถือเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและน่าอยู่

การจัดตั้งศูนย์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือนิสิตในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเจ็บป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เพื่อให้มั่นใจได้ว่านิสิตทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีและมีมาตรการรองรับที่มีประสิทธิภาพ

บริการของศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินนี้ครอบคลุมทั้งด้านการแพทย์และการช่วยเหลือเบื้องต้น รวมถึงการประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย เพื่อให้การจัดการเหตุฉุกเฉินเป็นไปอย่างมีระบบและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากการดูแลด้านความปลอดภัยแล้ว ศูนย์ฯ ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการสร้างความอุ่นใจให้นิสิตและผู้ปกครอง โดยตอกย้ำถึงความใส่ใจของมหาวิทยาลัยนเรศวรที่ไม่เพียงมุ่งพัฒนาในด้านวิชาการ แต่ยังให้ความสำคัญกับ คุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของนิสิต อย่างรอบด้าน

ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินยังทำงานร่วมกับหน่วยงานสนับสนุนต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ทั้งกองกิจการนิสิต กองอาคารสถานที่ และหน่วยรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างระบบการเฝ้าระวังและการตอบสนองเหตุการณ์ฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

การจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินนิสิตครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการ ส่งเสริมความปลอดภัยและการดูแลเหตุฉุกเฉินอย่างทันท่วงที ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นิสิต บุคลากร และผู้ปกครอง พร้อมวางรากฐานสู่การพัฒนามหาวิทยาลัยที่ปลอดภัยและยั่งยืน

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin