Archives January 2024

ม.นเรศวร จับมือ อาษา โปรดักชั่น พัฒนานิสิตและอาจารย์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสู่อนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับ บริษัท อาษา โปรดักชั่น จำกัด ณ ห้องประชุมนเรศวร 310 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากรจากคณะวิศวกรรมศาสตร์เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามครั้งสำคัญนี้

พิธีลงนามได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร และ รองศาสตราจารย์ ดร.อาษา ตั้งจิตสมคิด ประธานกรรมการบริษัท อาษา โปรดักชั่น จำกัด เป็นผู้ลงนามความร่วมมือ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กำพล ทรัพย์สมบูรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ คุณวิภา รัตนวงศาโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อาษา โปรดักชั่น จำกัด ลงนามในฐานะพยาน

ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือกับภาคเอกชน ในการยกระดับการเรียนการสอนและงานวิจัย โดยเน้นการพัฒนาและสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ในหลากหลายสาขา อาทิ Metaverse, Digital Twin, NFT, DeFi, GameFi, ปัญญาประดิษฐ์, วิทยาการข้อมูล, สถาปัตยกรรม, ศิลปกรรม, การเงิน, การตลาด, การแพทย์, งานอวกาศ และงานทางทะเล ซึ่งเป็นสาขาที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัลและ Disruptive Technology

นอกจากนี้ ความร่วมมือยังครอบคลุมถึง อุตสาหกรรมหลักที่มีศักยภาพ (First S-Curve) และ อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต (New S-Curve) รวมถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก

ข้อตกลงนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ การวิจัย และการสร้างเสริมความรู้เชิงปัญญาร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน การมีส่วนร่วมของบริษัท อาษา โปรดักชั่น จำกัด จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการนำเทคโนโลยีใหม่มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนและสร้างผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างบัณฑิตที่มีความรู้และทักษะที่ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยการลงนามครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประตูให้นิสิตและอาจารย์ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล

ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่พร้อมจะเชื่อมโยงองค์ความรู้กับภาคอุตสาหกรรม สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และกำลังคนคุณภาพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และสังคม

ม.นเรศวรจัด ‘มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo’ เฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ส่งเสริมสังคมสุขภาพดี

ในโอกาสครบรอบ 30 ปีแห่งการก่อตั้ง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรมสำคัญเพื่อเสริมสร้างการตระหนักรู้ด้านสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัยผ่านงาน “มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “สังคมสุขภาพดี Healthier Society” ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2567ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) จังหวัดพิษณุโลก งานมหกรรมสุขภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านสุขภาพ การส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ดีและยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบในทางบวกต่อสังคมโดยรวม

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนตาม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในงานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo ซึ่งเน้นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกช่วงวัย และการสร้างความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนในสังคม

สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) งานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo สอดคล้องกับ SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการดูแลสุขภาพให้กับประชาชนในทุกช่วงวัย โดยการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพและการป้องกันโรค รวมถึงการส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืน อันเป็นการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีในระยะยาว นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้ทั้งกับประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพที่ดี

กิจกรรมในงานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo 2023
  1. การอัพเดตความรู้ด้านวิชาการสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ การเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่องถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน กิจกรรมนี้จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมระบบสุขภาพของประเทศให้แข็งแกร่งและสามารถรองรับความต้องการของประชาชนในทุกด้านได้
  2. บริการตรวจสุขภาพฟรีกว่า 20 รายการ การจัดให้มีการตรวจสุขภาพฟรีกว่า 20 รายการเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนในทุกช่วงวัย ซึ่งรวมถึงการตรวจวินิจฉัยที่สำคัญ เช่น การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และการตรวจสุขภาพหัวใจ กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ประชาชนทราบถึงสถานะสุขภาพของตนเอง แต่ยังช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ ก่อนที่จะเกิดขึ้น การให้บริการตรวจสุขภาพฟรีเป็นหนึ่งในแนวทางในการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ
  3. การฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) การฝึกอบรมทักษะการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในชุมชนและลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะที่มีประโยชน์ในด้านสุขภาพ
  4. การเรียนรู้ศิลปะและดนตรีเพื่อการบำบัด การใช้ศิลปะและดนตรีเพื่อการบำบัดเป็นกิจกรรมที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพจิตและการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การบำบัดด้วยศิลปะและดนตรีสามารถช่วยลดความเครียดและสร้างความสมดุลในชีวิต การส่งเสริมสุขภาพจิตเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน นอกจากนี้ยังช่วยให้ประชาชนสามารถรับมือกับความเครียดและปัญหาชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. การสาธิตการทำอาหารเพื่อสุขภาพ การส่งเสริมการทำอาหารเพื่อสุขภาพเป็นการเน้นการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ลดการบริโภคเกลือ น้ำตาล และไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ กิจกรรมนี้ยังสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืน
  6. การรับบริจาคโลหิต การบริจาคโลหิตในงานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo เป็นกิจกรรมที่ช่วยรักษาชีวิตผู้ที่ต้องการเลือดในการรักษาโรคหรือในกรณีฉุกเฉิน การบริจาคโลหิตไม่เพียงแต่ช่วยในด้านสุขภาพ แต่ยังเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างชุมชนและบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลสุขภาพระดับชุมชน เป็นกิจกรรมที่สร้างความสมานฉันท์และเสริมสร้างจิตสำนึกทางสังคม
  7. การจัดการความสัมพันธ์ทางด้านความรักและสุขภาพทางเพศ การเสวนาและฝึกอบรมในด้านการจัดการความสัมพันธ์และสุขภาพทางเพศเป็นการเสริมสร้างความรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจในการดูแลสุขภาพทางเพศอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการส่งเสริมสิทธิและความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศและความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้สังคมมีความสมดุลและเคารพในสิทธิของผู้อื่น

การสร้างสังคมสุขภาพดีผ่านการร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชน ในการสร้างสังคมสุขภาพดีและยั่งยืน งานนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการให้บริการและความรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชน แต่ยังเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคสุขภาพ สร้างโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านการเสริมสร้างความรู้และการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การสร้างความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง การป้องกันโรค และการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกๆ ด้านตามหลักการของ SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ

ขอเชิญประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และร่วมกันสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีไปพร้อมกัน!
พบกันในงาน มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2567 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) จังหวัดพิษณุโลก.

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ส่งเสริมความร่วมมือรัฐ-เอกชน-การศึกษา พลิกโฉมธุรกิจนวัตกรรมโลจิสติกส์ไทย

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนและพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศจี ศิริไกร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ไชยยันต์ ชนะพรมมา ผู้แทนคณะอนุกรรมการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาและยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทยด้วย ดิจิทัลซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้โครงการ Reinventing University โดยมีศาสตราจารย์ ดร.กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม และรองศาสตราจารย์ ดร.วัชรพล สุขโหตุ คณบดีคณะโลจิสติกส์และดิจิทัลซัพพลายเชน ให้การต้อนรับ

นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าวชื่นชมมหาวิทยาลัยนเรศวรที่มีศักยภาพและความพร้อมในเชิงพื้นที่ โดยตั้งอยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง สามารถเชื่อมโยงกับแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ–ใต้ และตะวันออก–ตะวันตก ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางราง ที่เอื้อต่อการพัฒนาโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในอนาคต

โครงการนี้มุ่งเน้นการสร้างแพลตฟอร์มการบูรณาการ เพื่อแก้ปัญหาและให้คำปรึกษาด้านดิจิทัลซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ รวมถึง การส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้มีทักษะด้านดิจิทัล ที่สามารถนำไปใช้พัฒนาธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว

ศาสตราจารย์ ดร.กรกนก อิงคนินันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาโลจิสติกส์และซัพพลายเชนถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทั้งด้านวิศวกรรมดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบอัตโนมัติ และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนา เศรษฐกิจดิจิทัล และการสร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อรองรับอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีเป้าหมายในการ ส่งเสริมการสร้างบุคลากรด้านโลจิสติกส์ในศตวรรษที่ 21 ผ่านโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยของกระทรวง อว. โดยมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม (Value-Based Economy) และเชื่อมโยงความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ

การดำเนินงานดังกล่าวยังเป็นตัวอย่างของการสร้างความร่วมมือแบบ จตุรภาคี (Quadruple Helix) ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของไทยให้ก้าวทันต่อการแข่งขันระดับโลก

การติดตามผลโครงการครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการทำงานเชิงรุกของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเป็น ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านดิจิทัลซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ ที่จะช่วยพัฒนาทั้งเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับประเทศอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเสริมสร้างทักษะบุคลากร และการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในทุกภาคส่วน

สุดท้าย โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่พร้อมจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการ ส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยนวัตกรรม โลจิสติกส์ และซัพพลายเชน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันระดับนานาชาติ และขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดมหกรรมสุขภาพครบวงจร “MED NU Health Expo 2024” เฉลิมฉลอง 30 ปีคณะแพทยศาสตร์

วันอังคารที่ 2 มกราคม 2567 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดแถลงข่าวโครงการ “MED NU Health Expo 2024” ภายใต้หัวข้อ “สังคมสุขภาพดี Healthy Society” เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีคณะแพทยศาสตร์ พร้อมนำเสนอมหกรรมสุขภาพเพื่อประชาชน

ในพิธีเปิด รศ.ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย ผศ.พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ (รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร) อาจารย์แพทย์ และนิสิตแพทย์ ร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ

โครงการ MED NU Health Expo 2024 มุ่งเน้นการส่งเสริม สุขภาวะและคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขภาพ การตรวจสุขภาพ และการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ โดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG3 ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ประชาชนทุกท่านสามารถเข้าร่วมงาน MED NU Health Expo 2024 ได้ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2567 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

งานมหกรรมสุขภาพครั้งนี้จัดกิจกรรมครบ 5 หมวดเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ได้แก่ การตรวจสุขภาพ การให้ความรู้ด้านโภชนาการ สุขภาพจิต การป้องกันโรค และการสร้างสังคมสุขภาพดี โดย เข้าร่วมฟรี เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงสุขภาพที่เท่าเทียม

คณะแพทยศาสตร์ ม.นเรศวร มุ่งหวังว่ากิจกรรมนี้จะสร้าง ความตระหนักด้านสุขภาพ และสนับสนุนประชาชนให้มีวิถีชีวิตที่ สุขภาพดีและยั่งยืน อีกทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญและชุมชน

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและชมภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร https://med.nu.ac.th/home/index.php?language=&mod=more_detail&nID=19451 และลิงก์รายละเอียดงาน https://bit.ly/48mUT49 เพื่อร่วมสร้าง สังคมสุขภาพดีร่วมกัน

ม.นเรศวร ต้อนรับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตแคนาดา เพื่อหารือความร่วมมือด้านพลังงานและนวัตกรรม

วันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี และ รองศาสตราจารย์ ดร.อุษา พัดเกตุ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายต่างประเทศ ให้การต้อนรับ คุณนิจวรรณ ศรีวิบูลย์ Trade Commissioner ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย

การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับมหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดา โดยมุ่งเน้นด้าน EV Maintenance, Medicine, Cosmetics และ Natural Products Research Center

การหารือร่วมกันครอบคลุมการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานยานยนต์ไฟฟ้าและการบำรุงรักษา EV ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการใช้ พลังงานสะอาดและยั่งยืน และการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการวิจัยผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เพื่อส่งเสริม ความร่วมมือระหว่างประเทศ และสร้างเครือข่ายนักวิจัยระหว่างไทย-แคนาดา

การประชุมครั้งนี้ยังเน้นการสนับสนุน ความร่วมมือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนบุคลากร และการพัฒนางานวิจัยร่วม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือเชิงวิชาการกับต่างประเทศเพื่อสนับสนุน นวัตกรรมด้านพลังงานและเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับชาติและภูมิภาค

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ติดต่อได้ที่ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เว็บไซต์: https://www.sci.nu.ac.th/acadservice/index.php โทรศัพท์: 055-963144 อีเมล: watcharaju@nu.ac.th

ม.นเรศวร จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารด้านจรรยาบรรณและจริยธรรม เสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารด้านจรรยาบรรณและจริยธรรม ณ ห้องประชุมเอกาทศรถ 301 อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมแสดงสัญลักษณ์รณรงค์การต่อต้านการทุจริตอย่างเป็นทางการ

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการอบรมแนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ITA) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้บริหารและบุคลากรทุกหน่วยงาน โดยมี นายภิญโญยศ ม่วงสมมุข เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ และนายอดิพงษ์ อทุน เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตปฏิบัติการ จากสำนักประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เกียรติเป็นวิทยากร

มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 350 คน ประกอบด้วยผู้บริหารระดับมหาวิทยาลัย ระดับคณะ/วิทยาลัย หน่วยงานระดับกอง หัวหน้างาน บุคลากรที่รับผิดชอบด้านการประเมิน ITA และตัวแทนนิสิต โดยทุกฝ่ายได้ร่วมกันเรียนรู้หลักการและเกณฑ์การประเมินที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้

รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพด้านคุณธรรมและความโปร่งใส ว่าเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยนเรศวรยึดถือมาโดยตลอด โดยตั้งเป้าหมายให้บุคลากรทุกระดับและนิสิตทุกชั้นปี ตระหนักถึงการปฏิบัติงานและการดำเนินชีวิตด้วยหลักคุณธรรมและความโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และยกระดับคุณภาพการบริการของมหาวิทยาลัย

การจัดโครงการในครั้งนี้ยังมุ่งหวังสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปราศจากการทุจริต โดยเน้นย้ำถึงการสร้างบัณฑิตที่มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ พร้อมทั้งสามารถนำความรู้และค่านิยมที่ถูกต้องไปขับเคลื่อนสังคมอย่างสร้างสรรค์

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังถือว่าการเสริมสร้างความโปร่งใสเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการพัฒนาองค์กร ทั้งด้านการบริหารจัดการภายในและการให้บริการแก่สังคม เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการเป็นสถาบันการศึกษาที่โปร่งใส มีมาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ

การอบรมในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความรู้เชิงปฏิบัติแก่ผู้บริหารและบุคลากร แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างความเข้มแข็งด้านคุณธรรมในมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกทั้งต่อองค์กรและต่อสังคมโดยรวม

ด้วยการยึดมั่นในหลักการโปร่งใสและคุณธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำบทบาทในการเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่พร้อมขับเคลื่อนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างสังคมที่ปราศจากการทุจริต

ม.นเรศวร ชวนอาจารย์พัฒนาหลักสูตร UPSKILL/RESKILL เสริมทักษะตลอดชีวิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรเชิญชวนอาจารย์ทุกท่านส่งข้อเสนอโครงการพัฒนาหลักสูตรภายใต้หัวข้อ “เรียนรู้ตลอดชีวิตและพัฒนาทักษะเพื่ออนาคต UPSKILL/RESKILL” ประจำปี 2567 โดยมุ่งเน้นการสร้างโอกาสการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่

โครงการนี้เปิดรับหลักสูตรที่เหมาะสำหรับบุคคลวัยทำงาน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการเข้าถึงทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจสมัยใหม่

หลักสูตรด้านดิจิทัลประกอบด้วย Data Science and Analytics, Cloud Computing Solutions, Cybersecurity และ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งเป็นทักษะสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในยุคเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ด้านอุตสาหกรรมการผลิต ครอบคลุม Advanced Manufacturing, Technology Services, Advanced Materials, Robotics and Automation และ Advanced Precision Engineering Technique เพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังคนให้รองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

หลักสูตรด้านความยั่งยืนมุ่งเน้น Net Zero Strategy, Carbon Neutrality Implementation และ International Environmental Standards เพื่อสร้างความตระหนักและความรู้ความเข้าใจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและการจัดการสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังเปิดรับหลักสูตรด้านอื่น ๆ เช่น Healthcare for Aging Society, Softpower และ Entrepreneurial Management เพื่อส่งเสริมทักษะหลากหลายและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน

อาจารย์ที่สนใจสามารถส่งข้อเสนอและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จนถึงวันที่ 22 มกราคม 2567 โดยสามารถลงทะเบียนผ่าน https://shorturl.asia/sdqQ8 หรือสอบถามได้ที่ Satarutsamee.sa@nu.ac.th และโทร 081-5338729 ซึ่งโครงการนี้มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะระหว่างมหาวิทยาลัยและผู้เรียนอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร ส่งเสริมการเรียนรู้และความเท่าเทียมทางการศึกษา

วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดประชุมชี้แจงรายละเอียดทุนการศึกษาผ่านคณะวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2566 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สัญญา เครือหงษ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ให้เกียรติเป็นวิทยากรและกล่าวให้โอวาทแก่นิสิตผู้เข้าร่วมงาน ณ ห้อง SC1-210 อาคารบริหาร คณะวิทยาศาสตร์

ในการประชุมครั้งนี้ ได้แนะนำทุนการศึกษา ปตท.สผ. โครงการเอส 1 ประเภท “เรียนดี อันดับที่ 1 ของสาขาวิชา” จำนวน 8 ทุน ทุนละ 2,500 บาท เพื่อส่งเสริมนิสิตที่มีผลการเรียนดีเด่นและสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีทุนการศึกษา ปตท.สผ. โครงการเอส 1 ประเภท “เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์” จำนวน 8 ทุน ทุนละ 10,000 บาท ซึ่งมุ่งเน้นให้นิสิตที่มีผลการเรียนดีแต่ประสบปัญหาทางการเงิน สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม

คณะวิทยาศาสตร์ยังได้มอบทุนการศึกษานิสิตของคณะ จำนวน 15 ทุน ทุนละ 5,000 บาท เพื่อสนับสนุนนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษาต่อเนื่อง

การประชุมครั้งนี้ช่วยให้นิสิตเข้าใจรายละเอียดการสมัคร การพิจารณาคุณสมบัติ และเงื่อนไขการรับทุน พร้อมทั้งสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมุ่งมั่นในการเรียนและพัฒนาตนเอง

นอกจากการให้ข้อมูลด้านทุนการศึกษาแล้ว งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ยังเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิตเห็นคุณค่าของการศึกษาและความสำคัญของการวางแผนทางการเงินเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในระยะยาว

การประชุมและมอบทุนการศึกษาครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรการเรียนรู้ และสนับสนุนให้บัณฑิตมีคุณภาพพร้อมต่อยอดการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองในอนาคต

คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.นเรศวร จัดกิจกรรม Research Day ครั้งที่ 1 ส่งเสริมต่อยอดสู่งานวิจัยเชิงพาณิชย์

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดกิจกรรม Research Day ครั้งที่ 1 ภายใต้ “โครงการพัฒนาระบบสนับสนุนการต่อยอดงานวิจัยสู่การวิจัยเชิงพาณิชย์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการวิจัย ตลอดจนเสริมสร้างทักษะที่สำคัญให้แก่อาจารย์และนักวิจัยรุ่นใหม่ในการพัฒนาผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและสังคม

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การพัฒนาหัวข้อวิจัยที่มีศักยภาพในการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์” เพื่อเป็นแนวทางให้แก่นักวิจัยสามารถพัฒนาผลงานที่ไม่เพียงตอบโจทย์วิชาการ แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงธุรกิจและอุตสาหกรรม

ภายในกิจกรรมมีคณาจารย์และนักวิจัยของคณะวิศวกรรมศาสตร์เข้าร่วมกว่า 40 คน โดยผู้เข้าร่วมได้รับโอกาสเรียนรู้แนวทางการกำหนดประเด็นวิจัย การออกแบบกระบวนการพัฒนา และการเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นทักษะสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมกับความต้องการของตลาด

การจัดกิจกรรม Research Day ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมการวิจัยเชิงพาณิชย์ภายในคณะ โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างสนับสนุนที่เข้มแข็ง อันจะช่วยผลักดันให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรมและสังคมไทย

นอกจากนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ยังได้วางแผนจัดกิจกรรม Research Day อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน โดยกำหนดหัวข้อการบรรยายและเวิร์กชอปที่หลากหลาย เพื่อให้คณาจารย์และนักวิจัยมีโอกาสพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ อย่างรอบด้าน และสร้างความพร้อมในการแข่งขันในระดับนานาชาติ

การพัฒนาโครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ” (University for Entrepreneurial Society) ซึ่งมุ่งเน้นการผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยนเรศวรให้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานความรู้และการสร้างผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ

การจัดกิจกรรม Research Day ครั้งนี้ จึงไม่เพียงเป็นการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านการวิจัยเชิงลึก แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการ ส่งเสริมต่อยอดสู่งานวิจัยเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างมูลค่าและประโยชน์ต่อสังคมและอุตสาหกรรมในวงกว้าง

ม.นเรศวร ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรม Waste Towers ครั้งที่ 2

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรม Waste Towers ครั้งที่ 2 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นเป้าหมายที่ 11 (SDG 11) การสร้างเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 12 (SDG 12) การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน

จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรม Waste Towers มุ่งสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับนิสิตและบุคลากร ผ่านการแข่งขันเก็บขยะในพื้นที่มหาวิทยาลัย ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ

รูปแบบการจัดกิจกรรม งานครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้สมัครแข่งขันเป็นทีม ทีมละ 1-3 คน โดยเป้าหมายคือการเก็บขยะภายในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วนำมาชั่งน้ำหนัก ทีมที่รวบรวมขยะได้มากที่สุดจะได้รับรางวัลตามลำดับดังนี้:

  • รางวัลชนะเลิศ: 2,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1: 1,500 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2: 1,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3: 500 บาท
  • รางวัลชมเชย: 200 บาท (3 รางวัล)
กำหนดการ
  • สมัครเข้าร่วม: ได้ที่ แบบฟอร์มออนไลน์ ภายในวันศุกร์ที่ 19 มกราคม 2567 เวลา 20:00 น.
  • วันจัดกิจกรรม: วันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2567
    • ลงทะเบียน: 09:00 – 09:30 น.
    • สถานที่: โถงใต้อาคารเรียนรวม คณะวิศวกรรมศาสตร์ (ตึก EN)

ความสำคัญของกิจกรรม กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมาย SDG 11 และ 12 ของมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเน้นการสร้างชุมชนที่สะอาดและเป็นระเบียบ พร้อมส่งเสริมการจัดการขยะอย่างยั่งยืน ทั้งยังช่วยสร้างความสามัคคีและจิตอาสาในชุมชนมหาวิทยาลัย

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีไปพร้อมกันใน Waste Towers ครั้งที่ 2!

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin