Archives 2024

ม.นเรศวร ส่งเสริมการเพาะและอนุบาลสัตว์น้ำ เสริมทักษะนิสิตผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติจริงสู่ความยั่งยืน

นิสิตชั้นปีที่ 1 และ 2 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การประมง มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมกิจกรรมฝึกทักษะภาคปฏิบัติในรายวิชา “การเพาะและอนุบาลสัตว์น้ำ” และ “วิทยาศาสตร์การประมงเบื้องต้น” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัชพล การะเกตุ เป็นผู้ฝึกสอน เพื่อให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงในกระบวนการ บรรจุพันธุ์ปลาและการจัดการสัตว์น้ำอย่างถูกวิธี อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเชิงวิทยาศาสตร์

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการ เพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำ ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์ การคัดเลือกพันธุ์ปลา การดูแลรักษาคุณภาพน้ำ ไปจนถึงการจัดการบรรจุพันธุ์ปลาอย่างถูกหลักวิชาการ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการขนส่งและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำให้มีอัตราการรอดสูงสุด

การเพาะและอนุบาลสัตว์น้ำ ถือเป็นหัวใจของการประมงน้ำจืด เนื่องจากเป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการผลิตสัตว์น้ำที่มีคุณภาพและยั่งยืน การที่นิสิตได้ลงมือฝึกปฏิบัติจริง ช่วยให้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อม คุณภาพน้ำ และสุขภาพของปลา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำฟาร์มประมงที่มีประสิทธิภาพ

ในระหว่างการเรียนรู้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัชพล การะเกตุ ได้ถ่ายทอดความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับ หลักการทางวิทยาศาสตร์ในการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ การดูแลระยะอนุบาล และการควบคุมคุณภาพน้ำในระบบเลี้ยง เพื่อให้นิสิตสามารถนำไปต่อยอดในการศึกษาและพัฒนาอาชีพด้านการประมงในอนาคต

การฝึกปฏิบัติยังเน้นการใช้วัสดุและทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เพื่อส่งเสริมแนวคิดด้าน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกให้กับนิสิตในการเป็นนักประมงรุ่นใหม่ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ

จากการฝึกทักษะในรายวิชานี้ นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการ บรรจุและขนส่งพันธุ์ปลา อย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการเคลื่อนย้ายสัตว์น้ำไปยังแหล่งเลี้ยงหรือปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ การเรียนรู้เชิงปฏิบัตินี้ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึกและทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพในสาขาวิทยาศาสตร์การประมง

กิจกรรม ส่งเสริมการเพาะและอนุบาลสัตว์น้ำ ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำจืด และการผลิตสัตว์น้ำอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่าง การพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร ส่งเสริมกิจกรรมลดคาร์บอนด้วยบริการจักรยานยืมปั่นฟรี

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยกองกิจการนิสิต ได้ดำเนินโครงการบริการ จักรยานยืมปั่นฟรี สำหรับนิสิตหอพัก เพื่อสนับสนุนการเดินทางที่ไม่ก่อมลพิษและช่วยให้นิสิตได้ออกกำลังกายคลายความเครียดในชีวิตประจำวัน

โครงการดังกล่าวมีจุดให้บริการจักรยานที่ป้อมยาม B2 ใกล้หอพัก 9 ซึ่งนิสิตสามารถเข้ามายืมใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นแนวทางที่ช่วยลดการพึ่งพารถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

การส่งเสริมการใช้จักรยานครั้งนี้ไม่เพียงช่วย ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ ของมหาวิทยาลัย แต่ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างวิถีการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการสร้างพฤติกรรมที่ดีให้นิสิตตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ จักรยานยังเป็นทางเลือกที่สนับสนุนการมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะนิสิตสามารถใช้เป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ง่ายและเข้าถึงได้ทุกวัน ซึ่งช่วยทั้งในด้านการดูแลสุขภาพร่างกายและการผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเรียน

โครงการนี้ยังมีความสำคัญในแง่ของการสร้าง ชุมชนสีเขียวภายในมหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนให้นิสิตใช้จักรยานแทนการใช้ยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการระหว่างการจัดการสิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิตของนิสิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมุ่งหวังให้บริการจักรยานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัฒนธรรมการเดินทางอย่างยั่งยืน พร้อมเป็นการกระตุ้นให้นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การดำเนินการดังกล่าวจึงถือเป็นทั้งการสร้างพื้นที่การเรียนรู้และเป็นการ ส่งเสริมกิจกรรมลดคาร์บอน อย่างเป็นรูปธรรม ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของทุกคนในชุมชนมหาวิทยาลัย

ม.นเรศวร ส่งเสริมการศึกษาและสร้างโอกาสการจ้างงานด้านสุขภาพ มอบทุนหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต 80 ทุน ประจำปี 2568

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ ประกาศรับสมัครนิสิตเพื่อขอรับ ทุนสนับสนุนการศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา 2568 จำนวน 80 ทุน เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่นิสิตที่มีความตั้งใจศึกษาด้านพยาบาลศาสตร์ และเพื่อเสริมสร้างกำลังคนคุณภาพในสายอาชีพด้านสุขภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ

การจัดสรรทุนการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมด้านการศึกษา พัฒนาศักยภาพของนิสิตให้มีความรู้และทักษะทางวิชาชีพที่ถูกต้องตามหลักมาตรฐาน พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้นิสิตมุ่งมั่นศึกษาจนสำเร็จการศึกษา และสามารถประกอบอาชีพในสายงานสุขภาพได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ ยังเป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านเศรษฐกิจและการจ้างงานภายในประเทศ

ทุนการศึกษานี้มีมูลค่า ทุนละ 40,000 บาทต่อคนต่อปี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของนิสิตและครอบครัว โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2568 และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเพื่อรับทุนใน วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2568

คุณสมบัติของผู้สมัคร ต้องเป็นนิสิตที่กำลังศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนเรศวร มีความประพฤติเรียบร้อย ตั้งใจศึกษา ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับของมหาวิทยาลัยอย่างเคร่งครัด และต้องไม่เคยได้รับทุนซ้ำซ้อนกับทุนอื่น รวมถึงต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในการสมัครขอรับทุน

ระยะเวลาในการให้ทุน แบ่งตามชั้นปีของนิสิต ดังนี้

  1. นิสิตชั้นปีที่ 1 ระยะเวลาการให้ทุนไม่เกิน 4 ปี
  2. นิสิตชั้นปีที่ 2 ระยะเวลาการให้ทุนไม่เกิน 3 ปี
  3. นิสิตชั้นปีที่ 3 ระยะเวลาการให้ทุนไม่เกิน 2 ปี
  4. นิสิตชั้นปีที่ 4 ระยะเวลาการให้ทุนไม่เกิน 1 ปี

นอกจากนี้ ยังมีการรับสมัครนิสิตเพิ่มเติมจำนวน 70 ทุนสำหรับนิสิตชั้นปีที่ 1 และ 10 ทุนสำหรับนิสิตชั้นปีอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 80 ทุน โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจนจบการศึกษา หากมีผลการเรียนและพฤติกรรมเป็นไปตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด

การมอบทุนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจสำคัญของ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มุ่งเน้นการสร้างบุคลากรด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมของกำลังคนเพื่อรองรับความต้องการในภาคสาธารณสุข ซึ่งจะนำไปสู่ การเกิดการจ้างงานในสายงานด้านสุขภาพ อย่างต่อเนื่องในอนาคต

โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการลงทุนทางการศึกษา การสร้างโอกาสในการทำงาน และการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมทั้งสร้างผลลัพธ์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว

ผู้สนใจสามารถสมัครขอรับทุนด้วยตนเอง และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0 5596 7939

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมแบ่งปันข้าวไข่เจียว น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับจิตอาสา จัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ภายใต้แนวคิด “แบ่งปันและยั่งยืน” โดยจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้แก่นิสิตและผู้เข้าร่วมกิจกรรม

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการแจกข้าวไข่เจียว ส้มตำ และอาหารพร้อมเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการแบ่งปันและส่งเสริมความมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมสังคม นิสิตทุกคนได้รับเชิญให้มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

นอกจากการรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว กิจกรรมยังส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงการลดขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยเชิญชวนนิสิตนำภาชนะส่วนตัวมาร่วมกิจกรรม เพื่อสนับสนุนแนวทางการลดขยะพลาสติก

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนิสิต มหาวิทยาลัย และจิตอาสา โดยการร่วมแรงร่วมใจในการจัดเตรียมอาหารและบริการให้กับเพื่อนนิสิต สร้างสังคมแห่งการแบ่งปันและความร่วมมือ

กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานิสิตในด้านคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้วิธีการจัดการอาหารอย่างคุ้มค่า ลดการสูญเสียอาหาร และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังช่วยสร้างความตระหนักในเรื่องความมั่นคงทางอาหารและการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ สำหรับนิสิตทุกคน ถือเป็นการสร้างเสริมทักษะการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการเรียนรู้ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

NU SEED ม.นเรศวร นำทีมผู้ประกอบการ Startup ร่วมการประชุมติดตามและประเมินผลการบ่มเพาะวิสาหกิจภาคเหนือตอนล่าง

วันอังคารที่ 15 – วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร (NU SEED) นำโดย ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยบุคลากรงานบ่มเพาะธุรกิจ ได้นำทีมผู้ประกอบการ Startup 2 ราย และ Pre-incubation 3 ราย เข้าร่วมการประชุมติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา เครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง รอบ 24 เดือน ณ ห้องประชุมเทาแสด อาคารศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร

การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และมีนายนรินทร์ พสุนธราธรรม เป็นประธานกรรมการประเมินฯ โดยมีมหาวิทยาลัยในเครือข่ายภาคเหนือตอนล่างเข้าร่วมทั้งสิ้น 6 สถาบัน

ภายในงานยังมีคณะกรรมการและผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานร่วมประเมิน อาทิ กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.), โครงการบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (กปว.), ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชน รวมทั้งผู้สังเกตการณ์จากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

การเข้าร่วมของผู้ประกอบการภายใต้การดูแลของ NU SEED แบ่งเป็น Startup 2 ราย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์หัวเชื้อจุลินทรีย์ และผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนสูงจากไข่ขาว และ Pre-incubation 3 ราย ได้แก่ บริการติดตั้งและออกแบบโซล่ารูฟท็อป ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงน้ำนมแม่ และผลิตภัณฑ์บริการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายและศักยภาพของธุรกิจที่อยู่ระหว่างการบ่มเพาะ

การประชุมติดตามและประเมินผลในครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยสะท้อนความก้าวหน้าของกระบวนการบ่มเพาะธุรกิจในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการสร้างมาตรฐานการดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านการพัฒนานวัตกรรมและการสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูง

การนำผู้ประกอบการเข้าร่วมเวทีประเมิน ยังเป็นส่วนหนึ่งของการ ส่งเสริม Startup ให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้รับคำแนะนำเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ และสามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายธุรกิจในอนาคต ตอกย้ำบทบาทของ NU SEED ในการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่พร้อมแข่งขันทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ เพื่อขับเคลื่อนระบบนิเวศธุรกิจนวัตกรรมในภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง ให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยี

NU SEED ยังคงยึดมั่นในพันธกิจการเป็นศูนย์กลางการบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรม เพื่อสร้างผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์ ใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ และพร้อมเติบโตไปสู่ความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

ม.นเรศวร ขอเรียกร้องให้ต่อต้านบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า สร้างสังคมปลอดบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ขอประกาศแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้ต่อต้านการใช้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมทั้งคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

การต่อสู้กับการสูบบุหรี่และการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภารกิจที่สำคัญในการส่งเสริม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG Goal 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ รวมถึงการป้องกันการสูบบุหรี่ที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ

อันตรายจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารเคมีอันตรายมากมาย แม้ว่าจะมีการโฆษณาว่ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารที่เป็นพิษที่สามารถก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ร้ายแรง การใช้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นภัยสุขภาพใหม่ที่มีการแพร่ระบาดในหมู่เยาวชนและวัยรุ่น ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาและอนาคตของสังคม

การคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้า มหาวิทยาลัยนเรศวรขอคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเฉพาะการที่มีข้อเสนอในการอนุญาตให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในบางกรณี เนื่องจากการยกเลิกการแบนจะทำให้การเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเยาวชนและกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการเสพติด เพิ่มโอกาสในการเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนโดยไม่จำเป็น และขัดแย้งกับความพยายามในการลดภาระจากโรคที่สามารถป้องกันได้ในระบบสาธารณสุขของประเทศ

การสนับสนุนความร่วมมือและการรณรงค์เพื่อสุขภาพที่ดี มหาวิทยาลัยนเรศวรขอสนับสนุนความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และบุคคลทั่วไป เพื่อร่วมกันต่อสู้และรณรงค์เพื่อลดการบริโภคบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านการจัดกิจกรรมสร้างความรู้ให้แก่ประชาชน รวมถึงการสนับสนุนมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการผลิต การจำหน่าย และการใช้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น

นอกจากนี้ยังควรมีการสนับสนุนการเข้าถึงการเลิกบุหรี่และการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างเข้มงวด ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และลดภาระโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ในประเทศ

การมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวรจะดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ให้แก่คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรในมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับผลกระทบของการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงการจัดทำโครงการสุขภาพที่สนับสนุนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดชนิดนี้ โดยผ่านการวิจัย งานวิชาการ การให้บริการสุขภาพ และการให้คำปรึกษาทางการแพทย์แก่ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่

ม.นเรศวร นำนิสิตศึกษาชายแดนตาก เรียนรู้สังคม เศรษฐกิจ และความร่วมมือข้ามพรมแดน

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 คณาจารย์และนิสิตในรายวิชาชายแดนศึกษา หลักสูตรการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุศรินทร์ เลิศชวลิตสกุล และอาจารย์กฤษณะ โชติสุทธิ์ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ อำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจสภาพสังคม เศรษฐกิจ และความร่วมมือข้ามพรมแดนในพื้นที่จริง

ในวันแรก คณะศึกษาดูงานได้เข้ารับฟังการบรรยายเกี่ยวกับ การทำงานของแม่ตาวคลินิก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ทั้งสองฝั่งชายแดน โดยเฉพาะการ ส่งเสริมให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ข้ามพรมแดน ที่มุ่งเน้นการดูแลกลุ่มประชากรเปราะบาง จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาการค้าชายแดนบริเวณแม่น้ำเมย และระบบขนส่งสินค้าที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2

ในวันที่สอง คณะได้เข้าศึกษาการจัดการศึกษาแก่เยาวชนไร้สถานะที่ ศูนย์การเรียนรู้ซูแมคี (Thoo Mweh Khee Learning Center) อำเภอพบพระ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมทั้งลงพื้นที่สังเกตการณ์การควบคุมชายแดนและการเคลื่อนย้ายของผู้คนและสินค้าที่บ้านหมื่นฤาชัยและบ้านวาเล่ย์ เพื่อเข้าใจความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับชายแดนอย่างรอบด้าน

ในช่วงบ่าย คณะได้เดินทางไปที่บ้านยะพอหรือบ้านเพาะช้าง เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของชาวกะเหรี่ยงที่สะท้อนถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างสมดุลและยั่งยืน จากนั้นได้ไปศึกษาการพัฒนาการท่องเที่ยวที่โค้ง 33 บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพใหม่ในการสร้างรายได้แก่ชุมชนชายแดน

ในวันสุดท้าย คณะศึกษาดูงานได้เข้าชมการ ค้าขายวัวที่ตลาดวัวโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปะ ซึ่งเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจชายแดน ก่อนจะปิดท้ายการศึกษาดูงานที่ตลาดริมเมย และจุดผ่านแดนถาวรที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 เพื่อเรียนรู้ภาพรวมของการค้าข้ามแดนและบรรยากาศเศรษฐกิจชายแดนอย่างใกล้ชิด

การศึกษาดูงานในครั้งนี้ได้เปิดมุมมองใหม่แก่นิสิต ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการสาธารณสุข ในพื้นที่ชายแดน ตลอดจนความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล

ที่สำคัญ การเรียนรู้นอกห้องเรียนครั้งนี้ยังเป็น การสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิต ตระหนักถึงปัญหาตามแนวชายแดน และเล็งเห็นบทบาทที่ตนเองสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยเฉพาะด้าน การให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ข้ามพรมแดน ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทั้งจิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อสังคม และการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืน

ม.นเรศวร ผนึกความร่วมมือภาคธุรกิจ ขับเคลื่อนสังคมสีเขียวด้วยการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ

วันที่ 3 ตุลาคม 2567

กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมการคัดแยกขยะเพื่อเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” จัดขึ้นโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ AIS โดยมี นายกัณต์กวี วิมุติ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต พร้อมด้วยบุคลากรกองกิจการนิสิต เข้าร่วมกิจกรรม ณ หอพักนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ผ่านภารกิจการคัดแยกและเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล AIS E-Waste+

การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างจิตสำนึกที่สำคัญให้แก่นิสิตและบุคลากร มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะในมหาวิทยาลัย แต่ยังช่วยสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนรอบข้างได้

แพลตฟอร์ม AIS E-Waste+ มีบทบาทสำคัญในการทำให้การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์มีความเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้จริง เป็นการผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน การร่วมมือเช่นนี้ช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการทรัพยากรและป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดจากการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกวิธี

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเปิดโอกาสให้นิสิตและบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง ผ่านการทิ้งขวดน้ำพลาสติกตามขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อสะสมข้อมูลเข้าสู่ระบบการแข่งขัน “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” โดยมี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

  1. ถ่ายรูปขวดน้ำ (กี่ขวดก็ได้)
  2. เข้าระบบกรอกข้อมูล
  3. แนบรูปถ่ายจากข้อ 1 แล้วกดร่วมกิจกรรม

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน ทุกคนสามารถตรวจสอบจำนวนขวดน้ำที่ตนเองได้ร่วมทิ้ง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมทั้งร่วมผลักดันให้มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือ “มอนอ” ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านความยั่งยืนในระดับประเทศ ภายใต้โครงการ Green University

การมีส่วนร่วมของนิสิตและบุคลากรในครั้งนี้ ยังเป็นการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงระบบ การเห็นคุณค่าของความร่วมมือ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต

ในเชิงกลยุทธ์ กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยขยายการรับรู้ในวงกว้างถึงปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์และความสำคัญของการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือ และสามารถต่อยอดไปสู่โครงการอื่น ๆ ในอนาคต

ท้ายที่สุด การจัดกิจกรรมคัดแยกขยะและการเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่มหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของการร่วมมือในการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่จะช่วยสร้างรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้มีความยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

ม.นเรศวร เปิดหอศิลป์ จัดนิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ และศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิด นิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 68 และ นิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ ครั้งที่ 39 ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในศิลปะสมัยใหม่ ตลอดถึงส่งเสริมให้มีการแสดงศักยภาพผลงานศิลปะให้มีคุณภาพสูง

นิทรรศการแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ จิตรกรรม ภาพพิมพ์ และสื่อผสม รวมทั้งสิ้น 64 ชิ้นงาน เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 27 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อให้ประชาชน นักศึกษา และผู้สนใจด้านศิลปะเข้าถึงผลงานได้อย่างกว้างขวาง

การจัดนิทรรศการครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการ ยกระดับการศึกษาและการเรียนรู้ด้านศิลปะ โดยเปิดพื้นที่หอศิลป์เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งสำหรับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และช่วยปลูกฝังความเข้าใจเชิงลึกต่อศิลปะสมัยใหม่

การสนับสนุนการจัดแสดงผลงานของศิลปินรุ่นเยาว์ยังช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างศิลปินต่างรุ่น ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่กำลังพัฒนาทักษะด้านศิลปะ นับเป็นการส่งเสริมศักยภาพบุคลากรสร้างสรรค์รุ่นใหม่ให้ก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญของสังคมในอนาคต

ด้านการพัฒนาเมืองและชุมชน การเปิดหอศิลป์ให้ประชาชนเข้าชมฟรีในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง ช่วยสร้างโอกาสให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเข้าถึงงานศิลป์อย่างทั่วถึง ทำให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นศูนย์กลางทางศิลปะที่มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนโดยรอบ

นอกจากนี้ การจัดนิทรรศการยังสะท้อนถึง การบูรณาการระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานด้านศิลปะ และชุมชน เพื่อสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และเป็นแบบอย่างของการใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง

นิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ และนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงเป็นทั้งเวทีเผยแพร่ศิลปะคุณภาพสูง และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองและการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการสร้างสังคมแห่งความรู้และความยั่งยืนในอนาคต

NU PLAYGROUND: ตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม NU PLAYGROUND ขึ้น ณ ลาน Playground หอในมอนอ โดยมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นพื้นที่แห่งความสุขและความสร้างสรรค์สำหรับนิสิตและบุคลากร พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักเรื่องการจัดการขยะ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ภายในงานมีการจัด โซนตลาดสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่นำเสนอสินค้าท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก และสินค้าที่ผลิตโดยนิสิตซึ่งเน้นการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ตลาดสีเขียวยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และพฤติกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของนิสิตกับชุมชนโดยรอบ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังรณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมใช้ภาชนะส่วนตัวเพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาขยะ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตได้ลงมือปฏิบัติและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวัน ควบคู่กับการจัด เวิร์กช็อปและการเสวนา เกี่ยวกับการลดขยะและการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ

การจัดงานได้รับการสนับสนุนจากหลายชมรมภายในมหาวิทยาลัย อาทิ ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ชมรมจิตอาสา และชมรมอื่น ๆ ซึ่งร่วมกันจัดกิจกรรม เช่น การรีไซเคิลขยะ การใช้พลังงานทางเลือก และการปลูกต้นไม้ในพื้นที่มหาวิทยาลัย กิจกรรมเหล่านี้มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังสร้างจิตสำนึกความสามัคคีและความรับผิดชอบร่วมกันในหมู่นิสิต

การดำเนินงาน NU PLAYGROUND แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการบูรณาการ แนวคิดสิ่งแวดล้อมเข้ากับวิถีชีวิตของนิสิตและบุคลากร ไม่เพียงแต่ในระดับกิจกรรม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนามหาวิทยาลัยในภาพรวมสู่ความยั่งยืน

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและการลดของเสีย ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาสังคมเมืองที่ยั่งยืนและปลอดขยะ โดยมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาชุมชนในวงกว้าง

NU PLAYGROUND จึงไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมหรือตลาดทั่วไป แต่เป็นเวทีเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นิสิตได้พัฒนาทักษะจริง เสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นแรงขับเคลื่อนสู่การสร้าง สังคมสีเขียวและยั่งยืน ซึ่งมหาวิทยาลัยนเรศวรตั้งใจผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin