Archives October 2024

ม.นเรศวร เปิดรับสมัครทุนการศึกษานิสิต ปี 2567 เพิ่มโอกาสทางการศึกษา

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 – สาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวรเข้าร่วมประชุมข้ามทวีปกับเครือข่ายนานาชาติ ระหว่างเวลา 14.30 น. ตามเวลาประเทศอิตาลี (19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) จนถึง 21.45 น. ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมการนำเสนอโครงการความร่วมมือด้านวิจัยและวิชาการทางการศึกษาตลอดชีวิต (LLL)

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างสาขาสังคมศึกษา สมาคมสังคมศึกษาสัมพันธ์ และเครือข่ายนานาชาติ The International Adult and Continuing Education (IACE) เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการศึกษา การวิจัย และการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศ

กิจกรรมดังกล่าวเน้นการแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ในการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาตลอดชีวิต รวมถึงการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างเท่าเทียม

โครงการความร่วมมือด้านการวิจัยและวิชาการนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการศึกษา การพัฒนาองค์ความรู้ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่ผู้เรียนทุกวัย

การเข้าร่วมประชุมข้ามทวีปครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการพัฒนาความรู้ด้านการศึกษาและสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับสากล เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และนวัตกรรมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับงาน The IACE Hall of Fame 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ University of Florence ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 7–9 พฤศจิกายน 2567 โดยทีมงานจะนำเสนอโครงการความร่วมมืออย่างเป็นทางการ

สาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ยังคงมุ่งมั่นสร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน

รับสมัครทุนการศึกษา นิสิตคณะวิทยาศาสตร์

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับสมัคร ทุนการศึกษานิสิต ประจำปี 2567 จำนวน 31 ทุน ทุนละ 5,000 บาท เพื่อสนับสนุนนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และมีผลการเรียนดี

คุณสมบัตินิสิตผู้สมัคร: นิสิตที่สามารถสมัครได้ต้องเป็น นิสิตคณะวิทยาศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 – 3 มี เกรดเฉลี่ยรวมทุกวิชา 2.00 ขึ้นไป และเป็นนิสิตที่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงไม่เคยถูกทัณฑ์บนหรือการลงโทษทางวินัย

ระยะเวลาการรับสมัคร: รับสมัครตั้งแต่ วันที่ 1 – 22 พฤศจิกายน 2567 โดยสามารถส่งเอกสารได้ในวันและเวลาราชการที่ งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์

การจัดการเอกสาร: นิสิต ไม่ต้องแนบผลการเรียน เนื่องจากทางคณะจะตรวจสอบผลการเรียนจากระบบทะเบียนนิสิต https://reg.nu.ac.th/ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินการ

วิธีการสมัคร: ผู้สนใจสามารถ ดาวน์โหลดใบสมัครและเงื่อนไข ได้ที่ https://shorturl.asia/P4C0x หลังจากนั้นกรอกเอกสารและยื่นที่งานกิจการนิสิตฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ประโยชน์ของทุนการศึกษา: ทุนการศึกษานี้ช่วยให้นิสิตที่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ลดความยากจน และสร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย SDG1 ขจัดความยากจน

ช่องทางสอบถาม: นิสิตสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ โทร 0 5596 3150 – 2 เพื่อรับคำแนะนำและความช่วยเหลือเกี่ยวกับการสมัคร

ม.นเรศวร จัดโครงการศึกษาดูงานเสริมความรู้ SDGs สู่พลเมืองโลกในสหประชาชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2567 – มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดโครงการศึกษาดูงานเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองโลกและความเข้าใจในการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยนิสิตได้เข้าศึกษาดูงานที่คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) และเยี่ยมชมสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

โครงการนี้มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมทั้งแสดงบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศในระดับสากล นอกจากนี้ยังเน้นการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษและการเจรจาในบริบทนานาชาติให้แก่นิสิตและบัณฑิต

การเข้าร่วมโครงการเปิดโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากการทำงานขององค์กรระหว่างประเทศและสถานทูต ทั้งในด้านการทูต การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการเสริมสร้างทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการเป็นพลเมืองโลก

โครงการศึกษาดูงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยนเรศวรภายใต้โครงการ NU GO UN เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเข้มข้นให้แก่นิสิต โดยคณะเภสัชศาสตร์สนับสนุนค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าที่พักสำหรับนิสิตจำนวนหนึ่ง

ความร่วมมือและการสนับสนุนดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสร้างโอกาสให้นิสิตเรียนรู้และเติบโตเป็นพลเมืองโลกที่มีความรู้และทักษะสำคัญในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการพัฒนาความรู้และทักษะที่มีคุณค่าให้แก่นิสิต เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมที่ดีและยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

โครงการศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นตัวอย่างของการบูรณาการความรู้ด้านการศึกษาและการสร้างโอกาสในการเรียนรู้เชิงปฏิบัติจริง สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนและการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ เตรียมความพร้อมให้นิสิตสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนในอนาคต

ที่มา: งานกิจการนิสิต คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร คว้ารางวัลชนะเลิศ โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์นให้โลกจำ Upvel 2”

นิสิตจิตอาสา มหาวิทยาลัยนเรศวร สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมูลค่า 30,000 บาท ในการแข่งขัน โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์นให้โลกจำ Upvel 2” ซึ่งเป็นเวทีการแข่งขันมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมุ่งเน้นการ ลดขยะ และ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ผ่านการเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติกใช้แล้ว โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทันสมัย ได้แก่ AIS E-Waste+ และ GC YOU เทิร์น

การแข่งขันครั้งนี้มีการจัดเก็บทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งาน และขวดพลาสติกที่สามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างถูกวิธี มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ส่งตัวแทนนิสิตจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัล ได้แก่ นายอลงกต ทาแก้วเมือง นางสาวภัคจิรา เงกสูงเนิน นายอดิศร แสงอรุณ และนางพรธิดา บุญยะโรจน์ หัวหน้างานบริการสวัสดิการนิสิต กองกิจการนิสิต พร้อมด้วยนางสาวอภิญญา ชำนิ นักวิชาการละครและดนตรี กองกิจการนิสิต เป็นที่ปรึกษาโครงการ

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้างต่อปัญหาขยะ และกระตุ้นให้นิสิต บุคลากร รวมถึงสังคมโดยรอบตระหนักถึงความสำคัญของการ ลดขยะ และการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ การแข่งขันยังเป็นกลไกสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมการคัดแยกขยะและการจัดการอย่างมีระบบในสถาบันการศึกษา

ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้ แสดงถึงพลังของนิสิตจิตอาสาที่ไม่เพียงแต่ลงมือปฏิบัติจริง แต่ยังเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้านสิ่งแวดล้อม การเข้าร่วมแข่งขันในโครงการดังกล่าวช่วยยกระดับทักษะการทำงานเป็นทีม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมร่วมสมัย

การเข้าร่วมโครงการ Green University ยังเป็นการต่อยอดนโยบายของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการก้าวสู่การเป็น Green University อย่างเต็มรูปแบบ ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการสร้างขยะ และจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย

การแข่งขันครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมกว่า 42 แห่งทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นของภาคการศึกษาไทยในการสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

ท้ายที่สุด ความสำเร็จในการคว้ารางวัลครั้งนี้ของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนและสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เห็นถึงความสำคัญของการ ลดขยะ และการ จัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมได้จริง

ม.นเรศวร ส่งเสริมกิจกรรมลดคาร์บอนด้วยบริการจักรยานยืมปั่นฟรี

มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยกองกิจการนิสิต ได้ดำเนินโครงการบริการ จักรยานยืมปั่นฟรี สำหรับนิสิตหอพัก เพื่อสนับสนุนการเดินทางที่ไม่ก่อมลพิษและช่วยให้นิสิตได้ออกกำลังกายคลายความเครียดในชีวิตประจำวัน

โครงการดังกล่าวมีจุดให้บริการจักรยานที่ป้อมยาม B2 ใกล้หอพัก 9 ซึ่งนิสิตสามารถเข้ามายืมใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นแนวทางที่ช่วยลดการพึ่งพารถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

การส่งเสริมการใช้จักรยานครั้งนี้ไม่เพียงช่วย ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ ของมหาวิทยาลัย แต่ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างวิถีการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการสร้างพฤติกรรมที่ดีให้นิสิตตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ จักรยานยังเป็นทางเลือกที่สนับสนุนการมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะนิสิตสามารถใช้เป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ง่ายและเข้าถึงได้ทุกวัน ซึ่งช่วยทั้งในด้านการดูแลสุขภาพร่างกายและการผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเรียน

โครงการนี้ยังมีความสำคัญในแง่ของการสร้าง ชุมชนสีเขียวภายในมหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนให้นิสิตใช้จักรยานแทนการใช้ยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการระหว่างการจัดการสิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิตของนิสิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมุ่งหวังให้บริการจักรยานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัฒนธรรมการเดินทางอย่างยั่งยืน พร้อมเป็นการกระตุ้นให้นิสิต บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การดำเนินการดังกล่าวจึงถือเป็นทั้งการสร้างพื้นที่การเรียนรู้และเป็นการ ส่งเสริมกิจกรรมลดคาร์บอน อย่างเป็นรูปธรรม ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของทุกคนในชุมชนมหาวิทยาลัย

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมแบ่งปันข้าวไข่เจียว น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับจิตอาสา จัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ภายใต้แนวคิด “แบ่งปันและยั่งยืน” โดยจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้แก่นิสิตและผู้เข้าร่วมกิจกรรม

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการแจกข้าวไข่เจียว ส้มตำ และอาหารพร้อมเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการแบ่งปันและส่งเสริมความมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมสังคม นิสิตทุกคนได้รับเชิญให้มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

นอกจากการรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว กิจกรรมยังส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงการลดขยะและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยเชิญชวนนิสิตนำภาชนะส่วนตัวมาร่วมกิจกรรม เพื่อสนับสนุนแนวทางการลดขยะพลาสติก

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนิสิต มหาวิทยาลัย และจิตอาสา โดยการร่วมแรงร่วมใจในการจัดเตรียมอาหารและบริการให้กับเพื่อนนิสิต สร้างสังคมแห่งการแบ่งปันและความร่วมมือ

กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานิสิตในด้านคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้วิธีการจัดการอาหารอย่างคุ้มค่า ลดการสูญเสียอาหาร และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กิจกรรมยังช่วยสร้างความตระหนักในเรื่องความมั่นคงทางอาหารและการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ สำหรับนิสิตทุกคน ถือเป็นการสร้างเสริมทักษะการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการเรียนรู้ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

NU SEED ม.นเรศวร นำทีมผู้ประกอบการ Startup ร่วมการประชุมติดตามและประเมินผลการบ่มเพาะวิสาหกิจภาคเหนือตอนล่าง

วันอังคารที่ 15 – วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2567 อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร (NU SEED) นำโดย ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยบุคลากรงานบ่มเพาะธุรกิจ ได้นำทีมผู้ประกอบการ Startup 2 ราย และ Pre-incubation 3 ราย เข้าร่วมการประชุมติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา เครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง รอบ 24 เดือน ณ ห้องประชุมเทาแสด อาคารศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร

การประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และมีนายนรินทร์ พสุนธราธรรม เป็นประธานกรรมการประเมินฯ โดยมีมหาวิทยาลัยในเครือข่ายภาคเหนือตอนล่างเข้าร่วมทั้งสิ้น 6 สถาบัน

ภายในงานยังมีคณะกรรมการและผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานร่วมประเมิน อาทิ กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.), โครงการบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (กปว.), ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชน รวมทั้งผู้สังเกตการณ์จากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

การเข้าร่วมของผู้ประกอบการภายใต้การดูแลของ NU SEED แบ่งเป็น Startup 2 ราย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์หัวเชื้อจุลินทรีย์ และผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนสูงจากไข่ขาว และ Pre-incubation 3 ราย ได้แก่ บริการติดตั้งและออกแบบโซล่ารูฟท็อป ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงน้ำนมแม่ และผลิตภัณฑ์บริการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายและศักยภาพของธุรกิจที่อยู่ระหว่างการบ่มเพาะ

การประชุมติดตามและประเมินผลในครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยสะท้อนความก้าวหน้าของกระบวนการบ่มเพาะธุรกิจในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการสร้างมาตรฐานการดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านการพัฒนานวัตกรรมและการสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูง

การนำผู้ประกอบการเข้าร่วมเวทีประเมิน ยังเป็นส่วนหนึ่งของการ ส่งเสริม Startup ให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้รับคำแนะนำเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ และสามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายธุรกิจในอนาคต ตอกย้ำบทบาทของ NU SEED ในการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่พร้อมแข่งขันทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ เพื่อขับเคลื่อนระบบนิเวศธุรกิจนวัตกรรมในภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง ให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยี

NU SEED ยังคงยึดมั่นในพันธกิจการเป็นศูนย์กลางการบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรม เพื่อสร้างผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์ ใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญ และพร้อมเติบโตไปสู่ความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

ม.นเรศวร ขอเรียกร้องให้ต่อต้านบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า สร้างสังคมปลอดบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ขอประกาศแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้ต่อต้านการใช้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมทั้งคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

การต่อสู้กับการสูบบุหรี่และการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภารกิจที่สำคัญในการส่งเสริม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG Goal 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ รวมถึงการป้องกันการสูบบุหรี่ที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ

อันตรายจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารเคมีอันตรายมากมาย แม้ว่าจะมีการโฆษณาว่ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารที่เป็นพิษที่สามารถก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ร้ายแรง การใช้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นภัยสุขภาพใหม่ที่มีการแพร่ระบาดในหมู่เยาวชนและวัยรุ่น ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาและอนาคตของสังคม

การคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้า มหาวิทยาลัยนเรศวรขอคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเฉพาะการที่มีข้อเสนอในการอนุญาตให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในบางกรณี เนื่องจากการยกเลิกการแบนจะทำให้การเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเยาวชนและกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการเสพติด เพิ่มโอกาสในการเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนโดยไม่จำเป็น และขัดแย้งกับความพยายามในการลดภาระจากโรคที่สามารถป้องกันได้ในระบบสาธารณสุขของประเทศ

การสนับสนุนความร่วมมือและการรณรงค์เพื่อสุขภาพที่ดี มหาวิทยาลัยนเรศวรขอสนับสนุนความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และบุคคลทั่วไป เพื่อร่วมกันต่อสู้และรณรงค์เพื่อลดการบริโภคบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านการจัดกิจกรรมสร้างความรู้ให้แก่ประชาชน รวมถึงการสนับสนุนมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการผลิต การจำหน่าย และการใช้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น

นอกจากนี้ยังควรมีการสนับสนุนการเข้าถึงการเลิกบุหรี่และการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างเข้มงวด ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และลดภาระโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ในประเทศ

การมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวรจะดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ให้แก่คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรในมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับผลกระทบของการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงการจัดทำโครงการสุขภาพที่สนับสนุนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดชนิดนี้ โดยผ่านการวิจัย งานวิชาการ การให้บริการสุขภาพ และการให้คำปรึกษาทางการแพทย์แก่ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่

ม.นเรศวร นำนิสิตศึกษาชายแดนตาก เรียนรู้สังคม เศรษฐกิจ และความร่วมมือข้ามพรมแดน

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 คณาจารย์และนิสิตในรายวิชาชายแดนศึกษา หลักสูตรการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุศรินทร์ เลิศชวลิตสกุล และอาจารย์กฤษณะ โชติสุทธิ์ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ อำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจสภาพสังคม เศรษฐกิจ และความร่วมมือข้ามพรมแดนในพื้นที่จริง

ในวันแรก คณะศึกษาดูงานได้เข้ารับฟังการบรรยายเกี่ยวกับ การทำงานของแม่ตาวคลินิก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ทั้งสองฝั่งชายแดน โดยเฉพาะการ ส่งเสริมให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ข้ามพรมแดน ที่มุ่งเน้นการดูแลกลุ่มประชากรเปราะบาง จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาการค้าชายแดนบริเวณแม่น้ำเมย และระบบขนส่งสินค้าที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2

ในวันที่สอง คณะได้เข้าศึกษาการจัดการศึกษาแก่เยาวชนไร้สถานะที่ ศูนย์การเรียนรู้ซูแมคี (Thoo Mweh Khee Learning Center) อำเภอพบพระ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมทั้งลงพื้นที่สังเกตการณ์การควบคุมชายแดนและการเคลื่อนย้ายของผู้คนและสินค้าที่บ้านหมื่นฤาชัยและบ้านวาเล่ย์ เพื่อเข้าใจความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับชายแดนอย่างรอบด้าน

ในช่วงบ่าย คณะได้เดินทางไปที่บ้านยะพอหรือบ้านเพาะช้าง เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของชาวกะเหรี่ยงที่สะท้อนถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างสมดุลและยั่งยืน จากนั้นได้ไปศึกษาการพัฒนาการท่องเที่ยวที่โค้ง 33 บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพใหม่ในการสร้างรายได้แก่ชุมชนชายแดน

ในวันสุดท้าย คณะศึกษาดูงานได้เข้าชมการ ค้าขายวัวที่ตลาดวัวโพธิ์ทอง ตำบลแม่ปะ ซึ่งเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจชายแดน ก่อนจะปิดท้ายการศึกษาดูงานที่ตลาดริมเมย และจุดผ่านแดนถาวรที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 เพื่อเรียนรู้ภาพรวมของการค้าข้ามแดนและบรรยากาศเศรษฐกิจชายแดนอย่างใกล้ชิด

การศึกษาดูงานในครั้งนี้ได้เปิดมุมมองใหม่แก่นิสิต ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการสาธารณสุข ในพื้นที่ชายแดน ตลอดจนความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล

ที่สำคัญ การเรียนรู้นอกห้องเรียนครั้งนี้ยังเป็น การสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิต ตระหนักถึงปัญหาตามแนวชายแดน และเล็งเห็นบทบาทที่ตนเองสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยเฉพาะด้าน การให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการแพทย์ข้ามพรมแดน ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทั้งจิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อสังคม และการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืน

ม.นเรศวร ผนึกความร่วมมือภาคธุรกิจ ขับเคลื่อนสังคมสีเขียวด้วยการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ

วันที่ 3 ตุลาคม 2567

กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรมการคัดแยกขยะเพื่อเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” จัดขึ้นโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ AIS โดยมี นายกัณต์กวี วิมุติ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต พร้อมด้วยบุคลากรกองกิจการนิสิต เข้าร่วมกิจกรรม ณ หอพักนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ผ่านภารกิจการคัดแยกและเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล AIS E-Waste+

การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างจิตสำนึกที่สำคัญให้แก่นิสิตและบุคลากร มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะในมหาวิทยาลัย แต่ยังช่วยสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนรอบข้างได้

แพลตฟอร์ม AIS E-Waste+ มีบทบาทสำคัญในการทำให้การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์มีความเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้จริง เป็นการผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน การร่วมมือเช่นนี้ช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการทรัพยากรและป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดจากการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกวิธี

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเปิดโอกาสให้นิสิตและบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง ผ่านการทิ้งขวดน้ำพลาสติกตามขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อสะสมข้อมูลเข้าสู่ระบบการแข่งขัน “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” โดยมี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

  1. ถ่ายรูปขวดน้ำ (กี่ขวดก็ได้)
  2. เข้าระบบกรอกข้อมูล
  3. แนบรูปถ่ายจากข้อ 1 แล้วกดร่วมกิจกรรม

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน ทุกคนสามารถตรวจสอบจำนวนขวดน้ำที่ตนเองได้ร่วมทิ้ง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมทั้งร่วมผลักดันให้มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือ “มอนอ” ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านความยั่งยืนในระดับประเทศ ภายใต้โครงการ Green University

การมีส่วนร่วมของนิสิตและบุคลากรในครั้งนี้ ยังเป็นการเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงระบบ การเห็นคุณค่าของความร่วมมือ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต

ในเชิงกลยุทธ์ กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยขยายการรับรู้ในวงกว้างถึงปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์และความสำคัญของการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือ และสามารถต่อยอดไปสู่โครงการอื่น ๆ ในอนาคต

ท้ายที่สุด การจัดกิจกรรมคัดแยกขยะและการเข้าร่วมแข่งขัน Green University “ทิ้งเทิร์น ให้โลกจำ Upvel 2” ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่มหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของการร่วมมือในการลดขยะและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ที่จะช่วยสร้างรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้มีความยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin