รับสมัคร นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ทุน กสศ. ปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 ทุน

มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เปิดรับสมัครนักศึกษาสำหรับ หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล (PNNU) รุ่นที่ 15 สำหรับปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 ทุน โดยมอบ ทุนการศึกษาเรียนฟรี 1 ปี พร้อมทั้งมี เงินเดือนให้ระหว่างการเรียน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการประกอบอาชีพผู้ช่วยพยาบาล และต้องการได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความตั้งใจและผลการเรียนที่ดี

ส่งเสริม SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ

ทุนการศึกษานี้เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้าง SDG 4 หรือ การศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวรตระหนักถึงความสำคัญของการให้โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาในสาขาวิชาชีพที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน การให้ทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาที่มีฐานะยากจน แต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะและความสามารถในการทำงานที่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เรียนและชุมชนในระยะยาว

สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ

ทุนการศึกษานี้ยังสอดคล้องกับ SDG 10 หรือ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการให้โอกาสทางการศึกษากับกลุ่มนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความสามารถและตั้งใจจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะในสาขาวิชาชีพที่มีความสำคัญต่อสังคม เช่น อาชีพผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเป็นอาชีพที่ขาดแคลนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุข การให้ทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา แต่ยังช่วยเสริมสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับผู้เรียน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสทางการงานที่ดีขึ้น และสามารถยกระดับชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมได้

ข้อมูลและคุณสมบัติของผู้สมัคร

ทุนการศึกษานี้เปิดรับสมัครสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ และมีผลการเรียนดี ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ของการขับเคลื่อน SDG 10 ในการลดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยให้โอกาสแก่นักศึกษาที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทรัพยากรในการศึกษาต่อในระดับสูงได้มีโอกาสศึกษาต่อและพัฒนาทักษะในอาชีพผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงในภาคการแพทย์และการสาธารณสุข

ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่รักในอาชีพผู้ช่วยพยาบาลและมีความตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองในสายอาชีพนี้ โดยการเข้าศึกษาในหลักสูตรที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในวงการการแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถในการทำงานได้อย่างมีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของสังคม

การเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 17: การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ทุนการศึกษานี้ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างพันธมิตรที่สำคัญระหว่างมหาวิทยาลัย, นักศึกษา, และหน่วยงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนการศึกษาและการพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมมือกับ กองทุนส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิต (กสศ.) ในการให้ทุนการศึกษานี้ ซึ่งเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยไม่แบ่งแยกทางเศรษฐกิจและสังคม

ทุนการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาอาชีพที่มีคุณภาพและยั่งยืนให้กับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองในสาขาอาชีพที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคม การมอบทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนาทักษะเพื่อรองรับตลาดแรงงานที่ต้องการความสามารถในด้านการแพทย์และสาธารณสุข

โครงการนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน SDG 4 และ SDG 10 โดยให้โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม รวมถึงการสร้างอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับผู้เรียนในอนาคต.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ผ่านทาง Line OA : https://lin.ee/e6DDQaJ หรือ Line OA: @694nsyob
ติดตามข่าวสารผ่านเพจ หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ม.นเรศวร PNNU >> https://web.facebook.com/profile.php?id=100090172741425
เข้าไปสมัครด่วนเลยจ้าหรือติดตามข้อมูลได้ที่เว๊บไซต์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดใหญ่ มหกรรมหนังสือ NU Book Fair ครั้งที่ 24

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้และการเข้าถึงแหล่งความรู้สาธารณะ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 11) เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านและการศึกษาให้กับนิสิต บุคลากร และประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก

มหกรรมหนังสือ NU Book Fair ครั้งที่ 24 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 30 มกราคม 2567 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ (QS) โดยมี ผศ.ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย รศ.ดร.ภญ.รัตติมา จีนาพงษา ผู้อำนวยการสำนักหอสมุด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า เพื่อส่งเสริมการอ่านและสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของหนังสือในทุกภาคส่วน

งานนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าร่วมเลือกซื้อหนังสือหลากหลายประเภทจากผู้จำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริม เช่น การเสวนาวิชาการ การแนะนำหนังสือใหม่ และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจในการอ่าน

การจัดมหกรรมหนังสือนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และการเข้าถึงแหล่งความรู้สำหรับทุกคน ทั้งนิสิต บุคลากร และประชาชนทั่วไป โดยหวังว่างานนี้จะช่วยปลูกฝังความรักในการอ่าน และสนับสนุนการพัฒนาชุมชนให้แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว

ม.นเรศวรจัด ‘มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo’ เฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ส่งเสริมสังคมสุขภาพดี

ในโอกาสครบรอบ 30 ปีแห่งการก่อตั้ง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรมสำคัญเพื่อเสริมสร้างการตระหนักรู้ด้านสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัยผ่านงาน “มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “สังคมสุขภาพดี Healthier Society” ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2567ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) จังหวัดพิษณุโลก งานมหกรรมสุขภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านสุขภาพ การส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ดีและยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบในทางบวกต่อสังคมโดยรวม

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนตาม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในงานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo ซึ่งเน้นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกช่วงวัย และการสร้างความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนในสังคม

สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) งานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo สอดคล้องกับ SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการดูแลสุขภาพให้กับประชาชนในทุกช่วงวัย โดยการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพและการป้องกันโรค รวมถึงการส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืน อันเป็นการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีในระยะยาว นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้ทั้งกับประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพที่ดี

กิจกรรมในงานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo 2023
  1. การอัพเดตความรู้ด้านวิชาการสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ การเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่องถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน กิจกรรมนี้จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมระบบสุขภาพของประเทศให้แข็งแกร่งและสามารถรองรับความต้องการของประชาชนในทุกด้านได้
  2. บริการตรวจสุขภาพฟรีกว่า 20 รายการ การจัดให้มีการตรวจสุขภาพฟรีกว่า 20 รายการเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนในทุกช่วงวัย ซึ่งรวมถึงการตรวจวินิจฉัยที่สำคัญ เช่น การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และการตรวจสุขภาพหัวใจ กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ประชาชนทราบถึงสถานะสุขภาพของตนเอง แต่ยังช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ ก่อนที่จะเกิดขึ้น การให้บริการตรวจสุขภาพฟรีเป็นหนึ่งในแนวทางในการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ
  3. การฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) การฝึกอบรมทักษะการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในชุมชนและลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะที่มีประโยชน์ในด้านสุขภาพ
  4. การเรียนรู้ศิลปะและดนตรีเพื่อการบำบัด การใช้ศิลปะและดนตรีเพื่อการบำบัดเป็นกิจกรรมที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพจิตและการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การบำบัดด้วยศิลปะและดนตรีสามารถช่วยลดความเครียดและสร้างความสมดุลในชีวิต การส่งเสริมสุขภาพจิตเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน นอกจากนี้ยังช่วยให้ประชาชนสามารถรับมือกับความเครียดและปัญหาชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. การสาธิตการทำอาหารเพื่อสุขภาพ การส่งเสริมการทำอาหารเพื่อสุขภาพเป็นการเน้นการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ลดการบริโภคเกลือ น้ำตาล และไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ กิจกรรมนี้ยังสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืน
  6. การรับบริจาคโลหิต การบริจาคโลหิตในงานมหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo เป็นกิจกรรมที่ช่วยรักษาชีวิตผู้ที่ต้องการเลือดในการรักษาโรคหรือในกรณีฉุกเฉิน การบริจาคโลหิตไม่เพียงแต่ช่วยในด้านสุขภาพ แต่ยังเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างชุมชนและบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลสุขภาพระดับชุมชน เป็นกิจกรรมที่สร้างความสมานฉันท์และเสริมสร้างจิตสำนึกทางสังคม
  7. การจัดการความสัมพันธ์ทางด้านความรักและสุขภาพทางเพศ การเสวนาและฝึกอบรมในด้านการจัดการความสัมพันธ์และสุขภาพทางเพศเป็นการเสริมสร้างความรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจในการดูแลสุขภาพทางเพศอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการส่งเสริมสิทธิและความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศและความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้สังคมมีความสมดุลและเคารพในสิทธิของผู้อื่น

การสร้างสังคมสุขภาพดีผ่านการร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชน ในการสร้างสังคมสุขภาพดีและยั่งยืน งานนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการให้บริการและความรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชน แต่ยังเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคสุขภาพ สร้างโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านการเสริมสร้างความรู้และการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การสร้างความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง การป้องกันโรค และการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกๆ ด้านตามหลักการของ SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ

ขอเชิญประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และร่วมกันสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีไปพร้อมกัน!
พบกันในงาน มหกรรมสุขภาพ MED NU Health Expo ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2567 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) จังหวัดพิษณุโลก.

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ติดตั้งกังหันพลังงานแสงอาทิตย์ บำบัดน้ำเสีย ลดใช้พลังงานไฟฟ้า

มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่ง SDG 6 ว่าด้วยการจัดการน้ำสะอาดและสุขาภิบาลเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นพัฒนา

หนึ่งในโครงการสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว คือ โครงการเครื่องเติมอากาศกังหันตีน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar-Powered Aerator) โดยกองอาคารสถานที่ของมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องเติมอากาศที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและยั่งยืน เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ บำบัดน้ำเสีย และลดปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย

เครื่องเติมอากาศนี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนพลังงานไฟฟ้าจากมอเตอร์ AC 2 แรงม้า (2Hp) ซึ่งช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ หากเปรียบเทียบกับการใช้งานมอเตอร์ AC วันละ 5-7 ชั่วโมง เครื่องเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 9,000 – 12,000 บาทต่อปี ต่อเครื่อง นอกจากนี้ การติดตั้งทั้งหมด 16 เครื่องในบริเวณพื้นที่น้ำสำคัญ ได้แก่

  • สระสองกษัตริย์
  • สระบรมดิลก
  • สระเอกกษัตริย์
  • สระมณีรัตนา
  • สระน้ำประตู 6

นอกจากผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจแล้ว โครงการนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมาย SDG 6 ในการส่งเสริมการเข้าถึงน้ำสะอาดอย่างยั่งยืนและสนับสนุนการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำเร็จที่ยั่งยืน โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดการใช้พลังงานและประหยัดค่าไฟฟ้า แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เทคโนโลยีสีเขียวในภาคการศึกษา โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเสริมสร้างจิตสำนึกให้บุคลากรและนักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและพลังงาน

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงเดินหน้าส่งเสริมโครงการที่สอดคล้องกับ SDGs เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ม.นเรศวร ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรม Waste Towers ครั้งที่ 2

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรม Waste Towers ครั้งที่ 2 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นเป้าหมายที่ 11 (SDG 11) การสร้างเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 12 (SDG 12) การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน

จุดมุ่งหมายของกิจกรรม กิจกรรม Waste Towers มุ่งสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับนิสิตและบุคลากร ผ่านการแข่งขันเก็บขยะในพื้นที่มหาวิทยาลัย ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ

รูปแบบการจัดกิจกรรม งานครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้สมัครแข่งขันเป็นทีม ทีมละ 1-3 คน โดยเป้าหมายคือการเก็บขยะภายในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วนำมาชั่งน้ำหนัก ทีมที่รวบรวมขยะได้มากที่สุดจะได้รับรางวัลตามลำดับดังนี้:

  • รางวัลชนะเลิศ: 2,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1: 1,500 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2: 1,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3: 500 บาท
  • รางวัลชมเชย: 200 บาท (3 รางวัล)
กำหนดการ
  • สมัครเข้าร่วม: ได้ที่ แบบฟอร์มออนไลน์ ภายในวันศุกร์ที่ 19 มกราคม 2567 เวลา 20:00 น.
  • วันจัดกิจกรรม: วันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2567
    • ลงทะเบียน: 09:00 – 09:30 น.
    • สถานที่: โถงใต้อาคารเรียนรวม คณะวิศวกรรมศาสตร์ (ตึก EN)

ความสำคัญของกิจกรรม กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมาย SDG 11 และ 12 ของมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเน้นการสร้างชุมชนที่สะอาดและเป็นระเบียบ พร้อมส่งเสริมการจัดการขยะอย่างยั่งยืน ทั้งยังช่วยสร้างความสามัคคีและจิตอาสาในชุมชนมหาวิทยาลัย

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีไปพร้อมกันใน Waste Towers ครั้งที่ 2!

NU Fitness GYM พื้นที่ส่งเสริมสุขภาพในมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของนิสิตและบุคลากรในมหาวิทยาลัย ผ่านการดำเนินงานหลายด้านเพื่อสนับสนุนการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยหนึ่งในนโยบายที่สำคัญคือการส่งเสริมการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมาย SDGs 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อให้สมาชิกในมหาวิทยาลัยมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ

NU Fitness GYM: พื้นที่ส่งเสริมสุขภาพในมหาวิทยาลัย ในปัจจุบัน การดูแลสุขภาพร่างกายกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการเรียนการสอนและการทำงานที่ใช้เวลานาน การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถช่วยลดความเครียด, ปรับสมดุลของร่างกาย, และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงได้จัดเตรียม NU Fitness GYM ซึ่งเป็นศูนย์ฟิตเนสที่ครบครันและสามารถรองรับความต้องการของนิสิตและบุคลากรในการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพของตนเอง

NU Fitness GYM ถูกออกแบบให้มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและหลากหลายชนิด ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งสำหรับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทั่วไปและการฝึกซ้อมในระดับที่มีความเข้มข้น รวมถึงการมีพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การยืดเหยียดร่างกาย, การใช้เครื่องคาร์ดิโอ, เครื่องเวท, และการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับการฝึกโยคะและการทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ

การเปิดให้บริการของ NU Fitness GYM : NU Fitness GYM เปิดให้บริการในทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 20.00 น. โดยจะมีการงดให้บริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือในวันที่มหาวิทยาลัยมีการประกาศหยุดทำการ ซึ่งทำให้ทั้งนิสิตและบุคลากรสามารถเข้ามาใช้บริการฟิตเนสได้อย่างสะดวกสบายในช่วงเวลาที่กำหนด การเปิดให้บริการในช่วงเวลานี้ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงกิจกรรมการออกกำลังกายได้ในเวลาว่างจากการเรียนหรือการทำงาน

ส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ นอกจากการให้บริการฟิตเนสเพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายแล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมุ่งเน้นให้การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาร่างกายให้แข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเครียด เพิ่มพลังงานและสมาธิ รวมทั้งช่วยเพิ่มความสุขและเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองได้

กิจกรรมการออกกำลังกายสามารถช่วยบรรเทาความเครียดจากการเรียนและการทำงานที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการให้พื้นที่ที่ดีและอุปกรณ์ที่ครบครันที่ NU Fitness GYM นั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สมาชิกในมหาวิทยาลัยสามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี เช่น โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, โรคอ้วน และความผิดปกติทางสุขภาพจิต

สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs 3 การมี NU Fitness GYM ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวรนั้นสอดคล้องกับ เป้าหมาย SDGs 3 หรือ “การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน นอกจากการจัดพื้นที่ออกกำลังกายแล้ว ยังมีการส่งเสริมการออกกำลังกายในลักษณะต่างๆ ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกและมีความสุข

การให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกายของนิสิตและบุคลากรในมหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่เป็นการช่วยลดปัญหาสุขภาพในระยะสั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีในระยะยาว สร้างพื้นฐานที่ดีให้กับการเรียนรู้และการทำงานในอนาคต นอกจากนี้ยังสามารถเป็นต้นแบบในการสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพอย่างยั่งยืนในชุมชน

การเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับชุมชน การสร้างพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายภายในมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่เพียงแต่มีผลดีต่อสมาชิกในมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อชุมชนโดยรอบได้ โดยการส่งเสริมให้มีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ดีและส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีในระยะยาว การให้บริการฟิตเนสยังสามารถสร้างการเรียนรู้ที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพและกระตุ้นให้บุคคลภายในชุมชนมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและการดูแลตนเองในด้านต่างๆ

ความร่วมมือกับสถาบันสุขภาพ เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในด้านการศึกษา, การวิจัย และการให้บริการแก่สังคม โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมาย SDGs 3 (การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDGs 17 (การเสริมสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) การร่วมมือระหว่างคณะเภสัชศาสตร์ สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน (ร้านยา) และสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (COSNAT) ในงาน MED NU Health Expo 2024 ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพและสนับสนุนการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพแก่ประชาชน

งาน MED NU Health Expo 2024 เป็นมหกรรมสุขภาพที่จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปี แห่งการก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้หัวข้อ “Health Festival: Creating a Healthier Society” ซึ่งเน้นการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดี ผ่านการนำเสนอข้อมูลและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและการส่งเสริมการมีชีวิตที่ดีขึ้นในทุกด้าน โดยงานนี้ได้มีการร่วมมือจากหลายหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร รวมถึงคณะเภสัชศาสตร์, สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน (ร้านยา) และสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (COSNAT)

กิจกรรมที่คณะเภสัชศาสตร์จัดขึ้นในงาน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมออกบูธในงาน MED NU Health Expo 2024 โดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งให้บริการแก่ประชาชนและส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับสุขภาพและการใช้ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรมและสมุนไพรอย่างถูกต้อง ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้น ได้แก่:

  1. การให้คำปรึกษาด้านยา ทีมเภสัชกรจากคณะเภสัชศาสตร์ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างปลอดภัย รวมถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาสมุนไพรต่างๆ โดยเน้นที่การใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดีและป้องกันโรค
  2. การให้ความรู้ด้านสมุนไพรและธาตุเจ้าเรือน ในงานมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยและการใช้ธาตุเจ้าเรือน ซึ่งเป็นการนำภูมิปัญญาพื้นบ้านมาผสมผสานกับวิทยาการสมัยใหม่ เพื่อส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการดูแลสุขภาพ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
  3. การเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของคณะเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ได้แสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน เช่น ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนายาและเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ
  4. การจัดนิทรรศการผลงานผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คณะเภสัชศาสตร์ได้จัดนิทรรศการที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ได้รับการวิจัยและพัฒนา โดยใช้ส่วนผสมจากสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวพรรณและสุขภาพ เช่น สบู่สมุนไพร, ครีมบำรุงผิวจากสมุนไพร, และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มาจากธรรมชาติ
  5. การประชาสัมพันธ์งานบริการวิชาการเชิงพาณิชย์ของสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (COSNAT) สถานวิจัย COSNAT ของคณะเภสัชศาสตร์ได้ใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์งานบริการวิชาการเชิงพาณิชย์ที่เปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจในการพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ รวมถึงการให้บริการวิจัยและทดสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เพื่อรับรองคุณภาพและมาตรฐาน

การเชื่อมโยงกับ SDGs 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การจัดงาน MED NU Health Expo 2024 โดยคณะเภสัชศาสตร์มีความสอดคล้องกับ SDGs 3 ในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาอย่างปลอดภัยและสมุนไพรในการรักษาสุขภาพอย่างยั่งยืน งานนี้ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการวิจัยและพัฒนาอย่างมีมาตรฐาน

การเชื่อมโยงกับ SDGs 17: การเสริมสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การร่วมมือกันระหว่างคณะเภสัชศาสตร์, สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน, และสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (COSNAT) ในการจัดกิจกรรมในงาน MED NU Health Expo 2024 ยังเป็นการเสริมสร้าง SDGs 17 ในการสร้างพันธมิตรระหว่างสถาบันการศึกษา, ภาครัฐ, และภาคประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การแลกเปลี่ยนความรู้, การเผยแพร่ผลการวิจัย, และการสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเป็นการสร้างเครือข่ายที่มีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องเพื่อสุขภาพที่ดีในสังคม

“จักรยานนี้เพื่อน้อง” ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสที่เท่าเทียมเพื่อการศึกษา

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมผ่านโครงการ “จักรยานนี้เพื่อน้อง” ซึ่งสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการมอบโอกาสและสร้างความเท่าเทียมในด้านการเดินทางและการเข้าถึงการศึกษา

เป้าหมายโครงการ “จักรยานนี้เพื่อน้อง” เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 นายรุ่งรัตน์ พระนาค ผู้อำนวยการกองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เป็นตัวแทนในการส่งมอบจักรยานจำนวน 230 คัน ให้กับ 12 โรงเรียน ที่มีความต้องการจักรยานเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งในการเดินทางไปโรงเรียนและใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน

โครงการนี้มุ่งเน้นการช่วยเหลือนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ซึ่งอาจเผชิญกับอุปสรรคด้านการเดินทางที่ยาวไกลและมีต้นทุนสูง โดยจักรยานที่มอบให้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เพิ่มความสะดวก และสนับสนุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

บรรยากาศแห่งมิตรภาพและความอบอุ่น พิธีส่งมอบจักรยานจัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้มจากนักเรียน อาจารย์ และผู้เข้าร่วมโครงการ การส่งมอบนี้ไม่ใช่เพียงแค่การมอบจักรยาน แต่ยังเป็นการส่งต่อโอกาสและความหวังให้แก่เยาวชน

บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยดำเนินโครงการที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างต่อเนื่อง โครงการ “จักรยานนี้เพื่อน้อง” เป็นเพียงหนึ่งในหลายกิจกรรมที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่ชุมชน

ด้วยการส่งเสริมการศึกษาและลดอุปสรรคด้านการเดินทาง โครงการนี้ไม่เพียงแค่ตอบสนองเป้าหมาย SDG 10 แต่ยังช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนและความเท่าเทียมในสังคม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาประเทศในอนาคต

ที่มา: กองอาคารสถานที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร

นิสิตจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ ศึกษาดูงานเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียที่สถานีบำบัดน้ำเสีย

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 เวลา 15.00 น. บุคลากรกองอาคารสถานที่ของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานนิสิตจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม จำนวน 67 คน พร้อมด้วย ดร.กนกทิพย์ จักษุ ที่ได้เข้ามาศึกษาดูงานในรายวิชา “เทคโนโลยีการบำบัดและการจัดการน้ำเสีย” ที่สถานีบำบัดน้ำเสียส่วนกลางของมหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่คณะนิสิตเกี่ยวกับการจัดการน้ำเสียและการบำบัดน้ำเสียในระดับมหาวิทยาลัย โดยที่สถานีบำบัดน้ำเสียส่วนกลางของมหาวิทยาลัยนเรศวรถือเป็นต้นแบบที่สำคัญในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการจัดการน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 6) ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การศึกษาดูงานในครั้งนี้นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการต่าง ๆ ในการบำบัดน้ำเสีย ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บรวบรวมน้ำเสีย การกรอง การบำบัดทางชีวภาพไปจนถึงกระบวนการที่ช่วยในการผลิตน้ำสะอาดที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่ดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งช่วยให้คณะนิสิตมีความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

บรรยากาศของการศึกษาดูงานในครั้งนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและน่ารัก โดยบุคลากรกองอาคารสถานที่ได้อธิบายและให้ข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อให้คณะนิสิตสามารถเข้าใจถึงกระบวนการที่ซับซ้อนในการบำบัดน้ำเสีย และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการจัดการน้ำเสีย ซึ่งเป็นการส่งเสริมการจัดการทรัพยากรน้ำที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 6) ของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต

กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

การจัดพิธีปฐมนิเทศนิสิตทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2566 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่มีความสามารถ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ)

ส่งเสริมการศึกษาเพื่อความยั่งยืน (SDG 4)

ในปีการศึกษา 2566 กองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มอบ ทุนการศึกษา 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 146 ทุน โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1.12 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย:

  • กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 124 ทุน มูลค่า 1,000,000 บาท
  • ทุนการศึกษา รศ.ดร.แมรี่ สารวิทย์ จำนวน 2 ทุน มูลค่า 20,000 บาท
  • ทุนการศึกษาเพื่อนิสิตกิจกรรม จำนวน 20 ทุน มูลค่า 100,000 บาท

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสนับสนุนทางการเงิน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการศึกษาในระดับที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนานิสิตให้มีทักษะและความรู้ที่จำเป็นในตลาดแรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ทุกคน โดยไม่ให้การขาดแคลนทรัพยากรเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนการศึกษาเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยการมอบทุนให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสได้เรียนต่อและพัฒนาทักษะการทำงานที่สำคัญ การให้ทุนดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตาม SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนา สามารถเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาตนเองได้โดยไม่ถูกจำกัดด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ

การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยการให้โอกาสแก่นิสิตในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และมีส่วนในการพัฒนาสังคมให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในอนาคต นอกจากนี้ การมีทุนการศึกษาสำหรับกิจกรรมและกิจกรรมพัฒนาผู้นำ ก็เป็นการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกันในชุมชน ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญในการสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin